1
รักคือ?
“ไล แกเป็นอะไรวะ? นั่งยิ้มอยู่คนเดียวตั้งนานสองนาน” แพตตี้โพล่งขึ้นมาเมื่อเห็นเธอนั่งอมยิ้มอยู่คนเดียว
“ไม่มีอะไรหรอก” เธอบอกปัดไป แล้วหันไปดูคู่รักที่กำลังกะหนุงกะหนิงกันที่โต๊ะม้าหินอ่อนข้างสนามฟุตบอลของโรงเรียน
“ให้มันจริง”
“อิจฉาเนอะ” ไลลาพูดกับเพื่อนสนิท ขณะที่ดวงตากลมโตของเธอกำลังมองไปที่คู่รักอย่างอิจฉา มันน่ารักจริง ๆ นะ ในชีวิตมัธยมปลายเธอก็อยากมีแฟนกับเขาบ้าง แต่ทำไงได้ผู้ชายที่เธอรัก เขาไม่ใช่เด็กมัธยมคลั่งรักทั่วไป แต่เขาเป็นถึงผู้บริหารระดับสูงของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังที่สุดในเชียงราย เขาไม่เคยมองเธอมากกว่าคำว่าน้องสาวเลยสักนิด ไม่เคย...
“แกก็เลือกเอาสักคนสิยะ” นิวเดินเข้ามานั่งข้าง ๆ แล้วหยิบขนมของไลลาไปกินหน้าตาเฉย
“เออ ฉันเห็นคนมาจีบแกก็ตั้งเยอะ อย่างเข้มหนุ่มนักกีฬาสุดหล่อคนนั้น แกยังไม่สนใจอีก” ไลลามองตามทางที่นุชชี้ไป ในสนามฟุตบอลมีหนุ่มนักกีฬาโรงเรียนที่กำลังเตะบอลหลีสาวกันอย่างเท่ หนึ่งในนั้นคือ เข้ม หนุ่มหล่อคมเข้มสมชื่อ เขาเป็นลูกครึ่งแขกหน้าตาหล่อมาก สาว ๆ ต่างคลั่งไคล้กันระนาว
ใคร ๆ ก็รู้ว่าเขาคืออันดับ 1 ในโรงเรียน ณ ตอนนี้ เขาหล่อทรมานใจสาว แต่เธอไม่ชอบเขาหรอกก็เลยปฏิเสธไปเมื่อสัปดาห์ก่อนที่เขามาตามจีบ เรื่องนี้เป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ไปทั่วตามเพจโรงเรียน ที่ไลลาดาวโรงเรียนสุดหวานหักอกเข้มหนุ่มนักกีฬาสุดเท่ขวัญใจสาว ๆ ทั้งโรงเรียนแบบไร้เยื่อใย
จิตใจเธอทำด้วยอะไร? นี่คือสิ่งที่สาว ๆ ทุกคนต่างคิดว่า ถ้าเธอไม่ได้แอบมีแฟนอยู่แล้ว ก็คงเป็นพวกคุณหนูช่างเลือกที่ไม่ยอมตกลงปลงใจกับใครง่าย ๆ ไม่งั้นก็เป็นพวกเด็กเนิร์ดที่มัวแต่สนใจการเรียนไม่สนใจโลกภายนอก
“ก็มีคนที่ชอบแล้ว” ริมฝีปากเล็กคลี่ยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงหน้าเขา
“ใครอะ? บอกมานะถ้าไม่บอก พวกฉันก็ไม่เชื่อ แกต้องแอบเป็นเลสเบี้ยนหรืออะไรทำนองนี้แน่ ๆ” นิวคาดคั้นพลางหยิบขนมขึ้นมากินต่ออย่างเอร็ดอร่อยตามประสาคนชอบกิน
“เขาเรียนอยู่โรงเรียนไหน? หรือเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว? บอกมาเดี๋ยวนี้นะ” แพตตี้เข้ามาผสมโรงอีกคน
“ฉันว่าต้องเรียนมหาวิทยาลัยแล้วแน่ ๆ เพราะถ้าเป็นโรงเรียนเรา หรือวัยเดียวกัน เราต้องได้ยินข่าวบ้างสิ ยัยไลลาออกจะดังขนาดนี้ คงไม่อาจหลุดพ้นสายตาพวกขาเมาท์ประจำโรงเรียนเราได้หรอก” นุชแสดงความคิดเห็นอีกคน
“ไม่ใช่ทั้งสอง” ไลลาเบรกเพื่อนที่กำลังคิดไปต่าง ๆ นานา
“เอ๋! งั้นเด็กประถมเรอะ?” นิวที่แอบกินขนมจนจะหมดซองถามขึ้นมาอย่างงง ๆ
“แกก็พูดไปฮ่า ๆ เขาทำงานแล้ว” อย่างเธอเนี่ยนะ จะชอบเด็กประถม เพื่อนก็ช่างคิดสเปกเธอต้องรุ่นใหญ่เท่านั้น ดูแลปกป้องได้ เท่จะตาย
“ว้าว! แกข้ามรุ่นเลยเหรอไล? เอาจริงดิหล่อไหม? ต้องหล่อแน่ ๆ แฟนดาวโรงเรียนอย่างแกต้องไม่ธรรมดา” แพตตี้มองเพื่อนสนิทอย่างตื่นเต้น ยัยเพื่อนคนนี้มีแฟนแล้วอุบอิบ พวกเธอก็ลุ้นอยู่ตั้งนานว่าเมื่อไหร่มันจะมีแฟน
“ไม่ใช่แฟนหรอก” ไลลาหน้าเศร้าลงเมื่อคิดถึงความสัมพันธ์ของเธอกับเขา คำว่า ‘แค่พี่น้อง’ แค่คิดในใจก็เจ็บ
“เอ้า! ทำไมแกไม่เป็นแฟนกับเขาล่ะ หรือเขาไม่จีบ ทำไมแกไม่จีบก่อน หน้าตาอย่างแกเขาตกลงเป็นแฟนง่าย ๆ แน่ แล้วอีกอย่างสมัยนี้มัน 2021 แล้วนะ จะมาหัวโบราณไม่ได้ ไม่มีแฟนแน่ ๆ” นุชคนห่ามผู้ช่ำชองด้านการจีบหญิง ปลุกระดมเพื่อนท่าทางฮึกเหิม
“บอกไปเลยว่าชอบน่ะ” นิวกล่าวสำทับอีกคน
“เคยบอกไปแล้ว” ไลลาเหม่อลอยคิดถึงเหตุการณ์ตอนนั้น วันปัจฉิมนิเทศช่วงจบ ม.๓ โรงเรียนเก่า มีผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นหนุ่มป๊อบประจำโรงเรียนมาสารภาพรักกับเธอ จึงทำให้เธอนั้นรู้ใจตัวเองว่า การรักใครสักคนมันเป็นอย่างไร?
“เป็นไงไหนเล่า?” เพื่อนทั้งสามคนล้อมวงกันเข้ามาอย่างสนอกสนใจ เพราะเรื่องนี้ไลลาไม่เคยเล่าให้เพื่อนคนไหนฟังเลย เธอเก็บมันเป็นความลับในใจมาตลอด แต่เมื่อเพื่อนเซ้าซี้มาก ๆ เธอก็ต้องบอก เพราะไม่งั้นพวกนี้คงขยันหาผู้ชายมาแนะนำให้เธอรู้จักอีกเป็นแน่
“เรื่องมันมีอยู่ว่า...”
ย้อนไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว...
“ไลลาครับ คบกับปลื้มนะ ปลื้มชอบไลลามาก” หนุ่มฮอตประจำโรงเรียนยื่นดอกกุหลาบช่อใหญ่ให้สาวฮอตของโรงเรียน เขามองเธอนิ่งเพื่อรอฟังคำตอบที่อยากได้ยินว่า เธอเองก็ชอบเขาเหมือนกัน
“เอ่อ เรายังไม่อยากมีใครอะปลื้ม”
“ไลลาเปิดใจให้เราหน่อยไม่ได้เหรอ เราไม่ดีตรงไหน?”
“เราก็อยากเปิดใจนะปลื้มแต่ คือเราไม่รู้เลยว่า รักมันคืออะไร เราอยากเรียนให้จบแล้วค่อยคิดเรื่องนี้ อีกอย่างเราก็ไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไรเกินกว่าเพื่อนเวลาอยู่ใกล้ปลื้ม” เธอบอกเขาไปตามตรง ไม่อยากให้เขาคิดไปไกลกว่านี้ วันนี้เขาเป็นคนที่ 10 ที่เข้ามาสารภาพรักกับเธอ ซึ่งคนอื่นนั้นเพื่อน ๆ ของเธอกันออกไปหมดแล้ว แต่คนนี้ไม่รู้ว่าผ่านมาได้อย่างไร น่าจะเป็นฝีมือเพื่อน ๆ ของเธอแหละที่ชงให้คบกับปลื้ม
“แต่เราชอบเธอ ชอบมาก” เขาไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ
“ปลื้มอาจจะไม่ได้ชอบเราจริง ๆ ก็ได้นะ” เธอบอกเขาไปเผื่อเขาจะรู้สึกตัวว่าไม่ได้ชอบเธอจริง ๆ เธอชินกับการที่ผู้คนมาให้ความสนใจกับหน้าตาของเธอแล้ว
ทั้งเพื่อน ทั้งผู้ชายที่เข้าหาก็เพราะหน้าตาและฐานะส่วนหนึ่ง จะมีใครที่ชอบที่นิสัยเธอจริง ๆ ไหม? พวกเขารู้จักเธอดีแค่ไหน? เธอพูดน้อยจะตายไป แถมยังไม่กล้าเข้าหาคนอื่นก่อน แต่ทุกคนกลับชอบเธอ
“ฟังนะไลลา เวลาปลื้มอยู่ใกล้ไลลาแล้วปลื้มรู้สึก ใจเต้นแรงทุกครั้ง ทุกวันก็เอาแต่มองหาเธอ หน้าตาน่ารัก ๆ ของเธอ มันทำให้ปลื้มยิ้มได้และมีความสุขมาก ๆ เรื่องนิสัยไลลาเป็นคนน่ารักพูดเพราะ ยิ้มเก่ง ถึงพูดน้อย แต่ก็แคร์คนรอบข้างเสมอ เราชอบเธอจากใจจริง เราแอบมองเธอมานานแล้วเธอไม่เคยรู้เลยหรือ?” ปลื้มมองเธอนิ่ง ทั้งสองอยู่ห้องเดียวกันมา 3 ปี แต่เธอคุยกับเขานับครั้งได้ เพราะเธอมันคนคุยไม่เก่งนี่ อีกอย่างเธอก็ไม่ได้รู้สึกอยากมีแฟน ไม่ได้รู้สึกขาดอะไร แต่สิ่งที่เขาพูดมามันก็แอบทำให้เธอฉุกคิดขึ้นมาเหมือนกัน
“ใจสั่นทุกครั้งที่อยู่ใกล้ มองหาทุกครั้งที่ไม่เห็นหน้า มีความสุขทุกครั้งที่เห็นงั้นเหรอ?” ใบหน้าผู้ชายคนหนึ่งแวบเข้ามาในหัว หลังจากที่ได้ยินประโยคนั้นจากปลื้ม
“ใช่ครับไลลา ปลื้มชอบไลลานะ” เขาเดินเข้ามาใกล้เธอมากขึ้น ส่วนเธอก็ได้แต่ถอยหลังเพื่อให้ห่างออกมา เพราะผู้ชายที่อยู่ในหัวเธอตอนนี้ไม่ใช่ปลื้ม แต่เป็นอีกคน...ที่เธอรู้จักมาเนิ่นนาน
“ชอบงั้นเหรอ? มันคืออาการของคนที่ชอบใช่ไหมปลื้ม?” เธอถามเขาเหมือนคนโง่ ก็เธอไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย มีคนหนึ่งที่ทำให้อาการเธอเป็นแบบนี้ แบบที่ปลื้มพูดเลย
“ครับ”
“งั้นเราก็มีคนที่ชอบแล้วล่ะ ขอบใจปลื้มมากนะที่ชอบเรา” เธอตบบ่าของเพื่อนร่วมชั้นเบา ๆ แล้วรีบวิ่งออกมาจากตรงนั้นทันที จุดมุ่งหมายคือที่ ๆ เขาคนนั้นอยู่
“ไลลา” เสียงปลื้มไล่หลังมา อย่างงง ๆ กับอาการของเธอ
“ลุงคะ ไปโรงพยาบาลอภิเวชกุลค่ะ” เธอบอกลุงคนขับแท็กซี่ด้วยน้ำเสียงสุภาพ
“เอ่อหนู นี่มันเลิกเรียนรึยัง?” คุณลุงถามอย่าง กล้า ๆ กลัว ๆ เพราะเด็กอาจจะหนีเรียนก็ได้
“วันนี้วันปัจฉิมค่ะ กิจกรรมเสร็จแล้วกลับบ้านได้”
“โอเคครับ เดี๋ยวลุงไปส่ง” งั้นเขาก็เบาใจ
“เร็ว ๆ เลยนะคะ” คนตัวเล็กนั่งอมยิ้ม เอามือขวาแตะตรงหน้าอกข้างซ้ายที่กำลังเต้นรัวเมื่อได้รู้ใจตัวเอง ที่ผ่านมาเธอคิดว่าเขาเป็นเพียงพี่ชายคนหนึ่งเท่านั้น แต่มันไม่ใช่ เพราะเธอรู้สึกพิเศษกับเขามากกว่าพี่แดนนี่ที่เป็นพี่ชาย
อยากเจอทุกวัน อยากเห็นรอยยิ้มของเขา อยากให้เขาสัมผัส หน้าแดง ใจเต้นแรงเมื่ออยู่ใกล้ อบอุ่นหัวใจทุกครั้งที่เขากอด มันคือความรักสินะ ไม่ใช่รักแบบพี่น้อง แต่เป็นรักแบบชายหญิง เธอตกหลุมรักพี่แฟรงก์มาตลอดเพียงแต่เธอไม่รู้เลยว่า มันคือ ‘ความรัก’
“หนูมาหาพี่หมอแฟรงก์ค่ะคุณพยาบาล” ร่างเล็กรีบวิ่งเข้าไปถามพยาบาลที่เคาน์เตอร์ ซึ่งพยาบาลสาวคนสวยก็ได้แต่ทำหน้างง ที่จู่ ๆ เด็กมัธยมต้นที่ทั้งตัวเต็มไปด้วยสติ๊กเกอร์รูปหัวใจ และรูป เพื่อน ๆ ที่ห้อยเต็มไปหมด วิ่งมาถามหาศัลยแพทย์หนุ่มผู้เคร่งขรึมด้วยชื่อเล่นของเขา
“หมายถึง คุณหมอปวริศหรือคะ?”
“ใช่ค่ะหมอปวริศ” เจ้าของร่างเล็กพยักหน้ารับ
“นัดไว้รึเปล่าคะ?”
“ไม่ได้นัดค่ะ แต่หนูมีธุระสำคัญจะคุยกับพี่แฟรงก์ คุณพยาบาลช่วยบอกหน่อยนะคะ ว่าหนูจะไปเจอพี่แฟรงก์ได้ที่ไหน?”
“เอ่อ สักครู่นะคะ” พยาบาลต่อสายไปหาใครสักคน
“มีคนมาขอพบคุณหมอน่ะค่ะ ค่ะได้ค่ะ”
“หนูชื่ออะไรคะ?”
“ไลลาค่ะ น้องสาวพี่แดนนี่” เธอตอบพยาบาลด้วยรอยยิ้ม
“เธอบอกว่าเธอชื่อไลลาค่ะคุณหมอ ค่ะรับทราบค่ะ”
“คุณหมอบอกให้ขึ้นไปรอที่ชั้น 7 ค่ะ ห้องพักของคุณหมออยู่ตรงริมสุด เดี๋ยวคุณหมอให้คนเอากุญแจห้องไปให้ ตรวจคนไข้เสร็จจะไปพบหนูที่นั่นนะคะ” พยาบาลถ่ายทอดสิ่งที่หมอหนุ่มฝากความจนครบ ไม่ขาดตกบกพร่อง
“ขอบคุณค่ะ”
“...” เธอรอเขาด้วยใจจดจ่อ ในใจก็ตื่นเต้นจนนั่งไม่ติด อยากบอกความรู้สึกของตัวเองให้เขาได้รับรู้โดยเร็ว
แอด!
เสียงเปิดประตูดังขึ้นพร้อมกับใบหน้าหล่อเหลาของเขาที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี คนตัวสูงมองเธอนิ่งด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัย
“เด็กน้อย มาหาพี่ที่นี่มีเรื่องอะไรรึเปล่า?” คุณหมอหนุ่มในชุดกาวน์สีขาวสะอาดตา เดินเข้าไปหาคนตัวเล็กที่นั่งรอเขาอยู่
“พี่แฟรงก์คะ” เธอยิ้มอย่างดีใจแล้วรีบวิ่งเข้าไปกอดเขาทันที
“หืม?” คุณหมอหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นอย่างฉงน วันนี้เด็กซนมาแนวไหนกัน?
“วันนี้วันปัจฉิม ไลมีของมาให้พี่แฟรงก์ค่ะ” เด็กน้อยหยิบกล่องช็อกโกแลตกับดอกกุหลาบสีแดงดอกใหญ่ยื่นให้เขาด้วยรอยยิ้ม
“มาหาพี่ถึงนี่เชียว ยินดีด้วยนะคะเด็กดีที่เรียนจบแล้ว” เขายิ้มมุมปากกับความไร้เดียงสาของเธอ แล้วเอามือลูบศีรษะเล็กป้อย ๆ เหมือนตอนเธอ 8 ขวบไม่มีผิด สรรพนามที่เรียกเธอก็ไม่เคยเปลี่ยน ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลยนอกจากอายุที่เปลี่ยน
“คือ ไลมีเรื่องจะบอกพี่แฟรงก์ค่ะ” คนตัวเล็กพยายามรวบรวมความกล้า ‘สู้เว้ย! ยัยไลลา เธอมันนักสู้ สู้เพื่อหัวใจตัวเอง’
“ว่าไงคะ?” เขารอฟังใจจดจ่อ
“คือ...ไลชอบพี่แฟรงก์ค่ะ ชอบมานานแล้วด้วย ไลพึ่งรู้หัวใจตัวเองวันนี้ ไลตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้เจอพี่แฟรงก์ ไลอยากเจอหน้าพี่แฟรงก์ทุกวัน ดีใจมากที่ได้รับของขวัญจากพี่แฟรงก์ในวันเกิดทุก ๆ ปี ไลอบอุ่นหัวใจทุกครั้งที่ได้กอดพี่แฟรงก์ พี่แฟรงก์คบกับไลนะคะ” ปากเล็กบอกความรู้สึกไปอย่างกล้าหาญ เขามองเธอนิ่งแล้วทำตาปริบ ๆ คงจะงงสินะที่จู่ ๆ เด็กน้อยที่เรียกเขาว่าพี่ชายมาตลอด วันนี้กลับ...เดินมาบอกว่ารักเขา
“โธ่! เด็กน้อย” เขาหัวเราะเบา ๆ พลางลูบหัวเธอป้อย ๆ
“พี่แฟรงก์รักไลไหมคะ?”
“พี่รักเธอ แต่รักแบบน้องสาวนะ” เขายิ้มอบอุ่นให้อย่างเคย เด็กน้อยค่อย ๆ ถอยห่างจากเขาอย่างไม่เข้าใจ ทำไมเขาไม่รักเธอตอบ ทั้ง ๆ ที่เขาทำดีกับเธอมาตลอด เขาไม่ได้รู้สึกเหมือนกับเธอเลยหรือ?
“ทำไมพี่แฟรงก์ไม่รักไล แบบที่ผู้ชายรักผู้หญิงคะ? หรือว่าพี่แฟรงก์มีคนที่ชอบแล้ว?” เธอถามเขาด้วยสีหน้าคาดหวังคำตอบ ภาวนาว่าอย่าให้เขามีใครในใจเลย เธอคงรับไม่ได้ที่จะต้องเสียเขาไปให้ใครอีกคน...
“...” เขานิ่งไม่ตอบอะไร
“ไลไม่ดีตรงไหน? ไลรักพี่แฟรงก์คนเดียวนะคะ ไลจะไม่มีวันเปลี่ยนใจ ไลจะรักพี่แฟรงก์คนเดียวเท่านั้น”
ตู๊ด...ตู๊ด...
“ครับ” หมอหนุ่มรับสายด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมตามสไตล์ศัลยแพทย์ผู้จริงจังกับงาน
“คุณหมอคะ มีเคสด่วนเข้ามากะทันหัน รวกวนคุณหมอมาที่ห้องฉุกเฉินทีค่ะ”
“ครับ เดี๋ยวผมไปเดี๋ยวนี้แหละ” เขาตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ กับใบหน้านิ่ง ๆ
“กลับบ้านเถอะ พี่ต้องไปทำงานแล้ว” บอกเธอแล้วค่อย ๆเดินจากไป
“พี่แฟรงก์คะ ไลจะรออยู่ตรงนี้ รอพี่แฟรงก์กลับมา” คน ตัวเล็กตะโกนบอกเขาไล่หลัง
“...” เขาไม่พูดอะไร ไม่หันกลับมามองเธอด้วยซ้ำ เธอมองแผ่นหลังของเขาด้วยความหวัง หวังว่าเขาจะกลับมา แต่รอแล้วรอเล่าเขาก็ไม่กลับมา จนเธอเผลอหลับไป ตื่นมาก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บ้านแล้ว
มันทำให้เธอได้รู้คำตอบของเขาเป็นนัย ๆ ว่า เขาไม่ได้คิดเกินเลยกับเธอนอกจากคำว่าน้องสาว เธอร้องไห้จนตาบวม 1 สัปดาห์ เหตุการณ์ครั้งนั้นมันยังตราตรึงในใจเสมอ ‘ฉันอกหักแล้วสินะ’ มันคือสิ่งที่เธอเฝ้าถามตัวเองซ้ำ ๆ ในตอนนั้น ซึ่งมันก็ได้คำตอบว่าใช่...อกหักทั้งที่ยังไม่ได้เริ่มคบ เจ็บจัง...