ตอนที่ 1 อลันนา
[โรงแรมเวสตัน...กรุงเทพ]
“คิดดีๆ นะปั้นหยา ถ้าเกิดมันไม่ได้เป็นอย่างที่ปั้นหยาคิด จะทำยังไง การเลี้ยงเด็กหนึ่งคน มันลำบากมากเลยนะ ต้นเตยคิดว่า ปั้นหยาลองทบทวนก่อนดีไหม...”
“นั่นสิ...ฉันก็คิดเหมือนต้นเตยเลยนะปั้นหยา แกจะควรจะหาผู้ชายแต่งงานเป็นตัวเป็นตน ไม่ใช่มาคิดอะไรบ้าๆ แบบนี้”
“ฉันคิดดีแล้วถุงแป้ง ตอนนี้ทุกอย่างในชีวิตฉันก็ลงตัวหมดแล้ว มีงานประจำ และงานพิเศษ เหลือก็แค่ซื้อบ้านเท่านั้น ฉันไม่อยากให้อายุเยอะไปกว่านี้ 24 ย่าง 25 กำลังดี ถ้าฉันมีลูกตอนนี้ ก็สบายตอนลูกโตไง...แกเคยเห็นมั้ยล่ะ แม่ลูกเดินด้วยกัน และมีคนมาทักเรา ‘อุ้ย! คุณแม่ยังสาวนะคะ’^^”
“อืม...ที่ปั้นหยาพูดมันก็จริงนะ...แต่ตัดมาตอนนี้ก่อนนะ ปั้นหยาจะหาแฟนที่ไหนล่ะ ในเมื่อตอนนี้ปั้นหยายังไม่มีแฟน และอีกอย่างงานแบบเรา ถึงแม้จะเจอคนมากหน้าหลายตาก็จริง แต่ใครจะมองเรา ใครจะสนพนักงานเล็กๆ อย่างเราล่ะ เช้าทำงาน เย็นก็มีงานพิเศษต่อ ดึกก็กลับบ้านนอน จะเอาเวลาที่ไหนไปเจอใคร...”
“จริงอย่างที่ต้นเตยบอกนะปั้นหยา แกนี่ดูหนังดูละครมากเกินไปหรือเปล่าเนี่ย ‘ไม่อยากมีสามี แต่อยากมีลูก’ และเที่ยวไปขอสเปิร์มเขางี้เหรอ แหม ถ้าเจอพ่อพันธุ์ที่ดี มันก็เวิร์คอยู่หรอก แต่ถ้าหน้าตาดี แต่นิสัยเลว แกก็ต้องซวยอีก”
“นั่นสิ ต้นเตยคิดว่า หายากมากๆ เลยนะปั้นหยา ไม่ใช่จะหากันได้ง่ายๆ เลยนะ”
“แต่ว่าตอนนี้...ปั้นหยาเจอแล้วนะต้นเตย”
ดวงตากลมโต จ้องมองภาพวาดบานใหญ่บนฝาผนัง ที่ไม่ว่าใครเดินผ่านไปผ่านมา ก็ต้องเจอผู้ชายคนนี้เป็นอันดับแรก ^^
“ยัยบ้า! นี่แกจะเล่นของสูงเลยเหรอ”
‘ธารินันท์’มองภาพสีน้ำมันที่ถูกวาดโดยจิตรกรมือหนึ่ง คนที่อยู่ในภาพนั้น พูดแล้วอาจต้องขนหัวลุก ‘เจ้าของโรงแรมเวสตันเนี่ยนะ’ เขาขึ้นชื่อว่าเป็นบุคคลน่ากลัวที่สุดในสามโลกเลยแหละ
“อุ้ย! ปั้นหยา อย่าบอกนะ...ว่าปั้นหยาจะเอาสเปิร์มจากคุณเวสตันน่ะ...มะ-ไม่น่ากลัวไปหน่อยเหรอ”
‘เขมิกา’มองใบหน้าอันหล่อเหลาคมเข้ม ที่มีเค้าโครงหน้าสไตล์อเมริกันอย่างชัดเจน ความหล่อน่ะใช่! แต่ความน่ากลัวนี่สิ มีมากกว่า เจ้าของโรงแรมวัย 35 ปีคนนี้ใครๆ ก็รู้จักกิตติศัพท์เป็นอย่างดี ในเรื่องความลึกลับ และเรื่องตำนานเล่าขาน
“แกน่าจะกินยาผิดแน่ๆ เลยปั้นหยา”
“ไม่ผิดหรอก แต่ไม่ได้เขย่าต่างหาก ^^ คุณเวสตัน เป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบที่สุด เท่าที่ฉันเคยเห็นมา”
ตั้งแต่ ‘อลันนา’ เข้ามาทำงานในโรงแรมเวสตัน ตำแหน่งพนักงานต้อนรับ (Receptionist) เข้าเป็นปีที่สามแล้ว เธอก็เห็นเขาเพียงคนเดียวมาตลอด ‘ก็น่าอยู่หรอกนะ...เพราะรูปของเขาติดอยู่ฝาผนังตลอดนี่นา^^’
“ฉันว่าเอาสเปิร์มของกัปตัน มันยังง่ายกว่าอีกนะ”
ธารินันท์มองผู้ชายร่างสูงโปร่ง ผิวขาว ใส่สูทที่เดินไปมาอยู่ตรงหน้าล็อบบี้ คอยจัดแจงและบริการให้กับแขกที่เข้ามาพัก ‘ใช่! เขาคนที่เธอพูดถึง คือพนักงานทั่วไปของโรงแรม ที่เรียกว่า Guest Service’ และเป็นเพื่อนสนิทของพวกเธออีกคน
“โอย...ยากกว่าอีก แกดูมันสิ ผู้หญิงมันยังไม่ชายตามองเลยสักครั้ง แกคิดเหรอ ว่าสเปิร์มของมันยังจะหลงเหลืออยู่อีกอ่ะ”
อลันนาอดขำกับความคิดของเพื่อนเธอไม่ได้ ‘ปวริศ’ หรือกัปตันที่เพื่อนเธอพูดถึงนั้น ไม่ได้เป็นอย่างที่ใครๆ เห็นเลยสักนิด ภายนอกอาจจะแมนร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ภายในนี่สิ ^^
“นินทาอะไรฉันยะ...เห็นพวกแกซุบซิบกัน ฉันเห็นนะ!”
“เปล่า...พวกฉันก็แค่ชมว่าแกหล่อน่ะ”
“มัวแต่คุยกันเถอะ เดี๋ยวเจ้น้ำมา พวกแกมีหนาวกันแน่ ตั้งใจทำงานสิยะพวกหล่อน ให้สมกับเงินเดือน ของท่านประธานที่จ้างพวกหล่อนมาทำหน่อย...นู่น...แกไม่กลัวกันหรือไง ยืนเฝ้าตลอด จ้องเขม็ง! ส่งสายตาพิฆาตมาหาพวกแกอ่ะ!”
“เห็นมั้ย...แกคิดจะให้ฉันเอาเชื้อสเปิร์มของมันมา คิดดูสิ พ่อเป็นแบบนี้ แล้วแม่อย่างฉันเนี่ยนะ รับรองความบันเทิงเกิดแน่นอน”
“ก็จริงของแกนะปั้นหยา ปากร้ายทั้งคู่ ลูกเกิดมาไม่เป็นใบ้ ก็คงจะพัฒนาการช้าแน่นอน”
“ฉันเองก็คงไม่กล้าที่จะ ผสมพันธุ์สปีชีส์เดียวกันหรอกนะถุงแป้ง...เออ...เดี๋ยวหลังเลิกงาน ฉันจะไปบ้านเมตตาน่ะ แกจะฝากอะไรถึงป้ากานดามั้ย เกือบสองอาทิตย์แล้วที่ฉันไม่ได้เข้าไป ป่านนี้พวกน้องๆ คงคิดถึงฉันแย่แล้ว”
อลันนาเติบโตมาจากบ้านเมตตา (สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า) เธอไม่เคยรู้เลยว่าพ่อแม่ของเธอหน้าตาเป็นอย่างไร ตั้งแต่เธอจำความได้ ก็เห็นแต่ป้ากานดาที่เป็นเจ้าของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเท่านั้น อ่อ อีกคนก็น่าจะเป็นธารินันท์ ที่โตมาพร้อมกับอลันนา เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน ตั้งแต่แรกเกิดเลยก็ว่าได้
“ฉันฝากขนมไปให้น้องๆ หน่อย ช่วงนี้ฉันไม่ค่อยว่างเท่าไหร่ ฝากความคิดถึงป้ากานดาด้วยนะ”
“อือ”
“อ่ะ...มัวแต่เม้าท์กันอยู่นั่นแหละ รับแขกสิคะ คุณน้องขา เห็นหรือเปล่าว่าแขกกำลังเดินเข้ามา”
เสียงของ ‘กิรณา’ หรือเจ้น้ำที่ทุกคนเรียก ทำให้วงสนทนาแตกอัตโนมัติทันที
“Welcome to Weston hotel”
อลันนาหันไปทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างไม่ติดขัด การเป็นพนักงานต้อนรับของโรงแรม แน่นอนภาษาสากลต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง โรงแรมที่เธอทำงานอยู่นี้ เป็นโรงแรมหรูระดับห้าดาว แขกที่มาพักส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ นักธุรกิจ นักท่องเที่ยว อีกทั้งเจ้าของโรงแรมยังเป็นชาวต่างชาติอีกด้วย (คนที่อลันนาอยากได้สเปิร์มนั่นแหละ ^-^)
“ถุงแป้งเอารายการของทัวร์ที่จะเข้าพักพรุ่งนี้ให้เจ้หน่อย”
“ค่ะเจ้” ธารินันท์ทำงานในตำแหน่งพนักงานต้อนรับคู่กับอลันนาในกะช่วงเช้า ส่วนเขมิกานั้นทำในตำแหน่งแคชเชียร์ ซึ่งเป็นคนชักชวนให้เธอกับอลันนาเข้ามาทำงานที่นี่
“ในฐานะที่เจ้เป็นผู้จัดการฝ่ายแผนกต้อนรับ เจ้พึ่งประชุมมาเมื่อกี้ว่าอีกหนึ่งสัปดาห์คุณเวสตันจะกลับมาแล้ว หลังจากไปอเมริกานานสองเดือน มาครั้งนี้ คุณเวสตันได้พาน้องชายมาด้วย เพราะฉะนั้น เจ้คิดว่าคุณเวสตันคงอยากให้น้องชายมาเรียนรู้งานโรงแรมนี้อย่างแน่นอน เจ้บอกพวกเราไว้ เพื่อคอยปรับตัวรับกับสถานการณ์ เจ้ส่งรูปน้องชายของคุณเวสตัน เข้าไปในกลุ่ม ไปดูด้วยล่ะกัน เผื่อเขาแฝงตัวเป็นแขกเข้ามาพัก”
“จริงเหรอคะเจ้...อยากเห็นจังเลยค่ะ ขนาดพี่ชายยังหล่อขนาดนี้ แล้วน้องชายจะขนาดไหนกันนะ”
อลันนาคิดถึงแผนการของตัวเองทันที ‘ถ้าคุณเวสตันนั้น น่ากลัวอย่างที่ใครกล่าวขานไว้ล่ะก็...เธอก็อาจมีตัวเลือกในการมองหาสเปิร์มทดแทนได้นี่ ^^’
“อย่าได้บังอาจคิด...ปั้นหยา...น้องชายคุณเวสตันคือตัวพ่อแห่งวงการหนุ่มเพลย์บอยเชียวนะ หล่อนต้องระวังตัวด้วยล่ะ สวยๆ แบบนี้ พ่อแกกินเรียบแน่นอน...”
“เอ้า...เป็นงั้นไป...ทำไมผู้ชายถึงชอบเจ้าชู้กันจังนะ”
“อดเลยแก...ปั้นหยา...อยากรู้เรื่องเจ้าของโรงแรมนี้ให้ถามเจ้นี่ รู้ลึกรู้จริง...เพราะว่า...เจ้เขาอยู่มานาน ^^”
“นี่หล่อนชม...หรือว่าฉันกันแน่ยะ...ยัยถุงแป้ง”
“ถุงแป้งแค่บอกปั้นหยาเองค่ะเจ้...เผื่อนางจะคิดได้บ้างค่ะ เจ้าของโรงแรมนี้น่ากลัวจะตาย”
“คิด? อย่าบอกนะว่ายัยปั้นหยา คิดที่จะ...คุณเวสตัน!”
