EP.18 #อยากจะหยุด

1185 Words
ผมยังรู้สึกแปลกใจไม่หายในความบังเอิญที่แสนจะน่าเหลือเชื่อ เมื่อสามชั่วโมงก่อนระหว่างที่ผมกำลังเดินเล่นอยู่ในสวนสาธารณะแถวบ้านของผม สายตาผมก็ดันไปสะดุดเข้ากับหญิงสาวร่างบางคนหนึ่งซึ่งดึงดูดสายตาผมอย่างที่สุด เธอคนนั้นนั่งคุยกับเด็กผู้หญิงตัวเล็กน่ารักน่าหยิกคนหนึ่งอยู่ที่สนามหญ้าอีกฟากหนึ่งของถนน ผมยืนมองเธอคนนั้นราวกับต้องมนต์สะกด ใบหน้าสวยหวานซ่อนเปรี้ยวนั่นเด่นรับกับแสงอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้าอย่างสวยงาม ดวงตากลมโตมีเสน่ห์จนน่าหลงใหลจับจ้องไปที่เด็กน้อยตรงหน้า ริมฝีปากบางสีชมพูระเรื่อหยักขึ้นเป็นรอยยิ้มบางแสนอ่อนโยน ทุกอย่างของเธอคนนั้นกำลังทำให้ผมปั่นป่วนหัวใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ผมเฝ้าแอบมองเธอได้สักพักก็ต้องใจกระตุกวูบอย่างตกใจ เมื่อเห็นเด็กหญิงตัวเล็กที่วิ่งออกมาเก็บลูกบอลกลางถนน แต่สิ่งที่ทำให้ผมถึงกับหายใจติดขัดนั่นก็คือเธอคนนั้นที่วิ่งออกมาผลักเด็กหญิงให้พ้นออกไปจากเขตถนน ส่วนตัวของเธอเองกลับยืนนิ่งอยู่กลางถนนท่ามกลางรถยนต์คันหนึ่งที่กำลังพุ่งทะยานมาที่ตัวเธอ วินาทีนั้นในสมองของผมมันสั่งให้ผมช่วยเธอ! ผมไม่อาจทนเห็นเธอคนนี้เป็นอันตรายได้ และผมก็ช่วยเธอสำเร็จ ผมช่วยชีวิตเธอเป็นครั้งที่สอง... ใช่ครับ! เธอคือผู้หญิงที่เข้ามาปั่นป่วนความรู้สึกของผมในช่วงหลายวันที่ผ่านมานี้ เธอคือผู้หญิงที่ทำให้ผมแทบคลั่งเวลาที่เห็นเธออยู่ใกล้ ๆ กับพวกเพื่อนของผม ผมจำได้ว่าเธอคือผู้หญิงคนนั้น ไม่ว่าจะเป็นเอมิหรือพริตติ้ แต่ผมก็จำได้ ถึงแม้ว่าบริเวณนี้จะไม่ค่อยมีแสงสว่างสักเท่าไหร่ แต่ผมก็จำหน้าเธอได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น วันนี้เธอแต่งตัวไปรเวทปกติไม่แต่งหน้าเลยสักนิดเดียว แต่ก็ยังทำให้เธอดูมีเสน่ห์อย่างน่าเหลือเชื่อ ไม่ว่าเธอจะอยู่ในคราบของเอมิ พริตติ้ หรือแม้แต่ตอนนี้ที่บอกว่าเธอคือนิวเคลียร์ เธอก็ยังดูดีเหมือนเดิม เธอทำให้ผมอยากรู้จักเธอมากขึ้น ผมอยากรู้ว่าความจริงแล้ว... เธอเป็นใครกันแน่! แล้วทำไมต้องเข้ามาวุ่นวายในชีวิตของเพื่อนทั้งสองคนของผม ต่อให้เธอจะปฏิเสธเป็นร้อยครั้ง ผมก็จำเธอได้อยู่ดี ความรู้สึกลึก ๆ ในใจมันบอกผมอย่างนั้น เหมือนมีบางอย่างที่ขาดหายไปในความทรงจำของผม.. “ไลท์ มาดื่มกับแนตหน่อยสิ” เสียงของแนตตี้ดึงผมออกจากความคิดถึงเรื่องของผู้หญิงคนนั้น แล้วเสียงเพลงครึกครื้นในไนต์คลับที่ดังกระหึ่มก็แทรกเข้ามาแทนที่ในสมองผมทันที ผมหันไปรับแก้วเหล้าจากแนตเป้าหมายในการทำภารกิจของผมมาดื่ม “น่ารักที่สุดเลยไลท์” แนตตี้ซบลงมาที่ไหล่ของผมอย่างออดอ้อนในขณะที่เรากำลังนั่งอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ “วันนี้ฉันคงมาดื่มกับเธอวันสุดท้ายแล้วนะ” “หมายความว่าไงน่ะไลท์” เธอเงยหน้าขึ้นถามผมอย่างตกใจ “...ฉันแค่อยากจะบอกว่า เราควรจะเลิกติดต่อกันดีกว่านะ” ผมดันร่างอันอวบอึ๋มของแนตตี้ออก ก่อนลุกขึ้นยืนแล้วส่งยิ้มเหยียบเย็นให้เธอ “อะ...