"เตี่ยช่วยหวานด้วย ฮือๆ" น้ำหวานร้องไห้ดึงเสื้อเตี่ยเทพขึ้นมาเช็ดน้ำหูน้ำตา ทำเหมือนว่าเธอยังเป็นเด็ก ซึ่งเธอเป็นเด็กสำหรับพ่อเสมอ ทั้งชีวิตเธอมีแค่เตี่ยเทพกับเฮียขุนพี่ชาย
"ลื้อเป็นอะไร อาหวาน" เตี่ยเทพเอามือลูกหลังลูกสาว ทำมือบอกให้เลขาเดินไปดูชายหนุ่มว่าเป็นยังไงบ้าง ถ้าอาการหนักจะได้รีบพาไปโรงพยาบาล
เตี่ยเทพพอจะเดาเรื่องทุกอย่างได้และรู้จักนิสัยลูกสาวดีที่สุด เมื่อวัยเด็กทะเลาะกับเพื่อนทีไรก็ร้องไห้มาให้เตี่ยจัดการให้ แต่สภาพเพื่อนที่ทะเลาะกับลูกสาวคือเละทุกราย กลายเป็นเสี่ยเทพต้องจ่ายค่าทำขวัญเพราะสงสารแต่มาบอกลูกสาวว่าจัดการให้แล้ว... (ความจริงคือให้เงินและให้เด็กพวกนั้นย้ายโรงเรียนเพื่อความปลอดภัย) ลูกสาวจึงคิดว่าพ่อเก่งที่สุดในโลกและครั้งนี้ก็เหมือนเดิมลูกสาวคนสวยสร้างเรื่องให้เตี่ยอีกแล้ว..
"หวานไม่เข้าประชุมแล้วนะคะ หวานจะกลับบ้าน คนสำคัญของเตี่ยทำร้ายหวานเตี่ยต้องจัดการให้หวานนะ ไม่อย่างนั้นหวานไม่ยอม" คนที่กล้ามีเรื่องกับเธอไม่เคยมีใครได้อยู่ที่นี่เพราะเตี่ยเธอจะจัดการด้วยการไล่ออก ไล่ออกไปจากชีวิตเธอเหมือนอย่างที่เตี่ยเคยทำให้เธอสมัยเรียน..ทุกคนที่ทะเลาะกับเธอจะโดนไล่ออกจากโรงเรียน พ่อเธอเก่งที่สุดในโลกเลย...
"ตอนนี้ลื้อโตแล้วนะอาหวาน ลื้อควรมีเหตุมีผลและเตี่ยก็แก่ขึ้นทุกวัน ค่อยจัดการปัญหาให้ลื้อไม่ไหวหรอก" จบเรื่องลูกชายก็มาเรื่องลูกสาว หัวจะปวด..
"แต่เตี่ยก็จัดการให้หวานได้ตลอดนี่คะ แค่หุ้นส่วนธรรมดาๆ ทำไมเตี่ยถึงจัดการให้หวานไม่ได้" เตี่ยพูดแบบนี้หมายความว่าไงเตี่ยจะไม่จัดการให้เธองั้นเหรอ
"แต่คนนี้ไม่ธรรมดานะสิอาหวาน คนนี้ไม่ใช่คนที่อั๊วจะจัดการให้ลื้อได้" หนักใจจริงแท้
"ทำไมคะ ทำไมถึงไม่ได้!! เตี่ยดูสิ่งที่เขาทำกับหวานสิคะ ฮือๆ" ใบหน้าสวยค่อยๆ ขยับออกให้เตี่ยดูริมฝีปากของเธอที่บวมเจ่อเหมือนปากเป็ด..เมื่อเตี่ยเทพเห็นก็ร้อง
"ไอ้หยาาาาา" ทำไมปากลูกสาวอั๊วถึงได้เหมือนดาราฝรั่ง มองไปมองมาก็เหมือนปากเป็ด แล้วเตี่ยเทพก็หัวเราะ "ฮ่าๆ ปากลื้อเหมือนเป็ดเลยอาหวาน"
"เตี่ย!!!" น้ำหวานโกรธน้ำตาคลอที่เตี่ยหัวเราะปากของเธอ ก่อนนั้นเธอแค่แกล้งร้องไห้ตอนนี้คือร้องจริง เตี่ยเธอไม่เคยเป็นแบบนี้..
วินาทีนั้นประตูลิฟต์ก็เปิดออก คนที่เดินออกมาคือขุนเขาพี่ชาย เขาลงมาตามให้ทุกคนเข้าห้องประชุมชั้นบน เมื่อเห็นเตี่ยกับน้องสาวยืนอยู่หน้าลิฟต์ก็เอ่ยทัก
"อ้าวอยู่ตรงนี้กันพอดี ได้เวลาเข้าประชุมแล้วครับเตี่ย เฮ้ยย หวาน!! นั่นปากไปโดนอะไรมาวะ ฮ่าๆ" เมื่อเห็นปากน้องสาวบวมเจ่อเหมือนแองเจลิน่าโจลี่ก็หัวเราะลั่น "ฮ่าๆ นั่นปากเหรอ แดงเจ่อเหมือนตูดลิงเลย ฮ่าๆ" ขำ ขำน้องสาวไม่หยุดยิ่งไปกระตุ้นความโกรธของน้ำหวาน
"หยุดหัวเราะเดี๋ยวนี้เลยนะ อิพี่บ้า น้องเจ็บจะตายอยู่แล้วยังมีหน้ามาหัวเราะมีความสุขมากใช่ไหม บริษัทนี้ใครจะอยู่ก็อยู่ไปเลย หวานจะกลับบ้าน!!" พูดจบเธอก็เดินเข้าลิฟต์กดลงชั้นล่าง หวังจะให้เตี่ยตามมาแต่เตี่ยก็ไม่ตาม...
ขุนเขาเองมือเกาหัวงงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น
"ยัยหวานเป็นอะไรครับเตี่ย ผมแค่แซวเล่นทำไมต้องโกรธขนาดนั้น ว่าแต่ปากยัยน้องไปโดนอะไรมาถึงได้บวมขนาดนั้น หรือว่าจะโดนแตนที่บริษัทต่อย ฮ่าๆบาปกรรมแล้วนะนั่น ปากดีนัก ฮ่าๆ" พูดไปก็ขำไปน้องสาวเขานั้นปากดีสุดๆ ด่ากับเขาประจำบอกให้เลิกปากดีเป็นไงล่ะโดนเข้าให้ สวรรค์ท่านคงมองเห็นถึงได้ส่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์สิทธิมาเอาคืน..กราบขอบพระคุณครับท่าน
"ลื้อก็พูดไปเรื่อยอาขุนแตนอะไรจะมาอยู่ในบริษัท ประชุมเสร็จลื้อก็กลับไปดูอาหวานด้วยนะ อั๊วมีเรื่องต้องจัดการต่อ"
"ได้ครับเตี่ย ว่าแต่ให้ผมไปดูน้องมันทำไม แต่ดีแล้วครับ ผมเองก็อยากจะรีบกลับไปดูแลเมีย คิดถึงใจจะขาด" บอกให้ไปดูน้องแต่บอกจะไปดูเมีย..เอะยังไง
"ลื้อขึ้นไปเปิดประชุมแทนอั๊วก่อนนะ เดี๋ยวอีกสิบห้านาทีอั๊วจะตามไป"
"ครับเตี่ย" หลังๆ เขาเป็นลูกชายแสนดีเชื่อฟังพ่อ น้อมรับคำบัญชา เดินเข้าลิฟต์ขึ้นชั้นบน
ส่วนเตี่ยเทพเดินตรงไปที่ห้องรับรองแขก เป็นห้องที่เลขาพาชายหนุ่มเข้ามาพักข้างใน
ภายในห้องรับแขก
เมื่อเตี่ยเทพเห็นสภาพหุ้นส่วนคนสำคัญก็ได้แต่ร้องไอ้หยาา..ไม่หยุด ในใจมีแต่คำว่าตายๆ เดินไปสะกิดบอกให้เลขาสาวออกไปรอข้างนอก..
ชายหนุ่มนั่งเอาลูกประคบสีขาวประคบที่สันจมูกตรงที่ถูกเธอกัดจนได้แผล ตอนแรกเขาคิดว่าจมูกเขาติดปากเธอไปแล้ว ผู้หญิงอะไรแสบจริงๆ แต่ยิ่งแสบเขาก็ยิ่งบ้า บ้าอยากได้มาครอบครอง เขาน่าจะบ้าจริงๆ
"อะเอ่อ คุณอาเธอร์ครับ ผมต้องขอโทษด้วยจริงๆ" เตี่ยเทพก้มหน้าขอโทษ นั่งลงฝั่งตรงข้าม รู้สึกผิดอย่างสุดซึ้ง ยิ่งชายหนุ่มเงียบเตี่ยเทพก็ยิ่งรู้สึกผิด..
"คือผมต้องขอโทษแทนลูกสาวผมด้วยนะครับ แม่เธอเสียไปตั้งแต่เธอยังเด็กจึงไม่มีใครคอยอบรมสั่งสอน ส่วนตัวผมก็ทำแต่งาน ไม่มีเวลาได้อบรมสั่งสอนจนเธอโตมาแบบเอาแต่ใจ ชอบใช้ความรุนแรงนิดนึงนะครับ" สำหรับเตี่ยเทพชายหนุ่มตรงหน้าไม่ใช่แค่หุ้นส่วนแต่คือคนสำคัญที่สุดในบริษัท..
"ผมว่าไม่นิดแล้วนะครับ" ร่างสูงขยับตัวนั่งตรง ลดลูกประคบลงให้เตี่ยเทพดูผลงานลูกสาวตัวเอง..
"ไอ้หยาาา!!..อั๊วว่ารีบไปโรงพยาบาลดีกว่า" รอยเคี้ยวรอบจมูกขนาดนี้จะเป็นพิษสุนัขบ้าหรือเปล่า ลืมไปว่าลูกสาวไม่ใช่หมาแต่ก็ทำเกินไป ทำกับหน้าหล่อๆ อย่างนี้ลงได้ยังไงนะอาหวาน ลื้อทำเกินไปจริงๆ
"ไม่เป็นไรครับ วันนี้ผมว่าจะกลับบ้านที่ต่างจังหวัด หายดีแล้วผมจะกลับมาใหม่" กลับไปตั้งหลักก่อน เขาคิดว่าทุกอย่างจะง่ายจึงมาแบบไม่มีแผนและที่สำคัญคือแอบมาคนเดียว..ไม่ได้บอกใครหรือเรียกง่ายๆ ก็คือปลอมตัวหนีมา
"ละแล้วเรื่องอาหวาน จะให้ผมทำยังไงกับลูกสาวผมดีครับ คุณอาเธอร์จะให้ผมลงโทษเธอยังไง บอกมาได้เลยครับ"
"ไม่ต้องทำอะไรเธอหรอกครับ เธอคงไม่ได้ตั้งใจ เดี๋ยวผมจะกลับมาจัดการเองครับ คือผมมีเรื่องอยากให้คุณลุงช่วยหน่อยได้ไหมครับ" อาเธอร์ขยับหน้าเข้าไปพูดกระซิบเตี่ยเทพก็พยักหน้า แปลกใจที่ชายหนุ่มไม่โกรธที่โดนลูกสาวทำร้ายร่างกายจนเจ็บขนาดนี้
"ได้เลยครับ ผมเต็มใจอย่างยิ่ง ขอบคุณที่ไม่เอาเรื่องอาหวานลูกสาวผมนะครับ ขอบคุณมาก"
"ครับ เอ่อคือผมขอเรียกคุณลุงว่าเตี่ยเทพเหมือนคนอื่นได้ไหมครับ"
"ดะได้เลย ได้เลยครับ ผมยินดีอย่างยิ่ง"
"งั้นช่วยพูดกับผมเหมือนที่พูดกับทุกคนได้ไหมครับ แทนตัวเองว่าอั๊วเรียกผมว่าลื้อได้ไหมครับ"
"จะดีหรือครับ"เตี่ยเทพงุนงง จะให้เรียกแทนตัวว่าอั๊วกับลื้อแบบเป็นกันเองกับคนที่ถือหุ้นในบริษัทมากที่สุดมีตำแหน่งเป็นซีอีโอได้ยังไง..ทำไมถึงอยากให้พูดแบบนั้นน่าแปลกจริงๆ ถึงชายหนุ่มจะอายุรุ่นลูกแต่ความสามารถนั้นไม่เด็กเลยสักนิดช่วยทำให้ธุรกิจของเตี่ยเทพเฟื่องฟูมาจนถึงทุกวันนี้ จากบริษัทที่ขาดทุนใกล้จะล้มละลายเมื่อหลายเดือนก่อน กลับกลายเป็นบริษัทที่สร้างกำไรได้อย่างมหาศาลเพียงไม่กี่เดือนนี่มันเทพชัดๆ
"ดีสิครับ" เขาขอแค่นี้และที่ทำมาทั้งหมดก็เพื่อแค่นี้..แค่อยากเป็นลูกชายเตี่ย
"ฮ่าๆ ได้เลยครับ ไม่มีปัญหาแต่เวลาทำงานขอพูดเป็นทางการเหมือนเดิมนะครับ"
"ได้ครับเตี่ยเทพ" พูดแล้วก็ยิ้ม "อะโอ๊ยยย!! โอ้ย.." ยิ้มเยอะไปเจ็บจมูก ซี๊ดดด รีบประคบจมูกบรรเทาอาการปวด
"คุณ..คุณอาเธอร์" เตี่ยเทพก็เป็นห่วง
"เรียกผมว่าธาเธอร์เฉยๆ ก็พอครับเตี่ย" จะยิ้มอีกก็ไม่ได้ เจ็บแผลอยู่..
"อ้อๆ ได้เลยครับ" ว่าแต่พ่อหนุ่มหล่อคนนี้แปลกๆ นะ แปลกตั้งแต่เป็นเทพบุตรขี่ม้าขาวเข้ามาช่วยบริษัทเอาไว้ แต่ก็คงเป็นบุญวาสนาของอั๊วที่ได้เจอคนดีๆ ถ่อมตนเป็นกันเองอย่างนี้...ฮ่าๆ วาสนาดีแท้ๆ