รับสมัครเมีย
“ ปีนี้อายุเท่าไหร่แล้วอากวง? ”
“ 39 ครับอี๊ ”
“ แล้วเมื่อไหร่ลื้อจะแต่งงาน? ”
ตะเกียบที่กำลังตั้งท่าจะคีบฮะเก๋าเป็นอันต้องชะงักลงชั่วขณะ กวงคิดไว้อยู่แล้วว่ามางานรวมญาติประจำปี มันจะต้องเจอคำถามอะไรประมาณนี้ เพราะประสบพบเจอด้วยตัวเองมานานนับสิบปี
เรียนที่ไหน?
ได้เกรดเฉลี่ยเท่าไหร่?
ต่อมหาวิทยาลัยคณะอะไร?
จบเกียรตินิยมไหม?
ทำงานอะไร?
จนมาถึง...
เมื่อไหร่จะแต่งงาน?
เหตุการณ์ซ้ำเดิมกับคำถามแนวนี้ เริ่มมาตั้งแต่เข้าเรียนชั้นอนุบาลก็ว่าได้ ครอบครัวของ กวง กวินทร์ หลี่เจริญ เป็นครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีนครอบครัวใหญ่ ความสัมพันธ์จัดอยู่ในประเภทรักกันดี แต่ก็ตีกันตาย (เป็นบางครั้ง)
เรื่องผลประโยชน์และความก้าวหน้าในชีวิต ถ้าลูกเธอเป๊ะ ลูกฉันก็ต้องเป๊ะ
“ ดูสิเนี่ย อาไผ่อีจนมีลูกสองคน ส่งเรียนโรงเรียนนานาชาติแล้ว ลื้อยังไม่ไปไหนมาไหน ”
“ อากวงอีเลือกมากน่ะอาเจ๊ หาเมียทั้งทีจะเอามานั่งเลี้ยงลูกใส่ทองไปวัน ๆ ไม่ทำงานทำการได้ที่ไหน ”
ชิ้นฮะเก๋าหอมฉุยถูกแม่บังเกิดเกล้าคีบมาวางไว้ให้ในจาน พร้อมตั้งการ์ดรับคำถามแทนกวงอย่างเช่นทุกที ไม่เพียงเท่านั้นยังตบกลับด้วยความจริง ที่ทำให้ป้าของกวงถึงกับคิ้วกระตุก
อี๊สุ่ยมีลูกชายวัยไล่เลี่ยกับกวงหนึ่งคนชื่อไผ่ แต่ไหนแต่ไร สาวสูงวัยสองคนนี้ก็แข่งกันเลี้ยงลูกชายคนเดียวของครอบครัวมาตลอด ถ้าไอ้ไผ่มันได้เรียนโรงเรียนนานาชาติ กวงต้องได้เรียนโรงเรียนนานาชาติที่แพงกว่า หรือถ้ามันสอบติดมหาวิทยาลัยดังในไทย กวงต้องได้ไปเรียนมหาวิทยาลัยที่ดังกว่าถึงต่างประเทศ
มาแพ้มันอยู่อย่างเดียว...คือมันมีเมียตั้งแต่ยังเรียนไม่ทันจบดี จนตอนนี้ลูกมันสองคนโตทันใช้แล้ว ส่วนเมียมันพอได้ผัวรวยเป็นทายาทโรงสีใหญ่ ก็ไม่ได้ทำงานทำการอะไร อยู่บ้านเป็นแม่บ้านเลี้ยงลูกไปตามหน้าที่
กวงไม่ได้สนใจ เขาเลิกคิดจะแข่งขันกับใครมานานแล้ว เมื่อก่อนอาจจะใช่..มันเป็นความรำคาญที่มักจะได้ยินการโดนเปรียบเทียบในหมู่พี่น้องอยู่เสมอ แต่ทุกวันนี้ตัวใครตัวมัน
กวงคิดว่าเขาก็ประสบความสำเร็จลอยลำ จนพี่น้องคนอื่นเทียบไม่ติดแล้ว
กวินทร์ หลี่เจริญ ในวัย 39 ปี มาพร้อมธุรกิจโรงงานอาหารอบแห้งส่งออกขายต่างประเทศทั่วโลก เงินก็มี บ้านก็ใหญ่โต กับอีแค่ไม่มีเมียมันจะเดือดร้อนอะไรนัก !
“ ไอ้หยา ผัวทำงานหนักจะตายห่า เป็นเมียก็ดูแลบ้าน ดูแลลูก ดูแลป๊าม๊าก็ถูกแล้ว อาพิมอีน่ารักไม่เคยขาดตกบกพร่อง ”
“ .... ”
“ นี่นะอากวง ลื้อจำไว้ว่าหาเมีย หาให้มันได้อย่างอาพิมนี่ ”
อี๊สุ่ยชี้ตะเกียบไปที่น้องสะใภ้ของกวงซึ่งกำลังนั่งอมยิ้มบาง ๆ กวงเหลือบมองหญิงสาววัย 35 ปี ที่ใส่ทองเต็มคอเต็มแขน แต่สีหน้าเหนื่อยล้าไม่ได้มีความสุขเท่าไหร่ แล้วก็พยักหน้าเห็นด้วยกับอี๊สุ่ยแบบส่ง ๆ
ผัวไม่ค่อยกลับบ้านกลับช่อง มีเมียน้อยไม่รู้กี่คน มีดีอย่างเดียวคือรวย พิมยืนไม่ได้ด้วยขาของตัวเอง เพราะตั้งแต่เรียนจบก็เลี้ยงลูกอย่างเดียว กินใช้เงินผัวโดยไม่เคยทำงานมีเงินเป็นของตัวเอง มีความสุขแน่นะ?
“ ครับอี๊ อีกไม่นานกวงคงได้พามาแนะนำบ้าง ”
“ .... ”
“อี๊เตรียมเงินใส่ซองให้กวงด้วยนะครับ ระดับกวงแต่งงานทั้งที ซองอี๊ต้องไม่ต่ำกว่าเจ็ดหลักนะ”
ว่าจะไม่แล้วเชียว แต่มันอดไม่ได้ เส้นทางการแข่งขันของลูกชายในตระกูลหลี่เจริญท่าจะไม่มีวันจบลงง่าย ๆ หากไม่มีใครเป็นฝ่ายแพ้ให้เห็นเป็นรูปธรรม ตะเกียบในมือถูกยื่นไปคีบฮะเก๋าอีกชิ้นส่งไปวางในจานอี๊สุ่ยด้วยมือของกวงเอง
“ พูดจริงเหรออากวง? ”
“ จริงครับ อี๊กล้าใส่ซองไหมสักสามล้าน ”
“ เหอะ! เอาเมียลื้อมาดูหน้าให้ได้ก่อนแล้วจะใส่ให้ ”
“ โอเค ”
ชายหนุ่มว่าเท่านั้น สงครามขนาดย่อมก็เปลี่ยนหัวข้อและเป้าหมายไปที่เรื่องพี่น้องคนอื่นต่อ บรรยากาศบนโต๊ะอาหารครอบครัวคุยกันเซ็งแซ่จนฟังไม่ทัน ก่อนจะจบลงด้วยการแจกอั่งเปาให้พวกหลาน ๆ แล้วแยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมัน
กวงเกือบคิดว่าวันนี้คงจบลงด้วยดีแล้ว ถ้าไม่เห็นว่าแม่บังเกิดเกล้ายืนเท้าสะเอว รอเค้นเอาเรื่องสำคัญที่เขาได้พูดไว้กับอี๊สุ่ยบนโต๊ะอาหาร
“ ลื้อซุกเมียเหรออากวง? ”
ซุกก็แย่....
“ มะม่วงอบแห้งล็อตนี้มันถูกตีกลับน่ะเฮีย กว่าจะมาถึงเราก็ขึ้นราหมดเลย ”
ฝ่ามือใหญ่เสยผมสีเข้มของตัวเองลวก ๆ เช้าวันนี้กวงตื่นมาทำงานพร้อมด้วยปัญหาใหญ่ให้แก้ไข โดยมีน้ำเพชรหรือแนนเลขาคู่ใจคอยรายงานสถานการณ์ให้
“ ทั้งหมดกี่ตู้? ”
“ 12 ตู้ค่ะ ”
“ สาเหตุ? ”
“ ของที่ส่งไปติดวันหยุดยาวประเทศอินโดนีเซีย ศุลกากรปลายทางไม่เปิดทำการ ของมันเลยค้างอยู่ท่าเรือหลายเดือน ลูกค้าแจ้งตีกลับ ”
เรียวคิ้วหนาขมวดยุ่ง จนเลขาสาวที่รวมงานกันมาหลายปียังต้องลอบเม้มปาก ในออฟฟิศนี้ใครจะไม่ปลื้มเฮียกวงบ้าง ความหล่อและส่วนสูงใกล้เคียงพระเอกซีรี่ย์จีนซะขนาดนี้ ขนาดเวลาเครียดยังเท่จะบ้า ยิ่งอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำพับแขน สวมใส่นาฬิกา Audemars Piguet ยิ่งทวีความเรียบหรู
“ หาเมียให้หน่อยดิแนน ”
“ คะ? ”
หญิงสาวที่กำลังมองเจ้านายหนุ่มด้วยสายตาวาดฝันถึงกับอ้าปากค้าง เมื่อกี๊เธอพึ่งรายงานเรื่องมะม่วงอบแห้ง 12 ตู้คอนเทนเนอร์ ถูกตีกลับจากประเทศอินโดนีเซียแล้วขึ้นราไม่ใช่เหรอวะ
เกี่ยวอะไรกับหาเมีย ?
ใช่หน้าที่ของเลขาประธานบริษัทอาหารอบแห้งหรือเปล่าเอ่ย ?
“ เฮียว่าอะไรนะคะ? ”
“ หาเมียมาให้หน่อย ”
“ ทำไมเฮียพูดง่ายเหมือนให้แนนไปหาดูสวนมะม่วงแบบนั้นคะ ”
แนนถลึงตาเลิ่กลั่ก เธอทำงานกับบริษัทมาปีนี้ก็เข้าปีที่แปด ไม่ว่าจะงานอะไรที่เฮียกวงสั่ง หญิงสาวพร้อมจัดหาให้ได้ในพริบตา อยากอบมะม่วงก็ไปกว้านเหมาสวนมาให้ อยากอบผักก็พร้อมซื้อที่ ไถดิน จ้างคนงานปลูกผักเป็นพันไร่ เสกผักมาให้เฮียอบขาย
แต่เรื่องหาเมียมันตัวใครตัวมันจริง ๆ เพราะแนนก็ยังหาผัวไม่ได้เหมือนกันค่ะ !
“ แล้วมันยากตรงไหนวะแนน ”
“ ถ้ามันง่าย เฮียจะโสดมาจนป่านนี้เหรอคะ? ”
ขนาดเฮียกวงมีรูปเป็นขุมทรัพย์ขนาดนี้ ยังมีแค่เด็กเลี้ยงรายทาง คบหาสั้น ๆ แล้วพอเบื่อก็จบกันไป ส่วนแนนนั้นไม่มีแม้แต่เงินจะเลี้ยงเด็กด้วยซ้ำ
“ เรามาแต่งงานกันไหมล่ะคะเฮีย แนนยินดีเสียสละ ”
“ กูจะอ้วก ”
กวงพูดเท่านั้นก็เสยผมหนักกว่าเดิม มะม่วง 12 ตู้ที่ขึ้นรา ยังไม่น่าปวดหัวเท่าเอาไอ้แนนมาเป็นเมีย ไม่ใช่ว่าเลขาของเขาหรือผู้หญิงคนอื่น ๆ มันไม่ดี แต่กวงรู้ตัวว่าตัวเองเป็นประเภทรักคนยาก ถ้าได้รักใครแล้วก็ฝังใจอยู่อย่างนั้น สเป็คคนที่เลี้ยงดูส่วนมากก็ใกล้ ๆ เคียงคนเดิม อย่างกับเป็นตัวตายตัวแทน แต่พอนึกได้ว่าเหมือนคนนั้นแต่ไม่ใช่ตัวจริง ไม่นานก็เบื่อไปเอง
แก่จน 39 ปี ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าความรักคืออะไร รู้แค่ตอนนี้กำลังทำให้ม๊าผิดหวังจนไม่ได้พูดคุยกันมาเป็นสัปดาห์แล้ว