อะไรนะ! พูดอะไรน่ะไลท์ นายจะเลิกกับฉันเหรอ” แนตตี้ลุกขึ้นยืนตามแล้วรีบดึงมือผมไปจับไว้ทันที “...แค่หนึ่งอาทิตย์มันก็น่าจะพอสำหรับผู้หญิงอย่างเธอแล้วไม่ใช่เหรอไง มันก็แค่ความสนุกที่ฉาบฉวยของเธอกับฉันเท่านั้นเองนี่นา เอาเป็นว่าโชคดีแล้วกันนะ” ผมดึงมือที่เริ่มสั่นเทาของเธอออก พลางส่งยิ้มร้ายกาจให้หญิงสาวแล้วหมุนตัวเดินห่างออกมา “กรี๊ดดด!! ไลท์! กลับมานะ! ฉันจริงจังกับนายนะ! นายจะทำกับฉันแบบนี้ไม่ได้นะไลท์! ไลท์!” ผมคงไม่จำเป็นต้องรอฟังคำพูดใด ๆ ทั้งสิ้นเพราะชาชินกับสิ่งที่เกิดขึ้นเต็มทนแล้ว พอเดินออกมาถึงลานจอดรถหน้าไนต์คลับแล้วตรงไปหยุดยืนอยู่ข้างรถพอร์ชคันหรูของตัวเอง ผมเปิดประตูเข้าไปนั่งอย่างสบายใจ ภายในเวลาไม่กี่วินาทีต่อมารถคันหรูก็พุ่งทะยานด้วยความเร็วสูง ภารกิจของผมจบแล้ว.. ระยะเวลาแค่หนึ่งอาทิตย์ผมก็สามารถทำให้แนตตี้หลงผมหัวปักหัวปำพอแล้ว แค่นี้หวังว่าลูกค้าผู้ว่าจ้างภารกิจนี้คงจะพอใจ นี่คืองานอดิเรกของผมกับพวกเพื่อนใน PB คลับ (Playboy Club) ทุกคน งานของพวกผมก็คือการหักอกเป้าหมาย นั่นก็คือการทำให้เป้าหมายผิดหวังจากความรักที่หลอกลวงของพวกผมนั่นเอง ผมมีหน้าที่รอรับภารกิจจากลูกค้าที่ต้องการให้ PB คลับไปจัดการพวกผู้หญิงตัวร้ายทั้งหลายที่ชอบหักอกผู้ชายเป็นว่าเล่น ลูกค้าเก้าสิบห้าเปอร์เซ็นต์ของคลับส่วนมากจะเป็นผู้ชาย และแน่นอนว่าเป้าหมายของพวกผมก็คือผู้หญิง จึงไม่แปลกที่สมาชิกทุกคนใน PB คลับจะกลายเป็นพวกเจ้าชู้ เพลย์บอย ในสายตาคนรอบข้าง เพราะทุกคนต่างก็หักอกผู้หญิงเป็นว่าเล่นกันอยู่แล้ว (มันเป็นหน้าที่) รถพอร์ชคันหรูจอดสนิทที่หน้าชมรมดนตรีของโรงเรียน เบื้องหลังของที่นี่ก็คือ PB คลับนั่นแหละ ชมรมดนตรีเป็นตึกที่มีตัวอาคารสูงสี่ชั้นอยู่ภายในอาณาเขตของโรงเรียนนานาชาติเซนต์อังดรูว์ที่พวกผมสามารถเข้าออกภายในโรงเรียนเวลากลางคืนได้ก็เพราะไอ้สกายหนึ่งใน PB คลับมันเป็นลูกชายเจ้าของโรงเรียน (ผู้อำนวยการนั่นแหละ) พวกเราทุกคนในคลับก็เลยได้รับอนุญาตให้เข้าออกในโรงเรียนทุกเวลา ผมเปิดประตูเข้าไปในชมรมที่ค่อนข้างมืดและร้างผู้คน สงสัยคนอื่น ๆ คงแยกย้ายกันไปหมดแล้วมั้ง ผมเดินไปทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาด้วยความเหนื่อยล้า อีกมือก็ดึงเนกไทออกจากคอด้วยความร้อน “อ้าว ไอ้ไลท์ ทำไมเข้ามาที่นี่ได้วะ?” เสียงเรดาร์ดังขึ้นจากทางบันได มันเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบเบียร์ขึ้นมาสองกระป๋องก่อนจะโยนมาให้ผมกระป๋องหนึ่ง ส่วนตัวมันเองก็เปิดอีกกระป๋องหนึ่ง “กูเพิ่งปิดภารกิจมาน่ะ ขี้เกียจกลับห้องเลยแวะมานั่งเล่นสักหน่อย” ผมเปิดฝากระป๋องเบียร์แล้วยกขึ้นดื่มก่อนจะถามมันกลับ “แล้วมึงล่ะ ไม่ออกไปทำภารกิจเหมือนคนอื่นหรือไง?” เรดาร์ยักไหล่ขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเอนหลังพิงโซฟาเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ในใจ “กูก็แค่...อยากจะหยุดว่ะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD