กริ๊งงง กริ๊งงง!
หื้อออ~ ฉันลุกขึ้นจากที่นอนด้วยอาการงัวเงียสุดฤทธิ์ ก่อนจะบิดตัวไปมาแล้วเอื้อมมือกดปิดนาฬิกาปลุกบนหัวเตียงที่กำลังส่งเสียงกรีดร้อง เฮ้ย! เจ็ดโมงครึ่ง! ตาย ๆ ๆ ๆ สายแล้วช้านนน ฉันรีบตะเกียกตะกายลุกจากที่นอนด้วยความรวดเร็ว แล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำอย่างเร่งด่วน
สิบนาทีต่อมาฉันก็อยู่ในชุดนักเรียนที่ดูยับเยินนิดหน่อยจากการรีบยัดมันสวมลงบนร่างกาย ฉันใช้เวลาในการอาบน้ำแค่ห้านาที และเวลาแต่งตัวอีกสามนาที ส่วนอีกสองนาทีที่เหลือน่ะเหรอ…
“ไม่สวยแล้วยังตื่นสายอีกนะแก เป็นผู้หญิงยิงเรือนอนกินบ้านกินเมืองฉิบเป๋ง”
เสียเวลาไปกับการโดนไอ้พี่ชายตัวดีมันด่านั่นเอง
“อะโด่... เฮีย~ พูดอย่างกับตัวเองตื่นเช้างั้นแหละ” ฉันปรายตามองปกเสื้อนักเรียนเฮียนัทที่พับเข้าไปข้างในอย่างลวก ๆ เชอะ! ตัวเองก็ตื่นสายยังมีหน้ามาว่าคนอื่นเค้าอีก แย่จริง ๆ เลย! และเหมือนเฮียนัทจะรู้ทันเลยรีบพับคอเสื้อให้เรียบร้อยก่อนจะหันมาแก้ตัวหน้าตาเฉย
“อะไร ๆ นี่มันเทรนด์ใหม่เว้ย เชย ๆ อย่างแกไม่รู้เรื่องหรอก”
“เหรอออออ~”
ฉันถลึงตาใส่เฮียก่อนจะสะบัดก้นเดินออกจากบ้านอย่างกวน ๆ เป็นอย่างนี้ทุกวันแหละค่ะ ฉันกับเฮียมักจะเถียงกันเจ๊าะ ๆ แจ๊ะ ๆ เป็นประจำ เพราะทุกเช้าเราต้องไปโรงเรียนพร้อมกัน ฉันอยู่โรงเรียนหญิงล้วนส่วนเฮียนัทก็อยู่โรงเรียนชายล้วน เฮียนัทเรียนอยู่โรงเรียนนานาชาติเซนต์อังดรูว์ปีสุดท้ายเหมือนฉันค่ะ
แปลกใจกันใช่ไหมล่ะว่าทำไมถึงเรียนปีเดียวกันเลย ~แต่ แด แด่ แด้ววว ~ เฉลย เพราะฉันกับเฮียนัท เป็นฝาแฝดกันค่ะ!
เป็นฝาแฝดไข่คนละใบหน้าตาก็เลยไม่ค่อยเหมือนกัน (ร่วมนิสัยด้วยนะ) แค่หน้าคล้ายกันนิดหน่อยอ่ะนะ ส่วนรูปร่างนี่สิต่างกันมากมาย เฮียนัทสูงตั้งร้อยแปดสิบสองส่วนฉันสูงแค่ร้อยหกสิบสองเองห่างกันตั้งยี่สิบเซนต์ (สวรรค์ลำเอียง) ถ้าดูจากภายนอกแล้วฉันกับเฮียคล้ายพี่น้องกันมากกว่าฝาแฝด แต่เฮียนัทนี่หน้าหวานกว่าฉันเยอะ ถ้าลองจับเฮียมาใส่วิกแล้วแต่งสาวนะรับรองสวยกว่าฉันอีก (อนาถใจจัง)
แถมอีตาพี่บ้าของฉันนี่หน้าตาหล่อเป็นบ้าเลยไม่อยากจะบอก (อย่าไปบอกมันนะเดี๋ยวมันหลงตัวเอง) หน้าเรียวขาวเนียนใส จมูกโด่งได้รูป ริมฝีปากกระจับน่าจูบ ดวงตาคมเข้มใต้ขนตาหนาเป็นแพ
อ๊ายยย!! ดูแล้วน่าหมั่นไส้ที่สุดเลย ดูดีกว่าฉันที่เกิดมาเป็นผู้หญิงซะอีก ที่สำคัญเฮียนัทติดหนึ่งในสิบหนุ่มหล่อของโรงเรียนด้วย ไม่รู้ใครเลือกมัน ได้ข่าวว่ามีแต่ผู้ชายไม่ใช่เหรอ แต่ถึงยังไงความสวยของฉันก็ไม่ทิ้งห่างเฮียเหมือนกันนะ อย่าลืมสิว่าเราเป็นฝาแฝด (ไข่คนละใบ) กัน โหะ ๆ ฉันเองก็ติดหนึ่งในสิบของสาวฮอตประจำโรงเรียนเหมือนกันแหละ หุหุ ดูดีทั้งพี่ทั้งน้องเลย
“นี่ยัยนิว แกกำลังทำงานอะไรอยู่วะ?” เฮียนัทพูดขึ้นมาระหว่างทางเดินออกจากซอยบ้านทำเอาขาที่กำลังก้าวเดินของฉันแทบสะดุดล้มไปเลยทีเดียว พอหันไปมองเฮียนัทที่มองมาด้วยสายตาจับผิดฉันก็รีบหันหน้าหนีพร้อมกับยกมือขึ้นมาพัดเอาลมใส่หน้าราวกับว่าอากาศมันร๊อนร้อน
“อ๊า...แดดร้อนแต่เช้าเลยอ่ะ ผิวเค้าจะเสียไหมเนี่ย”
แถลมาได้เน๊าะช้านนน ท้องฟ้าออกจะครึ้มรับฝนที่กำลังจะตกขนาดนี้
“แดดบ้าแดดบออะไรของแกวะ อย่ามาเปลี่ยนเรื่องดิ”
พลั่ก!
“เฮ้ย... เฮีย มาตีเค้าทำไมเนี่ย ไปดีกว่า ไม่เดินกับเฮียแล้ว…”
เฮียนัทเอากระเป๋านักเรียนมาตีหลังฉันโดยไม่ยั้งแรง เล่นซะหน้าแทบทิ่มแน่ะ ฉันค้อนใส่เฮียวงใหญ่ก่อนจะวิ่งหนีเพื่อเป็นการเฉไฉ เรื่องอะไรจะบอกล่ะ ทีเฮียยังชอบทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ เลย ชิส์
.
.
.
พักกลางวัน (SG คลับ)
“ปูเป้ ฉันว่าเด็กแกคงไม่มาแล้วมั้ง เจอยัยนิวเคลียร์ถล่มเข้าไปเมื่อวานนี้แล้ว สงสัยจะจอดว่ะ”
โบลิ่งพูดแทรกความเงียบขึ้นมา ขณะที่พวกเรากำลังนั่งคัดรายชื่องานที่ Summit เข้ามาทางเว็บไซต์คลับอยู่ งานและภารกิจส่วนใหญ่มักจะได้รับมาจากการ Summit เข้ามาทางเว็บไซต์ของคลับเรา ซึ่งสร้างไว้สำหรับผู้ที่มีรหัสเท่านั้นถึงจะเข้ามาดูได้ แล้วรหัสส่วนมากก็จะมีแต่เด็กนักเรียนในโรงเรียนเราเท่านั้นที่รู้ เรามักจะคัดเลือกเฉพาะบางงานที่น่าไว้ใจและไม่เสี่ยงเกินไป แต่ก็ต้องตามเช็กประวัติของผู้ว่าจ้างและเป้าหมายด้วยเช่นกัน ซึ่งหน้าที่พวกนี้ปกติจะเป็นหน้าที่ของปูเป้หัวหน้าคลับ แต่เนื่องจากเราสี่คนอยากคัดเป้าหมายกันเอง ก็เลยต้องมานั่งปวดหัวกันอย่างเช่นตอนนี้ และคำถามของยัยโบลิ่งก็ทำให้ฉันเสียสมาธิมากกก~
“แกจะไปสนใจทำไม จะทำไม่ทำมันก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรนี่ ทางที่ดีแกควรหยุดทำลายสมาธิฉันสักที ชักจะหงุดหงิดแล้วนะ”
ง่าส์ ฉันไม่ได้พูดนะ ยัยหนามเตยต่างหาก ฉันป๊าวววว
โบลิ่งชักสีหน้าเซ็งกับอารมณ์ของหนามเตย ก่อนจะหันไปชะงักที่ประตูแล้วทำตาโต อะไรของแกอีกฟ่ะ ไอ้นี่นิ ฉันหันมองตามก็พบเด็กสาวคนเมื่อวานที่กำลังเดินเข้ามาในห้องด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ยัยเด็กยิปซีนั่นเอง
“สวัสดีค่ะพี่ ๆ ซีมาตามนัดแล้วค่ะ”
คนที่เหลือหันไปมองยิปซีอย่างแปลกใจ โบลิ่งเลยแอบกระเถิบไปใกล้ ๆ ปูเป้ก่อนจะกระซิบกระซาบ
“เด็กแกกล้าดีว่ะปูเป้ ขนาดเจอยัยนิวเคลียร์ถล่มใส่แล้วยังจะกล้ากลับมาอีก สู้ดีว่ะ คิก ๆ”
ฉันตวัดสายตาขุ่นเคืองใส่ปูเป้ที่หันมาทางนี้พอดี
ฉันได้ยินอีกแล้วนะยัยบ้า ทำไมไม่หัดนินทาเบา ๆ กันบ้างยะ
ปูเป้รีบหันไปมองยิปซีทันที ก่อนที่ยัยโบลิ่งจะหันมาจ๊ะเอ๋เข้ากับสายตาพิฆาตของฉันพอดิบพอดี ยัยนั่นร้องอุ๊ย! แล้วรีบหันกลับไปมองยิปซีตามปูเป้บ้าง