[ตอน 3] ไว้เจอกันใหม่

1456 Words
"เรามาในวันนี้เพื่อไว้อาลัยให้กับแมดิสัน เธอตายและจากไปอย่างไม่ยุติธรรม และเขา...คือคนที่ต้องรับผิดชอบกับเรื่องนี้" เสียงประกาศดังก้องไปทั่ว แซมเดินฝ่าฝูงชนมาจนถึงด้านหน้าเวทีโดยมีชายคนหนึ่งยืนพูดอยู่บนเวที ป้ายไว้อาลัยที่มีหน้าของแมดิสัน และรูปของชายปริศนาที่ถูกพ่นสีแดงบนใบหน้าพร้อมข้อความ 'ไปลงนรกซะ' อยู่รอบฝูงชน แซมถามชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆ อย่างสงสัย "ขอโทษนะคะ เกิดอะไรขึ้นที่นี่หรอ?" "งานปราศัยให้แมดิสันน่ะ" เขากล่าวพลางชี้ไปที่ชายบนเวที "นั่นสตีเว่น พี่ชายของแมดิสัน เรื่องเงียบไปตั้งแต่เธอตายเขาเลย...ไม่รู้สิ ขอความเป็นธรรมมั้ง?" "แล้วเจ้าของบาร์เขาไม่ว่าเอาหรอคะ?" "เห็นว่ายังไม่ออกมาเลยน่ะ" แซมพยักหน้าก่อนจะตั้งใจฟังการพูดของสตีเว่นต่อโดยไม่ได้ใส่ใจพยานปากหลักที่เธอต้องมาสอบถามนัก เพราะนี่ถือเป็นเรื่องดีที่ว่าเธออาจจะได้ข้อมูลเกี่ยวกับคดีกลับไปด้วย แต่ทันใดนั้นเสียงไมค์ก็ถูกตัดลงและแทนที่ด้วยเสียงทุ้มกังวาลของชายหนุ่มรูปงามในชุดสูทสีดำสนิทที่ยืนอยู่บนชั้นลอย 'ใครอนุญาตให้พวกนายมาใช้บาร์ของฉันทำเหมือนโบสถ์แบบนี้กัน?' ทุกคนหันไปที่ด้านบน แซมรู้สึกตัวเย็นวาบทันทีที่หันไปเห็นใบหน้าเจ้าของบาร์ เธอจำเขาได้...ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำและปีกเทวทูตสีดำสนิท คืนวันนั้นที่เธอถูกแลกคำสาป "ลูซิเฟอร์..." เธอพยายามจ้องไปที่ชายหนุ่มอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าเขาคือ 'ลูซิเฟอร์' ที่เธอรู้จักหรือเปล่า นักล่าอย่างเธอก็เคยศึกษามาว่าร่างที่ถูกสิงนั้นเป็นเพียงอวตารของสิ่งเหนือธรรมชาติเท่านั้น และสามารถย้ายเข้าออกได้ตามที่ต้องการ อาจจะฟังดูแปลกที่เขาไม่แก่ลงเลย แต่แซมคิดว่าการที่ถูกปีศาจหรือสิ่งเหนือธรรมชาติอื่นๆ ใช้ร่างคงเป็นการชะลอเซลล์ไม่ให้แก่ลงตามไปด้วย การปรากฎตัวครั้งนี้ของเขาไร้ปีกสีดำหน้าสะอิดสะเอียนอยู่ด้านหลัง แค่นั้นก็พอทำให้แซมโล่งใจได้ในระดับหนึ่ง แต่นั่นยังไม่ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยแม้แต่น้อย ลูซิเฟอร์เดินลงมาจากชั้นลอยและหยุดยืนตรงกลางเวที "เพราะนายไม่ใช่หรอที่ทำให้น้องสาวฉันต้องตาย...นายเป็นคนเรียกเธอมาที่นี่" "ใช่ แต่ฉันไม่เสียเวลาไปเกี่ยวข้องกับเรื่องฆ่ากันตายแบบนั้นหรอก ฉะนั้นพวกนายไสหัวออกไปได้แล้ว" ลูซิเฟอร์กระชากเสื้อก่อนจะผลักสตีเว่นออกจากเวที เมื่อทุกคนยังคงยืนนิ่งลูซิเฟอร์จึงส่งสายตาจ้องไปรอบๆ และยกไมโครโฟนขึ้นพูด "กลับไปได้แล้ว!" กลุ่มคนสลายตัวอย่างรวดเร็ว แต่สตีเว่นนั้นไม่พอใจก่อนจะหยิบปืนขึ้นมา เขาเตรียมจะยิงชายหนุ่มเจ้าของบาร์ด้วยความโมโหต่างกับคนที่ถูกปืนเล็งซึ่งไม่ได้ทำหน้าทุกข์ร้อนแต่อย่างใด แซมเห็นดังนั้นจึงค่อยๆ เดินเข้าไปด้านหลังสตีเว่น "นายไม่อยากทำหรอกสตีเว่น คิดว่าการฆ่าฉันมันคุ้มจริงๆ งั้นหรอ?" "แกนั่นแหละเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอต้องตาย..." สตีเว่นเตรียมจะลั่นไก แต่แซมเข้ามาล็อกตัวเขาไว้ได้ทันและจับเขาใส่กุญแจมือทันที ลูซิเฟอร์มองเจ้าหน้าที่สาวด้วยความแปลกใจ "เธอเป็นตำรวจนี่..." ลูซิเฟอร์ยกยิ้มได้ใจ "คุณผ่านหน้าประตูมาได้ไงกัน?" "ขนาดเขาพกปืนยังผ่านเข้ามาได้เลย" แซมกล่าวพลางกดแขนสตีเว่นให้อยู่นิ่ง เขาแค่นหัวเราะกับมุขนั้น "ฉันเจ้าหน้าที่แซม ฮันเตอร์ ใครไม่เกี่ยวข้องออกไปจากบาร์เดี๋ยวนี้ก่อนที่ฉันจะแจ้งข้อหาเพิ่ม" ผู้ที่มาร่วมฟังการไว้อาลัยซึ่งยังมีอยู่น้อยนิดมองแซมก่อนจะรีบเดินออกไปจนเหลือเพียงแค่เธอ ลูซิเฟอร์และสตีเว่น แซมออกแรงล็อกมากขึ้นเมื่อเห็นว่าสตีเว่นพยายามจะขัดขืน "คุณ อยู่ที่นี่ สตีเว่น นายมากับฉัน" "อะไรนะ?! ข้อหาอะไร?" "พยายามฆ่า พกปืนในที่สาธารณะ และฉันต้องคุยกับนายเรื่องแมดิสันเพราะนายไม่ได้ไปให้ปากคำที่สถานี" แซมพยายามลากสตีเว่นออกไป แต่มือของลูซิเฟอร์ก็ดึงเธอไว้ "อะไร?" "ไม่เอาน่าคุณเจ้าหน้าที่ เขาก็แค่ทำเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ปล่อยเขาไปเถอะ" "ตามขั้นตอนแล้วเกรงว่าจะไม่ได้ค่ะ เสียใจด้วย" แซมสะบัดมือลูซิเฟอร์ออกและยังคงยืนยันที่จะพาสตีเว่นออกไป "ถ้าผมบอกว่าผมให้ข้อมูลคุณเรื่องแมดิสันได้คุณจะยอมปล่อยเขาไปมั้ย?" หญิงสาวหันกลับไปหาลูซิเฟอร์ที่ตอนนี้เขาฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์ แซมยืนนึกอยูครู่หนึ่งก่อนจะสบถออกมาเบาๆ และยอมคลายกุญแจมือให้สตีเว่น อีกฝ่ายหันมองทั้งสองก่อนจะวิ่งออกไปจากร้าน "ถ้าข้อมูลที่นายให้ใช้ประโยชน์ไม่ได้ นายถูกใส่กุญแจมือแทนแน่" "โอ้ว...ผมจะยอมโดยดีเลยคุณเจ้าหน้าที่" ลูซิเฟอร์พูดหยอกและเดินนำไปที่ลิฟท์ แซมนึกก่นด่าตัวเองก่อนจะยอมเดินตามลูซิเฟอร์ขึ้นมาถึงห้องส่วนตัวในบาร์ของเขา ในใจเธอก็ยังคิดไม่ตกว่าเขาใช่ลูซิเฟอร์คนนั้นที่เธอเคยเจอจริงๆ รึเปล่า ถ้าเรื่องนี้เป็นความทรงจำที่ผ่านไปเหมือนเมื่อวานหรือไม่ได้เกิดขึ้นจากช่วงใกล้ตายเธอก็คงมั่นใจมากกว่านี้ แซมยืนนิ่งอยู่ในลิฟท์ไปครู่หนึ่งจนลูซิเฟอร์ต้องตะโกนเรียก "คุณนักสืบ!" "...ทำไมถึงรู้ว่าฉันเป็นนักสืบ?" "ผมดูคนเก่งนะ" แซมเดินเข้ามาภายในพลางมองลูซิเฟอร์ที่กำลังถอดชุดสูทออก "ถึงจะไม่เชื่อเท่าไหร่ก็เถอะ" ลูซิเฟอร์หันมายิ้มและให้แซมเดินไปนั่งที่โซฟา จากนั้นเขาก็เดินไปหยิบว๊อดก้าจากในชั้นรินลงแก้วสองใบ ไม่นานลูซิเฟอร์ก็เดินกลับมาและส่งแก้วให้แซม ก่อนจะนั่งอีกฝั่งของโซฟา "คุณอยากจะรู้เรื่องอะไรล่ะ?" แซมล้วงสมุดจดและปากกาที่ซ่อนไว้จากหน้าอก ลูซิเฟอร์มองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถูกขัดด้วยสายตาที่เขม่นใส่เขา "คุณเกี่ยวข้องยังไงกับผู้ตาย?" "เธอเคยเป็นนักร้องของที่นี่ แล้วผมก็เคยจับได้ว่าเธอขโมยของในร้านก็เลยไล่เธอออกไป แต่เธอขอร้องผมบอกว่ามีคนตามทวงหนี้เธออยู่" เขากล่าวและหยุดครู่หนึ่งเพื่อเทว๊อดก้าลงแก้ว แซมยกมือปฏิเสธ "ผมก็เลยให้เธอทำงานต่อสักพักจนกว่าจะเคลียปัญหาของเธอหมด" "แค่นั้นหรอ?" "ใช่ แค่นั้น" "มีเรื่องอะไรที่เป็นประโยชน์ได้มั้ย?" "ผมนึกว่านั่นจะเป็นประโยชน์แล้วซะอีก" พอได้ฟังคำตอบจากอีกฝ่ายแซมก็ส่ายหน้าอย่างเอือมระอาก่อนจะรีบปิดสมุดบันทึก ลูซิเฟอร์ยืนขึ้นและดึงมืออีกฝ่ายที่กำลังลุกหนีเขาไป "ไม่อยากให้ผมช่วยแล้วหรอ?" "คุณทำฉันเสียเวลา ฉันจะกลับไปที่สถานี" "ผมรู้แค่เท่านั้น แต่ถ้าอยากไขคดีนี้ผมช่วยคุณได้นะ" "ยังไง?" "ผมมีพลังที่สามารถดึงความปราถนาในตัวคนออกมาได้...ด้านมืดในจิตใจของพวกเขา หรือที่พวกคุณเรียกมันว่าคำสารภาพน่ะ" "หรือที่พวกคลั่งบางคนเรียกว่าอ่านใจได้น่ะหรอ?" ลูซิเฟอร์เดินเข้ามาหาแซมด้วยสายตาน่าขนลุก เขาจับมือเธอไว้แน่นและจ้องตาแซมไม่กะพริบ "ไม่ๆ แค่ทำให้พวกเขาพูดออกมา อย่างเช่น...อะไรคือสิ่งที่คุณปราถนามากที่สุดคุณนักสืบ?" หญิงสาวมองตาลูซิเฟอร์และพบว่าในดวงตาของเขาส่องสว่างเหมือนมีเปลวไฟลุกโชนอยู่ข้างใน มากขึ้น...พร้อมกับเสียงกรีดร้องของแซมที่เริ่มดังกังวาน เจ้าหน้าที่สาวสะบัดมือเขาออกด้วยความกลัว "ฉันควรจะกลับ..." แซมเดินดุ่มออกไปจากห้องโดยไม่คิดจะหันหลังกลับ ลูซิเฟอร์ยืนนิ่งด้วยความประหลาดใจ เขาหันมองหญิงสาวลงลิฟท์จนลับตาไป 'ให้ตายเถอะ นายคือลูซิเฟอร์จริงๆ หรอเนี่ย?' สายตาสีดำคู่นั้นจับจ้องการกระทำของหญิงสาวผ่านกล้องวงจรปิดจนเธอหายออกไป เขายกแก้วจิบพลางพลิกสำรวจสมุดบันทึกของนักสืบสาว "ไว้เจอกันใหม่นะ คุณนักสืบ" [จบตอน 3]
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD