ตอนที่1

2322 Words
จังหวัดภูเก็ต “พี่พามว่ายังไงนะคะ” เหมือนฟ้าผ่าลงมากลางใจของเธอเมื่อสามีที่แต่งงานกันมากันมาไม่ถึงปีมาขอหย่าทั้งที่เธอสูญเสียทั้งลูกในท้องและพ่อแม่ที่จากไปเพราะอุบัติเหตุไล่ๆกันและยังมาถูกสามีบอกเลิกทำให้หัวใจสลาย “อิ๋นก็รู้ว่าเราสองคนไปกันไม่ได้ และคุณแม่ของพี่ท่านบอกว่าถ้าเรายังอยู่ด้วยกันท่านจะตัดพี่ออกจากกองมรดกเพราะท่านรับไม่ได้ที่อิ๋นไม่ดูแลหลานของท่านจนทำให้แท้ง” พายัพพูดกับภรรยาอย่างเห็นแก่ตัวเพราะเขาต้องพึ่งพาพ่อแม่เรื่องเงินและตอนนี้วางแผนจะไปเรียนต่อต่างประเทศพร้อมกับผู้หญิงที่พ่อแม่เลือกให้ถึงแม้จะรักอรินดาแต่เขาก็รักตัวเองไม่อยากลำบากกัดก้อนเกลือกิน “พี่พามอยากเลิกกับอิ๋นมากเหรอคะ” อรินดามองออกไปหน้าบ้านหลังใหญ่มีพื้นที่หนึ่งไร่กลางเมืองภูเก็ตที่พ่อแม่ของเขาซื้อให้ลูกชายเป็นเรือนหอตอนแต่งงานกับเธอที่เป็นแค่ลูกสาวของผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อดังของเมืองภูเก็ตเพราะเผลอมีความสัมพันธ์กันคืนงานเลี้ยงฉลองพายัพเรียนจบจนพลาดท่าตั้งท้องและทางพ่อแม่ของเธอก็จะเอาเรื่องหากไม่จัดการเรื่องงานแต่งงานให้สมเกียรติ ทำให้พ่อแม่ของพายัพซึ่งเป็นคนดังมีชื่อเสียงในเมืองภูเก็ตกลัวผู้คนจะนินทาให้อับอายก็จัดงานแต่งงานและสินสอดให้ตามที่ฝ่ายหญิงต้องการและสาเหตุนี้ทำให้ครอบครัวของเขาไม่ชอบเธอและตอนเธอแท้งลูกพวกเขาก็มีท่าทีดีใจอย่างออกนอกหน้าและแนะนำผู้หญิงคนใหม่ให้ลูกชายทันที “พี่ว่าเราหย่ากันเถอะอิ๋น ถึงยังไงเราก็ไปไม่รอดหรอก” พายัพพูดขึ้นเพราะตอนนี้เขามีผู้หญิงคนใหม่ที่แม่แนะนำให้และมีฐานะท่าเทียมกันอีกอย่างเขาก็เบื่อความจืดชืดของอรินดาทั้งที่แต่งงานกันไม่ถึงปีและตอนนี้พ่อแม่ของอรินดาเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุรถชนไปเมื่อสามเดือนก่อนพร้อมกับที่อรินดาแท้งลูกเพราะความเครียดและความสียใจที่พ่อแม่จากไปและตอนนี้เธอก็ดีขึ้นแล้วเขาไม่อยากยื้ออีกต่อไป “ก็ได้ค่ะ ถ้าเราหย่ากันทรัพย์สินที่มีในชื่อของอิ๋น อิ๋นขอนะคะ ถ้าพี่พามตกลงก็นัดวันมาเลยค่ะ” ตอนนี้เธอไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้วหย่ากันก็ดีจะได้จบไปและตอนนี้เธอเหลือตัวคนเดียวไม่มีญาติพี่น้องเพราะทุกคนโกรธที่เธอไม่แบ่งเงินที่ได้จากประกันชีวิตของพ่อแม่รวมถึงย่าที่เรียร้องจากเธอทั้งที่แบ่งให้แล้วแต่ไม่พอใจและอ้างว่าพ่อเป็นลูกชายของท่านพอเธอไม่ให้ตัดขาดความเป็นย่าหลาน “ได้ งั้นพรุ่งนี้เราไปหย่ากันที่อำเภอและวันนี้พี่จะขนของออกจากบ้านหลังนี้” พายัพพูดกับภรรยาอย่างหมดเยื่อใยเพราะมีผู้หญิงคนใหม่และยังฟังคำยุยงจากแม่ทำให้เขาหมดรักอรินดาได้อย่างง่ายดายทั้งที่รักกันมาตั้งแต่เรียนปีหนึ่งจนกระทั่งปีสี่ที่พลาดทำอรินดาท้อง “อิ๋นขอถามพี่พามหน่อยได้มั้ยคะ” “มีอะไรก็ถามมาได้เลย” พายัพพูดอย่างห่างเหินทั้งที่ผ่านมาเขาเข้าข้างอรินดามาตลอดและช่วงสองเดือนที่ผ่านมาเขาแทบไม่มานอนที่บ้านอ้างว่าอยู่เป็นเพื่อนแม่บ้างยายไม่สบายบ้างและติดงานบ้างแล้วแต่เขาจะหาข้องอ้างได้แต่ความจริงอยู่กับผู้หญิงคนใหม่ “พี่พามเคยรักอิ๋นบ้างมั้ยคะ” “ไม่รู้สิ พี่รู้แค่ว่าตอนนั้นต้องรับผิดชอบอิ๋นไม่งั้นพ่อแม่ของอิ๋นจะเอาเรื่องแค่นั้นเอง” พายัพนิ่งคิดเล็กน้อยก่อนจะตอบภรรยา “อิ๋นเข้าใจแล้วค่ะ งั้นพรุ่งนี้เจอกันเวลาแปดโมงนะคะเราจะได้หย่ากันให้จบไป” อรินดาพูดเสียงสั่นด้วยความเสียใจเพราะเธอรักพายัพจริงๆถึงได้ยอมทุกอย่างและตอนนี้เธอรู้แล้วว่าความจริงใจที่เธอมีให้เขานั้นมันสูญเปล่าเพราะเขาไม่เห็นค่าความรักของเธอ “พี่ไม่อยากให้อิ๋นจมปลักอยู่กับพี่ และพี่ขอพูดตรงๆนะว่าตอนนี้พี่มีคนรักใหม่แล้วพี่อยากเคลียร์ตัวเองเพื่อให้ครอบครัวของเค้ายอมรับพี่” พายัพพูดกับอรินดาเพื่อให้เธอรู้ว่าเขาหมดรักเธอแล้วจริงๆ “ขอบคุณนะคะที่ให้ความกระจ่างกับอิ๋น หวังว่าพี่พามจะมีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองเลือกนะคะ” “พี่ไปนะ” พายัพไม่อยากมานั่งฟังอรินดาพูดและเห็นน้ำตาของเธอมันทำให้เขารู้สึกผิดแต่เขาได้ทำร้ายหัวใจเธอไปแล้วก็ให้จบกันเพียงเท่านี้ก็พอ อรินดามองตามหลังสามีที่กำลังจะกลายเป็นอดีตไปด้วยความเสียใจและตอนนี้เธอก็เหลืออยู่ตัวคนเดียวพ่อแม่ก็จากไปแล้วทิ้งสมบัติและเงินประกันก้อนใหญ่ไว้ให้เธอแล้วจะทำยังไงกับชีวิตของตัวเองดีแล้วเธอก็กำจัดความเศร้าออกไปพยายามเข้มแข็งเพื่อเดินไปตามทางชีวิตของเธอที่จะเป็นเส้นขนานกับพายัพตลอดไป วันถัดมา อรินดาตื่นแต่เช้าก็อาบน้ำแต่งตัวสวยเดินทางไปที่ว่าการอำเภอด้วยรถยนต์คันเล็กคนเดียวและเจอแม่ของสามีพร้อมกับผู้หญิงคนใหม่ของสามีนั่งยิ้มหน้าระรื่นนั่งรอที่หน้าห้องของเจ้าหน้าที่ทั้งที่เธอกับพายัพยังไม่ได้หย่ากัน “มองฉันทำไมเหรอแม่อิ๋น หรือว่าเปลี่ยนใจไม่ยอมหย่าหรือว่าอยากได้เงินฉันก็ให้เธอได้ของแค่หย่ากับตาพาม” คุณวิมาลาพูดกับลูกสะใภ้ที่เธอไม่ชอบแต่ต้องยอมรับไม่งั้นพ่อแม่ของอรินดาจะเอาเรื่องลูกชายของเธอ แต่ตอนนี้อรินดาไม่มีพ่อแม่แล้วและยังหัวอ่อนแค่เอาเงินฟาดหัวทุกอย่างก็จบง่ายๆ “งั้นคุณวิมก็ลองเสนอมาสิคะว่าจะคุ้มกับลายเซ็นของฉันหรือเปล่า” อรินดาย้อนแม่สามีในเมื่อเสนอมาเธอก็สนองและเงินใครจะไม่อยากได้และตอนนี้เธอไม่เหลือศักดิ์ศรีอะไรแล้วทุกคนในครอบครัวของเขาตราหน้าเธอว่าเป็นผู้หญิงหิวเงิน “สักห้าล้านเป็นไง เธอก็ได้บ้านไปแล้วด้วย” “สิบล้านค่ะ” “มันจะมากเกินไปแล้วนะแม่อิ๋น แค่ห้าล้านก็มากพอแล้วไม่รู้ว่าแกไปเลือกผู้หญิงหน้าเงินคนนี้ได้ยังไง” “หรือฉันฟ้องหย่าและฟ้องชู้ดีคะ” “อิ๋น ไหนเราคุยกันแล้วไงว่าจะหย่ากันและอิ๋นก็ได้บ้านได้รถและเครื่องประดับไปหมดแล้วนี่ อย่ากลับกลอกสิ” พายัพท้วงภรรยาที่กลับคำ “ก็อิ๋นหน้าเงินไงคะ ถ้าไม่ได้ก็ไม่หย่าและจะฟ้องจริงๆด้วยค่ะ” อรินดาพูดด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดในเมื่อพวกเขาว่าเธอหน้าเงินก็ทำให้เหมือนเขาว่าไปเลยเพราะชีวิตของเธอต้องดำเนินต่อไปและเรื่องเงินมันจำเป็นต้องใช้และเธอไม่ใช่ผู้หญิงหน้าโง่ปล่อยให้สามีสวมเขาแต่เพราะรักและตอนนี้เธอตัดเขาออกไปจากหัวใจแล้วแม้จะเจ็บแต่เธอสัญญากับตัวเองว่าจะก้าวเดินไปข้างหน้ามีชีวิตใหม่ที่ดีกว่านี้ให้ได้ “ก็ได้แม่อิ๋น เงินแค่นี้เพื่อลูกชายของฉันจะได้” คุณวิมาลายอมจ่ายเงินเพื่อให้เรื่องของลูกชายจบกับอรินดา “ขอเป็นเช็คเงินสดนะคะ” “แม่อิ๋น..” คุณวิมาลามองอรินดาด้วยความไม่พอใจแต่เพื่อความสุขของลูกชายกับผู้หญิงที่มีฐานะเท่าเทียมกันและเหมาะสมคู่ควรกันเธอยอมจ่าย “จ่ายไปเถอะค่ะคุณแม่ เงินแค่นี้เองค่ะ” สาวินีพูดแล้วแบะปากใส่อรินดาอย่างดูถูก “จ้ะหนูตาล” คุณวิมาลาพูดจบก็ล้วงกระเป๋าหยิบเช็คออกมาเขียนให้อรินดา “เอาไปแล้วก็รีบไปหย่าซะจะได้จบๆกันไปเสียที” “ขอบคุณค่ะ ไปสิคะพี่พามอยากมีอิสระมากไม่ใช่เหรอคะ” อรินดาพูดกับสามีที่กำลังจะกลายเป็นอดีตในอีกไม่กี่นาที พายัพมองอรินดาที่เปลี่ยนไปกลายเป็นผู้หญิงหิวเงินเหมือนที่พ่อแม่และญาติของเขาพูดว่าอรินดาตั้งใจจับเขาเพราะมีเงินมากกว่าจะรักเขาจริง “ไปสิจะได้จบกัน” พายัพพูดจบก็เดินเข้าไปในห้องก่อน อรินดาเดินตามหลังสามีด้วยสีหน้าเรียบเฉยตอนนี้เธอหมดเวลาเสียใจแล้วหลังจากนี้เธอต้องมีชีวิตที่ดีมีความสุขให้ได้และลืมเรื่องราวทั้งหมดไปซะทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลังและไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในที่ไม่มีใครรู้จักเธอนอกจากเพื่อนสนิทสองสามคนและพวกเขายังไม่รู้เรื่องเธอจะหย่ากับสามี หลังจากเซ็นใบหย่าแล้วอรินดาก็เดินออกไปจากห้องเป็นคนแรกส่วนที่เหลือก็ไม่รู้ว่าเขาทำอะไรกันเพราะตอนนี้กลายเป็นอดีตไปแล้วจึงกลับบ้านเพราะเธอได้คิดและวางแผนไว้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วว่าจะขายบ้านแล้วย้ายไปอยู่กรุงเทพยังไงเธอก็มีเพื่อนอยู่ที่นั่นก่อนจะแวะเอาเช็คไปขึ้นเงินอย่างน้อยเธอก็ไม่ลำบากเพราะจำนวนเงินในบัญชีของเธอมากพอจะทำให้มีชีวิตเธอไม่ลำบาก เวลาผ่านป6ปี หลังจากอรินดาสาวใต้ตาคมผมยาวสวยน่ารักและมองไม่เบื่อเธอเป็นสาวร่างเล็กสูงแค่ร้อยหกสิบห้าอิ่มมีน้ำมีนวลสัดส่วนทรวดทรงองค์เอวอรชรอ้อนแอ้นหย่ากับอดีตสามีแล้วหญิงสาวก็ประกาศขายบ้านเรือนหอและบ้านเดิมก็ปล่อยให้ครูในโรงเรียนเดียวกับพ่อแม่เช่าจะปล่อยทิ้งไว้มันก็จะทรุดโทรมและรกร้างเพราะเธอไม่คิดจะอยู่ในตอนนี้แต่ชีวิตบั้นปลายนั้นไม่แน่ จากนั้นก็เดินทางเข้ากรุงเทพเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่แล้วซื้อคอนโดอยู่กลางกรุงเทพที่การเดินทางสะดวกเพราะอยู่คนเดียวและไม่รู้ว่าตัวเองท้องแต่พอรู้ก็ไม่คิดจะบอกอดีตสามีเพราะเธอสามารถเลี้ยงดูลูกคนเดียวได้ “น้องอินตื่นได้แล้วครับลูก” อรินดาปลุกลูกชายตัวน้อยที่นอนหลับก้นชี้โด่งแล้วอดขำไม่ได้ “วันนี้อินไม่สบายไม่ไปโรงเรียนได้มั้ยค้าบมามี้” เสียงเล็กตอบอู้อี้แล้วมุดตัวไปในผ้าห่ม “ไม่ได้ครับลูก น้องอินไปโรงเรียนอีกหนึ่งวันแล้วพรุ่งนี้ก็เป็นวันหยุดแล้วครับ” “อินอยากไปเที่ยวสวนสัตว์” คนเป็นลูกต่อรองกับแม่เพราะเพื่อนๆคุยให้ฟังว่าวันหยุดที่ผ่านมาพ่อแม่พาไปเที่ยวสวนสัตว์มาสนุกมากก็อยากไปเที่ยวบ้าง “งั้นไปโรงเรียนก่อนครับ พรุ่งนี้เราจะไปเที่ยวกันโอเคมั้ยไม่งั้นวันนี้มามี้จะไปทำงานสายแน่ๆ” อรินดาพูดกับลูกชายอย่างอ่อนโยนและเธอพยายามเติมให้ลูกชายทุกอย่างทำหน้าทั้งพ่อและแม่ให้อย่างเต็มที่และโชคดีที่โรงเรียนอนุบาลของลูกชายเป็นโรงเรียนสองภาษาและมีนักเรียนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่พ่อแม่มาทำงานในเมืองไทยและค่าแรงก็แพงเอาเรื่องและเธอวางแผนเรื่องการศึกษาของลูกชายจนจบมหาวิทยาลัยไว้เรียบร้อยและรอให้ลูกชายเข้าเรียนระดับมัธยมก่อนเธออาจจะมองหาบ้านหลังเล็กๆอยู่ดับลูกชาย “มามี้พูดจริงนะครับ” อินทัชลุกขึ้นถามแม่ด้วยความดีใจที่จะได้ไปเที่ยว “จริงสิครับ เดี๋ยวเราชวนน้าบุษไปด้วยดีมั้ยครับ” “ดีแน่นอนค้าบมามี้ งั้นอินไปอาบน้ำก่อนนะค้าบ พี่พันค้าบอินจะอาบน้ำไปโรงเรียนแล้วค้าบ” น้องอินเรียกหาพี่เลี้ยงสาวที่เลี้ยงมาตั้งแต่เด็กและเป็นเหมือนญาติของอรินดาเพราะเธอรู้จักกับพันนีเด็กกำพร้าพ่อแม่เลิกกันและอยู่กับปู่ย่าพอปู่ย่าเสียชีวิตก็ถูป้าสะใภ้กับลูกกดขี่ข่มเหงและที่เธอช่วยก็เพราะว่าเพื่อนลูกชายของป้าจะข่มขืนพันนีก็หนีกระเซอะกระเซิงมาหลบหลังรถเธอแล้วเธอก็พาไปแจ้งความแต่สุดท้ายก็ยอมความเพราะพันนีไม่ได้เสียหายแล้วถูกป้าไล่ออกจากบ้านเธอจึงรับมาอยู่ด้วยกันจนถึงทุกวันนี้และยังช่วยเหลือส่งเสียให้เรียนภาคค่ำจนตอนนี้พันนีใกล้เรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว อรินดามองตามหลังลูกชายเข้าห้องน้ำแล้วยิ้มก่อนจะเดินออกไปบอกพันนีให้มาช่วยอาบน้ำให้เจ้าตัวแสบของเธอแล้วตัวเองก็ไปเตรียมอาหารเช้าให้ทุกคนและช่วงกลางวันหลังจากส่งลูกชายไปโรงเรียนแล้วพันนีก็ไปทำงานพิเศษในร้านกาแฟของบุษบาที่อยู่ห่างจากโรงเรียนของน้องอินแค่หนึ่งป้ายรถเมล์และเป็นร้านกาแฟเพื่อนของอรินดาที่เปิดในย่านโรงเรียนเอกชนชื่อดังและขายดีมากเพราะพ่อแม่ของนักเรียนมักจะไปนั่งดื่มกาแฟทานขนมนมเนยรอรับลูกๆของตัวเองและเลิกงานเวลาสิบสี่นาฬิกาครึ่งเพื่อไปรับน้องอิน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD