ตอนที่ 1 : เรือนที่ไม่มีใครอยู่
ตอนที่ 1 : เรือนที่ไม่มีใครอยู่
ล้อรถกระบะบดไปบนถนนลูกรังจนฝุ่นคลุ้งฟุ้งทั่วอากาศ
เมธาวีนั่งเงียบอยู่เบาะหลัง มองบ้านไม้สองชั้นหลังเก่าที่ตั้งโดดเดี่ยวกลางทุ่งร้าง
บ้านนั้นสีซีดจนแทบมองไม่ออกว่าเคยทาสีอะไรไว้ หน้าต่างบางบานปิดไม่สนิท และประตูหน้าก็แง้มอยู่นิด ๆ
เหมือนบ้านกำลังรอใครสักคนกลับมา
“นี่แหละลูก บ้านใหม่ของเรา” พ่อพูดเสียงร่าเริง พลางลงจากรถ
“บ้านราคาถูกมากนะ วิวก็สวย มีทุ่งกว้างสุดลูกหูลูกตาเลยเห็นไหม”
เมธาวีมองทุ่งนั้น มันไม่ได้ดูสวยสำหรับเธอเลย…
มันเหมือน “เวิ้งว้างเกินไป” ไม่มีแม้แต่เสียงนกหรือจั๊กจั่น มีเพียงลมพัดแรงจนหญ้าแห้งกระทบกันดัง ซู่ ซู่ ซู่
เธอรู้สึกหนาวทั้งที่เป็นบ่ายวันร้อนจัด
“แม่…บ้านนี้ดูเก่า ๆ นะคะ เหมือนจะพังอยู่แล้ว”
“แค่ต้องซ่อมนิดหน่อยเองลูก เดี๋ยวอยู่ไปก็ชิน” แม่ตอบยิ้ม ๆ แล้วหันไปหยิบของจากท้ายรถ
เมธาวีสูดลมหายใจลึกก่อนก้าวเข้าไปในบ้าน
พื้นไม้ลั่นดังเอี๊ยดทุกย่างก้าว กลิ่นอับชื้นคละคลุ้ง ผนังมีรอยร้าวเป็นทางยาว
แต่สิ่งที่ทำให้เธอหยุดนิ่ง…คือภาพถ่ายครอบครัวเก่าที่แขวนอยู่บนผนังเหนือโต๊ะไม้
ในภาพมีชายหญิงคู่หนึ่งยืนอยู่ข้างเด็กหญิงตัวเล็กผมสั้นประบ่า
ทุกคนยิ้มให้กล้อง แต่ดวงตาของเด็กคนนั้นกลับเหมือน “มองออกมานอกกรอบ” มาที่เธอ
“แม่คะ ใครอยู่ที่นี่ก่อนเราเหรอ”
“ไม่รู้สิ แม่ก็ถามเจ้าของเดิมเหมือนกัน เค้าบอกว่าบ้านนี้ไม่มีใครอยู่มานานแล้ว…ตั้งแต่ไฟไหม้บางส่วนเมื่อสามสิบปีก่อน”
“ไฟไหม้เหรอคะ?”
“อืม…แต่ไม่มีใครบาดเจ็บหรอกลูก เขาว่างั้นนะ”
คืนนั้น เมธาวียังไม่หลับ เธอนอนมองเพดาน ฟังเสียงลมพัดผ่านช่องหน้าต่างเก่า ๆ
จนเวลาเกือบเที่ยงคืน เสียงหนึ่งดังขึ้นจากใต้บันได…
เสียงแผ่วเบา คล้ายเสียงเด็กผู้หญิงพูดลอดลม
“พี่…อยู่เหรอ…”
เธอชะงัก หัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุออกจากอก
“ใคร…” เมธาวีพึมพำเบา ๆ พลางคว้าไฟฉายจากหัวเตียง
เมื่อเธอส่องแสงไปทางบันได ไฟสั่นเล็กน้อยเพราะมือเธอสั่น
รอยเท้าเปียกน้ำเล็ก ๆ ปรากฏอยู่บนพื้นไม้…ทอดยาวจากใต้บันไดขึ้นไปจนสุดทางเดิน
และตรงปลายทางนั้น มีเสียงหัวเราะเบา ๆ ดังขึ้นอีกครั้ง
เสียงหัวเราะของ “เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง” ที่เหมือนมาจากในภาพถ่ายเมื่อเย็นนี้…