“คุณยังไม่หายโกรธผมอีกเหรออลิซ ผมขอโทษก็ได้ที่ไม่ได้บอกความจริงคุณตั้งแต่แรก” เจย์เดนวกกลับมาเรื่องเดิมซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้หญิงสาวโกรธเคือง เมื่อได้ยินดังนั้นอลิชารีบตัดบทเปลี่ยนเรื่องหนีทันทีเพราะไม่อยากจะคุยเรื่องนั้นกับเขาอีกแล้ว
“ตกลงคุณจะไม่เปลี่ยนห้องให้ฉันใช่มั้ยคะ?” เธอถามพลางมองหน้าเขานิ่ง เจย์เดนไม่ตอบแต่กลับอมยิ้มแทน อลิชาเม้มปากเล็กน้อย รู้สึกไม่ชอบสายตาที่เขาใช้มองมาเลย มันเหมือนกับว่ากำลังท้าทายกันอย่างไรไม่รู้ เธอละสายตาจากเขาแล้วทำท่าจะลากกระเป๋าเดินหนีออกมา “ก็ได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้นฉันจะขอแลกห้องกับคนอื่น”
“ใครก็ตามที่ยอมแลกห้องกับคุณ ผมจะไล่เขาออก”
“นี่คุณ!!” คำพูดของเจย์เดนทำให้อลิชาหันกลับมาจ้องหน้าเขาด้วยความไม่พอใจทันที มือเล็กกำที่จับกระเป๋าแน่น รู้สึกอยากจะยกกระเป๋าขึ้นฟาดเขาแรง ๆ สักทีให้หายหงุดหงิดไปเลย!
มีใครเคยบอกไหม… เจย์เดนเป็นผู้ชายที่เอาแต่ใจและน่าโมโหที่สุดในโลกเลย!
“ผมพูดจริงนะ และเชื่อเถอะว่าไม่มีใครยอมแลกกับคุณหรอก”
“คุณนี่มัน… เหอะ! ฉันถามจริงเถอะค่ะ คุณทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร? ปล่อยให้ฉันอยู่ของฉันเงียบ ๆ เหมือนคนอื่นไม่ได้เหรอคะ ฉันไม่อยากให้ใครมานินทาหาว่าฉันเป็นเด็กเส้นของคุณนะ”
“อ้อ ที่แท้ก็เพราะแบบนี้นี่เอง คุณกลัวคนอื่นจะนินทาหรอกเหรอ” ปลายนิ้วเรียวยกขึ้นแตะคางตัวเองเหมือนกำลังขบคิด เธอจ้องท่าทางเขาอย่างระแวดระวัง
ผู้ชายคนนี้เดาใจยากจะตาย ใครจะไปรู้ล่ะ! ภายใต้รอยยิ้มแสนเท่นั่นอาจจะซ่อนด้านมืดเอาไว้ก็เป็นได้
“ถ้าเข้าใจแล้วก็ช่วยเปลี่ยนห้องให้ฉันด้วยค่ะ”
“ไม่ครับ คุณพักห้องตรงข้ามกับผมนี่แหละดีแล้ว สะดวกดี” เจย์เดนตอบกลับหน้าตาย รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ยังคงไม่จางหายไปจากใบหน้าแสนหล่อนั่น
“สะดวกอะไรของคุณกัน ฉันเหนื่อยที่จะพูดกับคุณแล้วนะคะคุณเจย์เดน” อลิชาพูดออกมาอย่างเหนื่อยอกเหนื่อยใจ หรือเธอต้องยอมนอนห้องสวีทนั่นจริง ๆ ล่ะเนี่ย เพราะดูท่าแล้วงานนี้เธอคงจะเอาชนะเขายาก เจย์เดนมีอำนาจมากขนาดนั้นนี่ พนักงานตัวเล็ก ๆ อย่างเธอจะเอาอะไรไปสู้กับเขาได้!
“ถ้าเหนื่อยก็ขึ้นไปพักผ่อนก่อน แล้วเย็น ๆ ค่อยลงมาเดินเล่นริมชายหาด บอกไว้ก่อนว่าทะเลที่นี่สวยมากเลยนะ คุณจะต้องชอบแน่ ๆ” เจย์เดนไม่พูดเปล่าแต่กลับแย่งกระเป๋าในมือเธอมาลากแทน อลิชารีบเดินตามเขาเข้าลิฟต์พร้อมกับทำท่าจะแย่งกระเป๋าคืน
“นี่คุณ! เอากระเป๋าฉันคืนมานะคะ ฉันถือเองได้”
“ไม่เห็นเป็นไรเลย ยังไงซะห้องเราก็ไปทางเดียวกันอยู่แล้ว”
“คุณไม่เป็นแต่ฉันเป็นนี่คะ!”
“เป็นอะไรเหรอ?”
เจย์เดนขยับตัวเข้าใกล้ร่างบางมากกว่าเดิม แม้ภายในลิฟต์จะไม่ได้แคบอะไร ทว่าพอเจอสายตาพราวระยับของเขา อลิชากลับรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังตัวเล็กลงเรื่อย ๆ เธอค่อย ๆ ถอยหลังหนีทีละนิดจนแผ่นหลังชนกับพนังลิฟต์ มือหนาข้างที่ยังว่างถูกยกขึ้นมาทาบลงบนพนังเพื่อกักกันไม่ให้เธอหลบหนี
“คะ คุณจะทำอะไร… ถอยออกไปเลยนะ!” มือเล็กถูกยกขึ้นผลักดันแผ่นอกอันแข็งแกร่งของเจย์เดน เธอรู้สึกได้ว่าตอนนี้มือตัวเองกำลังสั่นมาก ถึงแม้อลิชาจะเคยมีเพื่อนผู้ชายอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เคยใกล้ชิดกับใครเท่านี้มาก่อน
“ผมกำลังจะเช็คดูไงว่าคุณเป็นอะไรหรือเปล่า”
“โอ๊ยไม่ต้องค่ะ! ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว ถอยออกไปเลยนะ ในลิฟต์มันมีกล้องนะคุณ ไม่อายบ้างเลยหรือไง”
ใบหน้าสวยเบี่ยงหนีลมหายใจร้อน ๆ ที่เป่ารดข้างแก้มจนขนในกายลุกเกรียวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ใบหน้าหล่อชวนใจสั่นอยู่ใกล้เธอเพียงระยะฝ่ามือ เขาเข้ามาใกล้เธอเกินไปแล้วนะ!
“หน้าคุณแดงนะอลิซ เขินผมเหรอ…”
“ฉันร้อนต่างหากค่ะ!”
“โกหกตกนรกนะคนดี… แต่ถ้าพูดความจริงคืนนี้อาจได้ขึ้นสวรรค์”
เจย์เดนกระซิบน้ำเสียงเซ็กซี่ไม่พอยังมองด้วยสายตาร้อนแรงอีกด้วย อลิชาหันกลับมาสบตากับเขานิ่งเหมือนต้องมนต์สะกดบางอย่าง ริมฝีปากหนาเผยรอยยิ้มแสนละลายใจ ก่อนที่ระยะห่างระหว่างทั้งสองคนจะค่อย ๆ ลดลงจนสติของหญิงสาวเริ่มพร่าเบลอชั่วขณะ…
ไม่นะยัยลิชา… เธออย่าหลงเคลิ้มไปกับเขาเชียวนะ! ทำใจให้เข้มแข็งไว้สิ! อย่าหวั่นไหวกับผู้ชายคนนี้เด็ดขาด! ท่องเอาไว้ จำเอาไว้ เขาเป็นใครแล้วเธอเป็นใคร… ไม่อย่างนั้นเธอคงจะหนีคำว่า ‘เอาตัวเข้าแลก’ ไม่พ้นแน่ ๆ
ติ๊ง…
เสียงประตูลิฟต์เปรียบเสมือนเสียงระฆังสวรรค์ เจย์เดนหยุดชะงักริมฝีปากที่อยู่ห่างจากริมฝีปากเล็กน่ารักเพียงไม่กี่เซนต์ เขาหยุดนิ่งอยู่อย่างนั้นราวกับกำลังแกล้งเธอ สายตาที่เขาใช้มองมามันช่างเรียกร้องเสียเหลือเกิน
ไม่นะ! พอเถอะ!
พรึ่บ!
“ฉันขอตัวค่ะ!” อลิชารีบผลักเขาออกจากตัวแล้วสาวเท้าเดินออกมาจากลิฟต์ ภายในหัวใจเต้นกระหน่ำราวกับมีใครมาตีกลองรัวเร็วในนั้น เจย์เดนเป็นผู้ชายคนแรกที่เข้ามาปั่นป่วนความรู้สึกของเธอได้มากมายขนาดนี้ ซึ่งมันน่ากลัวมากสำหรับเธอ…
บ้าจริง เธอไม่อยากมีความรู้สึกแบบนี้กับใครเลย… ต่อไปนี้เธอคงต้องระวังเขาให้มากกว่าเดิมเป็นสิบเท่าแล้วสิ! ผู้ชายคนนั้นอันตรายเกินไป… อันตรายต่อหัวใจเธอเกินไปแล้ว!