คำสั่งเสียของท่านอาหญิง

1714 Words
“ท่านพี่ ท่านเป็นอย่างไรบ้างขอรับ” หยวนจินเดินถือชามใส่ยาเข้ามาหาพี่ชายของเขาที่กำลังนั่งมองออกไปนอกหน้าต่าง “จินเอ๋อร์” มู่หยางหย่งเล่อส่งยิ้มอ่อนโยนให้น้องชาย หลายวันมานี้หยวนจินจะคอยมาพูดคุยและทานอาหารกับเขาที่ห้องเสมอ “ดื่มยาก่อนขอรับ วันนี้ช่วงบ่ายข้าคงไม่ได้มาคุยกับท่าน เพราะท่านปู่บอกว่าจะพาข้าไปตกปลาขอรับ” “ตกปลาอย่างนั้นหรือ น่าสนุก ให้พี่ไปกับเจ้าได้หรือไม่” มู่หยางหย่งเล่อรับชามยาจากน้องชายแล้วยกขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมด หยวนจินอดที่จะทำสีหน้าเหยเกจากรสขมของยาแทนพี่ชายไม่ได้ คนเป็นพี่ได้แต่ยิ้มขำ เอ็นดูกับกิริยานั่นของน้องชายของเขา “พี่เป็นคนดื่ม เหตุใดเจ้าจึงทำหน้าเยี่ยงนั้นเล่า” “ก็ยาของท่านพี่ขมมากนี่ขอรับ ท่านไม่รู้สึกเลยหรือ” “เจ้ารู้ได้อย่างไรว่ายาของพี่มีรสขม นี่เจ้าแอบดื่มอย่างนั้นหรือ” “ข้าแค่อยากรู้นี่ขอรับ” หยวนจินก้มหน้าประสานมือเมื่อรู้สึกว่าโดนพี่ชายตำหนิเข้าให้แล้ว “เงยหน้าขึ้นมาจินเอ๋อร์ พี่ไม่ได้ตำหนิเจ้า แต่เจ้าไม่ควรลองทุกสิ่งที่เจ้าอยากรู้เช่นนี้ เจ้าคิดหรือไม่ว่าถ้าหากสิ่งที่เจ้าดื่มคือยาพิษ เจ้าจะเป็นเช่นไร” มู่หยางหย่งเล่อ จับมือน้องชายให้มานั่งข้างๆเขาแล้วพูดคุยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แบบที่เขาก็ไม่คิดว่าตนเองจะพูดกับใครด้วยน้ำเสียงเช่นนี้มาก่อน “ข้าอาจจะตายได้ขอรับ” หยวนจินมองหน้าพี่ชายอย่างรู้สึกผิดอีกครั้ง “ไม่เป็นไร ต่อไปเจ้าอย่าได้ลิ้มลองอะไรแบบนี้อีก วันนี้เป็นแค่ยาบำรุงเท่านั้น ต่อไปเจ้าจะรู้เองว่าสิ่งใดปลอดภัย สิ่งใดไม่ปลอดภัย เราออกไปข้างนอกกันเถอะ พี่อยากตามเจ้าไปตกปลาด้วยกันแล้ว” หยวนจินพยักหน้ารับคำพี่ชายแล้วเดินนำเขาออกไปข้างนอก “ท่านปู่ ท่านปู่ขอรับ วันนี้พี่ชายบอกว่าจะไปตกปลากับเราด้วยขอรับ” มู่หยางหย่งเล่อโค้งคำนับผู้อาวุโส เขาก็คำนับตอบพร้อมรอยยิ้ม “ดีจริง ถ้าอย่างนั้นจินเอ๋อร์พาท่านพี่ของเจ้าไปที่แม่น้ำก่อนได้หรือไม่ ปู่จะไปหยิบเบ็ดอีกคันแล้วจะรีบตามพวกเจ้าไป” “ได้ขอรับ ท่านปู่รีบตามมานะขอรับ” ชายชรายื่นคันเบ็ดของหลานชายให้เขา มู่หยางหย่งเล่อก็รับคันเบ็ดอีกอันแล้วเดินตามน้องชายของเขาไป “ท่านพี่ เรามาแข่งกันดีหรือไม่ ว่าใครจะตกได้ปลาตัวใหญ่กว่ากัน” หยวนจินพูดขึ้นขณะที่เขาหย่อนเบ็ดลงในแม่น้ำแล้ว “แล้วเดิมพันเล่าคือสิ่งใด การแข่งขันต้องมีสิ่งเดิมพันถึงจะสนุก” “ข้าอยากเห็นมีดเล่มใหญ่ของท่านพี่ ตั้งแต่ที่ท่านพ่อนำมีดเล่มนั้นกลับมาพร้อมท่าน ข้าก็ไม่เคยเห็นมันอีกเลย ทำไมข้าถึงดูมันไม่ได้หรือขอรับ” หยวนจินถามพี่ชายอย่างกระตือรือร้น สิ่งนั้นเป็นสิ่งแรกที่เขาอยากรู้อยากเห็นแต่บิดาของเขาก็ไม่เคยพูดถึง ถึงแม้เขาจะถามท่านไปตรงๆ แต่บิดาก็มักจะเปลี่ยนเรื่องพูดทุกครั้ง “ได้สิ ถ้าเจ้าตกได้ปลาตัวใหญ่กว่าพี่ พี่จะบอกเจ้าว่ามันคือสิ่งใด และถ้าเจ้าตกได้ปลามากกว่าพี่ พี่ก็จะให้เจ้าได้เห็นมัน เจ้าชอบเดิมพันนี้หรือไม่” “ชอบขอรับ ข้าจะตกปลาตัวใหญ่ให้ได้มากกว่าท่านพี่แน่นอน ท่านพี่ต้องรักษาคำพูดด้วยนะขอรับ” “พี่ชายของเจ้าคนนี้รักษาคำพูดเสมอ” สองคนพี่น้องนั่งตกปลาอยู่นานแต่ปลาก็ไม่กินเหยื่อแม้แต่ตัวเดียว มู่หยางหย่งเล่อประหลาดใจยิ่งนัก เขามองดูรอบๆ ก็ได้ยินเสียงนกแตกตื่นบินว่อนไปมาในอากาศ เหมือนบริเวณนี้มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น “ทำไมปลาไม่กินเหยื่อเลยล่ะขอรับท่านพี่ มันไม่ชอบเหยื่อของข้าอย่างนั้นหรือ หรือเพราะว่ามันชอบเหยื่อของท่านปู่มากกว่า เอ๊ะ! ทำไมท่านปู่ยังไม่มาขอรับ” หยวนจินมองกลับไปยังทิศทางที่พวกเขาเดินมา “จินเอ๋อร์ เจ้าอยู่รอพี่ที่นี่ได้หรือไม่ พี่จะกลับไปดูท่านปู่ให้เจ้า” คราวนี้ไม่ใช่เพียงแค่สัตว์ที่แตกตื่น แต่หูของเขากลับได้ยินเสียงของผู้คนกรีดร้อง ไม่แน่ว่าที่หมู่บ้านคงจะมีอันตรายเข้าให้แล้ว “ท่านพี่ให้ข้าไปกับท่านไม่ได้หรือ ข้าไม่อยากอยู่ที่นี่คนเดียว” “พี่ไปไม่นาน จินเอ๋อร์เด็กดี นั่งคอยพี่ในโพรงหญ้านี้ได้หรือไม่ ห้ามขยับไปไหน ถ้าไม่ได้ยินเสียงพี่เจ้าห้ามออกมาเด็ดขาด เจ้าทำได้หรือไม่” มู่หยางหย่งเล่อนำเบ็ดตกปลาไปซ่อน แล้วพาน้องชายลุยน้ำมาแอบในโพรงหญ้าขนาดใหญ่ริมแม่น้ำ “มีเรื่องอะไรหรือขอรับ ข้าได้ยินเสียง คนไม่ดีตามเรามาอีกหรือ ข้าเป็นห่วงท่านแม่ ท่านปู่ ท่านย่าด้วย ท่านพ่อของข้าก็ยังไม่กลับ ข้ากลัวขอรับท่านพี่” หยวนจินจับชายเสื้อพี่ชายไว้แน่น น้ำตาคลอเมื่อคิดว่าตอนนี้ครอบครัวของเขาอาจจะกำลังตกอยู่ในอันตราย “พี่สัญญาว่าจะรีบกลับมา จินเอ๋อร์เป็นเด็กดี รอพี่อยู่ตรงนี้นะ” มู่หยางหย่งเล่อลูบหัวน้องชายอย่างปลอบโยน เขาไม่อยากทิ้งหยวนจินเอาไว้ที่นี่ แต่ก็เป็นห่วงว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นที่หมู่บ้าน “ค้นให้ทั่ว” ยังไม่ทันที่มู่หยางหย่งเล่อจะจากไป เขาก็ต้องรีบเข้าไปซ่อนที่เดียวกับน้องชาย หยวนจินกอดพี่ชายแน่น ทั้งสองมองดูกลุ่มชายฉกรรจ์สิบกว่าคนเดินถือดาบที่เปียกชุ่มเต็มไปด้วยเลือด และชายกลุ่มนั้นก็กำลังเดินมายังทิศที่พวกเขาหลบซ่อนอยู่ “อย่าได้ส่งเสียงนะจินเอ๋อร์” มู่หยางหย่งเล่อกระซิบเสียงเบาบอกน้องชายพร้อมกับโอบกอดเด็กชายไว้แน่น “พวกมันอยู่ทางนั้น” กลุ่มชายฉกรรจ์ทั้งหมดวิ่งตามเสียงร้องบอกนั้น มู่หยางหย่งเล่อรอเวลาอยู่พักใหญ่ก็พาหยวนจินออกมาจากพุ่มไม้ที่พวกเขาใช้หลบซ่อน แล้วรีบวิ่งกลับหมู่บ้านทันที เมื่อมาถึงก็ต้องตกใจกับภาพที่เห็น ชาวบ้านกว่าสามสิบชีวิตนอนตายเกลื่อนเลือดสีแดงสดไหลนองไปทั่วบริเวณ สร้างความสลดใจให้เขายิ่งนัก มู่หยางหย่งเล่อจับมือน้องชายแน่นและวิ่งกลับไปยังบ้านของอาหญิง ในใจได้แต่ภาวนาให้ครอบครัวอาหญิงหนีรอดไปได้ แต่คำภาวนาของเขาก็ไม่เป็นผลเมื่อเขาได้พบกับร่างของท่านปู่และท่านย่าของหยวนจินนอนสิ้นลมเคียงข้างกัน เขารีบดึงน้องชายให้เดินผ่านร่างผู้อาวุโสทั้งสองไปหาร่างที่กำลังหายใจรวยรินของอาหญิงของเขา “ท่านแม่ ท่านแม่ขอรับ ท่านแม่อย่าตาย” หยวนจินกอดร่างมารดาร้องไห้อย่างเวทนา น้ำตาของมู่หยางหย่งเล่อค่อยๆไหลอย่างมิอาจห้ามได้ “จินเอ๋อร์ อย่าร้อง เจ้าจงฟังคำแม่” เสียงของผู้เป็นมารดาแผ่วเบา เด็กชายกลั้นสะอื้นฟังคำสั่งเสียของมารดาอย่างอดกลั้น “สิ่งนี้เจ้าจงเก็บไว้ให้ดี อย่าให้ผู้ใดเห็น แม่ไม่อาจจะอยู่ดูแลเจ้าได้อีกต่อไปแล้ว ต่อไปเจ้าจงเชื่อฟังพี่ชายเจ้า แต่เจ้าต้องห้ามบอกใครว่าเจ้าคือน้องของเขา เจ้าเข้าใจหรือไม่” ผู้เป็นแม่ดึงจี้หยกที่นางแขวนให้บุตรชายเมื่อแรกเกิดออกมาให้เขาดู พร้อมกับสั่งเสียด้วยเสียงแผ่วเบาปนหอบเหนื่อย “ข้าไม่เข้าใจ ท่านแม่ ท่านอย่าตาย” หยวนจินกอดมารดาแน่น เขาไม่อยากรับรู้สิ่งใด สิ่งที่เขาต้องการในตอนนี้มีเพียงมารดาของเขาเท่านั้น “เล่อเอ๋อร์” นางเอื้อมมือไปหาหลานชายของนาง มู่หยางหย่งเล่อคว้ามือท่านอาหญิงของเขามากุมไว้ “ท่านอาหญิงต้องการสิ่งใด บอกข้า ข้าจะทำให้ท่านสมหวังทุกประการ” มู่หยางหย่งเล่อพูดเสียงกลั้นสะอื้นน้ำตานองอย่างไม่อาจสะกดกลั้นได้ “อาหญิง เพียงปรารถนา ให้เจ้าดูแลจินเอ๋อร์ อย่าทอดทิ้งน้องชายของเจ้าได้หรือไม่” “ขอรับ ข้าจะดูแลและปกป้องจินเอ๋อร์ด้วยชีวิตของข้า ตราบใดที่ข้ายังมีชีวิตอยู่จินเอ๋อร์จะอยู่สุขสบายและปลอดภัย อาหญิงไม่ต้องห่วง” “ปกปิดตัวตนของเขา เพื่อความปลอดภัยของจินเอ๋อร์และเพื่อตัวเจ้าเอง เข้าใจที่อาหญิงพูดหรือไม่” “ข้าเข้าใจ อาหญิงอย่าห่วง ข้าเข้าใจแล้ว” “จินเอ๋อร์ของแม่ อย่าลืมที่แม่บอก อยู่กับพี่เจ้า เชื่อฟังพี่เจ้า” กล่าวจบนางก็สิ้นลมในอ้อมกอดของบุตรชายและหลานชายผู้เป็นที่รัก เสียงร้องไห้คร่ำครวญของเด็กชายเสียดแทงเข้าสู่หัวใจของมู่หยางหย่งเล่อ เขาได้แต่คิดทบทวนคำสั่งเสียของอาหญิงในใจซ้ำแล้วซ้ำอีก จนฟ้าเริ่มมืด “จินเอ๋อร์ ทำความเคารพท่านแม่เป็นครั้งสุดท้ายเถิด” มู่หยางหย่งเล่อประคองน้องชายที่ร้องไห้จนไม่มีน้ำตาให้ไหลลุกขึ้น ทั้งสองก้มลงคำนับร่างอันไร้วิญญาณของผู้เป็นที่รักทั้งสามคนด้วยความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD