กวีบทที่ ๔ เบื้องลึกก่อนเกิด... [2]

1748 Words
ใบหน้าโกรธเกรี้ยวจ้องมองอีกฝ่ายที่ยิ้มเย้ยพร้อมๆ กับเสียงหัวเราะของข้ารับใช้ที่ดูถูกอกถูกใจ "ขำอะไรกัน!! ห้ะ!!" นางตะโกนออกมาอย่างหงุดหงิดพยายามห้ามเสียงหัวเราะที่ทำให้ตอนนี้กลายเป็นคนที่ดูแย่ "เจ้า!! ตามข้ามานี่!!" ซือซินชี้มายังข้ารับใช้คนหนึ่งเพื่อขอให้นางเดินตามออกไป แต่สีหน้าของอีกฝ่ายกลับดูกระวนกระวายเหมือนรับรู้ได้ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับตัวเอง "มองอะไร ข้าบอกให้ตามมา!!" "ไม่ต้อง" ร่างลุกขึ้นจากโต๊ะไม้เดินตรงประจันหน้ากับอีกฝ่าย "คนของข้า ข้าเป็นเจ้านายพวกเขาเจ้าเป็นคนนนอกไม่มีสิทธิ์มาเอาคนของข้าไปที่อื่นถ้าไม่ได้รับอนุญาต!" "นี่! เจ้า ข้าจะบอกท่านเป้ยอี๋!" "ขี้ฟ้องก็ฟ้องไปเลย กลัวตายแหละ!!" "ค..คอยดูเถอะ เจ้า..เจ้า!!" ซือซิวปั้นหน้าขมวดคิ้วด้วยความโกรธก่อนวิ่งจ้ำอ้าวหายออกไปอย่างไม่มีหันกลับ "คอยดูเถอะหมิงเยี่ยน ข้าจะทำให้เจ้าร้องไม่ออกเลย!" "คุณหนูหมินเยี่ยนเจ้าคะ หากท่านทำแบบนั้นข้าเกรงว่านางจะยิ่ง.." "ยิ่งอะไร ถ้านางมารังแกพวกเจ้าก็บอกข้ามาเลย ข้าไม่ทนหรอกนะถ้าให้ผู้หญิงหลายคนต้องมาโดนกดขี่เพราะยัยนั่นน่ะ!" ร่างกอดอกฟุบตัวนั่งลงบนโต๊ะเช่นเดิมท่ามกลางสายตาของข้ารับใช้ที่จ้องมองซุบซิบกันตามภาษา "แต่..ข้าต้องขอบคุณท่าน งั้น..เอาแบบนี้ไหมเจ้าคะ ยามอู่ข้าจะทำเนื้อหมูแบบที่ท่านทานเมื่อตอนนั้นอีกดีไหมเจ้าคะ? " "เอ๊ะ จริงหรอ เอาสิๆ กินกันในครัวนะข้าอยากินกับพวกเจ้า" "ได้เจ้าค่ะ" ท่ามกลางศาลากลางน้ำในสวนที่ส่งเสียงคึกคัก มีเพียงชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ห่างจากศาลาอยู่ไม่ไกลมากนัก สีหน้านิ่งเรียบจ้องมองเจ้าของน้ำเสียงที่กำลังพูดคุยอย่างสนุกสนาน "จื่อฝาน" "...ท่านพี่" ร่างกล่าวทักอีกฝ่ายอย่างนอบน้อม "เรื่องเมื่อหลายอาทิตย์ก่อนที่ออกตามล่าปีศาจที่เข้าสิงร่างของชาวบ้านในละแวก เป็นอย่างที่เจ้าว่า ชาวบ้านส่วนมากที่ถูกเข้าสิง คือชาวบ้านที่หายตัวไปหลังจากขึ้นไปบนภูเขากุ่ยอิงนั่น" "ข้าคิดว่าเราควรตั้งม่านเขตเอาไว้รอบๆ กันชาวบ้านในละแวกไม่ให้เข้าใกล้เขาลูกนั้นก่อนเราจะแก้อาคมที่ผนึกเขากุ่ยอิงนั้นได้" "ข้าเตรียมไว้แล้วอย่างเจ้าว่า อีกมินานม่านก็จะถูกทำลาย" จื่อฝานพยักหน้าตอบรับเงียบๆ แต่ถึงกระนั้นใบหน้าก็ยังคงจ้องชำเลืองมองคนจากในศาลากลางน้ำนั่น "เจ้าชอบนางหรือ? " "....ข้า..มิได้ชอบ" "ตกลง ข้าจะเชื่อแต่..ระยะนี้หลังจากเจ้าแต่งงานเจ้าดูเปลี่ยนไปนะจื่อฝาน" "......" หางตาเคลื่อนจ้องมายังอีกฝ่ายเล็กน้อยก่อนเบือนหน้าหนีไปทางอื่น "แต่ก่อนเจ้าออกจะเป็นคนนิ่งเงียบ มิสุงสิงกับใครมิได้หัวเสียง่าย เอาแต่อยู่ที่หอสมุด ปลีกตนออกไปเล่นดนตรีใต้ต้นไม้ในสวน แต่ประเดี๋ยวนี้กลับหัวเสียง่ายเมื่อทะเลาะกับแม่นางหมิงเยี่ยน" "นางทำตัวมิสุภาพ ข้าเพียงแค่" "เหตุใดล่ะ? นางทำตัวมิสุภาพ แต่บางคนที่ทำตัวมิสุภาพ เจ้ากลับแค่มองผ่านด้วยสายตา แต่พอเป็นแม่นางหมิงเยี่ยนเจ้ากลับตำหนิติติงนางโดยมิปล่อยผ่าน" ".......ข้าขอตัว" จื่อฝานปั้นหน้านิ่งเงียบผละตัวเดินออกมาด้วยท่าทางคลุมเครืออย่างไร้คำตอบ เพราะตนเองนั้นก็แทบไม่รู้แล้วว่าเพราะเหตุใดกันแน่? ... "เฮ้อ...อิ่มแปล้เลย" หน้าแหงนมองท้องฟ้าในยามค่ำคืนที่แสงจันทร์ส่องสว่างเต็มดวง "เผลอแปบเดียวมืดซะแล้ว อาบน้ำนอนดีกว่า ชิ! กลับห้องก็ต้องไปเจอเจ้าบ้าไร้มนุษยสัมพันธ์นั่น น่าเบื่อออ" ในขณะที่กำลังเดินทางกลับมายังห้องของตัวเอง ฝีเท้าวิ่งตรงมายังจือหานขวางทางเอาไว้ "หื้ม..เธอ.. อ้ะ ไม่สิ เจ้า?" เบื้องหน้าคือข้ารับใช้คนหนึ่ง เธอยืนขวางทางจือหานด้วยสีหน้าเจื่อนๆ "ค..คือว่า.." "ว่า? " "ข้า.. ข้ามีเรื่องจะมาบอกท่าน... เอ่อ..แทนคำขอบคุณที่ท่านช่วยพวกเราจากคุณหนูซือซิน" ใบหน้าก้มหน้าก้มตาพูดด้วยน้ำเสียงกึกกัก "อะไรกัน ไม่ต้องก็ได้ แค่เลี้ยงข้าวมื้อกลางวันของวันนี้ข้าก็ดีใจแล้ว" "ท่านรู้จักน้ำตกหงซวน ของที่นี่ไหมเจ้าคะ?" "หงซวน? น้ำตกต้องห้ามของที่นี่น่ะหรอ? รู้จักสิ ข้าอยากจะไปที่นั่น แต่ถูกทุกคนห้ามไว้ว่ามันเป็นเขตหวงห้ามของที่นี่ ทำไมหรอ?" หญิงสาวกลืนน้ำลายหายใจหอบแล้วยิ้มแห้งๆ "คือ.. จริงๆ ที่นั่นมันมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์อยู่หลังน้ำตกนั้น ที่พวกเขาบอกว่า..เป็นเขตหวงห้าม แต่จริงๆ ผู้นำในตระกูลหลินมักแอบไปที่นั่นเพื่อดื่มน้ำจากบ่อทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง..และเยาว์วัย คือ.. ท่านมิเห็นหรือว่าท่านเป้ยอี๋ มีใบหน้าที่อ่อนเยาว์ เพราะท่านดื่มน้ำจากบ่อน้ำตกนั่นเข้าไป ข้าแค่.. จะมาบอกเรื่องนี้..หวังว่าท่านจะไปรักษาตัวที่นั่น...หากมีเรื่องไม่สบายใจ เพราะที่นั่น เล่าลือกันว่าเป็นสถานที่ที่สวยมากๆ .." "...... ไหงเจ้าพูดแล้วถึงท่าทางเหงื่อตกขนาดนั้น สบายดีไหม?" จือหานจ้องมองท่าทางของเธอที่ไม่สู้ดีนัก "ข..ขออภัยเจ้าค่ะ ข้า.. ข้ารู้สึกไม่ค่อยสบายจะไปพักผ่อนเดี๋ยวนี้ ข้าขอตัว" ร่างลุกลี้ลุกลนกล่าวลาขณะวิ่งหายออกไปเงียบๆ ทิ้งไว้แค่ความฉงนอยู่เบื้องหลัง "....น้ำตกหงซวนหรอ.. แอบไปดีไหมนะ เวลานี้รีบไปรีบกลับคงไม่เป็นไร" ฝีเท้าเดินหันหลังให้กับทางไปยังห้องของตนเอง ฝีเท้าเดินฉิวตรงไปยังน้ำตกที่ว่าเรื่อยๆ ด้วยท่าทางไม่ทุกข์ร้อน เสียงน้ำตกไหลเทกระเซ็นลงมายังน่านน้ำด้านล่างด้วยบรยากาศเย็นจากความชื้น "...หื้ม.. ไม่มีใครเฝ้าเลยหรอ?" เท้าไล่เดินตรงมาใกล้กับใต้น้ำตกที่ว่า แต่มันดูเหมือนมีม่านบางอย่างขวางเอาไว้ "ม่าน... กันคนนอกเข้าไปงั้นหรอ?" จือหานยืนมองม่านอาคมที่กำลังขวางทางเอาไว้ด้วยสีหน้าสงสัย ก่อนสูดลมหายใจลึกๆ แล้วตั้งสติ "ไม่ได้อยากใช้หรอกนะแต่.." มือเล็กขยับไล่นิ้วเบาๆ จนกระทั่งมีม่านควันสีดำออกมาจากนิ้วมือ จือหานได้รับพลังมารอีกครั้ง หลังจากที่ได้สัมผัสกับดาบจักรพรรที่เป็นของจือหานคนเก่า นิ้วมือไล่จรดลงบนม่านที่ถูกตรึงไว้ และไม่นาน มันกลับถูกปลดออกอย่างง่ายดาย "เอาล่ะ! ความอยากรู้อยากเห็นมันเป็นของคู่กันกับมนุษย์นี่นะ!" ฝีเท้าเดินฝ่าเข้าไปข้างในอย่างสบายใจ ท่ามกลางเสียงก้องของน้ำตกที่ไหลเชี่ยวลงมา ภายในถ้ำส่องแสงสว่างสวยงามอย่างที่ว่า ใบหน้าตื่นเต้นเดินสำรวจไปทั่วบริเวณ "ส..สุดยอด ดูนั่นสิ แร่? พวกเขารู้หรือเปล่าว่าแร่พวกนี้ราคาตั้งเท่าไหร่น่ะ แต่กลับปล่อยมันประดับรอบในถ้ำเนี่ยหรอ สุดยอดเลย ถ้าเราเกิดเป็นคนในสกุลหลินคงรวยเละกว่านี้ไปแล้ว โอ๊ะนั่น บ่อน้ำที่ว่าหรือเปล่านะ?" สายตาสะดุดมองวิ่งหยุดมายังบ่อน้ำส่องแสงกระทบจนเป็นสีเขียวสด "โห..นี่น่ะหรอบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์น่ะ แอบกินสักหน่อยคงไม่เสียหาย...อึก.." มือกำลังสัมผัสลงกับน้ำที่ดูเชื้อเชิญให้ดื่ม แต่ใบหน้านั่นกลับกระตุกฉุกคิดขึ้น "....ศักดิ์สิทธิ์...จริงๆ น่ะหรอ ทำไม..ฉันถึงรู้สึกว่ามัน..มีความรู้สึกแปลกๆ" ฝีเท้าเริ่มก้าวถอยหลังอย่างไม่สบายใจขณะนึกย้อนไปยังสาวคนดังกว่าที่ท่าทางแปลกๆ "มีใครบางคนบังคับให้เธอพูดให้เรามาที่นี่ อึก!" บ่อน้ำที่เคยเป็นสีเขียวบริสุทธิ์ค่อยๆ กลายสภาพเป็นสีแดงย้อมไปด้วยเลือด จือหานรีบไหวตัววิ่งหนีหลบจากที่ที่อันตรายแต่มิทันการเสีย ไอหมอกสีดำพวยพุ่งฉุดรั้งดึงร่างกลับเข้าไปในบ่ออย่างรวดเร็ว "อั๊ก! บ้าเอ้ย! " มือจิกลงบนพื้นรั้งไม่ให้ร่างจมลงไปอย่างสุดกำลัง แต่ไม่ว่ายังไงเรี่ยวแรงที่มีกลับหดหายเรื่อยๆ ด้วยแรงกระชากจากบ่อจนกระทั่งจมลงไป "อึก..อั๊ก" "จือหานเจ้าปีศาจ! " "ข้า..ข้าไม่ได้ทำร้ายเขา ข้าไม่ได้ตั้งใจ ข้าไม่ได้ทำเขา!" "ปีศาจ! อย่ามาใกล้ลูกข้า!" เสียงเรียกด้วยถ้อยคำกรีดแทงลอยลึกเข้ามาในหู เสียงเด็กชายที่กำลังร้องไห้อย่างน่าเวทนากับเสียงสาปแช่งนับร้อยนับพัน เกิดอะไรขึ้นกัน? ไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้เลย ในอีกด้านหนึ่ง ฝีเท้าเดินตรงมายังห้องนอน เปิดประตูออกกว้าง แต่ไร้วี่แววของใครบางคนที่ควรกลับมาตั้งนานแล้ว "......" ร่างสูงกวาดตามองไปรอบๆ อย่างสงสัยก่อนจะมีหญิงสาวคนหนึ่งวิ่งตรงเข้ามาด้วยน้ำตาที่อาบเต็มแก้ม "......" "คุณชายรอง ค..คุณชาย! ฮึก..คุณหนู.. น้ำตก... ยกโทษให้ข้าด้วย...." แววตาเรียบนิ่งเปลี่ยนเป็นท่าทีทุกข์ใจ ฝีเท้าวิ่งออกไปอย่างรวดเร็วอย่างร้อนรนท่ามกลางความแตกตื่นในเหลียงผิง ... ชายหนุ่มผู้หนึ่งรีบเดินตรงเข้ามายังตำหนักใหญ่ ท่าทางร้อนรนนั่งคำนับบุคคลผู้สูงศักดิ์อยู่เบื้องหน้า "นายท่าน" แผ่นหลังกว้างจ้องมองทิวทัศน์เบื้องหน้าก่อนหันหลังกลับมา ภายใต้หน้ากากครึ่งใบหน้าดูเยือกเย็นและน่าหวาดกลัว "ได้ความว่าอย่างไร" "...มีข่าวจากลี่เหลียน ขอรับ" "เอ่ยมา" "...ท่านจือหาน...ข่าวว่าท่านจือหานสูญเสียความทรงจำหลังจากบำเพ็ญญาณวิชามาร มิอาจกลับมาร่วมแผนการกับท่าน... อึก! อ๊าก!!" ไอหมอกโหมกระหน่ำเข้าร่างกายของชายดังกล่าว ร่างดิ้นทุรนกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดท่ามกลางสีหน้าหวาดกลัวของเหล่าทหารเฝ้าระวัง "....จือหาน.... ข้าจะเอาเจ้ากลับมาด้วยตัวข้าเอง" ... *ย่ามอู่ 11:00-12:59 อย่าลืมเม้นให้กำลังใจหรือติติงข้อผิดพลาดกันได้นะคะ เม้นกำลังใจนี่แหละ ทำให้ไรต์ขยันอัพ55
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD