บทนำ ทฤษฎีโลกกลม
บทนำ ทฤษฎีโลกกลม
เจ้าของเสียงรองเท้าส้นสูงประมาณห้านิ้วสีแดงสด ก้าวเดินเข้ามาภายในตึกด้วยความมั่นใจ ใบหน้าสวยหวานแต้มเครื่องสำอางจัดจ้าน ซึ่งมองจากดาวอังคารยังเห็นถึงความเซ็กซี่ของหล่อน ‘จารวี’ รู้ว่าตนเองกำลังเป็นจุดเด่น ด้วยทุกสายตาหันมามองเธอเพียงคนเดียว
ชุดเดรสที่สวมใส่อยู่นั้น แม้ว่าจะทับด้วยเสื้อกั๊กตัวนอก แต่ก็ยังคงอวดขาเรียวสวยให้หนุ่ม ๆ ได้ชื่นชม แต่พวกเขาทำได้เพียงแค่มองเท่านั้น ไม่มีใครกล้าหาญมากพอจะเดินเข้ามาชวนหล่อนคุย
หญิงสาวตรงไปยังเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ของบริษัท เธอเป็นนักศึกษาจบใหม่ ที่เรียนจบได้ด้วยทุนการศึกษาของบริษัทนี้ ในตอนที่เธอรับทุนได้มีการเซ็นสัญญาว่าหากเรียนจบจะต้องกลับมาเป็นพนักงานของที่นี่เท่านั้น
อาทิตย์ก่อนเธอได้ส่งเรซูเม่มาแล้ว ส่วนเมื่อวานนี้ก็มีการสัมภาษณ์เป็นที่เรียบร้อย จารวีจึงได้เริ่มงานวันนี้นั่นเอง
“สวัสดีค่ะ ดิฉันจารวี มาเริ่มงานวันนี้เป็นวันแรก ตำแหน่งผู้ช่วยเลขาของท่านประธานค่ะ”
“สักครู่นะคะ”
พนักงานตรงประชาสัมพันธ์ รื้อเอกสารตรงโต๊ะก่อนจะพบว่ามีข้อมูลเรื่องงานในวันนี้ของเธอจริง ๆ จึงค้นหาบัตรพนักงานให้กับอีกฝ่ายขณะที่จารวีกวาดตามองไปรอบ ๆ สองครั้งที่เคยมาไม่ได้มีโอกาสได้สำรวจที่นี่มากนัก หล่อนจึงตั้งใจเอาไว้ว่าวันนี้จะเดินสำรวจให้ทั่ว
“ขอโทษที่ให้รอนะคะ บัตรพนักงานค่ะ ที่นี่ไม่มีการตอกบัตรเข้างาน แต่จะใช้เป็นการสแกนลายนิ้วมือก่อนเข้าตึกทางด้านนั้นนะคะ”
“เข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ”
หญิงสาวยิ้มตอบ เธอไม่ได้มีเสน่ห์แค่กับเพศตรงข้ามเท่านั้น หากแต่กับเพศเดียวกันก็ยังดูจะเป็นไอดอลของพวกสาว ๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหรือว่าหน้าตา หล่อนดึงดูดไปเสียหมด
เจ้าของความสวยระดับนางงาม เดินไปสแกนลายนิ้วมือ เธอพกความมั่นใจมาเต็มร้อยในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ หลังพบเจอกับมรสุมที่แสนโหดร้ายมาตลอดสิบปี
แม้จะมีบางช่วงเวลาที่เหมือนกับความฝัน เพราะฟ้าได้ส่งเทพบุตรคนหนึ่งมาให้กับเธอ เขาเป็นเหมือนฝันดีตลอดหนึ่งปีของหล่อน...
หากแต่เพราะนั่นคือความฝัน...
เมื่อถึงวันหนึ่งต้องตื่นขึ้นมาพบกับความจริง หล่อนถึงได้รู้ว่า…ไม่มีอะไรยั่งยืนตลอดไป..
