ปัจจุบัน
โรงพยาบาลขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่
ห้องรับบริจาคโลหิตติดกับแล็บเทคนิคการแพทย์ของโรงพยาบาล
“ลัลลา ข่าวประจำรพ.วันนี้คืออะไรรู้ปะ”
แก้ม MT สาวตัวเล็กหน้าตาน่ารักขนาดพกพาง่ายผู้เป็นนักข่าวประจำแล็บของเราเอ่ยกับฉัน
ใช่ ฉันชื่อ ลัลลา ที่มาของชื่อน่าจะมาจากตอนเด็กๆ ที่แม่ต้องร้องเพลงกล่อมนอนทุกวัน ลัลลาบาย
“อะไรเหรอ” ฉันถามขณะเช็คอุณหภูมิตู้เกือบถุงเลือดเป็นประจำตอนเข้าเวรทุกครั้ง เตรียมจะทำ IQC
(การควบคุมคุณภาพภายใน เช่น น้ำยาที่ใช้ตรวจ เป็นต้น และจำเป็นต้องทำทุกวัน)
“หมอใหม่แก๊! พยาบาลหน้าวอร์ดว่าแซ่บมาก”
ว่าแล้วทำหน้าเหมือนกินของเปรี้ยวประกอบคำพูด
ฉันยิ้มนิดหน่อย
“ตลอดแหละ หมอคนไหนมาใหม่ก็แซบหมด พี่พยาบาลตื่นเต้นกับหมอใหม่ตลอดๆๆ”
“คนนี้ลูกครึ่งฝรั่งเศสด้วยนะ เห็นว่าย้ายมาจากขอนแก่นหลังจากไปต่อเฉพาะทางที่เมกา” แก้มพูดไม่หยุด
ฉันขมวดคิ้ว ลูกครึ่งฝรั่งเศส ขอนแก่น
เฮ้อ ทำไมต้องนึกถึงคนใจร้ายคนนั้นอีกนะ
ส่ายหน้านิดๆ
“แกนี่รู้ดีไปหมด บินกลับมากับเขาเหรอ” หัวเราะ
“โหยยย แก หมอแซมเนื้อหอมสุดๆ เลยนะ ไม่ไปส่องหน่อยเหรอออ”
ลากเสียงยาวๆ อย่างหลอกล่อ
“!!!!!!!!!”
......หมอแซม......
ไม่ใช่หรอก ไม่มีทางใช่ ฉันส่ายหน้าแล้วหันไปย้ำกับแก้มว่า “ไม่”
“โอเค แกก็จริงจังเกินไป อุตส่าห์อยากหาคนมาสอยแกลงจากคาน”
แก้มบ่นอุบอิบ
ฉันอายุยี่สิบหก เรียนจบมาทำงานที่นี่ได้สี่ปีกว่าพร้อมๆ กับแก้มเลยสนิทกันเป็นพิเศษตั้งแต่สมัยเรียน
แก้มเขามีแฟนเป็น MT เหมือนกันอยู่แล็บเดียวกันแต่วันนี้ไม่มีเวรเช้า
แฟนยายแก้มชื่อภูมิ อินเลิฟกันมาตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว
เราทำงานกันไปสักพักจนพี่โป้ง กับพี่ๆ ในแล็บคนอื่นที่ประชุมเช้ากลับมา ทำงานประจำวันกันไปจน
“ลัล” พี่โป้งเรียก
“คะ?” ฉันหันไปตามที่พี่หัวหน้าแล็บเรียก
“OR (ห้องผ่าตัด) มีหมออยากได้เลือด A neg ช่วยเอาไปให้หน่อยได้มั้ย ไปกับแก้มด้วยก็ได้จะได้รู้จักกันไว้ด้วย เราไม่ได้เข้าประชุมเมื่อเช้า ไม่เจอหมอศัลย์ที่มาใหม่ เขาไปฝากตัวเมื่อเช้า”
ได้ยินแบบนี้ยายแก้มกระตุกเสื้อกาวน์ฉันใหญ่แล้วรับคำเสียงหวาน
“รับทราบค่ะพี่โป้ง ไปเช็คเลือดที่อีอาร์ (ห้องฉุกเฉิน) ด้วยใช่มั้ยคะ”
“แสนรู้” แล้วสองคนก็หัวเราะกัน
มีแต่ฉันที่เหงื่อเริ่มออกมือ หัวเราะไม่ออก
บอกตัวเองว่า เอาน่า อาจจะไม่ใช่เขา
แปลกใจใช่มั้ยว่าทำไมฉันถึงรู้ว่าเขาหน้าตายังไง มีครั้งหนึ่งที่เขาถ่ายรูปตัวเองลงสตอรี แล้วฉันแคปทัน
ไม่ว่ายังไงก็ต้องทำตามคำสั่ง ฉันกับยายแก้มเข็นถุงเลือดที่ขนส่งตามอุณหภูมิที่เหมาะสมไปส่งที่ห้องฉุกเฉิน
ก่อนจะนำเลือดที่จำเป็นในการผ่าตัดไปที่โออาร์ ทันทีที่ประตูห้องผ่าตัดเปิด..
ฉันกลั้นหายใจ..
.....หมอผ่าตัดทุกคนสวมมาสก์ปิดปาก
เฮ้ออออออออออออ ฉันถอนหายใจอย่างโล่งอก
พอส่งเลือดแล้วก็กลับแล็บยายแก้มบ่นตามทางใหญ่ที่ไม่ได้ยลโฉมหมอใหม่
“น่าเสียดายอะแก อยากเห็นหน้าหมอแซม”
“ฉันจะฟ้องภูมิ” ฉันยิ้มกวนๆ
“ไม่ใช่ดิ แกอะ แค่อยากรู้ว่าหน้าตาเป็นยังไง จะหล่อเหมือนที่พี่แป๋ววอร์ดศัลย์ว่ารึเปล่า” แก้มพองแก้ม
“เอาน่า เดี๋ยวก็ได้เห็น”
....ฉันไม่รู้เลยว่ามันจะเป็นจริง
เย็นวันนั้นขณะที่พี่ๆ เปลี่ยนเวรออกไปแล้ว ยายแก้มด้วย
“แก ฉันกลับแล้วนะ อยู่ไหวใช่ปะ” แก้มหันมาถามก่อนสะพายกระเป๋า
“ไหวดิ แค่นี้เอง ทำอย่างกับไม่เคย” ฉันยิ้ม
เราลากันเล็กน้อยแล้วยายแก้มก็กลับไป
ฉันรับเวรต่อพอดีมีของอยากได้น่ะ ฮ่าๆๆ
ขณะที่ครอสแมช (crossmatch) เลือดคนไข้อยู่ อืมม รายนี้ไม่ใช่ fast track (เร่งด่วน) จองไว้ก่อน มือก็สาละวนหยดน้ำยาตรวจลงหลอดทดลอง
*** crossmatch คือการตรวจการเข้ากันได้ของเลือดก่อนการให้เลือด
แอ๊ดด..
เสียงเปิดประตูเลื่อนดังขึ้น ฉันยังไม่ได้หันไปทันทีแต่ส่งเสียงไปก่อน
“ห้องธนาคารเลือดโรงพยาบาลค่ะ มีธุระติดต่ออะไรรึเปล่าคะ”
“สวัสดีครับ” เสียงทุ้มนุ่มตอบกลับมา ด้วยความแปลกใจที่เสียงไม่คุ้นที่ให้ฉันเงยหน้าจากแผงหลอดทดลอง
“ค...คะ” ฉันเหมือนหาเสียงตัวเองไม่เจอ ตาเบิกกว้างเล็กน้อย
ใบหน้าหล่อเหลาเกลี้ยงเกลา
ประดับด้วยดวงตาคู่คมเรียวเหมือนเมล็ดอัลมอนด์สีน้ำตาลอ่อน
จมูกโด่งผิวขาวเหมือนมีเชื้อสายยุโรปผสม เข้ากับเส้นผมสีดำสนิท
ริมฝีปากบางสีสด เรียกได้ว่าหล่อจัดเลยล่ะ รูปร่างสูงโปร่งมีกล้ามเนื้อพองาม ความสูงกะด้วยสายตามากกว่า185 cm.
คนตัวสูงอยู่ในเสื้อเชิ้ตทำงานสีฟ้าอ่อน กางเกงสแล็กส์สีดำสุภาพ
“คุณ? รู้จักผม?” เสียงทุ้มจากริมฝีปากบางสีธรรมชาติเอ่ยขึ้น
ฉันรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ
“เปล่าค่ะ”
“หรือผมหล่อ คุณเลยตกใจ” ริมฝีปากหยักบางยกขึ้นน้อยๆ
“หะ” ฉันขมวดคิ้วแล้วแค่นเสียงอย่างฉงน
“ฮ่ะๆ เปล่าครับ”
ฉันสูดหายใจเข้า “มีธุระอะไรรึเปล่าคะ หมอ”
“ออ ครับ ผมเอาเอกสารการขอเบิกเลือดมาให้...”
จากนั้นเราก็คุยกันเรื่องงานจนเสร็จ เข้าใจว่าเขาหันหลังเดินไปแล้ว
ฉันก็นั่งลงแล้วกุมอกที่ก้อนเนื้อในนั้นมันเต้นรัวอย่างน่ากลัว
สี่ปีกว่าที่อ่านแต่แชท ดูแต่รูป วันนี้ เมื่อกี้ ฉันคุยกับเขา สติแทบจะไม่มี
“หลงตัวเองเหมือนเดิม เจ้าชู้เหมือนเดิม คนบ้า” ฉันพูดเบาๆ แล้วหันเอาแรกค์ใส่หลอดจะวางโต๊ะด้านหลัง
แล้วก็ต้องตกใจจนแรกค์ (Rack) แทบหลุดมือ
ยังดีที่มือใหญ่กุมมือฉันและแรกค์ไว้อีกที
“เฮ้ยย” ฉันอุทานออกมาด้วยความตกใจ
“ใจเย็นๆ ครับ” คนตัวสูงพูดช้าๆ
ฉันรีบดึงมือและของออกจากมือเขา แต่..
“กรุณาปล่อยมือและของด้วยค่ะ คุณหมอ”
ดวงตาคมกริบมองฉัน
“คุณไม่รู้จักผมจริงๆ เหรอครับ”
ฉันหายใจสะดุด แน่นอนว่าปรับให้ปกติในเสี้ยววินาที
“แน่สิคะ”
“ถ้าอย่างนั้นคุณรู้ได้ไงครับว่าผมเป็นหมอ”
“สะ..”
“ผมไม่ได้ใส่เสื้อกาวน์”
“อะ” ฉันเม้มปาก
“คะ..ใครๆ ก็รู้ว่าคุณเป็นหมอมาใหม่” ฉันพูดแล้วเบนสายตามองไปด้านนอก
“แน่ใจนะครับ” ดวงตาคมกริบมองฉันเหมือนจะให้ทะลุ
“แน่ค่ะ กรุณาปล่อยมือฉันได้แล้วค่ะ คุณลวนลามฉันอยู่นะ ไม่มีมารยาท”
“ขอโทษครับ” เขาว่าแล้วปล่อยมือช้าๆ
“แต่คุณไม่ได้เข้าประชุมเมื่อเช้า”
“.... หมดธุระแล้ว เชิญคุณหมอกลับเถอะค่ะ” ฉันพูดตัดบท แล้วเดินเอาแรกค์ไปเก็บที่ที่เก็บ ด้วยมือสั่นๆ
“เดี๋ยวครับ ผมขอคำถามสุดท้าย”
“อะไรอีกละ” ฉันหันมา
“ ‘หลงตัวเองเหมือนเดิม เจ้าชู้เหมือนเดิม’ ” คืออะไรเหรอครับ”
......................................
............................
...........
บึ้มมมมมมมมม!!!
ฉันรู้สึกเหมือนจะวูบ เขา..ได้ยินเหรอ
หลังจากฉันนิ่งค้างไปเขาก็ถามขึ้นอีกครั้ง
“ว่ายังไงครับ ถ้าคุณไม่รู้จักผม ทำไมถึงได้พูดแบบนั้น”
ฉันเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย
“ฉันร้องเพลงต่างหาก ไม่ได้พูดถึงใคร”
ฉันเห็นประกายขบขันในแววตาเขา
“โอเคครับ ไม่รู้จักก็ได้ แต่ตอนนี้คงต้องรู้จักแล้ว ผมแซมครับ คุณ..?”
“ฉันลัลภ..”
“ผมบอกชื่อเล่น ขอชื่อเล่นคุณได้มั้ยครับ”
ฉันเม้มปาก เขาเคยรู้ไปแล้วนี่... ถ้าบอกไปก็จำได้น่ะสิ เอาไงดี
เขาโคลงศีรษะเล็กน้อยเป็นเชิงเร่งเร้า
“...ลัลลาค่ะ” ฉันตัดสินใจบอกไป เขาจะไปจำได้ยังไงละจริงมั้ย
คุยกันแค่ไม่กี่เดือน ห่างกันมาสี่ปีกว่า
“ลัลลา?” เขาทวน
“ค่ะ ลัลลา”
“โอเคครับลัลลา ผมขอตัวก่อนนะ”
“เชิญค่ะ” ไปเร็วๆ
“ออ มือสั่น เหงื่อออกมาก แล้วก็หัวใจเต้นแรง ถ้าเป็นนานๆ ไปตรวจบ้างก็ดีนะครับ”
“หมอเป็นห่วง”
ว่าแล้วก็ส่งยิ้มขำแววตาพราวระยับมาให้แล้วเดินออกจากแล็บไป
“!!!!!!!”
คนบ้าเอ้ย ขี้อ่อยแบบนี้นี่เอง แล้วมือสั่น เหงื่อออกมือ เพราะตัวเองทั้งนั้น เหอะ!!!
* ครอสแมช (Cross-Matching) = การตรวจความเข้ากันได้ของเลือด
** fast track = เร่งด่วน