บทที่6 ความผิดของฉันคืออะไร?
เช้าวันต่อมา
‘’คนไข้คะ คนไข้คะ ขอวัดไข้ วัดความดันหน่อยนะคะ’’เสียงหวานของพยาบาลสาวปลุกให้คนป่วยที่หลับอยู่ค่อยๆ รู้สึกตัวตื่น ร่างเล็กค่อยๆ ลืมตาก่อนจะรู้ว่าตอนนี้ตัวเธอนั้นนอนอยู่ในโรงพยาบาล
‘’ปวดหัวจัง ฉันเป็นอะไรคะ ทำไมฉันมาอยู่ที่นี้?’ ’มิราเอ่ยถามพยาบาลด้วยความงุนงง
‘’แผลอักเสบติดเชื้อจากอุบัติเหตุน่ะค่ะ คุณหมดสติไปตั้งแต่เมื่อเย็นวาน ตอนนี้รู้สึกเป็นอย่างไรบ้างคะ?’ ’
‘’เอ่อ ปวดหัวค่ะ ปวดมากเลย โอ้ย ซี๊ดดด เจ็บจัง!!!’’มิราที่เผลอขยับตัวจึงทำให้แขนข้างที่ถูกยิงนั้นกระทบกระเทือน หญิงสาวมองดูบาดแผลของเธอด้วยความงุนงง
‘’อย่าพึ่งขยับมากนะคะแผลอักเสบรุนแรงหมอทำการขูดเนื้อที่มันเสียออกตอนนี้ก็เลยจะเจ็บมาก คนไข้ต้องพยายามอย่าขยับตัวหรือออกแรงมากนะคะ เดียวสักหน่อยคุณหมอจะเข้ามาตรวจอีกครั้ง คนไข้ทานข้าว ทานยาพักผ่อนก่อนนะคะ’’พยาบาลเอ่ยก่อนจะเดินออกไป ก่อนที่ใครคนหนึ่งจะเดินเข้ามา
‘’คุณศิวะ’’มิราเอ่ยเรียกชื่อคนที่เข้ามาเสียงสั่น เธอหวังว่าเขาอาจจะใจอ่อนสงสารเธอ
‘’ก็ดูปกติดีแล้วหนิ ถ้าหมอมาตรวจก็บอกไปว่าไม่ได้เป็นอะไรแล้วเข้าใจไหม และก็ขอออกจากโรงพยาบาลวันนี้เลย’’เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุดันแววตายังคงมีแต่ความเย็นชา มิรานิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้ารับ
‘’ค่ะ’’ เธอตอบรับสั้นๆ พร้อมกับก้มหน้า ในใจห่อเหี่ยวลงเพราะเธอรู้สภาพร่างกายตัวเองดีว่ายังเจ็บอยู่ไม่พร้อมที่จะออกจากโรงพยาบาลวันนี้ แต่เธอก็รู้ดีว่าไม่สามารถขัดคำสั่งของศิวะได้
‘’ออ มีอีกอย่างที่ฉันจะบอก’’ศิวะเอ่ยก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ๆ คนป่วย มือใหญ่เชยคางเรียวขึ้นก่อนที่สายตาคู่คมแสนดำมืดจะจ้องมองเข้าไปยังดวงตาที่สั่นไหว
‘’ถ้าเธอคิดจะหนีจากฉันอีกล่ะก็ คราวนี้ฉันจะไม่ได้เล่นงานแค่เธอแน่….ฉันจะเผาบ้านเธอซะให้เธอไม่ต้องมีที่ให้กลับไปเลยดีไหม เผาไปพร้อมกับพ่อแม่เธอแบบนั้นก็คงไม่เลว!!!’’
‘’มะ ไม่ ไม่นะ ฉันจะไม่หนี ฉันจะไม่หนีอีกแล้ว อย่าทำแบบนั้นนะคะ ฉันจะไม่หนีไปไหน ฉันสาบาน ฉันจะไม่หนี ขอร้องอย่าเอาพ่อแม่เข้ามาเกี่ยวเลยนะคะ’’มิราร้องไห้อ้อนวอนทั้งน้ำตา เธอยกมือไหว้ศิวะด้วยความกลัว แม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงทำกับเธอแบบนี้ก็ตาม
‘’ดี จำไว้….ชีวิตเธอเป็นของฉัน….ฉันสั่งอะไรเธอก็ต้องทำ….ถ้าฉันบอกว่าให้ตายเธอก็ต้องตาย เข้าใจไหม!!!’’ศิวะตะคอกใส่หน้า
‘’ค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ เข้าใจแล้ว’’มิราตอบน้ำตาเธอไหลอาบเต็มสองแก้ม แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้ศิวะรู้สึกสงสารหรือเห็นใจ ตรงกันข้ามเขากับสะใจที่ได้เห็นอาการหวาดกลัวของเธอ
‘’ดี ร้องไห้ออกมาเยอะๆ คนอย่างเธอมันเหมาะสมกับความเจ็บปวดที่สุดแล้ว!!!’’เขาเอ่ยก่อนจะใช้มือผลักหน้าเธอออกไปแรงๆ จนร่างเล็กนั้นเจ็บเพราะกระทบกระเทือนบาดแผล
‘’โอ้ย อึกๆ ฮื้อๆ’ ’มิราร้องไห้อย่างเพราะเจ็บปวดทั้งแผลภายนอกและแผลในใจที่เธอยังไม่รู้ว่าทำไมสามีถึงเป็นแบบนี้ ส่วนศิวะกลับยืนมองเธอที่กุมบาดแผลร้องไห้ด้วยใบหน้าเรียบเฉย
‘’ศิวะ ฉันขอถามคุณได้ไหม ทำไมกันคุณถึงทำกับฉันแบบนี้ ได้โปรดเถอะช่วยบอกความผิดของฉันให้ฉันได้รู้ที ฉันอยากรู้เหลือเกินว่าฉันทำผิดไปตรงไหน ฮื้อๆ’ ’มิราที่กุมบาดแผลตัวเองไว้เอ่ยถามเขาออกไปทั้งน้ำตา
‘’ยังไม่ต้องรู้ตอนนี้หรอก ถ้าอยากรู้ว่าทำเลวอะไรไว้ก็หาทางให้หมออนุญาตให้เธอออกจากโรงพยาบาลวันนี้เถอะ แล้วฉันจะบอกให้ว่าบาปของเธอคืออะไร!!!!’’ศิวะเอ่ยเพียงเท่านั้นก็เดินออกจากห้องไป ทิ้งให้มิรานอนกุมบาดแผลร้องไห้โดยไม่ใยดี คนเจ็บพยายามจะกดความเจ็บปวดและน้ำตาของตัวเองไว้ เพราะอีกไม่นานหมอก็จะเข้ามาตรวจ เธอต้องรู้ให้ได้ว่าเธอไปทำอะไรไว้ทำไมผู้ชายที่เคยรักเธอมากถึงได้กลายเป็นคนใจร้ายไปได้หลังจากแต่งงานกันยังไม่ทันข้ามคืน…….
‘’แผลยังอักเสบมากอยู่เลยครับ หมอว่าควรจะนอนดูอาการที่โรงพยาบาลอีกสักสองสามวันจะดีกว่า’’ หมอหนุ่มที่เข้ามาตรวจเอ่ยบอกแก่มิรา
‘’เอ่อ ฉันอยากขอกลับวันนี้เลยค่ะ ฉันไม่เจ็บแล้วจริงๆ นะคะหมอ เดียวฉันจะดูแลทำความสะอาดแผลอย่างดีเลยค่ะ สามีฉันก็จะดูแลฉันอย่างดีด้วยใช่ไหมคะที่รัก” มิราหันไปถามศิวะที่นั่งมองอยู่บนโซฟา
‘’ครับ เดียวผมจะเข้มงวดเรื่องดูแลบาดแผลของภรรยาให้มาก ‘’
‘’งั้นก็ได้ครับ แต่ต้องรอให้น้ำเกลือหมดขวดนี้ก่อนนะครับผมถึงจะอนุญาตให้กลับได้ น่าจะสักประมาณเกือบๆ บ่ายสามโมง’’หมอหนุ่มเอ่ยพรางยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู
‘’ค่ะหมอ ขอบคุณมากค่ะ’’มิราเอ่ยของคุณหมอพร้อมกับยิ้ม หมอหนุ่มมองหน้าเธอนิ่งก่อนจะยิ้มตอบแล้วเดินออกจากห้องไปพร้อมกับพยาบาล
‘’เล่นละครเก่งดีหนิ…..ดีแล้วที่รู้จักอยู่เป็น….เพราะกลับไปที่เกาะรอบนี้เธอต้องเล่นละครฉากใหญ่เลยล่ะ’’
‘’ค่ะ’’มิราตอบรับคำศิวะสั้นๆ ก่อนจะล้มตัวลงนอนหันตะแคงข้างให้เขา เธอพยายามจะสงบสติอารมณ์ของตัวเองไว้ ไม่อยากร้องไห้ให้เขาเห็นอีก จนกว่าเธอจะได้รู้ว่าอะไรคือความผิดที่ทำให้เขาเกลียดชังเธอได้ถึงเพียงนี้
ณ เกาะมุก
มิราถูกศิวะพากลับมายังเกาะมุกในสภาพที่ร่างกายยังไม่สู้ดีเท่าไหร่นัก เมื่อลงจากเรือได้ร่างเล็กก็ตั้งท่าจะเดินกลับไปยังห้องนอนข้างคอกม้าที่ตนเคยอยู่
‘’นั้นเธอจะไปไหน?’ ’เสียงเข้มเอ่ยถามขึ้น พร้อมกับมือใหญ่ที่คว้าเอาข้อแขนเล็กไว้ให้หันกลับมาสบตาคู่คมที่ดุดัน
‘’ก็ไปห้องไงคะ’’มิราตอบพร้อมกับหลบสายตาเขา เพราะเธอรู้สึกกลัวคนตรงหน้าอย่างมาก
‘’จากนี้ไปจนกว่าแผลเธอจะหายเป็นปกติ ย้ายไปนอนบนเรือนใหญ่กับฉัน’’
‘’คะ…ว่าไงนะคะ….ให้ฉันไปนอนบนเรือนใหญ่กับคุณงั้นหรอคะ?’ ’มิราถามอย่างไม่อยากจะเชื่อเพราะนับตั้งแต่เธอได้ก้าวเข้ามายังเกาะมุกแห่งนี้เธอก็ไม่เคยได้มีสิทธิ์จะขึ้นไปบนเรือนใหญ่เลย เรียกได้ว่าตั้งแต่แต่งงานเป็นสามีภรรยากันมาเธอกับศิวะก็ไม่เคยได้เข้าหอหรือมีสัมพันธ์กันเลยสักครั้ง
‘’ใช่ ตกใจอะไร ที่ให้ขึ้นไปนอนบนเรือนใหญ่ก็เพราะว่าอีกสองสามวันพ่อกับแม่เธอจะมาเยี่ยมหรอกนะ ไม่ได้จะให้ขึ้นไปอยู่ตลอดไปซะหน่อย อย่าหลงคิดไปเองสิว่าฉันพิศวาสเธอ’’เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันเพราะแค่มองปราดเดียวศิวะก็รู้ว่ามิรานั้นกำลังคิดอะไร
‘’ฉันไม่บังอาจคิดอย่างนั้นหรอกค่ะ…ว่าแต่คุณพ่อคุณแม่จะมาเยี่ยมฉันจริงๆ หรอคะ?’ ’มิราเอ่ยถามด้วยความดีใจดวงตาของเธอเป็นประกายวาววับมันแสดงออกถึงความดีใจและตื่นเต้นราวกับเด็กน้อยที่ไม่เดียงสา ถ้าเธอไม่ใช่ฆาตกรใจโฉดที่พรากเอาลูกเขากับเมียเขาไปศิวะคงจะหลงคิดว่าผู้หญิงตรงหน้านี้คือหญิงสาวใสซื่อ
‘’ฉันจะโกหกเธอทำไม…อย่าได้คิดล่ะว่าพอพ่อแม่มาแล้วจะฟ้องเรื่องที่เกิดขึ้นที่นี้ได้ เพราะถ้าเธอฟ้องฉันจะไม่อนุมัติเงินก้อนที่พ่อแม่เธอร้องขอแน่….อ๋อลืมบอกไปพ่อแม่เธอมีเรื่องต้องใช้เงินอีกแล้วน่ะ คราวนี้น่าจะสักห้าล้านได้มั้งถึงได้ยอมวิ่งโล่มาถึงนี้!!!’’ศิวะเอ่ยพรางยิ้มเยาะ ก่อนจะเดินจากไปโดยไม่ได้สนใจมิราที่ยืนนิ่งอึ้งอยู่ตรงนั้น น้ำตาสีใสที่พยายามอดทนฝืนกลั้นไว้ไหลอาบลงมายังพวงแก้มใสอย่างไม่อาจจะควบคุมได้อีก มือเล็กยกขึ้นทุบลงที่หน้าอกตัวเองเบาๆ อย่างแค้นในอกเพราะพูดไม่ออก
‘’อีกแล้วหรอ….พ่อกับแม่กลับไปเล่นพนันอีกแล้วสินะ อึกๆ ฮื้อๆ’ ’มิราทิ้งตัวลงนั่งกอดเข่าร้องไห้อย่างเหลืออด หญิงสาวอดคิดถึงชีวิตที่ผ่านมาของตนไม่ได้…..