"โมลีจ๊ะวันนี้โมลีเอาอะไรมาแลก"
"วันนี้โมลีมีผลไม้ป่ามาจากโมรีอยากจะแลกข้าวพี่สักหน่อยจะได้ไหมจ๊ะ"
"ได้สิจ๊ะพี่เอาใส่ชะลอมแล้วก็เอาใบตองรองด้านในมีชะอมเล็กอยู่โมลีเอาไปสิ"
"ส่วนอันนี้ของโมลีจ๊ะโมลีใส่ตะกร้าสานไว้ให้นะจ๊ะแล้วก็โมรีมีไข่ในชะลอมอยู่ประมาณ 7 ใบพี่สนเอาแลกข้าวเพิ่มได้ไหมจ๊ะ"
"ได้สิจ๊ะโมลีคนสวยของพี่อยากได้อะไรพี่ไม่ขัดใจโมลีเลยแต่อยากจะไปกินข้าวบ้านโมลีสักครั้งจังเลย"
ไอ้สนลูกหัวหน้าหมู่บ้านที่แสดงออกชัดเจนว่าชอบนางโมรีมากกว่าใครเทียวไร้เทียวขื่อนางโมลีทุกวันบางวันก็มักจะโดดงานจากที่บ้านไปช่วยนางโมลีปลูกผักผู้ชายหลายๆ คนก็พยายามจะเข้าใกล้นางโมรี แต่ถูกไอ้สนกีดกันพร้อมกับพรรคพวกและลูกน้องที่ไม่ต้องการให้ผู้ชายคนอื่นมาเข้าใกล้นางโมลี ด้วยความที่ตระกูลของไอ้สนเป็นพรานป่าเก่าและกลายเป็นที่นับหน้าถือตาของคนในหมู่บ้านรวมถึงบ้านของมันมีพ่อและบรรพบุรุษทางฝั่งแม่เป็นหมอยา ยิ่งเป็นที่นับหน้าถือตาเข้าไปอีกทุกคนจึงให้ความเคารพพ่อของไอ้สนในฐานะหัวหน้าที่เป็นพรานป่าและหมอยา
ที่หมู่บ้านแห่งนี้มีวัดป่า ที่มีเพียงกุฏิกระท่อมเล็กๆ พร้อมองค์พระประธานหลวงพ่อองค์นี้ที่จำวัดอยู่ท่านก็มีพลังวิเศษอย่างรู้มิติต่างๆ เพียงแต่ไม่เคยต้องพูดหรือแสดงอวดตนในความวิเศษชาวบ้านนับหน้าถือตาและไปทำบุญกับท่านในทุกทุกเช้าที่ท่านเดินบิณฑบาตในหมู่บ้าน โมลีเองในทุกๆ เช้าเธอมักจะหุงข้าวปลาอาหารเพื่อมารอใส่บาตรหลวงตาที่จะเดินผ่านหน้าบ้านของเธอในทุกวันดังเช่นเช้าวันนี้ก่อนที่เธอจะไปตลาดเธอก็ได้รอใส่บาตรกับดวงตา
"หลวงตานิมนต์เจ้าค่ะ"
"วันนี้โมลีทำหลายอย่างเลยเจ้าค่ะมีน้ำพริกผักไข่ต้มหลวงตาฉันเยอะๆ นะเจ้าคะ"
" ขอบใจมากนะโยมโมลี รับพรนะ อายุวัณโณสุขังพลัง"
" สาธุเจ้าค่ะ โยโมลีหลังจากนี้ไม่ว่าชีวิตของโยมจะเปลี่ยนไปอย่างไรอาตมาขอให้โยมรู้ไว้ว่ามันเป็นชะตาที่ถูกลิขิตมาแล้วโยมอย่าได้พยายามจะหลีกเลี่ยงหรือหลีกหนีเพราะมันคงเปลี่ยนอะไรไม่ได้ขอให้โยมทำใจยอมรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ไปอาตมาขออวยพรให้โยมโชคดี"
" ขอบคุณเจ้าค่ะหลวงตา"
หลังจากที่หลวงตาได้ให้พรเสร็จสรรพได้ทิ้งปริศนาบางอย่างให้ได้คาใจของโมลีแต่เธอไม่รู้ความหมายที่หลวงตาได้พูดกับเธอ โมลีได้เก็บข้าวของต่างๆ กลับเข้าบนเรือนวันนี้เธอรู้สึกเหน็ดเหนื่อยแต่เธอก็ต้องไปแลกของที่ตลาดเพื่อเอาข้าวกลับมาที่บ้าน โมลีที่ทำทุกอย่างเสร็จจนเย็นโพล้เพล้เธอรีบเก็บข้าวของขึ้นเรือนทันทีพร้อมกับเก็บบันไดบ้านขึ้นไว้ด้านบนสถานที่แห่งนี้ยังคงมีเรื่องเล่าและตำนานลี้ลับมากมายยิ่งเธออยู่ตัวคนเดียวเธอยิ่งต้องระวังตัว
บ้านไม้หลังเล็กๆ ยกสูงมากเธอจงใจให้มันสูงที่สุดเท่าที่จะทำได้เพราะเธอก็มีความเชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็น ความเหนื่อยล้าจากการเดินบุกป่าฝ่าดงในการหาผลไม้หน่อไม้ป่าในการเลี้ยงชีพทำให้โมรีหลับตั้งแต่หัวค่ำ
เสียงลมพัดแผ่วเบาในยามวิกาลความมืดที่ปกคลุมไปรอบทั้งตัวบ้านต้นไม้ใหญ่มากมายปลิวไสวลู่ลมราวกับมีชีวิต ผู้คนในหมู่บ้านหาดตะวันลับขอบฟ้าจะไม่มีใครเปิดประตูต้อนรับคนแปลกหน้าและพากันขึ้นเรือนตั้งแต่หัวค่ำหมู่บ้านที่นี่ส่วนใหญ่มักจะยกสูงเพื่อป้องกันโจรขโมยอาหารและสัตว์ต่างๆ ที่จะมาขโมยของเช่นกัน
"อายุวัณโณสุขังพลัง"
หลวงพ่อที่มารับบาตรจากโมลีดังเช่นทุกวัน โมลีได้เตรียมข้าวของเก็บขึ้นเรือนเรียบร้อยเธอเตรียมตัวจะออกไปเพื่อหาของป่ากับมะม่วง ซึ่งเป็นหญิงสาวที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับเธอ
เธอและมะม่วงเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่สมัยเด็กบ้านของเธอกับมะม่วงอยู่ห่างกันไปไม่ไกลนักเธอจึงมักจะไปมาหาสู่มะม่วงและพ่อกับแม่ของมะม่วงอยู่เสมอทุกคนในหมู่บ้านต่างพากันเอ็นดูโมลีเพราะเธอเป็นเด็กกำพร้าพ่อแม่แต่ก็ยังใช้ชีวิตด้วยตัวเองโดยที่ไม่เดือดร้อนใครในหมู่บ้านเลย
"โมลีโมลีจ๊ะอยู่หรือเปล่าข้ามาแล้วนะ"
"จ้ะมะม่วงรอข้าซักแป๊ปนะะ ข้าเตรียมตะกร้าสำหรับใส่ของป่าก่อนเดี๋ยวโมลีลงไปหานะจ๊ะ"
"ได้ เดี๋ยวข้ารอที่ใต้ถุนเรือนละกัน"
มะม่วงที่มานั่งรอโมลีอยู่ใต้ถุงเรือนเพื่อออกไปหาของป่าด้วยกัน วันนี้เธอตั้งใจกันว่าจะเดินเข้าไปลึกกว่าปกติเพราะของป่าบริเวณชายหมู่บ้านช่วงนี้ออกไม่ทันเนื่องจากฝนไม่ตกทำให้บรรดาต้นไม้น้อยใหญ่ก็แทบจะไม่งอกเงยทั้งเห็ดทั้งหน่อไม้ก็ยังโตไม่ทันคนกินเธอจึงเลือกที่จะเดินเข้าไปลึกกว่าเดิมสักเล็กน้อย
"ไปกันเถอะจ้ะมะม่วงพร้อมแล้ว"
"โมลีแกห้ามลืมมีดอันเล็กเด็ดขาดเลยนะเดี๋ยวเผื่อเราเข้าไปในป่าจะไม่มีอะไรตัดพวกหน่อไม้"
"ข้าตรียมพร้อม แล้วมะม่วง"
"ข้าว่างั้นเราไปกันได้แล้วล่ะสายแล้วเดี๋ยวจะร้อนแดดเอาไปเถอะโมล"
ทั้งสองคนย่ำเท้าออกเดินทางไปตามเส้นทางเดิมที่เคยเดินกันประจำโดยมีตะกร้าไพ่หลังอยู่ เธอทั้งสองรีบออกเดินเพื่อเข้าไปในป่าเธอไม่อยากจะกลับออกมาในตอนเย็นเพราะมันค่อนข้างอันตรายสำหรับหญิงสาวอย่างพวกเธอ เธอทั้งสองเดินมาหลายเวลาโขอยู่ ในป่าทั้งสองข้างทางแทบจะไม่เหลืออะไรให้เธอเก็บกันแล้วมะม่วงที่ตั้งใจว่าวันนี้จะต้องเดินเข้าไปลึกกว่าปกติที่เคยเข้ามาจึงได้เอ่ยปากชวนโมลีทันที
"โมลีข้าว่าข้ากับเอ็งควรเข้าไปลึกกว่านี้สักหน่อยนะขืนยังอยู่แต่ตรงนี้ วันนี้คงได้กลับไปไม่พอได้แลกข้าวปลาอาหารกันพอดี ไม่มีอะไรเลยนอกจากตำลึงแค่ไม่กี่กำ เอ็งคิดว่ายังไงโมลี"
"ข้าก็คิดเหมือนเองนั่นแหละ มะม่วงงั้นเราเดินเข้าไปกันอีกหน่อยก็ได้นะ"
สองสาวพากันเดินย่ำเท้าเข้าไปในป่าลึกด้วยความเพลิดเพลินยิ่งลึกยิ่งมีความแปลกตาที่น่าดึงดูดแบบประหลาดใจทั้งสองแยกกันเก็บของป่าและผลไม้มากมายมันทำให้มะม่วงและโมลีตื่นเต้นกับสิ่งที่เห็น
"โมลีแกว่าที่นี่มันแปลกๆ หรือเปล่าวะ"
"ข้าก็ว่ามันแปลกๆ แต่ว่าช่างมันเถอะเรารีบเก็บแล้วรีบออกไปกันดีกว่าเดี๋ยวมันจะค่ำ"
"งั้นเดี๋ยวข้าจะเดินไปเก็บผลไม้ตรงนู้นก่อนแล้วกันเองก็อย่าไปไกลล่ะเดี๋ยวข้ามานะโมลี"
"ได้ทั้งข้าเห็นผักสวยๆ อยู่ตรงโน้นยอดขึ้นบานเลยเดี๋ยวข้าเดินไปเก็บก่อนแล้วกันแล้วเรามาเจอกันตรงนี้นะมะม่วง"
"เออ ๆ ตามนั้นแหละ"
ทั้งสองคนแยกย้ายกันไปเก็บผลไม้รากไม้เพื่อนำไปแลกข้าวแลกน้ำกับผู้คนที่ตลาด ทั้งสองเร่งเก็บอย่างมันมือเพราะมันมีผลไม้แปลกตาผักนานาชนิดที่ไม่เคยเห็นทั้งนางมะม่วงและนางโมลีต่างพากันดีใจที่ได้เห็นแหล่งอาหารใหม่ของเธอทั้งสอง
นางโมลีที่เก็บยอดผักจนเพลิน เธอเดินเข้าไปลึกขึ้นลึกขึ้น โดยที่ลืมหันกลับมามองนางมะม่วง ว่าตอนนี้นางมะม่วงเองก็เดินไกลออกไปจากเธอเช่นกัน แต่หากแต่ทั้งสองนั้นไม่รู้ตัวเลยว่าโดนบางสิ่งบางอย่างจับจ้องมาที่ร่างของทั้งคู่ บางสิ่งบางอย่างที่ต้องตาต้องใจในความงามของนางโมลี และมันอยากได้นางโมลีมาครอบครอง มันจึงทำการร่ายมนต์คาถาให้นางโมลีและนางมะม่วงเห็นภาพลวงตากับพืชพรรณนาๆ ชนตามที่ทั้งสองต้องการเห็นและค่อยๆ แยกโมลีออกจากนางมะม่วง