บทที่8 ทรมาณใจ

1406 Words
บทที่8 ทรมาณใจ ณ บ้านไม้ของกิ่งเกสร ศิวะนั่งเช็ดตัวให้กิ่งเกสรที่หลับใหลอยู่บนเตียงด้วยความรัก ‘’ กิ่ง รู้ไหมนางนั้นมันติดเชื้อบาดทะยักเกือบตายเลยนะ…อาการมันแย่เลยล่ะ พี่ก็เลยให้มันอยู่โรงบาลแค่คืนเดียว มันจะได้ทรมานเยอะๆ เวลาที่อาการกำเริบ…มันโคตรจะโง่เลย พี่บอกอะไรมันทำตามเหมือนหมา โคตรจะน่าสมเพช….กิ่งเห็นใช่ไหม…กิ่งเห็นน้ำตาของมันใช่รึป่าว….พี่จะทำให้มันอยู่ก็เหมือนตาย….ต่อให้มันอยากตายพี่ก็จะไม่ให้มันตายดี….พี่จะทำให้มันทุกทรมานยิ่งกว่าเราร้อยเท่าพันเท่า…มันต้องชดใช้ให้กับลูกของเราอย่างสาสม’ ศิวะกระซิบบอกกิ่งเกสรที่นอนแน่นิ่งอยู่ ก่อนเขาจะผลัดแป้งหอมที่เธอชอบให้ โดยไม่ลืมที่จะหอมแก้มเธอเบาๆ ก่อนจะเดินออกมาและปิดประตูล็อคบ้านไม้หลังนั้นไว้แล้วเดินไปยังเรือนหลังใหญ่ของตัวเองที่ตอนนี้มิรานั้นกำลังขนกระเป๋าของเธอเข้ามา ‘’ เอ่อ ให้ฉันเอาของไปเก็บที่ไหนคะ’ ’ มิราที่นั่งอยู่น่าบ้านพอเห็นว่าศิวะเดินมาก็รีบลุกขึ้นยืน ‘’ ตามมา’ ’เขาเอ่ยแค่นั้นก็จะเปิดประตูของเรือนไม้หลังใหญ่เข้าไป มิราถือกระเป๋าของตัวเองเดินตามเขาไปอย่างทุลักทุเลเพราะเธอยังเจ็บแผลอยู่ ‘’ อ่ะ โอ้ย ‘’ ร่างเล็กทรุดฮวบลงเพราะออกแรงยกกระเป๋ามากไปทำให้กระทบกระเทือนบาดแผล ‘’ ชักช้าจัง เร็วๆ หน่อยฉันไม่ได้มีเวลาทั้งวันนะ!!!’ ’เสียงเข้มตะโกนมาจากในบ้าน มิราจำต้องกัดฟันรีบลุกขึ้นแบกกระเป๋าของตัวเองเข้าบ้านตามหลังศิวะไป ‘’ จนกว่าพ่อแม่เธอจะกลับและจนกว่าแผลเธอจะหายดีต่อไปเธอต้องมานอนที่นี้’ ’ศิวะพามิรามายังห้องนอนของเขา ห้องนอนที่มิราพึ่งจะเคยก้าวเข้ามาเหยียบเป็นครั้งแรก ‘’ เธอเลือกได้เลยว่านะนอนโซฟาหรือจะนอนบนพื้น….ห้ามเธอก้าวข้าวเขตตรงนี้ไปลุกล่ำพื้นที่ส่วนตัวเขตเตียงกับตู้เสื้อผ้าของฉันเด็ดขาด ‘’ ศิวะเอ่ยบอกมิราเสียงเย็น มิราพยักหน้าก่อนจะมองสำรวจพื้นที่ของตัวเองซึ้งเป็นโซนห้องนั่งเล่นที่อยู่ภายในห้องนอน โดยมีห้องน้ำกั้นกลางระหว่างเตียงนอนของศิวะ ‘’ เอ่อแล้วเสื้อผ้าฉันจะเอาไว้ที่ไหนได้คะ’ ’มิรามองหาจะแขวนเสื้อผ้า ศิวะเดินเข้าไปยังห้องนอนก่อนจะโยนตระกร้าผ้าสองใบมาให้เธอ ‘’ ใช้แค่ตระกร้าก็พอมั้ง’ ’เขาพูดจบก็ทำท่าจะเดินออกไปแต่มิรารีบดึงแขนของศิวะไว้ ‘’ โอ้ย!!!’ ’ เสียงเล็กร้องขึ้นด้วยความเจ็บเพราะตอนนี้มือใหญ่แกะมือเล็กเธอที่จับแขนเขาอยู่ออกก่อนจะใช้อีกมือบีบไปที่แก้มของมิราด้วยมือเพียงข้างเดียว ‘’ ไม่ต้องรีบหรอกเธอได้รู้แน่!!!’ ’ ศิวะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเข้มพร้อมกับใช้สายตาคู่คมที่ดำมืดจ้องมองเข้าไปยังดวงตาของมิรา ก่อนจะใช้มือนั้นผลักใบหน้าเธอจนร่างบางแทบล้มและเดินจากไปอย่างไม่ใยดี ‘’ อึก ห ห้าม ห้ามร้องนะ หยุดอ่อนแอสักทีมิรา หยุด!!!’ ’ มิราพยายามระงับความอ่อนไหวของอารมณ์ตัวเองไว้เธอสะกดกั้นความรู้สึกอ่อนแอทั้งหมดไว้ พยายามข่มกระทั้งน้ำตาที่กำลังจะไหลออกมา แม้แต่ก้อนแข็งที่จุกอยู่ในอกก็ด้วย ‘’ ฉันต้องรู้ต้องให้ได้ว่าฉันทำอะไรให้คุณโกรธเคืองได้นักหนา’ ’ มิราเอ่ยเบาๆ กับตัวเองก่อนจะนั่งลงสงบสติอารมณ์ของตัวเองบนโซฟา พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นกรอบรูปที่ตั้งอยู่ข้างๆ จอทีวี เธอลุกขึ้นเดินไปหยิบรูปนั้นขึ้นมาดู ในภาพนั้นคือศิวะและผู้หญิงคนหนึ่งที่เธอไม่รู้จัก ทั้งคู่อยู่ในชุดนักเรียนมัธยมปลาย บนใบหน้าของคนทั้งสองเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่แสดงออกถึงความสุข ‘’ ใครกัน ทำไมไม่เห็นรู้จักเลย’ ’ มิราเอ่ยพึมพำเพราะเธอนั้นจำได้ว่าเพื่อนสนิทของศิวะก็มีอยู่แค่ไม่กี่คนแต่ผู้หญิงคนนี้นั้นเธอไม่เคยเห็นน่ามาก่อน แม้แต่ในวันแต่งงานเธอก็ไม่เคยปรากฏเห็น มิราวางรูปนั้นลงไปที่เดิมก่อนจะพยายามไม่สนใจและหันไปจัดกระเป๋าเสื้อผ้าและของใช้ของเธอให้เข้าที่เข้าทาง เสื้อผ้าถูกพับลงอย่างเป็นระเบียบในตระกล้า ส่วนของใช้พวกยาสีฟันแปรงสีฟันและโฟมล้างหน้าเธอก็จะเอาเข้าไปเก็บในห้องน้ำ แต่พอเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปเธอก็พบกับรูปภาพใบหนึ่งที่ติดอยู่กระจกหน้าห้องน้ำเป็นรูปภาพของศิวะกับผู้หญิงคนเดิมแต่ครั้งนี้เธอคนนั้นอยู่ในชุดนักศึกษาเช่นเดียวกันกับศิวะ ‘’ ใครกันทำไมคุณศิวะถึงเก็บรูปเธอคนนี้ไว้แทบจะทุกที่ในห้อง?’ ’ มิรารู้สึกเจ็บที่หัวใจอย่างบอกไม่ถูก น้ำสีใสไหลอาบแก้มด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ หรือว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นคนรักตัวจริงที่ศิวะเก็บซ่อนเอาไว้ มือเล็กที่สั่นเทาเอื้อมขึ้นไปหยิบภาพที่ติดอยู่หน้ากระจกขึ้นมาดูอย่างพินิจด้วยหัวใจที่เจ็บปวด ก่อนจะพลิกดูภาพถ่ายที่ข้างหลังนั้นมีข้อความถูกเขียนไว้ด้วยลายมือของคนสองคน ‘กิ่งจะรักพี่ศิวะตลอดไป’ ลงชื่อกิ่งเกสร ‘พี่รักกิ่ง…กิ่งจะเป็นผู้หญิงคนเดียวที่พี่จะมอบทั้งชีวิตและหัวใจให้’ ลงชื่อศิวะ มิราอ่านข้อความที่ถูกเขียนไว้พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา แต่ร่างบางก็ต้องตกใจสะดุ้งเมื่อเสียงเข้มของศิวะเอ่ยดังขึ้น ‘’ นั้นเธอทำอะไร เอาคืนมา!!!!’ ’ ร่างใหญ่ที่ไม่รู้ว่าเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ ยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องน้ำที่ไม่ได้ปิด ก่อนจะก้าวยาวๆ เข้ามาประชิดตัวมิราพร้อมกับใช้มือของเขาดึงภาพถ่ายที่มิรากำลังถืออยู่ไป ‘’ อย่าบังอาจเอามือสกปรกของเธอมาจับภาพถ่ายพวกนี้ตามใจชอบ….ห้ามเธอเข้ามาใช้ห้องน้ำของฉัน ออกไปใช้ห้องน้ำข้างนอกโน้น…..ออกไป!!!!’ ’ ศิวะไม่พูดเปล่าแต่เขายังดึงกระชากแขนมิราอย่างแรงอีกด้วย ซึ้งมันเป็นแขนข้างที่เธอนั้นได้รับบาดเจ็บ ‘’ โอ้ย มิราเจ็บค่ะ ฮื้อๆ มิราเจ็บ’ ’ คนตัวเล็กร้องเสียงหลงเพระความเจ็บที่ถูกกระชากอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวบวกกับบาดแผลที่ยังไม่หายดี แต่นั้นไม่ได้ทำให้ศิวะรู้สึกสงสารซ้ำเขายังเหวี่ยงเธอลงไปบนพื้นห้องอีกราวกับเธอพึ่งทำเรื่องที่ผิดมหันต์ไป ‘’ เจ็บก็ดีจะได้จำว่าเธอไม่มีสิทธิ์ที่จะเดินไปหยิบจับอะไรตามใจชอบ…ฉันให้เธอขึ้นมาอยู่ที่นี้ ไม่ได้แปลว่าเธอจะทำอะไรตามใจชอบได้!!!’ ’ ‘’ อึกๆ ฉันก็แค่จะเอาของใช้ส่วนตัวไปไว้ในห้องน้ำก็เท่านั้น เพราะฉันไม่รู้ว่าคุณไม้ได้อนุญาตให้ใช้ห้องน้ำในห้องนี้ได้ ทำไมคุณต้องทำป่าเถื่อนกับฉันแบบนี้ด้วย แค่บอกฉันดีๆ ก็ได้ อึกๆ ฮื้อๆ’ ’ มิราร้องไห้หนักเพราะเธอทั้งตกใจ ทั้งเจ็บแผลและที่สำคัญเธอยังเก็บกดกับการกระทำที่ศิวะผู้ได้ชื่อว่าเป็นสามีปฏิบัติกับเธออีก ‘’ หยุดร้องซะ น่าลำคาญ ถ้ารู้แล้วก็เอาของเธอออกไปไว้ห้องน้ำข้างนอก อย่ามาทำสำออยอยู่นี้ ไป!!!’ ’ เสียงเข้มตะหวาดดัง มิราที่ตอนนี้เจ็บปวดทั้งตัวทั้งใจไม่สามารถจะทนกับพฤติกรรมและคำพูดของศิวะได้อีก ‘’ เดียวค่ะ ไหนคุณบอกว่าถ้าฉันสามารถออกจากโรงพยาบาลวันนี้ได้คุณจะยอมบอกไงคะว่าฉันทำอะไรให้คุณไม่พอใจ ตอนนี้ฉันก็ออกจากโรงพยาบาลมาได้แล้วคุณได้โปรดบอกฉันทีเถอะนะคะ’ ’มิราอ้อนวอนขอร้อง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD