ชีวิตที่สอง

931 Words
หลานหนิงชิงไม่คิดว่านางจะมีโอกาสได้ลืมตาตื่นขึ้นมา ดวงหน้าสตรียังไม่พ้นวัยปักปิ่นเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ สองตาหลานหนิงชิงเบิกกว้าง ยามนี้นางกำลังนั่งอยู่ในรถม้า ที่สำคัญกลางอกนางไม่มีร่องรอยความเจ็บปวดแม้แต่น้อย จำได้ว่าที่ตำหนักหรงเทียน ทหารแคว้นเว่ยแทงดาบทะลุร่างนางไปแล้วเหตุใดนางถึงยังไม่ตาย เป็นเช่นนี้แล้วหงชุนเล่า “หงชุน!! หงชุน!!” “เจ้าคะคุณหนู มีอะไรเจ้าคะข้าอยู่ข้างนอกนี่เจ้าค่ะ” คุณหนู คำเรียกขานนี้ตั้งแต่หลานหนิงชิงแต่งให้องค์ชายรอง หงชุนไม่เคยเรียกนางเช่นนี้อีก แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับบ่าวคนสำคัญของนางยังไม่ตาย “หยุด!! จอดรถเดี๋ยวนี้ หงชุน!!!” สิ้นเสียงโวยวายของหลานหนิงชิง ล้อรถม้าหยุดเคลื่อนที่ตามคำสั่ง เงาร่างคุ้นเคยรีบเปิดผ้าม่านโผล่เข้ามาหา ใบหน้ากลมแป้นของหงชุนตื่นตระหนก “หงชุนเจ้ายังไม่ตาย” “คุณหนูท่านพูดอะไรเจ้าคะ” หลานหนิงชิงโผเข้ากอดหงชุนแน่น คราบน้ำตาเปรอะเปื้อนใบหน้างดงาม “แก้มเจ้ากลมเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน” พูดไปมือข้างหนึ่งของหลานหนิงชิงบีบพวงแก้มกลมของบ่าวรับใช้ไปด้วย “คุณหนูท่านเป็นอะไรไปเจ้าคะ แก้มบ่าวกลมเช่นนี้มาตั้งนานแล้ว” “ว่าแต่พวกเรารอดมาได้อย่างไร กุนซือแคว้นเว่ยยอมปล่อยเจ้าไปหรือ” หลานหนิงชิงพูดไปไม่ทันได้สังเกตคนรอบตัว ยามนี้พวกนางอยู่บนรถม้าสกุลหลาน ด้านนอกมีกองกำลังสกุลหลานคอยคุ้มกันอยู่ “คุณหนูเจ้าคะท่านไม่สบายหรือเปล่าเจ้าคะ แล้วกุนซือแคว้นเว่ยจะเหยียบเข้ามาแผ่นดินต้าฉินเราได้อย่างไรเจ้าคะ ท่านแม่ทัพมาได้ยินเข้าต้องลงโทษพวกบ่าวแน่เจ้าค่ะ” “เหตุใดจะเหยียบไม่ได้...” ยามนี้เองที่สายตาหลานหนิงชิงเหลือบไปเห็นทหารคุ่มกันหน้าตาคุ้นเคย ดวงตากลมโตของนางยิ่งเบิกกว้าง เม็ดเหงื่อผุดเต็มกรอบหน้า “...ที่นี่…ที่ไหนกัน....” “คุณหนูเจ้าคะ ท่านลืมแล้วหรือเจ้าคะ พวกเรากำลังจะไปตำบลหลัวชีอย่างไรเล่าเจ้าคะ ก่อนออกจากจวนคุณหนูบอกว่าท่านอยากแวะโรงเตี๊ยมเจี้ยนไหล อีกไม่ไกลก็จะถึงแล้วเจ้าค่ะ” หงชุนเอ่ยวาจาออกมา ยิ่งฟังหงชุนพูด ใบหน้าหลานหนิงชิงยิ่งซีดขาว คราวนี้คุณหนูรองหลานหรี่สายตามองดูคนรอบกายอีกครั้ง ทหารคุ้มกันกลุ่มนี้ท่านพ่อมอบให้ติดตามอารักขานาง ตั้งแต่แต่งให้องค์ชายรอง คนพวกนี้ก็กลับเข้ากองกำลังสกุลหลาน หนำซ้ำยังกองกำลังสกุลหลานพลาดท่าให้กับรัชทายาทแคว้นเว่ยเมื่อหนึ่งปีก่อน ทุกคนจะยังยืนอยู่ต่อหน้านางได้อย่างไร หนำซ้ำใบหน้าหงชุนมองดูให้ดีแล้วไม่มีร่องรอย ความอดยากตลอดห้าปีเต็มในตำหนักใน หลานหนิงชิงรีบดึงร่างบ่าวรับใช้เข้ามาในรถม้า “หงชุนบอกข้ามา นี่เป็นปีอะไร” “คุณหนูลืมหรือเจ้าคะ ปีนี้ปีเถียนไท่จู้ที่สิบไงเจ้าคะ นายท่านหลัวส่งจดหมายมาขอร้องให้ท่านแม่ทัพ ส่งคุณหนูไปเรียนวิชาเครื่องหอมสกุลหลัว วันก่อนคุณหนูยังอาละวาดใส่ท่านแม่ทัพอยู่เลย มาวันนี้บ่าวนึกว่าจะ มีปัญหาเสียอีก โชคดีที่ท่านยังยอมขึ้นรถม้า หาไม่แล้วท่านแม่ทัพขู่ว่าจะจับคุณหนูมัดโยนใส่รถม้าเจ้าค่ะ” หงชุนพูดไปสีหน้าย่ำแย่ “เจ้าว่าอะไรนะ ปีเถียนไท่จู้ที่สิบ” หลานหนิงชิงทวนคำ “ใช่เจ้าค่ะ” “คุณหนูท่านอย่าได้ไม่พอใจท่านแม่ทัพเลยนะเจ้าคะ อย่างน้อยไปให้นายท่านหลัวเห็นหน้าก่อน ถึงตอนนั้นคุณหนูอ้างว่าคิดถึงบิดา คิดถึงคุณชายใหญ่ อ้อนวอนขอกลับเมืองหลวง นายท่านหลัวจะต้องยอมใจอ่อนแน่เจ้าค่ะ” หงชุนบีบมือผู้เป็นนาย คุณหนูของนางเย่อหยิ่งเอาแต่ใจ แม้ในจวนจะมีบุตรสาวอนุภรรยาอยู่อีกคน แต่คุณหนูสามไม่เคยสร้างเรื่องให้คุณหนูรองลำบากใจ อนุเจียวก็ไม่เคยสร้างความลำบากใจให้นางเช่นกัน คุณชายใหญ่รักตามใจคุณหนูรองจวนสกุลหลานสงบสุขทั้งนอกใน ยามได้ยินข่าวจากนายท่านหลัว คุณหนูรองกรีดร้องโวยวายถึงขั้นขว้างปาข้าวของ ท่านแม่ทัพยื่นคำขาดยืนยันจะส่งตัวนางไปหลัวชีให้ได้ หงชุนหมดเปลืองแรงปลอบโยนอยู่นานเป็นวัน ไหนเลยวันก่อนคุณหนูของนาง หายออกจากจวนไปค่อนวันถึงยอมกลับมา จนเช้าวันนี้ยังไร้วี่แววโวยวาย กลับมีปากเสียงถามนั่นนี่เอาตอนนี้ “คุณหนูเจ้าคะ สีหน้าท่านดูไม่ดีเลย ไม่สบายตรงไหนหรือเจ้าคะ บอกข้ามาเจ้าค่ะ หรือพวกเราเร่งไปให้ถึงโรงเตี๊ยมเจี้ยนไหลก่อน คุณหนูจะได้พักผ่อน ดีหรือไม่คะ” หลานหนิงชิงไม่ตอบ ร่างบางเอนกายพิงผนังรถม้าหลับตาลง เม็ดเหงื่อข้างขมับยังไม่จางหาย แต่ไหนแต่ไรนางเคยแต่รังแกข่มเหงผู้อื่น คราวนี้หลานหนิงชิงหวาดกลัวบ้างแล้ว ปีเถียนไท่จู้ที่สิบ รถม้าตระกูลหลานเคลื่อนออกจากเมืองหลวงพา หลานหนิงชิงมุ่งหน้าไปยังตำบลหลัวชี นั่นเป็นเรื่องเมื่อสิบปีก่อน ……………………………………………………….. อย่าลืมกดติดตาม กดหัวใจ เพิ่มเข้าชั้น เป็นกำลังใจให้กันนะคะ จุ้ฟๆ ❤️
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD