บทนำ
ไร้ประโยชน์!!!
คุณหญิงดาราลักษณ์ตวาดเสียงดังสะท้านไปทั่วห้องสายตาของเธอจ้องมองไปที่ลูกเลี้ยงอย่างไม่พอใจ เมื่อ ธารันต์ หาเงินมาใช้หนี้ให้พ่อเลี้ยงปัฐไม่ได้และอีกไม่กี่วันพ่อเลี้ยงปัฐก็จะมาที่บ้านหลังนี้ แล้วเอาตัวลูกสาวของเธออย่าง วัลลภา ไปแต่งงานและเป็นแรงงานที่ไร่ชาเพื่อชดใช้หนี้ทั้งหมดที่เหลือ
“คุณแม่...ทัศทำเต็มที่แล้ว ทุกวันนี้ทัศก็แทบไม่ได้นอน ทำงานเช้าเย็นไม่หยุด ทัศทำเต็มที่แล้วจริง ๆ ” ทัศว่าพร้อมยกมือไหว้ขอความเมตตาต่อผู้ที่เป็นแม่เลี้ยง
“แล้วแกอยากเห็นน้องไปตกระกำลำบากไปเป็นกรรมกรในไร่หรือยังไง!”
“แล้วแม่จะให้ทัศทำยังไง?”
“แกไปแต่งงานกับคนที่ฉันหาให้สิ พวกผู้หญิงแก่แม่หม้ายมันอยู่ไม่นานหรอกเดี๋ยวมันก็ตาย แล้วก็เอาเงินมาช่วยน้องแก ถือซะว่าเป็นค่าน้ำนมที่ฉันเลี้ยงแกมา”
“คุณแม่!!! ทัศทำแบบนั้นไม่ได้ ทัศไม่มีวันขายศักดิ์ศรีตัวเองแน่นอน”
“ทำไมจะทำไม่ได้ แกมันเป็นผู้ชายมันก็ไม่ได้เสียหายอะไรตรงไหนนิ ถือซะว่าทำเพื่อน้องนะทัศ”
“ไม่ได้!!! คุณจะให้ลูกผมไปทำแบบนั้นไม่ได้ ผมไม่ยอม” ผู้เป็นพ่อเอ่ยขึ้น ขณะเข็นรถเข็นเข้ามา “ใครสร้างหนี้ ก็ชดใช้เอง”
“คุณพี่พูดแบบนั้นได้ยังไงคะ คุณพี่ไม่คิดถึงยัยวัลบ้างเหรอ ว่าถ้ายัยวัลถูกพ่อเลี้ยงปัฐเอาตัวไปมันจะเป็นยังไง! คุณพี่ก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าไอ้พ่อเลี้ยงปัฐเป็นปีศาจ เป็นมัจจุราชใจยักษ์ใจมาร” คุณหญิงดาราลักษณ์หันตวาดผู้เป็นสามีเสียงดัง
“แต่ทัศไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเกี่ยวกับหนี้ที่คุณก่อ”
“แต่ฉันเลี้ยงมันมานะคะ มันก็ต้องทดแทนกันบ้างสิ!”
“หนี้ก็หนี้ของคุณ บริษัทก็บริษัทของครอบครัวคุณ ทัศเกี่ยวอะไรด้วย”
“แล้วเงินที่คุณพี่ใช้อยู่ใช้กิน ค่าพยาบาลที่เช็ดขี้เช็ดเยี่ยวพี่คุณอยู่ทุกวันนี้ แล้วก็เงินที่เลี้ยงมันมา...มันเป็นเงินใครคะ?”
“ก็ถ้าคุณไม่อยากส่งวัลไป คุณก็ไปแจ้งตำรวจเอาไว้ก็ได้ ตอนนี้มันสมัยไหนกันแล้วถึงจะติดหนี้ติดสินกันแต่ก็ไม่มีสิทธิ์มาบังคับกันแบบนี้ แฟนเจ้าทัศก็เป็นตำรวจคุณลืมแล้วเหรอ?”
เธอหัวเราะในลำคอเบา ๆ ก่อนจะตอบกลับไปด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยความเย้ยหยัน “ตำรวจกระจอก ๆ แบบนั้นน่ะเหรอ ที่จะทำอะไรพ่อเลี้ยงปัฐได้ ดีไม่ดีมันอาจจะทำให้บริษัทฉันล้มละลายเร็วขึ้นสิไม่ว่า”
“แต่ทัศเชื่อว่าพี่ดอนต้องช่วยพวกเราแน่ ๆ ครับ” ทัศเอ่ยขึ้นด้วยความมั่นใจ
“ถ้าแกอยากให้มันตายเร็ว ๆ ก็เชิญ”
คำพูดของผู้เป็นแม่เลี้ยงทำเอาทัศชะงักงันไปครู่หนึ่ง เมื่อคิดว่าถ้าพี่ดอนไปยุ่งอะไรกับพ่อเลี้ยงปัฐ หน้าที่การงานหรือแม้แต่ชีวิตก็อาจจะรักษาไว้ไม่ได้ “แล้วทัศต้องทำยังไง?”
“เลิกกับไอ้ตำรวจจอมแส่นั่นซะ แล้วก็ออกไปใช้ร่างกายที่ฉันเลี้ยงมาให้เป็นประโยชน์”
คำสั่งที่หนักแน่นและไม่อาจปฏิเสธได้ของคุณหญิงดาราลักษณ์ดังลั่น ราวกับฟ้าลงทัณฑ์ดั่งฟ้าผ่าลงกลางใจของทัศที่ไม่อาจปฏิเสธได้
“ทัศไม่ทำได้ไหม ทัศกับพี่ดอนเรารักกันมาก ทัศทำใจเลิกกับพี่ดอนแล้วไปแต่งงานกับคนอื่นไม่ได้”
“ถ้าไม่จากด้วยการเลิก งั้นจะจากด้วยความตายดีไหม?”
“คุณแม่จะทำอะไรพี่ดอน?”
“แกคิดว่าฉันจะยอมดองกับไอ้คนที่มันพยายามเปิดโปงฉันเหรอ แล้วถ้าแกอยากรู้ว่าฉันจะทำอะไรกับไอ้ดอน แกก็ลองไม่เลิกกับมันดูสิ!”
แม้ว่าบ้านอริชญย์สกุลจะไม่ได้ร่ำรวยด้วยเงินทองเท่าเมื่อก่อน แต่อำนาจของตระกูลยังมีอยู่คับเมืองจนสามารถจัดการกับเจ้าหน้าที่ได้อย่างสบาย
ในอดีตที่ผ่านมา คุณหญิงดาราลักษณ์ก็เคยจัดการตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่เข้ามายุ่งกับธุรกิจของเธอไปหลายราย ไม่ด้วยการทำให้หมดอนาคต ก็หมดลมหายใจไปอย่างเงียบ ๆ
"ทัศจะเลิกกับพี่ดอนก็ได้ครับ แต่คุณแม่ห้ามทำอะไรพี่ดอนเด็ดขาด"
“วันนี้ทัศชวนพี่มาที่นี่ มีอะไรหรือเปล่าครับ” ดอนเอ่ยถามคนรักที่ชวนเขามาที่สวนดอกไม้แห่งหนึ่ง สถานที่ที่ดอนเจอทัศเป็นครั้งแรกและเป็นสถานที่ที่ดอนเคยขอทัศคบเป็นแฟน
“ทัศ...อย่างระลึกความหลังครับ”
“วันนี้มาแปลกนะ ทำอะไรผิดมาหรือเปล่า?” นายตำรวจหนุ่มเอ่ยถามออกไปอีกครั้ง เพราะทุกครั้งที่ทัศทำอะไรผิดมาก็มักจะทำตัวโรแมนติกแบบนี้ แต่ความผิดของทัศที่ผ่านมามันก็ไม่ได้มีอะไรมาก ก็แค่ไม่ตอบแชท ไม่รับสาย และตอนที่ทัศไปทำงานที่บาร์
“ไปทำงานที่บาร์มาอีกแล้วใช่ไหมครับ?”
“เปล่าครับ ตอนนี้ทัศไม่ได้ไปทำงานที่นั่นแล้ว”
“หรือเป็นเรื่องที่ลืมตอบแชทพี่เมื่อเช้า?”
“ใช่...แต่ไม่ใช่เรื่องนั้นแค่เรื่องเดียว”
“ไหนบอกพี่มาสิครับ ว่าทัศไปทำอะไรผิดมากันแน่ พี่จะได้ลงโทษเลยทีเดียว”
ทัศกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เมื่อเห็นสายตาที่มองมามันช่างอ่อนโยนและอบอุ่นเสียยิ่งกว่าอะไรในโลก แต่เพื่อชีวิตและหน้าที่การงานรวมถึงชีวิตของพี่ดอน เขาก็พร้อมยอมที่จะละทิ้งความสุขเพียงหนึ่งเดียวของตน
เพราะเขารู้ดีว่าสิ่งที่แม่เลี้ยงของเขาพูดมันน่ากลัวมากแค่ไหน มือที่ใคร ๆ เห็นว่าขาวสะอาดแท้จริงมันแดงฉานไปด้วยเลือดของคนที่ขัดผลประโยชน์ของเธอ
“เราเลิกกันเถอะครับพี่ดอน”
“ทัศว่ายังไงนะ?”
“วันนี้ทัศจะมาขอเลิกกับพี่ เพราะทัศไม่ได้รักพี่แล้ว”
“ทัศอำพี่เล่นใช่ไหม อย่าเล่นแบบนี้สิ พี่ไม่สนุกด้วยนะ”
“ทัศไม่ได้พูดเล่น ทัศเบื่อ เบื่อที่พี่ยึดมั่นในอุดมการณ์จนหน้าที่การงานของพี่มันไม่ขยับไปไหน เป็นตำรวจจน ๆ ที่ช่วยเหลืออะไรทัศไม่ได้เลย”
“ทัศ....ทัศคิดแบบนี้จริง ๆ เหรอ?”
“ใช่! ทัศคิดแบบนี้จริง ๆ ที่ทัศต้องออกไปหาเงินเช้ายันค่ำ ที่ทัศต้องอดหลับอดนอนเพื่อไปหาเงิน มันก็เพราะทัศตาต่ำมาคบกับคนจน ๆ อย่างพี่”
“ไม่จริง ไม่จริงใช่ไหมทัศ ไหนทัศบอกว่ารับพี่ได้ทุกอย่างไง ต่อให้พี่จะยากดีมีจนทัศก็ยังจะรักพี่” ดอนถามพลางเอื้อมมือไปจับมือเรียวของคนรัก เพื่อบีบคั้นให้อีกฝ่ายตอบความจริงที่ดอนอยากได้ยินออกมา
ทัศนิ่งมองมือที่กำลังกำมือของเขาแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน หัวใจของเขารู้สึกหนักอึ้งราวกับมีอะไรบางอย่างกำลังทับถมเขาเอาไว้ ความเจ็บปวดที่ก่อตัวขึ้นในอกเหมือนจะทะลักออกมาเป็นน้ำตา ทว่าเขาก็ต้องกำกลืนมันเอาไว้ไม่ให้อีกฝ่ายได้เห็น เพราะทัศเองก็ไม่อยากให้ดอนรู้ว่าตัวเขากำลังทนทุกข์ขนาดไหนที่ต้องทำแบบนี้
“ทัศอยากมีชีวิตที่สุขสบาย อยากมีเงินในบัญชีเยอะ ๆ ทัศไม่อยากทำงาน ทัศไม่อยากลำบากทนกัดก้อนเกลือกินกับพี่ แค่นี้มันก็น่าจะเป็นคำตอบที่ชัดเจนแล้วนะครับพี่ดอน...”
“ไม่สิ งั้นทัศไม่ต้องทำงานก็ได้ พี่เลี้ยงทัศได้ เดี๋ยวพี่จะรีบเลื่อนตำแหน่ง รับเงินมาเยอะ ๆ เพื่อใช้หนี้ให้ที่บ้านของทัศก็ได้”
“ไม่! ไม่ได้!” ทัศตวาดดอนออกมาเสียงดังเมื่อดอนคิดที่จะทำในสิ่งที่เกลียดเพื่อเขา “ถึงพี่ทำแบบนั้น ทัศก็ไม่กลับไปหาพี่แล้ว เพราะทัศกำลังจะแต่งงานกับพ่อเลี้ยงปัฐ”
ทัศจำเป็นต้องโกหกแบบนั้นออกไป "ได้ยินไหมว่าทัศกำลังจะแต่งงานกับพ่อเลี้ยงปัฐทวี"
“ไม่ได้ ทัศห้ามไปแต่งงานกับมันนะ ใคร ๆ ก็รู้ว่าวิปริตมากแค่ไหน ถ้าวันหนึ่งมันเกิดบ้าฆ่าทัศขึ้นมาล่ะ”
“แต่มันก็คุ้มที่จะเสี่ยงไม่ใช่เหรอครับ เพราะถ้าทัศรอดก็เท่ากับว่า...ทัศกับครอบจะไม่ได้ต้องลำบากอีก”
...รวมถึงพี่ด้วยนะพี่ดอนของทัศ
“พี่ไม่เชื่อทัศหรอก พี่รู้จักทัศดี แม่ของทัศใช่ไหมที่สั่งให้ทัศให้มาเลิกกับพี่ เพราะพี่เคยเข้าไปยุ่งกับการฮั้วประมูลของบริษัทของแม่ทัศใช่ไหม บอกพี่มาสิทัศ!!!”
“โอ๊ย!!! น่ารำคาญ เมื่อไหร่พี่จะหัดยอมรับความจริงสักทีว่าพี่ไม่มีอะไรสู้พ่อเลี้ยงปัฐได้เลย และถ้าพี่คิดจะเข้าไปยุ่งกับพ่อเลี้ยงปัฐทวี...ทัศกับครอบครัวก็จะตายกันหมด” ทุกคำพูดของทัศทำให้รู้สึกเหมือนหัวใจแตกสลาย แต่เขารู้ดีว่าถ้าไม่ทำเช่นนี้ เขาอาจจะต้องสูญเสียพี่ดอนไปตลอดกาล
ทัศถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ น้ำตาที่เคยกลั้นเอาไว้ก็ไหลอาบทั้งสองแก้มเนียน เขาหันหน้าหนีไม่กล้าแม้แต่จะมองไปยังคนรักที่นั่งอยู่ตรงหน้า “ทัศว่าทัศกลับดีกว่า เหม็นกลิ่นคนจน”
“ทัศ!!! อย่าทิ้งพี่ไป พี่ขอโทษ!!! พี่สัญญาว่าพี่จะหาเงินให้ได้เยอะ ๆ เพื่อมาช่วยทัศ ทัศรอพี่ได้ไหมทัศ!!!” ดอนตะโกนตามหลังอีกฝ่ายไปจนสุดเสียง แต่ทัศก็ยังคงจำใจเดินต่อไปไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง
“คนสมัยนี้มันเห็นแก่เงินจริง ๆ คนแบบนี้มันไม่สมควรได้รับความรักจากใครเลย” ชายที่นอนพักสายตาอยู่บนผืนหญ้านุ่มในทุ่งดอกไม้ยามบ่ายเอ่ยคำพูดนั้นออกมาเบา ๆ พร้อมดวงตาที่เต็มไปด้วยความขุ่นมัวเมื่อได้ยินคำพูดของชายคนหนึ่งที่ชื่อว่าทัศ
การกระทำและคำพูดของชายที่ชื่อว่าทัศ ที่คาดว่าน่าจะเป็นลูกชายของตระกูลที่เขาจะเข้าไปดูตัวในอีกสองวัน มันทำให้ปัฐทวีรู้สึกสะอิดสะเอียนเต็มทน
แล้วสิ่งที่เขาคิดเอาไว้แท้จริงมันก็ไม่ผิด ที่พวกผู้ดีตีนแดงพวกนั้นมันก็มีแต่พวกเห็นแก่เงิน ยอมขายลูกกิน ไร้ศักดิ์ศรีสิ้นดี
“คิดเหรอว่าฉันจะยอมให้พวกแกมาปอกลอกฉันไปได้ง่าย ๆ ฝันไปเถอะ!!!”