“คืนนี้เล็งคนไหนไว้ล่ะ”
กรรณิการ์เอ่ยทักทายเพื่อนสนิทอย่างพราวลลิลที่เธอนั้นกำลังเดินออกมารับที่บาร์โฮสชื่อดังที่ตั้งอยู่ใจกลางสถานที่รวมแหล่งท่องเที่ยวยามราตรี
ด้วยเธอนั้นมาถึงกับเพื่อนอีกกลุ่มหนึ่งก่อนหน้านี้ได้สักพักแล้วและก็นั่งดื่มได้แก้วหนึ่งแล้วด้วย พราวลลิลนั้นเดินทางมาถึงที่หลังเธอก็เลยเดินออกมารับจะได้ไม่ต้องไปเสียเวลาเดินตามหากันด้านใน
“ก็ต้องน้องคนนั้นคนเดียวในใจของหนมหวาน”
จุดมุ่งหมายของพราวลลิลยังคงเป็นพ่อหนุ่มหน้าตี๋นั้นไม่เปลี่ยนแปลงด้วยความติดใจในหน้าตาและก็กิริยามารยาทของพ่อหนุ่มคนนั้น
แล้วอีกสักพักคนอย่างพราวลลิลก็จะต้องทุ่มจ่ายเงินไม่อั้นแม้เส้นทางทางการเงินจะถูกทางครอบครัวคุ้มกำเนิดเอาไว้ก็ตาม เพื่อจะเรียกเด็กหนุ่มในดวงใจที่ทั้งขาวทั้งใสทั้งเนียนผุดผ่องอย่างกับดาราซีรีส์ของจีน กล้ามงี้เน้นเป็นหมัดๆให้มานั่งร่วมวงดื่มด้วยกัน
“แหม่ๆ ไม่คิดจะเปลี่ยนใจเลยนะ”
เพื่อนซี้อย่างกรรณิการ์อดไม่ได้ที่จะเอ่ยแซวเพื่อนที่เป็นสาวรักเดียวใจเดียว ทั้งที่ทั้งบาร์นี้มีหนุ่มๆให้เลือกมานั่งดื่มด้วยนับไม่ถ้วน
“แล้วนี่แม่สาวกล้ามโตนั้นมาหรือเปล่า”
พอเดินเข้ามาด้านในแล้วพราวลลิลก็มองเห็นถึงบรรยากาศการแข่งขันที่มีสูงยิ่งกว่าฟ้าขึ้นมาในทันที
เมื่อหนุ่มโฮสที่เธอหมายตาจะนั่งดื่มด้วยสักแก้วสองแก้วนั้นเป็นที่ถูกแย่งชิงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีร่างเป็นผู้ชายนางหนึ่งที่มักจะมาเที่ยวคนเดียวและก็เงินหนากว่าเธอ จนมักปาดหน้าเธอหลายๆรอบอยู่บ่อยๆเพื่อแย่งหนุ่มโฮสกัน
“มาสิ นั่งอยู่ไกลๆตรงนู้น”
กรรณิการ์ที่สำรวจทุกอย่างมาเป็นอย่างดีแล้วเอ่ยรายงานเพื่อนออกไปเพื่อให้เพื่อนเตรียมตัวรับสถานการณ์ที่มีการแข่งขันสูงนี้เอาไว้
“งานนี้ก็ทุ่มสุดตัวอีกแล้วสินะ”
“หรือแกจะยอมแพ้ล่ะหนมหวาน”
“ยอมแพ้ก็เสียชื่อหมดสิ อีกอย่างเสียไปตั้งหลายบาทแล้วยังไงวันนี้ก็ต้องได้จับมือ”
“นี่ถ้าแกยอมแต่งงานกับคนที่ยายหาให้ ก็ไม่ต้องเปลืองเงินแบบนี้หรอก”
“ไม่ต้องพูดดดดด”
“ถ้างั้นก็เต็มที่ไปเลย ดื่มอะไรก่อนดีล่ะวันนี้ เดี๋ยวสั่งให้”
“เหมือนเดิม”
ไม่นานเครื่องดื่มที่สั่งไปก็มาส่งยังโต๊ะที่สองสาวและบรรดาเพื่อนๆอีกห้าคนนั่งกันอยู่ พราวลลิลรีบหยิบเครื่องดื่มสุดโปรดของเธอขึ้นมาดื่มดับกระหายก่อนเป็นคนแรกเลย
และก็ทำการย้อมใจให้กล้าพอจะออกไปแย่งชิงชายหนุ่มที่ด้านหน้าเวทีตรงนู้นอีกแก้วหนึ่ง
สนุกสนานกันเต็มที่ตามประสาสาวโสดที่ขนเงินมาเต็มกระเป๋าเพื่อเปย์ชายในฝันคนนั้นของเธอ
“ที่นี่ที่ไหน ฉันมาที่นี่ได้ยังไงกัน หรือว่าไอ้พวกเด็กๆนั้นมัน กรี๊ดดดดด”
พราวลลิลลืมตาตื่นขึ้นในช่วงเช้าของวันใหม่ในสถานที่ที่เรียกได้ว่าไม่รู้จักเลยแม้แต่นิด
ห้องนอนสีขาวสะอาดตา มีเพียงเตียงนอนและเฟอร์นิเจอร์ไม่กี่ชิ้น และพอมองไปรอบๆก็เห็นได้ว่ามีห้องน้ำด้วย
แต่ทว่า
เธอจำอะไรเมื่อคืนไม่ได้เลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเมาหลับไปตอนไหนอะไรยังไงเพราะกำลังสนุกอยู่กับหนุ่มโฮสคนที่แย่งชิงมาได้ทั้งที่ยังลงเงินไม่หมดกระเป๋าเลยด้วยซ้ำ
หรือว่าไอ้เด็กหนุ่มอายุแค่ยี่สิบนั้น จะวางยาเธอแล้วก็พาเธอมาที่นี่เพื่อทำมิดีมิร้ายกับเธอ
“เสียงใคร”
นนท์ธิวรรธน์ที่กำลังเดินลงบันไดจากชั้นสองของบ้านไปยังชั้นล่างเพื่อจะกินกาแฟยามเช้าสักแก้วก่อนออกไปทำงาน
เขาหยุดเดินในทันทีที่กลางทางเมื่อหูของเขานั้นได้ยินเสียงกรีดร้องดังขึ้นภายในบ้าน
ใบหน้าหล่อคมของคนที่มีผิวขาวสะอาดหันมองไปรอบๆในทันทีเพื่อหาต้นตอของเสียงนั้น
หรือว่าเขาหูฝาดไปเพราะพักผ่อนน้อย หรือว่าที่บ้านหลังใหญ่ที่อยู่มาหลายสิบปีนี้จะมีผีเจ้าที่มาอยู่อาศัยเข้าให้แล้ว
“ลูกกำลังจะไปกินข้าวเช้าใช่ไหม”
วรรณวิภากับสามีของเธอกำลังรีบเร่งออกจากห้องนอนของตัวเองเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องที่มันดังลั่นบ้านนั้น
เอ่ยทักทายลูกชายที่ก้าวลงบันไดไปก่อนหน้าเธอกับสามีแล้วนั้น เพื่อหวังจะหยุดเขาไม่ให้ลงบันไดไปก่อน
“เสียงใครร้องเหรอครับคุณแม่”
นนท์ธิวรรธน์เดินย้อนกลับขึ้นชั้นสองของบ้านเพื่อเดินไปยังแม่และพ่อของเขาอย่างนึกเป็นห่วงว่าท่านทั้งสองเป็นอะไรหรือเปล่า
แต่ทว่าเสียงกรีดร้องเมื่อตะกี้ก็ไม่น่าใช้เสียงแม่ของเขา เพราะเสียงนั้นดูจะเด็กกว่าเสียงของแม่เขา
แล้วเธอเป็นใครกันล่ะถึงได้มากรีดร้องในบ้านของเขาได้ ใครกันที่กล้าเข้ามาทำความวุ่นวายในถ้ำเสือแห่งนี้
“แขกคนสำคัญนะจ๊ะ ลูกไปต้อนรับแขกกับแม่สักนิดหนึ่งก่อนได้ไหม”
“ใครมาบ้านเราแต่เช้าเหรอครับ”
ที่แท้ก็เป็นพวกมาอาศัยบ้านคนอื่นอยู่แต่กลับไร้มารยาทส่งเสียงดังน่ารำคาญนี่เอง แล้วเป็นใครกันล่ะที่จะไร้มารยาทได้ขนาดนี้
ก็คงไม่ใช่ญาติพี่น้องหรือคนสนิทของคุณแม่ท่านแน่ๆ เพราะทุกคนเหล่านั้นล้วนมารยาทดี ด้วยคุณแม่ของเขา คุณหญิงภานั้นเลือกคบแต่คนที่พัฒนาแล้วเท่านั้น
“น้องเขาชื่อหนมหวาน ทำความรู้จักกันเอาไว้นะลูก”
วรรณวิภาเดินนำหน้าลูกชายของเธอไปเพียงไม่กี่ก้าวเพื่อเปิดประตูห้องนอนของแขกที่เธอล็อกเอาไว้อย่างดีให้เปิดออกมา
“กรี๊ดดดด ไอ้โจรลักพาตัว”
เสียงกรีดร้องดังลั่นดังสวนออกมาในทันทีที่ประตูห้องถูกเปิดออก เมื่อพราวลลิลนั้นส่งเสียงดังแบบสุดชีวิตเพื่อหวังให้มีคนผ่านมาได้ยิน แล้วเข้าช่วยเหลือเธอ
ทำเอาสามคนพ่อแม่และลูกชายถึงกับยกมือขึ้นมาปิดใบหูพร้อมกันทั้งสามคน หวังบรรเทาเสียงกรีดร้องนั้นให้เบาลงก่อนที่แก้วหูจะแตก