พี่สาวนิสัยไม่ดี 1

1318 Words
บทที่  1 พี่สาวนิสัยไม่ดี               นอกกำแพงบ้านหลังใหญ่ที่มีความยาวเกือบหนึ่งร้อยเมตร ร่างเด็กหญิงวัยสิบห้าปียืนอยู่ติดกำแพง ดวงตาของเธอมองลอดผ่านรูอิฐบล็อกไปยังภาพครอบครัวแสนอบอุ่นของเจ้าของบ้าน ที่กำลังนั่งเล่นอยู่กลางสนามหญ้า             เธอน่าจะอยู่ตรงนั้น อยู่กันพร้อมหน้าพ่อแม่ลูกท่ามกลางความอบอุ่น มิใช่อยู่กันตามลำพังกับมารดาที่ถูกทิ้งขว้างอย่างไม่ใยดี มีแต่ความเจ็บปวดเท่านั้นที่เธอสัมผัสได้ตั้งแต่รู้ความจริง             น้ำตาเม็ดเล็กหยดไหลเป็นทางขณะที่เด็กหญิงมองภาพนั้น ภาพอันแสนเจ็บปวดใจ ยิ่งมองยิ่งเจ็บ แต่เธอก็เลือกที่จะยืนมองภาพนั้นให้ตอกย้ำความแค้นที่ฝังเข้าลิ่มเลือด ให้หยั่งลึกถึงความปวดร้าวของตนเอง เพื่อวันหนึ่งเธอจะถ่ายเทความรู้สึกที่ได้รับให้กับสองแม่ลูกที่พรากทุกอย่างไปจากตน             “พ่อจะรู้ไหมคะว่า มีหนูอยู่ในโลกนี้” วชิราภรณ์พูดเบาๆ กับตัวเอง พร้อมกับน้ำตาหลั่งไหลไม่ขาดสาย “แต่สักวันพ่อจะต้องรู้ หนูจะทำให้พ่อรู้ว่า พ่อมีลูกคนนี้อีกคน”             มือเล็กปาดน้ำตาทิ้ง หยุดการสะอื้นไห้ จ้องมองไปยังเด็กหญิงหน้าตาสะสวยอยู่ในอ้อมกอดของชายสูงวัยที่คงไม่รู้ว่า กำลังถูกพี่สาวต่างมารดาอาฆาตแค้น ย้ำบอกตนเองว่า สักวันหนึ่งจะพรากความสุขของน้องสาวมาเป็นของตน ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม ............................................................            “ฉันโทรมาขอผู้ชายที่ชื่อวุฒิชัยกับเธอน่ะ เธอคงไม่ว่าอะไรนะเขมิกา ถึงจะว่าก็คงไม่ทันแล้วล่ะเพราะตอนนี้เขาอยู่บนเตียงกับฉัน อยากเห็นภาพไหมล่ะ ถ้าอยากเห็นเดี๋ยวฉันจะส่งไปให้ดูนะ”             ต้นสายตัดสายทิ้งเมื่อบอกจุดประสงค์ของตนเองจบ หันไปพยักหน้ากับผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่ยืนอยู่ปลายเตียง ผู้หญิงคนนั้นถอดเสื้อตัวสวยพร้อมชุดชั้นในของตัวเองออกอย่างรู้งาน จากนั้นก็ก้าวขึ้นมาบนเตียงล้มตัวลงนอนข้างๆ กายวุฒิชัยที่ตอนนี้นอนหลับสนิทไม่รู้สึกตัว พลิกตะแคงกอดร่างหนาอิงซบใบหน้ากับอกเปล่าเปลือยอย่างแนบแน่นชนิดเนื้อแนบเนื้อ วชิราภรณ์ใช้โทรศัพท์เครื่องเดิมถ่ายภาพวุฒิชัยที่นอนอยู่บนเตียงในสภาพท่อนบนเปลือยกาย ท่อนล่างของเขาและเธอไม่ได้แตะต้องมันเลยใช้ผ้าห่มปิดบังเอาไว้เท่านั้น วชิราภรณ์จัดฉากให้ดูเหมือนกับว่า วุฒิชัยกับเธอเพิ่งผ่านบทสวาทแสนเร่าร้อนกันอย่างเหนื่อยอ่อน ฝ่ายชายหลับสนิท ส่วนฝ่ายหญิงหันมายิ้มกับกล้องโดยใช้เส้นผมยาวสลวยปกปิดใบหน้าเอาไว้ เพื่อไม่ให้มองเห็นใบหน้าที่ชัดเจน “แชะ” เสียงชัตเตอร์จากโทรศัพท์มือถือดังขึ้นหนึ่งครั้ง หลังจากที่วชิราภรณ์ถ่ายภาพที่ต้องการเสร็จเรียบร้อยแล้วขั้นตอนต่อไปก็คือ ส่งภาพที่ถ่ายไว้เมื่อครู่ไปยังหมายเลขโทรศัพท์ของเขมิกา น้องสาวต่างมารดาที่เธอทั้งแค้น อิจฉาริษยาและชิงชัง             “ป่านนี้คงกรี๊ดอกแตกตายอยู่แน่ๆ เลย สมน้ำหน้า” คนเป็นพี่สาวแสยะปากยิ้มพูดกับโทรศัพท์ราคาแพงหลังจากที่จัดการส่งภาพบาดตาบาดใจให้กับเขมิกาเรียบร้อยแล้ว นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนมองไปยังร่างสูงโปร่งสลบเหมือดด้วยฤทธิ์ยานอนหลับอย่างสมเพช ผู้ชายใจโลเล จิตใจไม่หนักแน่น มีคนรักอยู่แล้วทั้งคน แต่พอถูกเธอยั่วยวนเข้าหน่อย ก็เทหัวใจมาให้เธอจนหมดทั้งดวง พร่ำพูดพร่ำบอกคำรักจนเธออยากจะอาเจียนวันละหลายๆ ครั้ง เจออย่างนี้มันถึงจะสาสม ไม่ได้ใครเลยสักคน ไม่ว่าจะเป็นเธอหรือเขมิกา “ขอบคุณนะคะคุณวุฒิที่ให้ยืมโทรศัพท์ หลับให้สบายนะคะ แล้วเจอกันใหม่เมื่อฉันต้องการเจอคุณ” วชิราภรณ์วางโทรศัพท์ของคนนอนหลับไม่รู้เรื่องลงบนโต๊ะหัวเตียง มองไปยังดวงดาวที่แต่งตัวเสร็จพอดี จากนั้นสองสาวจึงหมุนตัวเดินออกจากห้องพักในโรงแรมชื่อดังกลางสี่แยกราชประสงค์ หลังจากภารกิจ ‘ชิงรักหักสวาท’ เสร็จสิ้น “ค่าจ้างของเธอ” วชิราภรณ์ส่งเงินหนึ่งพันห้าร้อยบาทเป็นค่าจ้างวานให้กับดวงดาวขณะที่เดินเคียงคู่กันไปยังลิฟต์ “ขอบคุณพี่ผึ้ง มีงานอีกเรียกดวงนะพี่” ดวงตารับเงินด้วยรอยยิ้ม งานง่ายเงินดีอย่างนี้มีหรือที่เธอจะปฏิเสธ “อืม รู้แล้ว” นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่วชิราภรณ์กระทำเช่นนี้ มันเป็นครั้งที่เท่าไหร่หญิงสาวไม่สนใจ สนเพียงแต่ว่าจะทำอย่างไรให้น้องสาวต่างมารดาเจ็บเหมือนกับที่มารดาของเธอเจ็บ... เจ็บจากการถูกแย่งชิงคนรักไปซึ่งๆ หน้า เจ็บช้ำในทรวงเมื่อรู้ว่าคนที่ตัวเองรักปันใจให้หญิงอื่น เจ็บที่ต้องทนเห็นภาพบาดตาบาดใจที่เธอส่งไปให้ทุกครั้งที่เขมิกาถูกแย่งชิงคนรัก ผลของความเจ็บปวดของเขมิกา คือความสะใจ ความสาสมใจและเป็นความสุขของวชิราภรณ์ นางมารร้ายประจำตัวของน้องสาวต่างมารดา เพราะเธอไม่มีทางปล่อยให้อีกฝ่ายมีความสุขกับชายคนรักหน้าไหนทั้งสิ้น ตราบที่พี่สาวคนนี้ยังมีชีวิตอยู่...อย่าได้หวัง วชิราภรณ์เดินออกมาจากโรงแรมอย่างอารมณ์ดี สีหน้าเบิกบานใจเหมือนกับทุกครั้งที่ทำภารกิจเสร็จสิ้น วันนี้เธอตั้งใจว่าจะซื้อของกินอร่อยๆ ไปฝากมารดาเสียหน่อย ฉลองความสำเร็จของเธอ การกระทำทุกอย่างของวชิราภรณ์ กัญญาผู้เป็นมารดาไม่มีส่วนรับรู้หรือเกี่ยวข้องเลย ลูกสาวเก็บไว้เป็นความลับอย่างดี “ผึ้งทำอย่างนี้อีกแล้วนะ เมื่อไหร่จะเลิกทำแบบนี้ซะที” จิตใจเบิกบานอารมณ์ดีของคนที่เพิ่งเดินออกมาจากโรงแรมเหือดหายไปทันทีที่ได้ยินคำพูดของณัชญ์ รัตนาพิทักษ์กุลเพื่อนสนิทที่คิดกับวชิราภรณ์เกินกว่าคำว่าเพื่อน “มันเรื่องของผึ้ง ณัชญ์ไม่ต้องมายุ่งได้ไหม...รำคาญ” เธอตอกกลับจนคนที่เป็นห่วงถึงกับสะอึก เขารีบมาที่โรงแรมหลังจากที่ทราบข่าวจากรุ่งรุจีเพื่อนสนิทอีกคนว่า วันนี้ วชิราภรณ์เดินทางมาที่โรงแรมแห่งนี้พร้อมกับวุฒิชัย เพื่อจัดการกับคนรักของน้องสาวต่างมารดาเหมือนรายอื่นๆ ณัชญ์รีบรุดมาที่นี่เพราะกลัวว่าเธอจะพลาดพลั้งตกเป็นของวุฒิชัยจริงๆ แต่พอมาเจอประโยคคำพูดของเพื่อนสาว ทำให้จิตใจของเขาห่อเหี่ยวขึ้นมาทันที “ที่ณัชญ์มาที่นี่เพราะณัชญ์เป็นห่วง ถ้าผึ้งไม่ใช่เพื่อนของณัชญ์ ณัชญ์จะไม่ยุ่งด้วยเลย” น้ำเสียงแกมน้อยใจของเพื่อนสนิท ทำให้วชิราภรณ์รู้สึกตัวว่าตนเองนั้นพูดแรงเกินไป เธอรู้ดีว่าเพื่อนคนนี้เป็นห่วงเธอมากแค่ไหน บางครั้งห่วงมากจนรู้สึกรำคาญและอึดอัด “ผึ้งขอโทษนะ ณัชญ์อย่าโกรธผึ้งนะ” วชิราภรณ์กล่าวขอโทษเสียงหวานและออดอ้อน เดินเข้ามาเกาะแขนณัชญ์อย่างเอาใจ ก่อนจะพูดในสิ่งที่ตัวเองตั้งใจเอาไว้ “ไปหาอะไรอร่อยๆ กินกันเถอะ ฉลองความสำเร็จของผึ้งไง เดี๋ยวโทรบอกให้จีไปที่บ้านผึ้งเลย” “ก็ได้” เป็นอีกครั้งที่ณัชญ์ใจอ่อนกับทีท่าและน้ำเสียงอ้อนหวานๆ ของเพื่อนสาว อาจเป็นเพราะว่าชายหนุ่มรักวชิราภรณ์มาก...มากจนมองข้ามคำพูดและการกระทำของเธอ สองหนุ่มสาวพากันเดินไปยังร้านขายอาหารในละแวกใกล้เคียง เลือกซื้ออาหารหลายอย่างก่อนจะเดินทางกลับไปยังบ้านของวชิราภรณ์  
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD