เพื่อนช่วยเพื่อน

1109 Words
ภาคินมองรูปตาค้างเป็นกองทัพเองที่ดึงรูปออกมาคืนแต่มือเพื่อนเขาดันเหนียวเป็นกาวไม่ยอมปล่อยคืน เขาเองก็ไม่กล้าดึงออกแรง รูปนี้มันหกปีแล้วนะเว้ย ถ้าขาดใครจะรับผิดชอบ ''ทำไมวะ ไม่สวยเหรอ เห้ยกูว่าสวยนะ สวยมาก อีกอย่าง....’’ ก่อนที่จะได้พูดจนคนสติหลุดพึ่งมีสติก็ถามเสียงนิ่ง “เปล่า สวย สวยมาก มึงเเน่ใจเหรอว่าคนนี้” ''เออ คนนี้แหละ ทำไม” เขาถามอย่างไม่เข้าใจ ภาคินหลับตารู้สึกถึงหายนะกำลังจะมาเยือนชีวิตเพื่อนเขาแล้ว “น้องเมียกู ! !" เชี้ยอะไรครับเนี่ยพี่น้อง! อเมริกา สายเรียกเข้าจากต่างประเทศทำให้เนตรศิตาต้องรีบรับทันที ''ฮัลโหล พี่ณิ’' เธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงสดใส (เนตร ว่าไงสบายดีมั้ย) ''สบายดีคะ พี่ณิมีอะไรเหรอคะ’’ เธอถาม พี่สาวคนนี้ของเธอพึ่งโทรมาหาเธอไม่นาน (ก็...รินชาอยากเจอเคิร์ท บ่นอยากเล่นด้วย ว่างมั้ยล่ะ) ณิชาภัทรถามเผื่อน้องสาวไม่ว่าง เนตรศิตาเดินไปดูปฎิทินดูวันแล้วจึงเอ่ยตอบ ''ถ้าให้ใปก็ว่างค่ะ เคิร์ทเพิ่งปิดเทอม’' ปลายสายเงียบไปเล็กน้อยก่อนจะต่อประโยคด้วยน้ำเสียงเกรงใจ (งั้นเหรอพี่บินไปหาไม่ได้น่ะสิ ตอนนี้พี่ท้อง หมอบอกว่าเสี่ยงถ้าพี่จะบิน) เนตรศิตาพอรู้ว่าพี่ท้องก็อดแซวพี่เขยไม่ได้ “พี่ภาคขยันจริง ๆ เอางี้ละกันเดี๋ยวเนตรกับลูกไปหาตามนี้นะ ไว้เจอกันค่ะ” (ขอบคุณนะเนตร) คุยกันอีกเล็กน้อยให้หายคิดถึง ณิชาภัทรก็ขอตัดสายหันมาเล่นงานคนฝั่งตัวเอง ''น่าตีจริงเชียว ทั้งพี่ภาคทั้งคริสเลยให้ณิชาหลอกเนตร’' ภาคินรีบเข้าไปโอบภรรยาอย่างออดอ้อน ‘'เพื่อครอบครัวของน้องและเพื่อนนะที่รัก'' เธอค้อนวงใหญ่ไปให้สามี อยู่เป็นจริง ๆ ''คุณแม่คะ นักรบจะมาหารินชาใช่มั้ยคะ’' ลูกสาวคนสวยถามผู้เป็นแม่หลังจากที่ได้ยินบทสนทนาของแม่กับน้าเนตรทางโทรศัพท์ ''ค่ะลูก มะรืนก็ถึงแล้วล่ะค่ะ’' กองทัพที่นั่งฟังครอบครัวภาคินคุยกันเขาก็ได้แต่งงงวย มันลากเขามาหาเมียมัน ให้เมียมันโทรหาเมียเขา คนที่มันอ้างว่าเป็นน้องเมียแล้วนักรบเคิร์ทอะไรนี่ใคร ‘'เดี๋ยว ๆ นักรบเคิร์ทคือใคร หมาเอ่อ'' ''เออ หมา พ่อมันเป็นหมา’' ภาคินได้ทีเหน็บเพื่อน กองทัพจิ้ปาก ‘'เอาดี ๆ'' ''ลูกแกไง น้องมันท้องคลอดแล้วด้วย ชื่อเคิร์ท เดลดิโล่ ชื่อเล่น นักรบ หกขวบแล้วมั้งตอนนี้'' ‘'เนตรท้อง ! !’' กองทัพโพล่งออกมาอย่างตกใจ เรื่องที่เขากลัวที่สุดมันเกิดขึ้นแล้ว แถมเธอยังเลี้ยงดูเลือดเนื้อเชื้อไขตลอดเจ็ดปีของคนที่ข่มขืน พระเจ้า เขาอึ้งจนไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว ''ก็เออสิ ฉันกับเมียช่วยแกได้เท่านี้แหละ ที่เหลือมึงทำ รับผิดชอบเอง’' ภาคินหมายความตามที่บอก เขาช่วยได้แค่นี้ ส่วนเรื่องต่อจากนี้ กองทัพจะต้องแก้ไขเอง ''งั้นที่คริสเหมือนคนแพ้ท้องก็เเพ้ท้องเเทนเนตรน่ะสิ เพราะตอนท้องเนตรไม่เเพ้ท้องเลย กินอยู่สบาย ยิ่งช่วงใกล้คลอดก็แทบเหาะได้” ณิชาภัทรเปรยออกมา งั้นโรคที่หาสาเหตุไม่ได้มาเจ็ดปีก็เจอแล้ว แต่จริง ๆ เธอไม่ตกใจมากนัก เธอเคยคุยเรื่องนี้กับสามีว่าหลานชายนั้นมีหน้าตาละม้ายคล้ายเพื่อนสามี แต่ในเมื่อน้องสาวเธอไม่เคยเอ่ยถึงพ่อ เธอจึงเงียบไม่เซ้าซี้เพื่อความสบายใจน้องสาว ด้านกองทัพตอนนี้เขาได้จมกับความคิดตัวเองเสียแล้วนี่เขาได้เป็นพ่อคนเเล้วเหรอ ให้ตายน้ำตาพานจะไหลในเมื่อเขามีทายาทตัวน้อยแล้ว เขาอยากจะรับผิดชอบบาปที่เขาได้ทำลายผู้หญิงคนหนึ่งไป ส่วนลูกเขาก็อยากจะดูแลและให้ความรัก เขาจะฮุบทั้งแม่มั้งลูกให้มาอยู่กับเขาให้ได้ !! เมืองไทย สวรรณภูมิ 15:00นาฬิกา “มาม้าเมื่อไหร่รบจะเจอรินชาล่ะ" เด็กชายตัวน้อยถามแม่ด้วยสำเนียงไทยเปล่ง ๆ ฟังแล้วดูน่าเอ็นดู "เดี๋ยวก็เจอแล้ว พอถึงบ้านนักรบอยากเล่นกับรินชานาน ๆ ก็ได้แต่ตอนนี้ช่วยมาม้าถือของขึ้นแท็กซี่ก่อนนะครับลูก" เมื่อได้ฟังแบบนั้นเด็กชายนักรบก็รีบทำตามคำสั่งมาม้าอย่างขยันขันแข็งแล้วโดดขึ้นรถโดยสารคนแรกตามด้วยคุณแม่ยังสาวพอขึ้นมานั่งเรียบร้อยเธอก็ยื่นแผนที่ให้คนขับ "ไปตามทางนี้นะคะ" คนขับรับแผนที่มาก่อนจะชวนคุย "พูดไทยได้ด้วยหรือครับ" “นิดหน่อยค่ะแม่เป็นชาวไทย" เธอบอก คนขับมองเธอผ่านกระจกมองหลังก่อนที่รถจะค่อย ๆ เคลื่อนไปสู่จุดหมายปลายทาง "โอ้หรือคับ แล้วน้องอายุเท่าไหร่เอ่ย" เนตรศิตายิ้ม “หกขวบแล้วค่ะ" ใครก็มักจะทักอย่างนี้ “หน้าตาดีทั้งคู่เลย พ่อแม่เราสองคนนี่คงจะสวยหล่อน่าดู” “ลูกฉันเองค่ะ” คนขับรถตาโต "ห๊ะ! ลูกชาย โห จุ ๆ ๆ สามีไปไหนละเนี่ย" “รอที่บ้านคะ" ตอบแค่นั้นก่อนที่จะพยายามตัดบทสนทนาเพราะรู้สึกว่าคำถามมีนค่อนข้างจะส่วนตัวเกินไปโชคดีที่ลูกชายของเธอแทรกเป็นภาษาอังกฤษเข้ามาก่อน “ม๊าม้าคุยอะไรกับเขาครับ” นักรบถามขึ้นมาเมื่อเจอกับสายตาที่คนขับรถมองแม่เด็กหวงแม่จึงอาการกำเริบ “เปล่าจ้ะ” นักรบกอดแม่แน่นเขม่นสายตาไปที่กระจกมองหลังรถให้คนขับทราบว่าเขาไม่พอใจทั้งรถจึงมีแต่เสียงคุณแม่และคุณลูกที่คุยกันกระหนุงกระหนิง นั่งรถมาได้สักพักก็ถึงที่หมาย "ถึงแล้วครับ" "เท่าไหร่คะ" “คนกันเองไม่ต้อง ห้าร้อยพอถือว่ายินดีต้อนรับมาเมืองไทยนะ" เธอจ่ายไปตามจำนวนที่คนขับขอแม้จะทราบว่าแพงกว่าปกติถึงสองร้อยบาทไทย “ขอบคุนค่ะลุง" หลังจากขอบคุณลุงเสร็จเนตรก็อุ้มนักรบที่กำลังหลับออกมาจากรถแล้วกดกริ่งเรียกคนในบ้านทันที ไม่นานคนงานก็วิ่งออกมาต้อนรับเธอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD