“_” จีนตาโตเท่าไข่ห่านเมื่อเรื่องที่ปิ่นเคยพูดตอนเมากลับมาอีกครั้ง “แกจะบ้าเหรอ” ชี้ตัวเอง “นี่กะเทย”
“รู้ แต่ที่ฉันหมายถึงก็คืออยู่กันไปสองคนแบบนี้ ไม่ได้หวังให้ต้องมาเอากันเป็นผัวเป็นเมียจริงๆซะหน่อย” นวดวนไปและไม่กล้ามองหน้าอีกฝ่าย
จีนเอียงคอมองเพื่อนตัวอวบ “เอางั้นเหรอ”
“ก็งั้นสิ”
จีนนิ่งเงียบปล่อยให้อีกฝ่ายนวดนมไปแบบนั้น เอาจริงๆถ้าจะให้อยู่กับปิ่นมันก็ไม่ได้แย่ อยู่กันไปแบบเพื่อนสนิทรึถ้าใครจะมีแฟนตอนแก่ก็มีได้ ‘ฟังดูเข้าท่า’
ทุกท่าทาง สีหน้าและแววตาของจีนอยู่ในสายตาปิ่น ไม่รู้ว่าในอนาคตเรื่องนี้จะเป็นจริงได้มั้ย ‘แม้ไม่รู้แต่ปิ่นก็อยากจะหวัง'
๑--------------------------๑
สามปีต่อมา
ในคอนโดชั้นสิบแปดของจีน ตอนนี้มีเพื่อนสาวคนสนิทคนเดิมที่ตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋กำลังดูแคตตาล็อกชุดแต่งงานแบบนุ่มฟูแหวกแนวกว่าสมัยก่อนที่ปิ่นเคยแต่งงานกับจอมในตอนนั้นที่เป็นชุดไทย
จีนหน้ายุ่งเหยิงมองชุดเจ้าบ่าวก่อนจะวางมันลงอย่างหัวเสีย พึ่บ!! “ฉันทำใจใส่ชุดผู้ชายไม่ลงจริงๆนะปิ่น” จีนว่าเพราะเขาไม่ได้ใส่กางเกงแบบสูทมาเกือบห้าปีแล้ว ที่ใส่บ่อยก็จะเป็นยีนส์ขาสั้นมากกว่า
เจ้าของชื่อมองหน้าเพื่อนจีนอย่างเห็นใจ “งั้นก็ใส่ชุดผู้หญิงด้วยกันก็ได้ฉันไม่ถือหรอก” จับมือเรียวมากุมไว้ “ถ้าวันไหนแกพร้อมที่จะมีผัวหรือไม่อยากอยู่กับฉันก็แยกกัน ง่ายๆ ฉันอาจจะแค่เหงาแต่ไม่เป็นไร” หลังจากที่เลิกกับเจ้าบ่าวหนีคืนเข้าหอไปแล้วเธอไม่เคยอยากอยู่กับใครอีกเลยนอกจากเพื่อนสนิทคนนี้ คนที่เธออยู่ด้วยแล้วมีความสุขและคุยด้วยได้ทุกเรื่องจะว่าเธอติดจีนก็คงใช่... ‘แต่จีนก็ติดเธอนะ’ และยังมีความลับหกปีที่ไม่เคยมีใครรู้อีกหนึ่งเรื่องด้วย
“จะพร้อมมีผัวได้ยังไง ฉันขยาดดอ” จีนว่าเพราะพอเห็นของคนอื่นแล้วเขากลับสะดุ้งแบบแปลกๆ
“งั้นก็อยู่กันไปแบบนี้แหละ อยากใส่ชุดไหนก็เลือกเถอะหรือว่าจะใส่เหมือนกันไปเลย” ยักไหล่
“งั้นเอาชุดผู้หญิง” ตาเรียวคมของผู้ชายไล่มองชุดสีขาวฟูฟ่อง ใจอดตื่นเต้นไม่ได้ที่ชีวิตแบบเขาจะมีโอกาสใส่ชุดแต่งงานแบบผู้หญิง
“ฉันยังไงก็ได้ อีกอย่างม๊าแกดูดีใจนะไม่เห็นเหรอ” ปิ่นบอกตามที่เห็น “อยู่แบบผู้หญิงๆไปแบบนี้แหละ ชิว...ไม่มีลูกก็ช่าง”
คำตอบหลังทำเอาจีนชะงักไป แต่จะให้ทำยังไงได้ถึงเขาจะมีผัว เขาก็ไม่มีลูกอยู่ดี เรื่องนี้จีนทำใจมานานตั้งแต่เริ่มมาสายนี้แล้ว
“อยากกิน’ไรมั้ย” ปิ่นลุกขึ้นยืนพร้อมกับเดินไปทางห้องครัว
“เอาสลัดดีกว่า ดึกแล้วไม่อยากอ้วน”
“อืม” ปิ่นเดินเข้าห้องครัวที่ตัวเองคุ้นชิน เธอรู้ว่าจีนทำอาหารไม่อร่อย หน้าที่นี้จึงตกเป็นของเธอทุกครั้งตั้งแต่สนิทกันมา มันคือความเคยชินของทั้งคู่ที่อยู่ด้วยกันมาแบบนี้และปิ่นก็อยากจะให้มันเป็นแบบนี้ตลอดไป…ซะเมื่อไหร่ล่ะ
๑---------------------------๑
ปิ่นพาร์ท
เอาจริงๆแล้วฉันแอบรักจีนตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอกัน ตอนเรียนปีหนึ่ง ฉันแอบมองแอบตามตั้งแต่คลาสแรกที่เราเรียนด้วยกัน ตอนนั้นจีนใส่ชุดนักศึกษาเป็นกางเกงขาเดฟ ทุกท่วงท่าการเดินหรืออะไรหลายๆ อย่างต่างก็เป็นเป้าสายตาจากคนรอบข้าง ฉันมองเขาแบบนั้นอยู่เกือบเดือนจนอดไม่ไหวจึงเข้าไปพูดด้วยเพราะเราต่างก็เป็นเฟรชชี่เหมือนกันและต่างคนต่างก็ไม่มีเพื่อน นานวันเข้าเราสนิทกัน กินเที่ยวด้วยกันจนต่างคนต่างก็ไว้วางใจ…แต่แล้วความฝันที่จะเป็นคนข้างกายก็พังลงเมื่อจีนบอกว่า “จริงๆแล้วฉันใจหญิง” ฉันช็อกไปนานนับสิบนาที จนเห็นคนตรงหน้าทำท่าจะร้องไห้แล้วความรู้สึกมากมายจากเขาก็พรั่งพรูออกมาให้ฉันฟัง ‘หมดเปลือก’ ทุกคนคิดว่าฉันควรจะรู้สึกยังไงกับการอกหักครั้งใหญ่ในวันนั้น ‘ใช่!!’ มันแรงมาก มากจนในทุกๆวันเมื่อกลับถึงหอพักฉันต้องนั่งเหม่อลอยอยู่ข้างหน้าต่างเกือบสองชั่วโมง มันเป็นแบบนี้ทุกวันจนผ่านมาครึ่งปีฉันก็คิดได้ ว่าไหนๆก็ไหนๆ ฉันก็ยังจะคงความเป็นเพื่อนสนิทนี้ไว้และเก็บความรู้สึก ‘รัก’ ไปให้ลึกสุดใจ เผื่อวันข้างหน้าหากฉันเจอผู้ชายคนใหม่ฉันอาจจะลืมความรู้สึกนี้ได้ในสักวัน
หนึ่งเทอมผ่านไป วิวัฒนาการของจีนดำเนินไปเรื่อยๆเมื่อผมของเขาเริ่มยาวขึ้น กระโปรงสั้นเหนือเข่าถูกเขาชักชวนให้ฉันไปช่วยซื้อรวมไปถึงเครื่องสำอางค์ที่อยู่บนหน้าใสๆของเขา ทุกคนคิดว่าฉันจะต้องรู้สึกยังไง จะต้องทนอึดอัดอีกแค่ไหนที่คนที่ฉันพยายามจะตัดใจกลายเป็นหญิงแบบเต็มตัวและหลังจากนั้นอีกสองปี จีนชวนฉันไป ‘เสริมหน้าอก’ การตัดใจของฉันที่ดำเนินมาได้เรื่อยๆ…แต่มันก็ยังอดไม่ได้ที่จะใจหาย การรอเพื่อนสนิทในสถานการณ์แบบนี้มันไม่ดีเลย จีนบอกว่าเขาอยากมีหน้าอกขนาดเท่าฉันคือสามสิบหก นั่นคือความต้องการของเขาและฉันไม่มีสิทธิ์ห้ามเพราะเป็นแค่เพื่อน จะให้ฉันถอยห่างจากจีนเพื่อตัดใจอย่างจริงจังก็คงจะทำไม่ได้ในเมื่อตอนนั้นจีนมีฉันเป็นเพื่อนเพียงคนเดียว
เราอยู่ด้วยกันแบบนั้นจนเรียนจบและห่างกันตอนที่ต้องฝึกงาน ที่นั่นฉันเจอ ‘พี่จอม’ ผู้จัดการของบริษัทเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่และแน่นอนว่าพี่เขาเป็นลูกชายของเจ้าของบริษัท ฉันทำงานเป็นผู้ช่วยของพี่จอมในตอนที่เลขาอยู่ในช่วงลาแต่งงานพอดี พี่เขาเทคแคร์ดูแลฉันในฐานะ นศ.ฝึกงานอย่างไม่ขาดตกบกพร่องมาเกือบเดือนจนสุดท้ายเราตัดสินใจคบกันเงียบๆ ฉันกลับมาบอกเรื่องนี้กับจีนในตอนเย็นของวันนั้นและก็หวังว่าหนึ่งในเศษเสี้ยวของหัวใจที่ถูกกดลึกของฉันจะทำให้สลัดจีนออกไปได้ พี่จอมอาจจะเป็นผู้ชายอีกคนที่ทำให้ฉัน ‘รักจนลืม’
วันนั้น จีนยินดีกับฉันที่ฉันมีแฟนแต่ทุกครั้งที่ฉันกับพี่จอมไปเดต จีนมักจะไปด้วยเสมอ เขาบอกกับฉันว่าอย่าไว้ใจผู้ชายมากเกินไปความบริสุทธิ์ของลูกผู้หญิงต้องเก็บไว้ให้คนที่รักจริงๆเท่านั้น เขากลัวว่าฉันจะถูก ‘ฟันแล้วทิ้ง’ ตลอดหนึ่งปีครึ่งตั้งแต่เรียนจบมาพี่จอมทำได้มากสุดก็แค่หอมแก้มแม้เราจะเป็นแฟนกันแต่ความสนิทนั้นยังมีน้อยกว่า…เพื่อนแบบจีน จนเรื่องในวันแต่งงานเกิดขึ้น ฉันไม่ได้เสียใจเท่าไหร่ที่พี่จอมทิ้งแต่กลับโล่งใจที่ฉันไม่ได้เข้าหอ อาการร้องไห้คือโล่งอกที่พี่จอมเผยธาตุแท้ออกมาก่อนที่ฉันจะเสียความบริสุทธิ์ให้เขาไป แต่ก่อนนั้นเคยมีคนเตือนฉันแล้วเกี่ยวกับ ‘พี่หวาน’ เลขาสาวจอมยั่วที่ลาคลอดไปตอนนั้น ฉันเคยได้ยินพี่เทียนคุยกับพี่แป้งในห้องน้ำว่าลูกของพี่หวานอาจจะเป็นลูกของพี่จอม ตอนแรกฉันตกใจมากและแอบมองพฤติกรรมของแฟนตัวเองแต่เพราะว่างานที่ทำมันอยู่คนละสาขาและฉันก็มัวแต่ยุ่งและอยู่กับจีนจึงทำให้ลืมมันไป จนสุดท้ายตัวเลือกสำคัญที่จะทำให้ฉันลืมจีนได้ก็หักหลังเสียแล้วหนำซ้ำคนที่อยู่ข้างฉันในคืนนั้นก็คือจีน