จุดเริ่มต้น
เสียงดนตรีอึกทึก พร้อมทั้งแสงไฟที่สาดส่องพอสลัววิบวับทำเอาหัวใจเต้นแรงไปด้วย
เดือนสิบ เด็กปีสองคณะบริหารจัดการทั่วไป ถูกเชิญให้เข้ามาร่วมงานปาร์ตี้ในค่ำคืนนี้พร้อมกลุ่มเพื่อน ทว่าเจ้าของงานก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นพี่รหัสของเธอเอง
พราวตะวัน สาวสวยไฮโซพ่อแม่ทำธุรกิจส่วนตัวจนร่ำรวย แถมลูกสาวเพียงคนเดียวยังใช้ชีวิตหรูหราราวกับเจ้าหญิง
ในคืนวันเกิดปีนี้เธอเลือกสถานที่จัดงานเป็นร้านเหล้าแห่งหนึ่ง ห้องวีไอพีที่ถูกจองเอาไว้มีกลุ่มเพื่อน ๆ และคนสนิทเท่านั้นที่ถูกเชิญให้เข้ามาร่วมงาน รวมทั้งเขา ราเชน!
"สุขสันต์วันเกิด ขอให้เธอมีความสุขมาก ๆ แล้วกัน"
ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาตัวสูงราวร้อยเก้าสิบเซ็น ยื่นกล่องของขวัญให้พราวตะวัน แต่ใบหน้าของเขาราบเรียบนิ่งขรึม ส่วนเจ้าของงานก็เอื้อมมือรับ จากนั้นก็เอ่ยคำพูด
"ขอบใจ" เธอพูดสั้น ๆ พร้อมรอยยิ้ม พราวตะวันและ ราเชน ทั้งคู่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเด็กก็ว่าได้ อย่างที่บอกว่าสังคมคนรวยลูก ๆ ก็เรียนมาจากที่เดียวกัน พอจบมัธยมก็ได้เข้ามาศึกษาที่มหาลัยเดียวกันอีก
บรรยากาศในค่ำคืนนี้เต็มไปด้วยเหล่าสาว ๆ คณะบริหาร แน่นอนว่าสาว ๆ พวกนี้หน้าตาสวยใส ทว่า ราเชนกลับไม่ได้พอใจใครสักคน กระทั่งสายตาของเขากวาดมองไปจนทั่วห้อง แล้วสะดุดตากับผู้หญิงคนหนึ่ง เธอสวยใส แต่ใบหน้าไม่ค่อยมีรอยยิ้ม เหมือนจะกึ่ม ๆ เหล้าด้วยซ้ำ
ชายหนุ่มเพ่งสายตามองอยู่ชั่วขณะ จ้องมองอยู่อย่างนั้น เห็นอากัปกิริยาเธอทุกอย่างแต่ไม่รู้จักชื่อ ก็ไม่รู้จะถามใครเพราะงานวันนี้เขาไม่ได้สนิทสนมกับใครเป็นพิเศษนอกจากเจ้าของงานวันเกิด ที่ต้องมาร่วมเพราะพราวตะวันเป็นเพื่อนของเขา
ระหว่างที่สายตายังคงจับจ้องมองอยู่อย่างนั้น พลางมือก็ยกแก้วเหล้าขึ้นมากระดกดื่ม อยู่ ๆ ก็มีผู้หญิงหน้าตาดี เดินเข้ามาหาพร้อมทั้งขอชนแก้วกับเขา
"ชนแก้วได้ไหมคะ" หญิงสาวในชุดเดรสสั้นส่งสายตาหวานล้ำ พร้อมกับถือวิสาสะชนแก้วกับเขา แต่ราเชน เขานิ่งมาก ไม่ได้ตอบหรือยิ้มออกไป ทำเอาผู้หญิงคนนั้นเหมือนจะหน้าเสียอยู่บ้าง แต่ก็ต้องหาเรื่องชวนคุยแก้ต่างไปก่อน
"เป็นเพื่อนพราวหรือคะ ไม่เคยเห็นหน้าเลย"
"ครับ" เขาตอบสั้น ๆ จากนั้นก็ยกแก้วขึ้นดื่ม ทำเอาเธอคนนั้นยิ้มอวดฟันเลยทีเดียว
"อืม...แล้วชื่ออะไรคะ เรียนอยู่ที่เดียวกับพวกเราไหม"
"ชื่อ ราเชน เรียนอยู่วิศวะ!" เป็นคำตอบห้วน ๆ จากนั้นเขาก็หันตัวกลับไปวางแก้วเหล้าไว้ที่โต๊ะ แต่สายตาไม่ได้มองผู้หญิงที่เดินมาคุยด้วยหรอกนะ เขามองไปที่ เดือนสิบ มากกว่า
ส่วนเดือนสิบเธอไม่รู้หรอกว่ามีคนมอง เธอมัวแต่คุยกับเพื่อน กับรุ่นพี่ตามประสางานสังสรรค์ นาน ๆ ทีจะได้ออกมาแบบนี้โดยปกติแล้วจะไม่ได้ออกไปไหน เป็นคนไม่ค่อยชอบเที่ยวกลางคืน แต่เป็นคนชอบเที่ยวตามธรรมชาติมากกว่า บรรยากาศมันดูผ่อนคลายกว่ากัน
แต่วันนี้อาจจะดื่มมากไปหน่อยประกอบกับตัวเองก็เป็นคนคออ่อน ก็เลยรู้สึกมึนหัวนิด ๆ
"พลอย เดี๋ยวฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ"
"ไปไหวไหมแก"
"ไหวสิ ไม่ได้เมาขนาดนั้น"
หลังจากที่หันไปบอกเพื่อนแบบนั้น เดือนสิบก็ลุกขึ้นจากโต๊ะ มุ่งหน้าออกไปข้างนอก โดยมีสายตาของราเชนมองอยู่ตลอด
"ขอตัวก่อนนะ"
เขาเอ่ยบอกผู้หญิงคนนั้น จากนั้นก็เดินจากไป ทำเอาเธอที่อยากรู้จักเขาต้องหน้ามุ่ยลง
ราเชนเห็นว่าเดือนสิบเดินออกมาข้างนอกก็รีบตามมาติด ๆ ทว่าดันไม่เจอไม่รู้ว่าเธอคนนั้นไปไหน เขาเดินตามออกมา บรรยากาศภายนอกเต็มไปด้วยผู้คนที่เนืองแน่นกว่าห้องวีไอพีเสียอีก แต่ก็ไม่เจอว่าเดือนสิบหายไปไหนแล้ว
ส่วนเดือนสิบเธอรู้สึกเวียนหัวมาก หลังจากออกมาจากห้องน้ำก็หาที่ปลอดคนยืนสูดอากาศสักหน่อย ด้วยความที่ไม่ค่อยมารื่นเริงกับบรรยากาศแบบนี้ดูเหมือนมันจะทำให้เธออึดอัดอยู่มาก
"ให้ตายเถอะ นี่ฉันเริ่มเมาหรอกเหรอ"
เธอบ่นกับตัวเองเบา ๆ จากนั้นก็หมุนตัวกลับมา หมายจะกลับเข้าไปในห้องวีไอพีนั้น ทว่าดันชนเข้ากับแผกอกกำยำของใครสักคน ทำเอาเธอสะดุ้งตกใจ
"ขอโทษค่ะ"
เธอไม่ได้เงยหน้าขึ้นไปมองเขา แถมยังพยายามเหวี่ยงตัวหลบ แต่เป็นเขาที่รั้งแขนเธอไว้แน่น
"เดี๋ยว...เธอชื่ออะไร"
น้ำเสียงเข้มเอ่ยถาม แต่ด้วยเสียงสีของไฟวิบ ๆ วับ ๆ ทำให้เธอมองใบหน้าของเขาไม่ชัด
"ขอโทษนะคะ"
เธอไม่อยากตอบ พร้อมทั้งกำลังสะบัดมือเขาให้หลุด แต่ราเชนเหมือนจะไม่ยอม อีกหนึ่งคงเพราะเขาเองก็มีน้ำเมาในร่างก็เลยจับเธอแน่นขึ้นกว่าเดิม
"นี่....ปล่อยฉันนะ"
"ถามว่าเธอชื่ออะไร"
"อยากรู้จักชื่อคนอื่น แต่ทำตัวเสียมารยาทขนาดนี้เลยเหรอ"
เดือนสิบโพล่งเสียงใส่เขา แต่เพราะราเชนเกิดแรงปรารถนา ด้วยสติที่ไม่อาจควบคุม อยู่ ๆ ก็ดึงเธอเข้ามาหมายจะจูบ ดีที่สติของเดือนสิบยังพอมีบ้างเธอรีบผลักเขา ทั้งคู่เหมือนจะฉุดรั้งกันอยู่ แต่ไม่รู้ยังไง เดือนสิบดันคว้าไปที่สร้อยคอของเขาแล้วกระชากมันอย่างแรงทำให้สร้อยเกียร์ของเขาขาด หนำซ้ำเดือนสิบยิ่งรีบวิ่งหนีไปพร้อมสร้อยเกียร์ที่ติดมือเธอไปด้วย
เมื่อเข้ามาในห้องวีไอพี สีหน้าของเธอไม่ค่อยสู้ดีเลย มันดูตื่นกลัวแปลก ๆ จนเพื่อนของเธอเอ่ยถาม
"เดือนแกเป็นอะไรไป"
"กลับเถอะแก"
"แต่นี่มันยังไม่ดึกเลย"
"กลับเถอะฉันอยากกลับแล้ว"
เดือนสิบคว้าได้กระเป๋าของตัวเอง แต่ก็คงไม่ได้ดูว่าเธอกำสร้อยไว้ในมือแน่น จนพลอยเพื่อนของเธอต้องถาม
"เดือนแกไปเอาสร้อยใครมา"
เดือนสิบมองในมือของตัวเอง พลันสมองก็ฉุกคิดว่าตอนนั้นเธอยื้อยุดกับเขาอาจจะคว้าสร้อยเขาขาดแต่ก็ไม่ได้ทิ้งนะ เธอหย่อนมันลงในกระเป๋าสะพายข้าง จากนั้นก็รีบคว้าแขนเพื่อนออกจากงานทันที