“โอ้ย! ไม่มีหรอกเจ้...ใครจะไปคิด ใครจะกล้าคะ”
“อย่าแม้แต่จะคิดเชียวนะ...พวกหล่อนไม่รู้อะไร พวกผู้จัดการเขาเม้าท์กันมา ถึงเรื่องของคุณเวสตัน”
“เรื่องอะไรเหรอคะเจ้” สาวๆ รีบกรูเข้ามาทันที
“ไม่สะดวกที่จะเล่าตอนนี้หรอก ไว้เรานัดปาร์ตี้กันเมื่อไหร่ เจ้จะเล่าให้ฟังแล้วกันนะ”
“โห่เจ้...หลอกให้อยากแล้วจากไป”
“ทำไม...หล่อนสนใจคุณเวสตัน...อีกคนหรือไงถุงแป้ง”
“คุณเวสตันไม่ใช่สเปคถุงแป้งหรอกค่ะเจ้...นู่น...ปั้นหยาคนสวยของเจ้โน่น...ถามนางสิ”
“จริงเหรอปั้นหยา...มีอะไรที่เจ้ไม่รู้เกี่ยวกับหล่อนอีก”
“ไม่มีอะไรมากหรอกเจ้...ปั้นหยาก็แค่อยากได้สเปิร์มของคุณเวสตันเอามาผสมกับไข่ของปั้นหยาก็แค่นั้นเอง...”
“ห๊ะ! อะไรนะ! นี่หล่อนบ้า หรือว่าสติไม่ดีกันแน่เนี่ย...”
“นั่นไง...ฉันว่าแล้ว...ใครได้ยินเรื่องวิปริตของแก ก็ต้องตกใจกันทั้งนั้น”
“ปั้นหยาแค่อยากมีลูกค่ะเจ้...แต่ไม่อยากแต่งงาน ไม่อยากมีสามีด้วยค่ะ”
อลันนาคิดว่า ถ้าเธอมีลูก เธอจะเลี้ยงลูกเป็นอย่างดี และลูกของอลันนาต้องดีกว่าตัวเธอเองแน่นอน
“เหรอ...แต่พอมาคิดอีกที ก็น่าที่หล่อนจะคิดหรอกนะ ขนาดเจ้เอง แต่งงานสวยหรู สามีมีหน้าที่การงานที่ดี แต่สุดท้ายก็ไปกันไม่รอด”
กิรณานึกถึงชีวิตของเธอ ถ้าตอนนั้นเธอตัดสินใจมีลูกก็คงจะดีไม่น้อย ชีวิตคู่ที่ล้มเหลว อย่างน้อยถ้ามีลูกเธอจะได้ไม่เหงาเหมือนกับตอนนี้
“ปั้นหยายอมรับนะเจ้ ว่าปั้นหยากลัวการใช้ชีวิตคู่ ผู้ชายสมัยนี้ เราไม่รู้เลย ว่าคนไหนจะรักเราและดูแลเราไปตลอด แต่ถ้าเรามีลูก...อย่างน้อยลูกก็ต้องอยู่กับเรานะคะเจ้”
“แต่ปัญหาของแกมันไม่ได้อยู่ตรงนี้...มันอยู่ที่แกดันเลือกสเปิร์มของคุณเวสตันนี่สิ...”
ธารินันท์ไม่เห็นด้วย ก็ตรงที่เลือกพ่อพันธุ์นี่แหละ เรื่องอื่นเธอโอเค ธารินันท์เองก็ไม่มีทั้งพ่อและแม่ และที่สำคัญ ธารินันท์ไม่คิดที่จะมีแฟนและแต่งงานเลยด้วยซ้ำ ต่างจากอลันนาตรงแค่การมีลูกเท่านั้นเอง
“เออ ใช่ เจ้ว่า เลือกคนอื่นจะง่ายกว่านะปั้นหยา”
“ปั้นหยาคิดดูก่อนค่ะเจ้ ไม่ใช่จะปุ๊บปั๊บซะหน่อย”
อย่างน้อยให้อลันนาได้ศึกษารายละเอียดของเขาอีกสักพัก ความน่ากลัวงั้นเหรอ อลันนาเคยเห็นหน้าเขาแบบตัวเป็นๆ ประมาณสามครั้ง แต่เห็นในระยะไกล แต่ไม่รู้ว่าที่สิ่งที่หลายคนเล่าขานต่อๆ กันมา ถึงตัวตนของเขาจะเป็นอย่างไร จะน่ากลัวขนาดไหน และจะเป็นอย่างที่ใครหลายคนพูดหรือเปล่า อลันนาก็ต้องสืบความจริงเรื่องนี้ให้ได้
...................