‘ ทีหลังถ้าแค่พูดพล่อย ๆ ลื้อไม่ต้องพูดนะกวง รู้ไหมว่าม๊าดีใจแค่ไหนตอนที่ลื้อบอกอี๊สุ่ยว่าเดี๋ยวจะพาเมียมา ’
ไอ้กวงมันลูกอกตัญญู ในที่สุดก็ทำให้แม่ร้องไห้เสียน้ำตาในวัยที่ควรได้อุ้มหลาน เขารู้ดีว่าแม่เองก็รอคอยที่จะได้เห็นอีกความสำเร็จหนึ่งของตนเองมาตลอดเช่นกัน
ที่ผ่านมาแม่ไม่เคยบังคับเรื่องชีวิตคู่กับกวงเลยสักครั้ง อดทนรอคอยปีแล้วปีเล่ามาโดยตลอด ไม่เร่งเร้า ไม่จี้ถาม แถมยังปกป้องทุกครั้งที่มีคนสงสัยใคร่รู้
เป็นเขาเองที่มันละเลย...
“ ทะเลาะกับที่บ้านมาเหรอเฮีย ? ”
“ ก็เปล่า...แค่สงสารที่ม๊ารอจัดงานแต่ง ”
เลขาสาวถอนหายใจ มันก็น่าเห็นใจอยู่หรอก ลูกชายคนเดียวโตจนจะเข้าวัย 40 แล้ว ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีครอบครัว หนักกว่านั้นคือทางบ้านเฮียไม่เคยรู้สาเหตุเลย เข้าใจไปเองว่าลูกชายบ้างาน โหมสร้างอาณาจักรโรงงานเพื่อเป็นนักธุรกิจแถวหน้า
แต่เปล่าเลย...ในใจมันยังติดค้างอยู่กับใครคนหนึ่งมาเป็นสิบกว่าปี...
“ เอาอย่างงี้สิคะเฮีย... ”
“ .... ”
“ เฮียมีตังค์ เฮียก็จ้างเมียเอา จ่ายเท่าไหร่ก็ว่าไป รายเดือนหรือรายปี ”
“ พูดง่ายจังวะ ”
“ มีเงินอะไรก็ง่ายหมดแหละค่ะ ทำอย่างกับเฮียไม่เคยเลี้ยงเด็ก ”
กวงพยักหน้าเห็นด้วย แต่ครั้งนี้มันจะไม่ใช่การเลี้ยงดูหรือคบหากันชั่วคราวแล้วน่ะสิ มันต้องแนบเนียนยิ่งกว่านั้นมาก ทั้งพาไปพบป๊าม๊า กินข้าวรวมญาติกับครอบครัวใหญ่ทุก 1-2 เดือน ไปไหนมาไหนด้วยกันในฐานะเมีย ที่สำคัญคือโปรไฟล์ต้องดีพอจะอวดลุง ป้า น้า อา ที่จับตามองอยู่ด้วย ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าพามาแล้วถูกพูดจาถากถาง
คนอย่างไอ้กวงถ้าลงสนามมันต้องชนะขาดลอยเท่านั้น ไม่ให้หม่าม๊าขายหน้าใคร
“ งั้นก็ไปหามาตามนี้... ”
กระดาษเอสี่เปล่าหนึ่งใบบนโต๊ะทำงาน ถูกกวงหยิบขึ้นมาร่างคุณสมบัติสะใภ้คนโตตระกูลหลี่เจริญ ไล่ตั้งแต่รูปร่างหน้าตา ไปจนถึงประวัติการศึกษาและพื้นฐานครอบครัว ใช้เวลาอยู่สักพักหนึ่งจึงเลื่อนกระดาษในมือส่งให้แนนอ่านดู
คุณสมบัติเมียเฮียกวง
1. สูง 160 ขึ้นไป ไม่เกิน 170 เพราะกูสูงแค่ 182 เดี๋ยวจะเหลื่อมล้ำผัว
2. ผิวขาว เพราะวันยกน้ำชาต้องใส่ชุดสีแดง เดี๋ยวจะไม่เด่น
3. ผมดำตรงยาวถึงกลางหลัง เวลาทำท่าด็อกกี้แล้วจะเซ็กซี่มาก
4. หน้าตาสวยกว่าแนน ดูใจดี ไม่ด่าผัว ไม่วีนผัว เพราะกูก็ขี้วีนอยู่แล้ว
5. จบปริญญาโทขึ้นไปสาขาไหนก็ได้ และต้องทำงานได้ครอบจักรวาลที่ผัวสั่ง
6. ครอบครัวฝ่ายหญิงต้องไม่มีปัญหาใด ๆ ทั้งสิ้น ในการทำงานนี้
7. เงินเดือน 100K ถ้าขึ้นเตียงได้ให้ 150K
8. ระยะเวลาสัญญาไม่ต่ำกว่า 3 ปี เวลาทำงานไม่แน่นอน ต้องพร้อมสแตนด์บาย
สาบานว่านี่คือคุณสมบัติของเมียอัตราจ้าง?
แนนกลอกตาขึ้นเพดาน คิดได้ว่าไม่น่าไปเสนออะไรแปลก ๆ ให้เจ้านายเลยตั้งแต่แรก เดือดร้อนตัวเองต้องมาตามหาผู้หญิงที่มีคุณสมบัติล้นฟ้านี้ให้เฮียกวงอีก ข้ออื่นยังพอทน แต่หาคนจบปริญญาโทขึ้นไปแนนพอเลย
“ โปรไฟล์จบปริญญาโทจะมาเป็นเด็กเลี้ยงเฮียทำไมคะ ข้อนี้ขอลดหน่อยไม่ได้เหรอ ”
“ ไหนว่ามีเงินทำได้ทุกอย่าง? ”
“ ก็มัน... ”
“ หามาตามนี้แหละ ถ้าหาได้มีค่าคอมให้ คุณสมบัติน้อยกว่านี้ไม่เอา ”
กวงยักคิ้วให้ลูกน้อง เงินน่ะเขามีพร้อม แต่คนที่ตรงใจพอที่จะพาออกจากวังวนตกหลุมรักคนคนเดิม มันยังหาไม่เจอ นี่ให้ไอ้แนนไปหาตามคุณสมบัติข้างต้น มันยังบ่นว่ายาก แล้วจะให้กวงทำยังไงได้อีก
“ แล้วเรื่องมะม่วงล่ะคะเฮีย ? ”
“ ลูกค้าเร่งให้เราส่งของให้เราก็ส่งให้แล้ว ศุลกากรปลายทางเป็นเรื่องของเขาที่เคลียร์ไม่ได้เอง หยุดยาวมันหยุดกี่วัน ถึงเดือนเหรอ ? ”
“ ก็ไม่ค่ะ... ”
“ ก็แปลว่ามันเคลียร์ภาษีกับศุลไม่ลงตัว มันไม่อยากจ่าย ของเลยค้างอยู่ในเรืออย่างนั้น แล้วมาหัวหมอตีกลับ ”
“ .... ”
“ ไม่ต้องคืนเงินค่าสินค้า แล้วปรับค่าตู้มันตามจำนวนวันด้วย ”
“ แต่นี่ลูกค้ารายใหญ่นะเฮีย ! ”
“ ใหญ่แค่ไหน ถ้าสันดานโกงกูก็ไม่ขาย ! ”
“ ค่าาาา แนนจะจัดการให้ ”
เชื่อยังว่าเฮียกวงขี้วีน เอะอะก็ขึ้นมึงกูกับเลขาสาวตัวบางร่างเหล็ก ใช้งานทีต้องเป๊ะปังอลังการตลอด มีดีแค่หน้าตาที่หล่อเหมือนฟ้าประทาน ที่เหลือแล้วแต่อารมณ์ในวันนั้น ๆ ของคุณท่านอีกที ยิ่งกว่าสตรีมีเมนส์
ใครได้ไปเป็นผัวเวรกรรมฉิบหาย