..ความรักก็เช่นกัน มันไม่มีอยู่จริงตั้งแต่แรก
'เคกรุ๊ป' เป็นบริษัทแม่ของผับ ‘เคไนท์’ ที่มีสาขากระจายอยู่ทั่วทั้งประเทศ เป็นผับของคนรวยมีระดับ ซึ่งรองรับแต่ลูกค้าระดับวีไอพีขึ้นไปเท่านั้น จึงเป็นเหตุผลที่เคไนท์กลายเป็นจุดเช็คอินอวดคนอื่นยามราตรีของพวกคนรวยที่จะต้องลงรูปอัปสตอรี่แข่งกันว่าได้มาเยือนแล้ว ประชาชนคนธรรมดาหาเช้ากินค่ำ อย่าหวังจะได้ย่างกรายเข้าไปในที่แห่งนี้
นอกจากนั้นยังเป็นเจ้าของกาสิโนแห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศ ที่เพิ่งจะได้สัมปทานกาสิโนทางภาคเหนือไปเมื่อสามปีก่อน เคกรุ๊ปจึงกลายเป็นบริษัทที่ทรงอิทธิพล เพราะทำเงินหมุนเวียนให้กับประเทศแต่ละเดือนไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันล้าน ทำให้ประธานของที่นี่ถูกเรียกว่า... ‘มาเฟีย’
แม้หลายคนจะมองว่ามันคือบริษัทที่ทำธุรกิจสีเทา หากแต่ไม่ว่าจะเป็นผับหรือกาสิโนล้วนแล้วแต่ถูกกฎหมายทั้งสิ้น จารวีจึงไม่สนใจคำพูดเหล่านั้น สำหรับเธอแล้วถ้าไม่ได้ทุนการศึกษาจากเคกรุ๊ป ก็คงไม่มีวันเรียนจบได้ เท่ากับว่าหล่อนติดหนี้บุญคุณประธานผู้มอบโอกาสให้
“สวัสดีค่ะพี่ลูกเกด”
เธอเดินเข้าไปทักทาย ‘การะเกด’ เลขาของประธานบริษัท ซึ่งเป็นคนที่สัมภาษณ์เธอเมื่อวานนี้ นอกจากจะใจดีแล้วยังเป็นกันเอง แถมรวยอารมณ์ขันมาก ๆ อีกด้วย การมาเริ่มงานวันแรกจึงไม่ได้น่ากังวลสำหรับหญิงสาวเท่าไหร่นัก
“อ้าว วี มาแล้วเหรอ ตรงเวลามากเลยนะเนี่ย นึกว่าท่านประธานมาเองเสียอีก”
“วีไม่ชอบคนไม่ตรงต่อเวลา ก็เลยต้องเป็นคนตรงต่อเวลาเสียเองค่ะ อีกอย่างเริ่มงานวันแรกด้วย จะมาสายกว่าที่นัดไว้ได้ยังไงล่ะคะ”
พูดไปยิ้มไป ภาพลักษณ์ของเธอในตอนนี้แม้จะดูเซ็กซี่และสวยสง่า แต่อีกมุมหนึ่งก็มีความเข้าถึงง่ายเพราะหล่อนจะแจกยิ้มไปทั่ว
“วันนี้ท่านประธานจะเข้าสาย ไว้ท่านมาแล้วพี่จะพาวีไปแนะนำตัว ส่วนเรื่องงานวันนี้ เดี๋ยวพี่จะเอารายละเอียดเกี่ยวกับท่านประธานทั้งหมดรวมถึงตารางงานในเดือนนี้ ให้วีลองทำความเข้าใจดูก่อน หลัก ๆ ก็ช่วยงานพี่นั่นแหละ อาจต้องไปคอยตามดูแลท่านประธานแทนพี่ เพราะพี่คงใส่ส้นสูงวิ่งตามท่านไม่ไหวแล้ว”
คนฟังขมวดคิ้วมุ่นด้วยไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร การะเกดรู้ว่าเธอสงสัยจึงลุกขึ้นจากเก้าอี้ นั่นทำให้หล่อนเห็นว่าแท้จริงแล้วคนพูดกำลังตั้งครรภ์อยู่
“พี่ลูกเกด…ท้องหรือคะ”
“ใช่จ้ะ เมื่อวานนี้คงไม่เห็นสินะ เพราะว่าพี่ไปนั่งรออยู่ก่อน”
จารวีพยักหน้า เมื่อวานนี้เธอไม่ได้สังเกตจริง ๆ ว่าคนที่มาสัมภาษณ์กำลังท้อง ด้วยอีกฝ่ายมานั่งรออยู่ในห้องตั้งแต่แรก จนกระทั่งสัมภาษณ์เสร็จก็ยังนั่งอยู่ที่เดิม
“ถ้าอย่างนั้นพี่ลูกเกดต้องพักเยอะ ๆ นะคะ มีอะไรก็เรียกใช้วีได้เลย ไม่ต้องเกรงใจเลยค่ะ”
“ขอบคุณนะ กว่าท่านประธานจะยอมให้พี่มีผู้ช่วย ก็จนท้องโย้ขนาดนี้ แต่วีไม่ต้องคิดมากนะ ท่านประธานเป็นคนปากร้ายแต่ใจดี แถมยังใจง่ายอีกด้วย”
ประโยคหลังนี้การะเกดแอบกระซิบให้ฟัง หญิงสาวถึงกับหลุดขำ มาวันแรกก็ได้ร่วมนินทาเจ้านายกันเสียแล้ว
“แล้วท่านประธานเป็นแบบที่เห็นในหนังมั้ยคะ ที่ต้องมีชายชุดดำหน้าโหด ๆ คอยตามประกบแล้วก็พกปืนตลอดเวลา”
“มีแต่ในละครเท่านั้นแหละแม่คุณ ที่นี่ไม่ใช่บ้านป่าเมืองเถื่อน ไม่มีใครกร่างได้ขนาดนั้นหรอก แต่เวลาไปไหนมาไหนก็จะมีบอดี้การ์ดคอยดูแลอยู่สองสามคนนะ เพราะตอนช่วงประมูลสัมปทานกาสิโนก็โดนปองร้ายเยอะอยู่เหมือนกัน”
นึกว่าเป็นคนรวยแล้วจะสบายเสียอีก วิถีชีวิตของคนมีเงินดูอันตรายมากกว่าคนหาเช้ากินค่ำอย่างหล่อนเป็นไหน ๆ
กริ๊ง ๆ
สนทนากันได้ไม่เท่าไหร่ ก็มีสายเรียกเข้ามาที่โทรศัพท์ภายใน บนโต๊ะของการะเกด หญิงสาวยกหูโทรศัพท์ขึ้นมารับสายก่อนจะทำท่าตกใจ
“อะไรนะ ท่านประธานมาแล้วเหรอ ไหนบอกว่าวันนี้จะเข้าสายไง โอเค ๆ ขอบใจมากที่โทรมาบอก”
“ท่านประธานมาแล้วเหรอคะ”
“ใช่แล้ว วีเตรียมตัวเลย เดี๋ยวท่านจะเดินเข้าประตูนั้นมา เราก็สวัสดี แล้วพี่จะพาไปแนะนำตัวข้างใน”
จารวีลุกขึ้นยืนเพื่อรอรับท่านประธานตามที่การะเกดบอก ไม่นานก็มีเสียงลิฟต์ดังขึ้น ก่อนเงาของร่างสูงจะเดินมาหยุดอยู่ตรงประตู แล้วรอจนมันเปิดออกจึงเดินเข้ามา หญิงสาวรีบยกมื้อไหว้สวัสดีเขา พร้อมก้มหน้าลงอย่างนอบน้อม และไม่ลืมที่จะแนะนำตัวเองสั้น ๆ
“สวัสดีค่ะท่านประธาน ดิฉันจารวี มาเริ่มงานวันนี้เป็นวันแรกในฐานะผู้ช่วยของคุณการะ…”
น้ำเสียงหวานขาดหายไปเมื่อเงยหน้ามองท่านประธาน แล้วพบว่าใบหน้าของเขาช่างแสนคุ้นเคย เหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน หลังครุ่นคิดไปได้เกือบวินาทีก็นึกออก...
...เขาคือฝันดีของเธอเมื่อสี่ปีก่อน!
เป็นไปได้อย่างไรกัน ทฤษฎีโลกกลมใช้กับเรื่องแบบนี้ได้ด้วยหรือ ทั้งที่ไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้เจอหน้ากันอีก แล้วไหงจู่ ๆ มาปรากฏตัวให้เห็นเสียอย่างนั้น
“คุณ…!”
“ผมบอกคุณแล้วไง ว่าโลกนี้มันกลม”
รอยยิ้มร้ายกาจแต้มขึ้นบนใบหน้าของเขา! ทันที่ที่พูดจบ