สร้อยทองน้ำหนักหนึ่งบาทที่แม่สามีในนามให้เป็นของรับขวัญ มีนพกติดกระเป๋าสะพายเอาไว้เสมอ เผื่อว่าบังเอิญพบเจอคุณนายหลินโดยไม่ได้คาดหมาย จะได้หยิบมาสวมใส่ได้ทัน อย่างเช่นวันนี้ที่จู่ ๆ ออฟฟิศก็ครึกครื้นเพราะแม่เจ้านายมาพร้อมซาลาเปาร้อน ๆ ไส้หมูแดงยกมาแจกจ่ายทุกคน
“ สวัสดีค่ะหม่าม๊า ”
มีนที่เดินออกมาจากห้องทำงาน รีบยกมือไหว้แม่สามีในนามทันที หลังจากที่มีพนักงานเข้าไปแจ้ง เธอรีบสวมสร้อยทองคำซึ่งเป็นของรับขวัญ สำรวจความเรียบร้อยแล้วจึงออกมาต้อนรับคุณนายหลิน พอเห็นแววตามีความสุขของคนสูงวัยกว่าหญิงสาวก็พลอยอบอุ่นใจไปด้วย
“ ม๊าทำกับข้าวเที่ยงมาให้ แล้วอากวงไปไหน ? ”
“ เฮียลงไปตรวจโรงงานกับพี่แนนค่ะ ”
ปิ่นโตใหญ่ห้าชั้นถูกมีนอาสาเป็นคนรับมาถือ ก่อนประคองพาคุณนายหลินเข้าไปตากแอร์รอในห้องทำงานลูกชายหัวแก้วหัวแหวน คุณนายหลินพึงพอใจมากที่ลูกสะใภ้ออกมาต้อนรับ ยิ่งได้เห็นมีนในชุดทำงานสีสุภาพ รวบผมเรียบร้อย ในคอสวมใส่สร้อยที่ให้ไว้ยิ่งประทับใจจนปริ่มในอก ภูมิใจจริง ๆ ที่ลูกชายเลือกคู่ชีวิตได้ดี
“ ม๊าลืมถาม.. ”
“ อะไรเหรอคะม๊า ”
“ น้องมีนย้ายมาอยู่กับอากวงหรือยัง ? ”
ดวงตากลมโตกะพริบปริบ ๆ คุณกวงมีห้องพักอยู่ชั้นบนของตึก เพราะขี้เกียจเดินทางไปมาระหว่างบ้านกับโรงงานที่อยู่ถึงย่านบางใหญ่นนทบุรี ส่วนมีนนั้นพักอยู่ที่คอนโดของตัวเองแถวจรัญสนิทวงศ์ ขับรถไปกลับก็พอไหว ใช้เวลาราว 40 นาที
“ ยังค่ะม๊า เอ่อ...ก็มีบ้างที่เฮียแวะไปค้าง ”
ด้วยสถานะที่ถูกฝ่ายชายแนะนำใครต่อใครไปว่าเป็นเมียเต็มปาก ภรรยาอัตราจ้างจึงเสริมทับให้ดูน่าเชื่อถือไปด้วย ทำเอาคนฟังอย่างคุณนายหลินถึงกับฟินจนยิ้มไม่หุบ หัวใจคนสูงวัยพองโต อีทรงนี้คงได้อุ้มหลานเร็ว ๆ นี้แน่นอน ไอ้กวงมันเป็นลูกกตัญญูจริง ๆ
“ แล้วจะรออะไรอยู่ล่ะ โต ๆ กันขนาดนี้แล้ว อีกหน่อยหนูก็แต่งเข้าบ้าน ถ้าไอ้กวงมันกล้าเทหนูม๊าจะจัดการมัน ”
“ จะดีเหรอคะม๊า ”
“ ดีซี่ เดี๋ยวม๊าจะไปดูหมู่บ้านจัดสรรใกล้ ๆ แถวนี้ให้ ทั้งหนูทั้งอากวงจะได้มาทำงานสะดวก ”
“ เอาอย่างงั้นเหรอคะม๊า ”
“ เอาอย่างนั้นเลย บ้านหลังนี้ให้ใส่ชื่อหนู ม๊ายกให้เป็นสินสอดดีไหม ? ”
ลูกสะใภ้คุณนายหลินยิ้มจนแก้มจะฉีก ร่างเล็กกอดอ้อนแม่สามีในนามด้วยความรู้สึกอบอุ่น น่าอิจฉาภรรยาตัวจริงของคุณกวงในอนาคต ที่มีพ่อแม่สามีแสนดีขนาดนี้
“ เดี๋ยวรอถามเฮียก่อนดีกว่าค่ะ ”
“ นั่นไงมันมาพอดี มานี่อากวง ”
คุณกวงในวันนี้อยู่ในชุดเสื้อยืดโอเวอร์ไซซ์สีดำ กางเกงยีนสีเข้ม รองเท้าผ้าใบ และหมวกแก๊ปสีเดียวกับเสื้อ ดูทะมัดทะแมงในการลงตรวจงาน แถมยังลดอายุลงไปอีกหลายปีเลยทีเดียว ครั้งแรกที่มีนเห็นเขาในลุคที่แตกต่างออกไป ตอนที่มาถึงออฟฟิศช่วงเช้า เธอนึกว่าคุณกวงมีน้องชายหน้าเหมือนกันที่อายุไล่เลี่ยกับเธอเสียอีก
“ ได้ยินอะไรแว่ว ๆ ว่าบ้านจัดสรรนะม๊า ? ”
ลูกชายคนเดียวถอดหมวกออกวางบนโต๊ะทำงาน ใช้มือเสยผมระบายความร้อนอบอ้าว พร้อมกับถามแม่บังเกิดเกล้าไปด้วย ก่อนจะโดนคุณนายหลินหยิกเอาที่สีข้างจนตัวงอ
“ โอ๊ย ! อะไรของม๊าาาา ”
“ ลื้อปล่อยให้เมียขับรถไปกลับบ้านกับที่ทำงานได้ไงห๊ะ ? ”
“ ก็... ”
“ แก่จนจะ 40 ไม่มีปัญญาเลี้ยงเมียให้อยู่สบาย ๆ เหรอไอ้กวง ”
จากอากวงลูกชายคนเดียวของป๊าม๊า กลายเป็นไอ้กวงลูกอกตัญญูไปแล้ว ชายหนุ่มเลิกคิ้วไปทางเมียอัตตราจ้างเพื่อขอคำตอบ มีนไม่ได้พูดอะไรนอกจากยิ้มอย่างเดียว
“ อีกหน่อยน้องมีนก็แต่งเข้าบ้าน ม๊านัดซินแสดูฤกษ์แล้ว เลยว่าจะหาดูบ้านจัดสรรแถวนี้ไว้ให้เป็นเรือนหอ จะได้ให้น้องย้ายมาอยู่สะดวก ๆ ”
“ อ่าห๊ะ ”
ก็ไม่ได้ผิดคาดจากที่คิดไปเท่าไหร่ เรื่องพวกนี้ก็มีอยู่ในสัญญาอีกเช่นกัน สักวันหนึ่งกวงและมีนก็ต้องมาอยู่ร่วมชายคาเพื่อปฏิบัติภารกิจไปอย่างน้อยอีกสามปี ยังไงบ้านที่ซื้อก็ต้องหลังใหญ่พอให้แยกห้องนอนของใครของมันอยู่แล้ว
“ ม๊าเลยว่าจะซื้อเป็นชื่อน้องมีน ย้ายมาอยู่ด้วยกันก่อนแต่งจะได้ไม่น่าเกลียด ยังไงก็ถือเป็นสินสอด ”
แต่อันนี้แหละที่ผิดคาดไปมาก...กวงคิดว่าเขาจะซื้อด้วยตัวเอง หรือถ้าพ่อแม่ซื้อให้ ยังไงก็ต้องซื้อเป็นชื่อลูกชาย ไม่คิดมาก่อนว่าแม่ตัวเองจะทุ่มให้ลูกสะใภ้ขนาดนี้ ระดับคุณนายหลินซื้อบ้านจัดสรร ยังไงก็ต้องเลือกโครงการที่ขึ้นชื่ออยู่แล้ว ราคาไม่น่าต่ำกว่าสิบล้าน
“ มีนก็เลยบอกให้ม๊าถามเฮียดูก่อนค่ะ อันที่จริงแค่ย้ายมาอยู่ที่นี่ก็สะดวกดี ”
มีนเคยได้ขึ้นไปชั้นบนที่เป็นห้องพักของคุณกวงแล้วเมื่อหลายวันก่อน เพราะมีเสื้อผ้าที่ส่งซักนำมาส่งให้ พี่แนนจึงไหว้วานให้เธอนำกุญแจขึ้นไปเปิด ภายในห้องนั้นกว้างขวาง ตกแต่งหรูหราเรียบง่ายโทนสีขาว ดำ เทา สมกับเป็นห้องชายหนุ่มนักธุรกิจ เครื่องอำนวยความสะดวกสบายมีครบ เหมือนเพ้นเฮ้าท์หรู ๆ ห้องหนึ่ง
“ ไม่ได้ ๆ บ้านก็คือบ้าน ที่ทำงานก็คือที่ทำงาน ที่ผ่านมาม๊าหยวนให้เพราะไอ้กวงมันตัวคนเดียว ”
กวงพยักหน้าเห็นด้วย พอมีห้องพักอยู่ในที่ทำงานแล้ว เขาก็ใช้ชีวิตอยู่แต่ในโรงงานอาหารอบแห้งนี้ แทบไม่ได้ออกไปไหนเลย จะมีนาน ๆ ครั้งที่โผล่ไปเที่ยวกลางคืนบ้างเวลาพวกเพื่อน ๆ ชวน
“ ตามที่ม๊าเห็นว่าดีเลยครับ กวงมันตกกระป๋องแล้วนี่ ”
“ แต่ว่า... ”
“ เฮียเคยบอกว่าผู้ใหญ่ให้ของก็ให้รับไว้นะมีน ”
ประโยคสุดท้ายเขาหันมาดุมีนเล็กน้อย เธอจึงได้แค่พยักหน้ารับ แล้วยกมือไหว้ขอบคุณแม่สามีในนามอีกครั้ง เอาไว้วันครบกำหนดสัญญาค่อยไปโอนคืนให้คุณกวงก็แล้วกัน ของชิ้นใหญ่ขนาดนี้มันเกินกว่าที่มีนจะรับไหว
ถึงยังไงเธอก็ตั้งใจจะเก็บเงินไปขอซื้อบ้านของพ่อแม่คืนอยู่แล้ว
“ เอ้อ วันก่อนอาเจ๊สุ่ยโทรมาหาม๊า ว่าเจอลื้อกับน้องมีน บ่นใหญ่เลยว่าอายุห่างกันเกินไป เดี๋ยวจะไปไม่รอด ”
“ .... ”
“ น้องมีนอย่าไปถือสานะลูก คนแก่ก็อย่างนี้ ม๊ารออุ้มหลานไปอวดอี๊สุ่ยแล้ว จะมาไม่รอดอะไรกัน ”
“ .... ”
“ เข้าใจไหมไอ้กวง ? ”
“ ถามลูกสะใภ้ม๊านู่น เขาเป็นคนอุ้มท้อง ”
“ ก็ลื้อเป็นคนทำ ก็ต้องถามลื้อด้วย ”
กวงส่ายหัว แล้วของแบบนี้มันทำคนเดียวได้ที่ไหน ถึงไอ้กวงจะไม่อยากให้หม่าม๊าน้อยหน้าใคร แต่มันไม่สามารถตบมือข้างเดียวได้นะม๊า ในสัญญาก็ระบุชัดแล้วด้วยว่าไม่ยุ่งเกี่ยวกันเรื่องบนเตียง หลานม๊าท่าจะรออีกนานไม่มีกำหนดแล้วล่ะ
“ แล้วให้เฮียทำไหมคะน้องมีน ทำลูกอ่ะ ”
พอคิดอะไรไม่ออก กวงก็หาเรื่องโยนมาให้เมียอัตราจ้างเงินเดือนหนึ่งแสนบาทเป็นคนตอบ มีนอึกอักหาเสียงของตัวเองไม่เจอ พอโดนเขามองด้วยสายตาระยิบระยับแพรวพราวคล้ายเร่งหาคำตอบที่น่าพอใจยิ่งไปต่อไม่ถูก นักเอนเตอร์เทนมืออาชีพถึงกับช็อตไปชั่วขณะ
มันใช่เรื่องที่พูดโจ่งแจ้งต่อหน้าคนอื่นได้เหรอ อีตาคนนี้นี่ !
“ ไอ้หยาา หน้าแดงหมดแล้ว มา ๆ ไปกินข้าวกันดีกว่า ม๊าก็ไม่ได้รีบเร่งอะไร แต่อยากอุ้มหลานปีหน้าเลย ”
เอวคอดเว้าภายใต้สุดเดรสสีครีม ถูกวงแขนของกวงประคองเข้ามืออย่างเป็นธรรมชาติ หลายวันมานี้เวลาที่ต้องเดินเคียงข้างกันออกสู่สายตาลูกน้องในออฟฟิศ ทั้งสองคนก็สวมบทบาทโดยอัตโนมัติทันที ส่วนมากมีนเป็นคนเริ่มก่อน เพราะเธอเป็นฝ่ายลูกจ้าง คว้ามือเขามาจับบ้าง ควงแขนเขาบ้าง แต่หลัง ๆ มาฝ่ายสามีในนามก็เริ่มชิน แล้วก็รู้จักเป็นฝ่ายเริ่มเฉพาะเวลาที่ต้องอยู่กับคนนอก
“ มา ๆ นั่งลง ๆ ม๊าตักให้เอง กินเยอะ ๆ จะได้มีแรงทำหลาน เอ๊ย ทำงาน ! ”
เห็นแม่บังเกิดเกล้าอารมณ์ดีกวงก็อารมณ์ดีตามไปด้วย ร่างสูงทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟารับแขกข้างกันกับเมียอัตราจ้างโดยไม่เว้นระยะห่าง แขนข้างหนึ่งวางทิ้งบนหน้าตักของมีนที่สวมใส่เดรสกระโปรงทรงเอสั้นครึ่งต้นขา ปล่อยให้เจ้าตัวได้ตักอาหารป้อนเข้าปากสามีไปตามหน้าที่
มีเมียก็สบายดีไปอีกแบบแฮะ ต่อหน้าพ่อแม่ญาติโยมไม่ต้องคีบอาหารเองแล้ว เมียจัดการคีบยัดปากให้หมด ทำงานคุ้มราคาเว่อร์
“ ดูเถอะ มันเป็นง่อยให้เมียป้อนแล้ว ”
“ ม๊าอิจฉาก็ป้อนข้าวป๊าบ้างดิ ”
“ ป๊าลื้อแก่จนจะลงโลง ”
คุณนายหลินพูดเท่านั้นก็จัดแจงเทน้ำเทท่าใส่แก้วไว้ให้ทั้งลูกชายลูกสะใภ้ ก่อนจะขอตัวออกไปพูดคุยเม้าท์มอยกับพวกพนักงานด้านนอก ปล่อยให้สองหนุ่มสาวเขาใช้เวลาเป็นส่วนตัวด้วยกันสักครู่ เผื่อว่าไอ้แก่นี่มันอยากจะออดอ้อนเมียในระหว่างวันบ้าง เพราะแม่ก็ช่วยปูทางให้เต็มที่แล้ว อีกอย่างคือคุณนายหลินจะไปแจกจ่ายซองแดงให้พวกพนักงานช่วยเป็นหูเป็นตาดูแลลูกสะใภ้ให้ด้วย
“ ไปอ้อนอีท่าไหนคุณนายถึงได้เปย์บ้านให้เนี่ย งาน PR สกิลสูงขนาดนี้เลยเหรอ ? ”
เมื่อลับสายตาแม่ไปแล้ว กวงที่ยังนั่งอยู่ท่าเดิมไม่ได้ขยับออกก็เอ่ยขึ้น เขาไม่ได้ว่าอะไรถ้าบ้านหลังนั้นจะเป็นชื่อของมีน อย่างที่บอกไปว่าถ้าแม่ของเขามีความสุขที่จะได้จ่าย เขาก็ไม่ขัด เพียงแค่อยากรู้เทคนิคเฉย ๆ
เพราะอันที่จริงตัวเองเคยไปเที่ยวกลางคืนมาแล้ว ไม่เคยเจอใครที่จะดูแลบริการดีจนต้องแจกทิปหนักเลยสักครั้ง อีน้องอีหนูแต่ละคนชงเหล้าเข้มเหมือนจะให้เฮียกวงไปตาย กินวันนี้ตื่นอีกทีวันหน้า จองมาหนึ่งชั่วโมงมันอ้อนอยู่สามคำ ที่เหลือยัดเหล้าเข้าปากรัว ๆ
“ ก็พูดอะไรที่ลูกค้าอยากฟังค่ะ ถ้าพูดตรงใจ เท่าไหร่เขาก็จ่าย ”
มีนตอบคำถามไปด้วย คีบเอาชิ้นไก่ต้มน้ำปลาเข้าปากสามีในนามไปด้วย เธอเองก็ไม่ได้ขยับหนีเปลี่ยนท่าทาง และก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดอะไร เมื่อสมัยทำงาน PR ก็ใกล้ชิดลูกค้าประมาณนี้อยู่แล้ว
งาน PR หรือ KTV ในต่างประเทศจะเป็นการจองเข้ามาล่วงหน้า เธอจะได้รับทั้งค่าชั่วโมง ค่าดื่ม และค่าทิปด้วยหากลูกค้าประทับใจ แต่ส่วนใหญ่คนจะเน้นไปที่การเชียร์ดื่มมากกว่า ได้ทั้งเงิน ทั้งไม่เปลืองตัวมาก ชงเหล้าถี่ ๆ เพื่อทำยอดดื่ม จะได้รีบหมดชั่วโมง ในขณะที่มีนเป็นคนทำงานแบบเน้นพูดคุย ปล่อยให้ลูกค้าได้ระบายอะไรที่อยู่ในใจ แล้วเธอก็ตบซ้ำในคำพูดที่ลูกค้าอยากได้ยิน
พวกคำพูดหวานหูชโลมจิตใจ คนฟังมันไม่เคยรอดสักราย สุดท้ายก็ให้ทิปหนัก ๆ จนคาดไม่ถึงมานักต่อนัก
“ อย่างเช่น ? ”
กวงขมวดคิ้ว ต้องการพิสูจน์ว่ามันจะซักแค่ไหนกันเชียว เมียอัตราจ้างนี่มีวิธีหว่านล้อมแบบไหน ถึงได้บ้านทั้งหลังไปในระยะเวลาอันสั้น แม่เขาเป็นคนใจดีใจกว้างก็จริง แต่ก็เป็นไม้แก่ที่เหนียวและเคี่ยวพอตัว ก่อนนี้เขายังกังวลเลยว่าการพามีนไปแนะนำกับที่บ้านจะราบรื่นดีหรือไม่
“ อย่างเช่นว่า... ”
เสียงเล็กทวนคำของกวง มือเรียววางตะเกียบลง ย้ายมากอดควงลำแขนแกร่งไว้แนบอก ให้ความนุ่มนิ่มของทรวงอกได้บดเบียดใกล้ชิดชายหนุ่ม รับรู้ได้ว่าเขาเกร็งตัวขึ้นเล็กน้อย ฝ่ามือใหญ่ที่วางอยู่ตรงหน้าตักเผลอขยำต้นขาขาวด้วยความลืมตัว มีนขยับหน้าเข้าไปใกล้ใบหูของเขา ป้องมือกระซิบเบา ๆ ให้ได้ยินกันเพียงสองคน
“ วันนี้เฮียแต่งตัวหล่อมากเลย เห็นครั้งแรกนึกว่าอายุเท่า ๆ กัน ใจเต้นผิดจังหวะเลยอ่ะ วันหลังแต่งอีกนะ มีนชอบ ”
เสียงกระซิบกระซาบหวานหู แถมยังพูดจาน่าฟังในสิ่งที่กวงอยากได้ยิน จึงพาลให้มุมปากมันยกขึ้นเองโดยไม่มีสาเหตุ เด็กมันยังออดอ้อนเอาใจด้วยการเอียงใบหน้ามาซบไหล่อีก กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ทำเอาไอ้แก่มันเคลิ้มไปชั่วขณะ จนอยากจะนั่งกินข้าวเที่ยงอีกสักสามชั่วโมง
“ เย็นนี้ไปดูแหวนไว้ไหมล่ะ ม๊าจะได้เชื่อสนิทใจหน่อย ”
“ วงเล็ก ๆ ก็พอค่ะ ได้มาเยอะเกินไปแล้ว ”
“ ผู้ใหญ่ให้อะไรก็รับไว้ ”
“ ค่ะเฮีย ”
เออน่ะ...รู้จักไหว้ลงตรงอกไอ้แก่อีก เอากำไลอีกสักอันไว้ใส่คู่แหวนไหมล่ะ...