เวลา 18:00 น.
บอดีการ์ดคนสนิททั้งสองคนยืนประสานมือไว้กลางเป้าพร้อมกับกวาดสายตามองไปรอบ ๆ คฤหาสน์ขณะรอคนเป็นนาย วันนี้พวกเขามีออกไปต่างเมืองจึงได้เตรียมบอดีการ์ดไว้จำนวนหนึ่งเพื่อคอยคุ้มกันความปลอดภัยให้กับหัวหน้าตระกูลอัลกราเซียโน
“ไป”
เมื่อมาเฟียหนุ่มเดินออกมา ก็ตรงขึ้นไปนั่งบนรถโดยมีมือซ้ายคอยปิดประตูให้ รถตู้หรูขับเคลื่อนออกจากคฤหาสน์อัลกราเซียโนโดยมีรถลูกน้องอีกสามคันขับตาม
รถทั้งสี่คันขับมาร่วมชั่วโมงก็มาถึงท่าเรือเมสซีนาก่อนจะขับตามกันขึ้นไปจอดบนเรือส่วนตัว
เรือใหญ่แล่นข้ามฟากได้สี่สิบนาทีก็ค่อย ๆ ผ่อนเครื่องลงแล้วหมุนจอดเทียบท่า เหล่ารถสีดำทั้งสามและรถตู้หรูที่มีตราสัญลักษณ์ของอัลกราเซียโนก็ขับเคลื่อนลงจากเรือ ตรงไปยังสถานที่นัดหมายสำหรับคุยธุรกิจ
ณ คลับใหญ่เมืองกาตันซาโร
“มาช้าฉิบหาย”
“ไอสัส กูขับรถ นั่งเรือตั้งหลายชั่วโมง ไม่ได้บินมาอย่างมึง”
“แล้วนี่ขนมาเยอะขนาดนี้ กลัวเหรอวะ?”
“กูไม่ได้ขน ไอลุยจิมันขนมา”
“ต่างกันตรงไหน”
“ต่างตรงที่มึงมาเสือกเหี้ยอะไรเรื่องของกูนี่แหละ”
“หึ” เพื่อนสนิทที่มีอิทธิพลบนเกาะซาร์ดิเนียหัวเราะในลำคอก่อนจะยกแก้วม็อกเทลขึ้นเพื่อชนแก้วกับเพื่อนรัก
“แล้วนี่ไอ้มาร์โค กับไอ้เบเนดิกจะเข้าไปหามึงที่เกาะเมื่อไหร่”
“อาทิตย์หน้ามั้ง”
“ไปตรวจของเหรอวะ”
“อืม”
“ทำไม เดี๋ยวนี้พวกแม่งไม่เชื่อใจฝีมือมึงแล้วหรือไง”
“พอ ๆ กับกูที่ไม่เชื่อใจมึงอ่ะ”
“ไหงมาเข้ากูได้วะ ไอ้ห่า”
“แล้วนี่รอบนี้ของดีจริงหรือเปล่า”
“จริงดิวะ โดนไปร้องทรมานทุกรายไม่ต้องห่วง ไม่ต้องฆ่าให้เลือดเปื้อนมือกูรับประกัน”
“ผลิตเยอะแค่ไหน”
“เยอะพอมาขายให้มึงก็แล้วกัน”
“อืม”
“รอบนี้กูมีของมาแถมให้มึงด้วย ยังไม่ได้ผ่านการทดลอง”
“อะไรวะ” ลูคัส ชูสองนิ้วกวักเรียกลูกน้องของตนเพื่อให้เอาของมาให้เพื่อนดู เขาโยนซองยาเม็ดสีฟ้าขนาดเล็กลงหนึ่งซองและแบบผงหนึ่งซอง
“เอาไปลองดู”
“กูไม่เอา” มาร์คัสเขี่ยถุงขนาดเล็กทั้งสองกลับไปตรงหน้าเพื่อน
“ไม่สนใจหรอวะ ลองดู รับประกันสนุกทั้งคืนแน่นอน”
ลูคัสยังคงคะยั้ยคะยอของให้กับเพื่อนด้วยน้ำเสียงกวน ๆ แต่มาร์คัสก็ยังคงยืนยันคำเดิม เพราะคนอย่างเขาไม่จำเป็นต้องใช้ของพวกนี้บรรดาหญิงสาวทั้งหลาย ทั้งหม้าย แก่ ก็แทบจะวิ่งเข้ามาประเคนให้ทุกคน
“เดี๋ยวกูไปเข้าห้องน้ำแป๊บหนึ่ง”
“เออ”
เมื่อมาร์คัสปฏิเสธที่จะรับไว้ ลูคัสขี้เกียจถือของกลับเลยเทใส่ในแก้วเหล้าของเพื่อนรักจนหมดซอง
ไมนานมาเฟียหนุ่มร่างสูงก็เดินกลับมาที่โต๊ะ เขายกแก้ววิสกี้ขึ้นกระดกพรวดเดียวจนหมด ก่อนจะเอ่ยถามถึงธุรกิจของอีกฝ่ายต่อ
เวลาผ่านไปราว ๆ สามสิบนาที มาร์คัสเริ่มรู้สึกร้อนวูบวาบขึ้นมา มือหนาเลื่อนขึ้นไปปลดกระดุมเสื้อออกสองเม็ดพร้อมกับรินเหล้าขึ้นกระดกอีกครั้ง
“ร้อนจังวะ”
ลูคัสยกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นอาการของเพื่อน ก่อนเขาจะกล่าวด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ
“สามสิบนาที”
“อะไรของมึง”
“ยาซองเมื่อกี้ ออกฤทธิ์ภายในสามสิบนาที แม่งนานไปว่ะ”
“ไอ้ลูคัส ไอ้เวร มึงใช้ทดลองกับกู?”
ร่างสูงทั้งตั้งคำถามทั้งสบถด่าเพื่อนในเวลาเดียวกัน
“ถ้าไม่ได้ปลดปล่อย ฤทธิ์มันจะแรงขึ้น ๆ ตัวนี้กูทำมาพิเศษ แรงและอึด”
“เอายาแก้มาไอ้เวร”
“ยังไม่ได้ลองผสมเลยว่ะ หาสูตรอยู่”
“ไอ้เวรเอ้ย” มาร์คัสสบถด่าเพื่อนด้วยสีหน้าเคร่งขรึมตึงเครียด เม็ดเหงื่อเริ่มผุดออกตามกรอบหน้าที่หล่อเหลา เขารีบเดินออกไปหามือขวาของตนโดยไม่ลาเพื่อนแม้แต่คำเดียว
เมื่อมือขวาเห็นอาการของคนเป็นนาย ก็รีบเรียกเหล่าลูกน้องขึ้นรถแล้วขับบึ่งออกไปจากผับหรูย่านกาตันซาโรทันที
อีกฝั่งในเวลาเดียวกัน
ณ โรงแรมลาเมซี
“ฉันไม่ไหวแล้วว่ะแก” หญิงสาวเอียงตัวไปกระซิบบอกเพื่อนสาวที่ทำงานที่เดียวกัน
“แกจะกลับก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวฉันนั่งอีกแป๊บก็ว่าจะกลับเหมือนกัน”
“เอ้า!! ชนครับน้องเซีย...ชน”
“อะ เอ่อ เซียไม่ไหวแล้วค่ะ เดี๋ยวเซียขอตัวก่อนนะคะ” น้ำเสียงเมามายกล่าวบอกกับชายหนุ่มรุ่นพี่ก่อนจะคว้ากระเป๋าแล้วเดินตุปัดตุเป๋ออกไป
หญิงสาวหุ่นนางแบบเดินตรงไปที่ลิฟต์ก่อนจะกดขึ้นไปยังชั้นสิบห้าของโรงแรม เธอเดินเซไป เซมาจนถึงหน้าประตูห้องพัก ร่างบางหยุดยืนพิงกับกำแพงประตูอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะดันเปิดเข้าไป
เธอถอดรองเท้าออกแล้วโยนกระเป๋าแบรนด์เนมที่เก็บเงินซื้อมาร่วมปี ทิ้งไปบนโซฟาสีเทาเข้มอย่างไม่ใยดี ก่อนจะปลดอาภรณ์ออกจนเหลือเพียงแพนตี้ตัวจิ๋วสีแดงกับท่อนบนที่เปลือยโชว์สองเต้าอวบ อย่างที่เธอมักจะทำเวลาที่อยู่ห้อง
เมื่อปลดทุกอย่างจนหมดไม่เหลือ หญิงสาวก็ทิ้งตัวนอนลงบนเตียงนุ่มสีขาว จากที่มึน ๆ อยู่แล้ว เมื่อทิ้งศีรษะลงบนหมอนก็ยิ่งรู้สึกมึนเมาเข้าไปใหญ่จนภาพค่อย ๆ ตัดไปช้า ๆ กระทั่งเปลือกตาทั้งสองข้างปิดสนิทลงไปในที่สุด
เมื่อคนด้านในห้องน้ำได้ยินเสียงจากด้านนอกก็คิดว่าเด็กที่ให้บอดีการ์ดติดต่อหามาให้ มาถึงแล้ว จึงสับขาออกจากใต้เรนชาวเวอร์ตรงออกมาจากห้องน้ำด้วยเนื้อตัวที่ยังเปียกปอน
ก่อนหน้านี้ขณะรอ เขาได้เข้าไปอาบน้ำเพราะคิดว่าน้ำเย็นอาจจะช่วยบรรเทาลดความกระสันอยาก ความรุ่มร้อนลงได้ แต่เปล่าเลย มันไม่สามารถช่วยลดอาการพวกนั้นลงได้เลยสักนิด
มาเฟียหนุ่มเสยผมที่เปียกน้ำขึ้นพร้อมกับมองไปยังร่างของหญิงสาวที่นอนแผ่หลาอยู่บนเตียงราวกับคนไม่มีสติ เขารู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่เธอนอนแน่นิ่งราวกับไม่รู้หน้าที่ของตัวเอง ผู้หญิงที่เขาใช้บริการส่วนใหญ่จะตั้งหน้าตั้งตารอเขาอย่างใจจดใจจ่อ แต่กับคนตรงหน้ากลับต่างกันออกไปอย่างที่เขาไม่เคยเจอ
สองขายาวก้าวเข้ามาใกล้เธอขึ้นเรื่อย ๆ ดวงตาคมเข้มลอบสังเกตเรือนร่างที่สวยงามตั้งแต่ท่อนบนไล่ลงจนมาหยุดที่เนินสามเหลี่ยม แก่นกายใหญ่กระตุกเล็กน้อย
คนตัวสูงเดินเข้าไปหยุดอยู่ข้าง ๆ ร่างหญิงสาวที่หลับอยู่พร้อมกับตีไปที่ขาเธอ เพื่อเรียกให้ลุกขึ้นมาปรนนิบัติเขา แต่คนเมากลับใช้ขาเตะตวะมือเขาออก แถมยังนอนกางแข้งกางขามากกว่าเดิมจนร่องสีหวานโผล่ออกมายั่วยวนชวนให้มาเฟียหนุ่มเริ่มหมดความอดทนขึ้นทุกที
“ไอ้ลุยจิมันหาอะไรมาให้กูวะ ไอ้เวรเอ้ย” น้ำเสียงเข้มสบถด่ามือขวาพร้อมกัดกรามแน่น
“เอาวะ ปลดปล่อยไปก่อน อย่างอื่นค่อยว่ากัน” ขณะยืนขบคิดอยู่ ร่างบางก็นอนแหกขากว้างออกพร้อมกับสองแขนกางเต็มที่นอนจนสองเต้าตั้งโชว์อย่างยั่วยวนตา พร้อมกับตุ่มไตสีชมพูที่ตั้งชูช่อ ทำให้ความอดทนของมาเฟียหนุ่มขาดสะบั้นพังลงในทันที