5

1210 Words
ศิวะไม่ได้พาฉันไปไหน เขาเพียงแต่ขับมาช้าๆ ราวกับกำลังใช้ความคิด ไม่นานก็ถึงหอพักที่เราอาศัยอยู่ สีหน้าของเขาไม่สู้ดีนัก เขาจอดรถ ล็อกไว้แล้วก็เดินหนีฉันเข้าไปข้างในเลย ไอ้นี่นิ ไม่พูดไม่จาทั้งที่พาเรากลับมาเองแท้ๆ “ฮัลโหล” ฉันรับสายพี่ชาย ที่โทรเข้ามาได้จังหวะที่ฉันอาบน้ำเสร็จพอดี (ไอ้วะมันพากลับหอหรือยัง) “ถึงแล้ว มิลกำลังจะนอนพอดี” (โอเค พรุ่งนี้พี่จะไปรับนะ แต่งตัวให้เรียบร้อยล่ะ วันแรกอย่าให้ใครเขาเขม่น) แล้วพี่ไมล์ก็วางสายไป ฉันสมัครเข้าเรียนได้เพราะพี่ไมล์ไปขอให้ใครบางคนช่วย ซึ่งฉันไม่รู้จักพี่เองก็ไม่ได้แจกแจงรายละเอียดให้ทราบ บอกเพียงว่าให้เข้ามาเรียนได้เลย ฉันถึงได้มาที่นี่แบบปุบปับทันที พูดถึงเรื่องศิวะ ไม่โกรธหรอกนะที่บุกอุกอาจมาปล้นจูบ มันไม่ใช่ครั้งแรกของฉัน ตอนสมัยนั้นก็เคยมีแฟนไม่ใช่สาวใสๆ แต่อย่างใด แค่ไม่เข้าใจ การที่เขาจะประชดใคร ไม่จำเป็นต้องทำขนาดนี้ก็ได้ไหม ดูสิว่าใครเดือดร้อน ฉันนี่ไง... “ทำตัวดีๆ นะ” พี่ไมล์บอกเมื่อเราเดินมาถึงหน้าร้านอาหารตามสั่ง หลังจากไปรายงานตัว แจ้งชื่อเป็นนักศึกษาที่นี่เรียบร้อย พี่ก็พามากินข้าวและยังบอกว่าจะไปส่งถึงห้องเรียน เพราะวันนี้พี่มีคลาสตอนเก้าโมง “มิลรู้” ฉันรับคำแต่โดยดี ไม่ทำให้พี่เดือดร้อนหรอก ไม่ค่อยชอบมีปัญหาด้วย “เดี๋ยวศิวะมันก็มา มีอะไรก็ถามก็คุยกับมันนั่นแหละ” คนนี้ล่ะ ที่ไม่อยากคุยมากที่สุด “ว้าว... น้องใหม่” พี่ไมล์เดินไปสั่งข้าว ก่อนจะก้าวไปอีกร้านเพื่อซื้อน้ำด้วย คนทักทายนี่ไม่ใช่ใคร พี่กีคนนั้นนั่นเอง คนอะไรชื่อกี นี่มันศัพย์เรียกอ***********งนะพี่ “หวัดดีค่ะ” “ครับ ว่าแต่สั่งข้าวไปยัง พี่ไปซื้อให้ไหม” “สั่งเผื่อกูด้วยพี่” ฉันยังไม่ทันตอบ เสียงจากข้างหลังพี่กีก็ดังขึ้นตามมาด้วยผู้ชายหน้าแหลมที่ยืนนิ่งอยู่ข้างพี่เขา “เออ เอาเหมือนเดิมใช่ไหม น้องมิลจะกินอะไรคะ” วาจาหวานหยด สายตาแพรวพราวส่อความเจ้าชู้ออกมารอบตัว “พี่ไมล์ไปซื้อให้แล้วค่ะ” ฉันยิ้มรับตามมารยาท หยิบเครื่องมือสื่อสารออกมากดเล่นฆ่าเวลารอพี่ “งั้นเดี๋ยวพี่มานะครับ รอกินข้าวพร้อมกันนะ อยากกินข้าวกับสาวสวย” ส่งยิ้มพิมพ์ใจให้ก่อนจะเดินออกไปด้วยท่าทางทะเล้น ฉันถอนหายใจพรืดใหญ่ รู้ว่าพี่เขาไม่ได้คิดอะไร แค่แซวไปตามประสาผู้ชายเจ้าชู้ แต่ฉันก็ไม่รู้จะทำตัวยังไง เพราะพึ่งรู้จักกันใหม่ ถ้าจะด่าออกไปมันคงไม่ใช่เรื่องดี ผู้คนในละแวกนี้หันมองมาที่ฉันเป็นระยะ คงเพราะไม่คุ้นหน้าด้วย คงเพราะสงสัยด้วยว่าย้ายเข้ามากลางภาคแบบนี้ได้ยังไง มองแบบดีๆ ก็ดี มองแบบซุบซิบกันทีก็เยอะ สังคมสมัยนี้อะเนอะ เราต้องอยู่กับมันให้ได้จริงๆ “มองอะไร” ฉันถามคนตรงข้าม มันเล่นนั่งมองฉันตั้งแต่เดินมาถึง มองซึ่งๆ หน้าโดยไม่กลัวเราว่าสักนิด “ก็แค่มอง” เขาตอบ และยังคงมอง เอาเถอะ พี่ให้คบกันเป็นเพื่อนไว้ รอให้ชินสถานที่เมื่อไหร่ ฉันจะตัดไอ้นี่ออกจากสารระบบเพื่อนเป็นคนแรก นายศิวะ ไม่นานโต๊ะที่เรานั่งก็มีคนเข้ามาเพิ่มอีกห้าชีวิต พี่มะลิ พี่ไมล์ พี่พุธ พี่กี พี่เตย ถือว่าเป็นบุคคนที่ฉันเจอเมื่อคืนทั้งสิ้น คนเหล่านี้คือเพื่อนสนิททั้งหมดของพี่ไมล์ที่ฉันจะต้องรู้จักไว้และคงต้องรู้จักไปอีกนานเลย “ลิเดินไปก่อนนะ ขอไปส่งน้องก่อน” หลังกินข้าวเสร็จพี่ก็บอกแฟนเขาให้นำไปเรียนก่อน พี่มะลิพยักหน้าพลางโบกมือลาก่อนจะเดินไปกับพี่เตย ตามด้วยพี่กีพี่พุธที่เดินตามกันไปเงียบๆ “มึงคุยกับน้องกูบ้างไหมเนี่ย ไอ้วะ” พี่กระแซะไหล่ศิวะ มืออีกข้างพี่ก็จับไหล่ฉันอยู่ “ไม่คุยกับคนใบ้” ไอ้หน้าแหลมมันตอบ น้ำเสียงมันโคตรกวนบาทาเลย “ดีๆ กันหน่อย ยังไงก็ได้คบกันอีกยาว อย่างน้อยพอมิลชินที่นี่แล้ว กูจะไม่ให้น้องมายุ่งกับมึงเลยเอ้า” “เออ ไม่อยากยุ่งอยู่แล้ว แค่ระยะสั้นกูจะทนๆ ไปก่อน” ดูมันพูดเข้า เหมือนเราจะญาติดีกันในชาตินี้ไม่ได้เลย ไม่รู้ฉันเคยไปทำไรให้ ทำหน้าเหมือนไม่พอใจฉันตลอดเวลา “พี่ส่งตรงนี้นะ มีศิวะเป็นเพื่อน ก็เหมือนมีการ์ดส่วนตัวเลยแหละ แต่ทนปากมันเอาละกัน พี่ไปนะไอ้หนู” พี่จุ้บหัวฉันหนึ่งทีก่อนจะเดินหายไปในกลุ่มผู้คนที่เดินสวนกันไปมา มีการ์ดส่วนตัวงั้นเหรอ นี่นึกว่ามีหมาพิทบูลข้างกายเสียอีก หน้าก็นิ่ง อ้าปากก็พร้อมจะกัด ถ้าเป็นหมาจริงๆ มันไม่จับฉันฟัดจนอ่วมไปเลยเรอะ “เหอะ... ไอ้หนู” เขาหัวเราะในลำคอ ก่อนจะล้อเลียนประโยคที่พี่เรียกฉัน “ไอ้วะ มาก็ดีละมึง เมียเก่ามึงแอดเพื่อนกูมาฝากบอกให้มึงปลดบล็อกเนี่ย ไปเจอกันเหรอวะ ถามกูนู่นนี่นั่นว่ามึงมีแฟนยัง เมื่อคืนเห็นมึงไปกับผู้หญิง ใช่แฟนมึงไหมนู่นนี่ กูไม่รู้จะตอบคำถามไหนก่อนเลย” มีคนเข้ามาคุยกับเขา เขาหยุดเดินฉันก็เลยหยุดตาม คนๆ นั้นพูดรัวยาวหลายเรื่องจนแทบจับใจความไม่ทัน แต่เท่าที่ฟังคำว่าเมียเก่านั้นน่าจะหมายถึงแฟนเก่าของนายศิวะ หรือว่าจะเป็นคนเมื่อคืน “ค่อยๆ พูดไอ้คิว” “เออ นั่นแหละ ว่าแต่มึงไปเจอเมเหรอวะ บังเอิญหรือมึงนัดเขาตอบกูมาเลย อ้าว... ” คนนั้นพยายามเค้นคำตอบจากศิวะ พอเข้ามาใกล้ตัวเขาจริงๆ เพื่อนเขาก็เห็นว่าฉันยืนอยู่ไม่ไกลจากศิวะ ก็เลยร้องขึ้นมาอย่างสงสัย “เพื่อนมึงเหรอไอ้วะ” เขาถามอย่างสนใจ เมื่อเห็นว่าฉันไม่ยอมก้าวไปไหน ก็คงจะเข้าใจไปเองว่าฉันมากับศิวะ ก็มาด้วยกันจริงๆ แต่ยังไม่ใช่เพื่อนกันหรอกนะ “ใช่เพื่อนกัน... ซะที่ไหนล่ะมึง น้องไอ้ไมล์มัน พึ่งเข้ามาเรียนเลยให้กูเป็นพี่เลี้ยงเนี่ย” เขาตอบไป ใช่สิ...เราเป็น ‘เพื่อนกัน...ซะที่ไหน’ พึ่งรู้จักกันสามสิบกว่าชั่วโมงเอง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD