เราน่าจะทำมันให้ดีได้

1451 Words
บทที่ 1 "โถ่ พี่ก็มาขอโทษน้องรินไงครับ พี่ขอโทษจริง ๆ พี่แค่หงุดหงิดมากไปไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ " คนถูกถามรีบลุกจากเตียงอล้วปรี่เข้ามาจับไหล่ทั้งสองของเธอเบา ๆ อย่างเอาอกเอาใจ เพราะที่อพาร์ตเมนต์นี้ใช้ระบบสแกนนิ้วจึงทำให้ไมเนอร์สามารถเข้าออกได้ตามใจ เขาเลยมานั่งอยู่ในห้องโดยที่เธอไม่ได้อนุญาตได้ "ไม่ได้ตั้งใจงั้นเหรอคะ ไม่ได้ตั้งใจตั้งแต่ตรงไหนคะ ตั้งแต่ตอนรินอมหรือไม่ได้ตั้งใจว่ารินจะเห็น" น้ำเสียงประชดประชันออกมาไม่ขาดสายเธอไม่แม้แต่จะหันไปมองใบหน้าของเขาด้วยซ้ำ เพราะตั้งใจว่าจะตัดขาดกับเขาให้จบวันนี้เลยเกรงว่าหากหันไปมองอาจจะใจอ่อน "ช่างเถอะค่ะ ให้มันจบแค่นี้เถอะรินรับคำขอโทษพี่ไมค์กลับไปเถอะค่ะ แล้วจากนี้อย่ามาเจอกันอีก" รินลดาพูดเสียงเรียบพร้อมกับลูบครีมแก้มเนียนของตนเอง "ไม่เอาหรอก แฟนพี่อยู่ที่นี่จะให้พี่ไปไหนล่ะครับ พี่ขอโทษน้า ตบพี่เลยก็ได้พี่จะไม่ทำอีกแล้ว รินครับ" "ไม่ละค่ะ รินไม่อยากต้องมานั่งทุกข์ใจเพราะให้โอกาสพี่อีก" ไมเนอร์ที่เห็นว่าครั้งนี้แฟนสาวดูจริงจังมากกว่าทุกครั้งก็กวาดสายตาไปรอบห้องเพื่อหาวิธีพูดโน้วน้าวใจแฟนสาว จนในที่สุดสายตาก็หยุดที่บางอย่างบนตลับแป้งของเธอ แผ่นเล็กเรียวยาวดูอ่อนแอเขาเอื้อมมือไปหยิบมันมาดูช้า ๆ อย่างสงสัย "หยุดเดี๋ยวนี้นะ อย่ามายุ่งกับของ ๆ ริน" หญิงสาวรีบหันกลับมาแย่งคืนแต่คนด้านหลังกลับหมุนตัวหนีแล้วหยิบมันมาดูให้เต็มตา "นี่อะไรครับ" "แผ่นตรวจโควิดไง เอามานะอย่ามายุ่ง ออกไปได้แล้ว" รินลดาตะคอกเสียงใส่แม้ไม่ดังมากแต่ทำให้รู้ว่าเธอไม่พอใจที่เขาแตะต้องของ ๆ เธอก่อนได้รับอนุญาต "HGC ไม่น่าใช่โควิดนะริน" ไมเนอร์ตอบพลางช้อนสายตามองแฟนสาวที่อยู่ด้านข้างอย่างคาดคั้น "แล้วยังไง" น้ำเสียงหาเรื่องของรินลดาทำเอาแฟนหนุ่มของเธอแทบกุมขมับ เธอคงยังโกรธเขาเพราะเรื่องเมื่อตอนเย็นอยู่แน่ ๆ แต่อีกไม่นานเธอจะหายโกรธเขาแน่นอน ชายหนุ่มมั่นใจแบบนั้นจึงตั้งใจมาหาเธอหลังจากที่เธอเลิกงาน "ถ้านี่เป็นของริน รินท้องเหรอ? " ไมเนอร์ถามด้วยน้ำเสียงเหลือเชื่อ แถบตรวจขึ้นขีดสีม่วงสองขีดอย่างชัดเจน เขาเองก็ไม่ใช่คนโง่เพราะฉะนั้นอย่างเดียวที่เป็นไปได้คือเธอท้องและพ่อของลูกเธอก็คือเขาอย่างแน่นอน "จะบ้าหรือไง รินฉีดยาคุมอยู่ตลอดหรอก" รินลดาตอบด้วยน้ำเสียงเหลือเชื่อไม่แพ้กัน เธอฉีดยาคุมอยู่ทุกเดือนจะเป็นไปได้อย่างไรที่เธอจะท้อง สิ้นประโยคเธอก็แย่งแถบตรวจครรภ์ในมือของเขามาจดจ้องมันอยู่นานจนแน่ใจ "บ้าน่า เป็นไปไม่ได้หรอก ฉันจะท้องได้ยังไง" เท้าเล็กเรียวเดินถอยหลังอย่างหมดแรงจนล้มลงบนผ้าปูสีฟ้าขาวของเตียงนุ่มขนาดคิงไซซ์ เธอฉีดมันทุกเดือนจริง ๆ แล้วมันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไงกันนะ ในขณะที่รินลดากำลังใจหายเพราะตนเองท้องไมเนอร์ก็ยิ้มกว้างวิ่งเข้ามากอดรัดเธอเอาไว้อย่างดีใจ "พี่กำลังจะมีลูก พี่กำลังจะเป็นพ่อแล้วริน" พูดจบก็กอดคอก้มลงจูบเบา ๆ ที่ศีรษะของแฟนสาวซึ่งตอนนี้ตกอยู่ในภวังค์ "แต่รินไม่พร้อมและรินไม่อยากอยู่กับพี่อีกต่อไปแล้วค่ะ" น้ำเสียงเฉียบขาดทำเอาคนดีใจหน้าหดเหลือแค่สองนิ้ว เขารักเธอจริง ๆ และอยากจะมีลูกกับเธอ ไมเนอร์นิ่วหน้าก่อนจะนั่งชันเข่าบนพื้นเพื่อคุยกับแฟนสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "ไม่เอาแบบนี้สิครับ รินอยากให้ลูกไม่มีพ่อจริง ๆ หรอ" คนถูกถามไม่เปิดปากตอบเพราะเธอเองก็ไม่มั่นใจว่าตนเองไม่อยากให้ลูกขาดพ่อจริง ๆ ในตอนแรกที่ตั้งใจจะเลิกนั่นคือความจริงแต่พอรู้ว่าท้องทุกอย่างมันเปลี่ยนไปหมด เธอเองก็เป็นเด็กที่กำพร้าแม่มาตั้งแต่จำความได้จึงโหยหาความรักและครอบครัวที่สมบูรณ์มาตลอด มันคือปมในใจของเธอ "รินเองก็ขาดแม่มาตั้งแต่เด็ก จำไม่ได้เหรอว่าตัวเองรู้สึกแบบไหน หืม…พี่เองก็ขาดพ่อ เราเองก็ขาดกันคู่เราน่าจะทำมันให้ดีได้นะ" ไมเนอร์พูดจบก็จับมือเธอมากุมเอาไว้ ใจแข็งที่คิดว่าจะเลิกกับเขาตอนนี้เหลวเป๋วไปหมดสิ้น แต่เธอก็ไม่ได้หายโกรธเสียทีเดียวจึงเปิดปากเรื่องเมื่อเย็นวานก่อน "จะดีได้ยังไงในเมื่อพี่ยังนอกใจรินไปคุยกับคนอื่นอยู่แบบนี้" "พี่สัญญาครับว่าต่อไปจะไม่ทำอะไรก็ตามที่จะทำให้รินเสียใจ พี่สาบานได้" คนฟังพยักหน้าไม่พูดอะไรส่วนคนพูดก็ดีใจรีบลุกขึ้นสวมกอดแฟนสาวของตนก่อนจะลูบท้องเธอเบา ๆ อย่างรักใคร รินลดามองการกระทำพลางคิดไปว่าการมีลูกอาจเปลี่ยนนิสัยของไมเนอร์ได้ โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งใจกลางเมือง เท้าของคนสองคนพากันเดินไปยังเคาน์เตอร์ของโรงพยาบาลด้วยความตื่นเต้น มือนิ่มถูกเกาะกุมไว้ด้วยฝ่ามือของแฟนหนุ่ม รินลดาถูกแฟนหนุ่มพามาโรงพยาบาลเพื่อฝากครรภ์ ก้อนเนื้อในอกเต้นเร็วจนกระเป๋าที่ถูกสะพายพาดกลางอกยังสั่นไปด้วย หญิงสาวทั้งกลัวทั้งเกร็ง ต่างกับแฟนหนุ่มของเธอที่ดูชิวจนเหลือเชื่อ หญิงเบนสายตาจากเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ไปยังมือขวาที่ถูกกุมไว้ด้วยฝ่ามืออบอุ่นของแฟนหนุ่ม เธอถึงกับหลุดยิ้มให้กับการกระทำของเขาและเชื่อจนหมดใจว่าเขาอยากมีลูกกับเธอจริง ๆ … "คุณแม่ดูนี่สิครับ น้องมีหัวใจมีแขนขาแล้วนะครับ เดี๋ยวเรามาฟังเสียงหัวใจน้องกันสักหน่อยดีกว่าเนาะ" คุณหมอพูดขณะที่ใช้เครื่องอัลตร้าซาวด์ถูไปมาบนหน้าท้องแบนราบ เจลใสสีฟ้าบนหน้าท้องทำเอาเธอขนลุกไปหมด ตื่นเต้นก็ตื่นเต้น กลัวก็กลัว ตึก ๆ ตึก ๆ ตึก ๆ เสียงหัวใจที่เต้นเกือบ 140 ครั้งต่อนาทีดังทั่วห้องทันทีที่คุณหมอเปิดเครื่อง คนที่นอนอยู่ถึงกับน้ำตาซึมเมื่อได้ยินเสียง ความปิติคับแน่นในอกพลางโกรธตนเองในครั้งแรกที่ในหัวมีความคิดที่จะเอาออกแวบเข้ามา "แล้วต้องทำยังไงต่อครับหมอ" ชายหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นพร้อมกุมมือแฟนสาวที่นอนอยู่เตียงอัลตร้าซาวด์ไว้แน่น ราวกับต้องการจะบอกว่าเขาอยู่ตรงนี้ไม่ต้องกลัวอะไร รินลดายกนิ้วขึ้นปาดเอาหยดน้ำตาที่หางตาออก ก่อนจะเงยหน้ามองคุณหมอหนุ่มที่กำลังดึงรูปอัลตร้าซาวด์จากเครื่องอยู่ "ตอนนี้น้องประมาณ 8 สัปดาห์แล้วนะครับ หลังจากนี้คุณแม่อาจจะมีอาการแพ้ท้องมากขึ้นหรืออาจจะไม่มีเลยก็ได้ แต่ต้องระวังอาการเลือดออกหากมีเลือดออกไม่ว่าเยอะหรือน้อยต้องรีบมาโรงพยาบาลทันทีนะครับ" คุณหมอบอกขณะที่ใช้เดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน โดยมีพยาบาลสาวเช็ดเจลอัลตร้าซาวด์ออกจากหน้าท้องของเธอ "แล้วต้องดูแลอะไรเป็นพิเศษมั้ยครับคุณหมอ" เสียงทุ้มของไมเนอร์ถามขึ้นขณะช่วยพยุงแฟนสาวลุกนั่ง แล้วพาเดินไปนั่งบนเก้าอี้ตรงหน้าหมอที่กำลังนั่งเขียนบางอย่างอยู่บนโต๊ะ "หากคุณแม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียนให้ทานชาขิงหรือน้ำขิงอุ่น ๆ ดูนะครับ ทานอาหาทีละน้อยแต่ทานให้บ่อยขึ้นจะดีกว่าเพราะคุณแม่อาจจะเป็นกรดไหลย้อนได้ ที่สำคัญงดดื่มแอลกอฮอล์ ของดิบ ทานอาหารให้ครบห้าหมู่ พักผ่อนให้เพียงพอ"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD