bc

The monsoon เมื่อเขาบอกจะไม่รัก

book_age18+
449
FOLLOW
3.1K
READ
love-triangle
HE
age gap
mafia
heir/heiress
drama
sweet
city
like
intro-logo
Blurb

เมื่อเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อแย่งคนรักเธอไป อยากได้ขยะเธอมากงั้นก็เอาไปล่ะกัน ในเมื่อแฟนชั่วไม่รักดี แฟนที่ดีคือแฟนใหม่เท่านั้น!!

เซลีน นางเอกสาวชื่อดังระดับประเทศ ประกาศแต่งงานกับแฟนหนุ่มลูกชายนักการเมืองใหญ่ไม่ทันไร หล่อนก็ต้องพบกับความเจ็บปวดมากที่สุด เมื่อรู้ว่าชายที่เธอรัก ร่วมกันทรยศกับเพื่อนสนิทของเธอ หักหลังเธอได้อย่างเลือดเย็นที่สุด

ชายหญิงสภาพกึ่งเปลือยเปล่า อาภรณ์ที่สวมใส่หลุดลุ่ยจนแทบไม่มีอะไรปกปิดเนื้อกาย อยู่ในสภาวะตกใจสุดขีด ใบหน้าซีดขาวด้วยความตกใจ ทำอะไรไม่ถูก ขณะที่นางเอกสาว จ้องมองทั้งคู่ด้วยสายตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด จวนเจียนขาดใจ

น้ำตาไหลพรากอาบสองแก้ม

“เพื่อนก็ชั่ว!แฟนก็เลว สาระเลวมันทั้งคู่”

“เซลีน ฟังพี่ก่อน นะ...ฟังพี่ก่อน”

เพียะ! ไม่มีปราณีปราศรัย หล่อนเงื้อมือฟาดอีกฝ่ายเต็มแรง และคงไม่หนำใจ จึงยกเท้าขึ้นถีบอีกฝ่ายที่กำลังจะเข้าหา หมายจะตัวหล่อนเพื่ออธิบาย จนหงายท้องล้มลงไปอีกครั้ง

พลั่ก !

chap-preview
Free preview
บทนำ
บทนำ อาการวิงเวียนที่เกิดขึ้นฉับพลัน พลอยทำ ให้หญิงสาวที่กำลังนั่งเหม่อมองด้วยสีหน้าครุ่นคิดในก่อนหน้านี้ ระหว่างคิ้วมุ่นหากันเล็กน้อย พลันคิดไปเอาเองว่า อาจเป็นเพราะช่วงนี้เธอทำงานหนัก พักผ่อนน้อยจึงทำให้รู้สึกวิงเวียนคล้ายจะบ้านหมุน พลันเสียงเอะอะจากคนรอบตัว รวมไปถึง เสียงเคลื่อนไหวบางอย่าง พลอยทำให้หญิงสาวเริ่มกวาดสายตามองรอบๆตัว ภายในห้องอาหารหรูบนตึกสูงเสียดฟ้าที่มองเห็นโค้งน้ำเจ้าพระยาทอดยาว และ ทิวทัศน์ กรุงเทพมหานคร ฯ ได้โดยรอบ หล่อนรอคนที่เธอรักมาร่วมครึ่งชั่วโมงแล้ว แต่เขาก็ยังไม่มาปรากฏตัว แรงสั่นสะเทือนจนโคมไฟระย้าทำด้วยคริสตัลราคาแพงไหวตัวไปมาราวกับว่ามีใครมาจับแกว่ง น้ำในแก้วทรงสูงบนโต๊ะที่มีอาหารวางอยู่สั่นไหวไปมาดึงดูดสายตาให้หล่อนจ้องมองนิ่งด้วยความแปลกใจ ก่อนจะเริ่มกวาดสายมองสิ่งรอบตัว อากัปกิริยาคล้ายกับมึนงง แปลกใจกับสภาวการณ์แปลกประหลาดเช่นนี้ เสียงหวีดร้องของผู้คนเริ่มดังแว่วมาให้ได้ยิน ขณะที่หล่อนนั้นพยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อเรียกสติตนเอง หยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ขึ้นมากดหมายเลขโทรหาใครบางคน ที่ปล่อยให้เธอต้องนั่งรออยู่นานด้วยหัวใจเต้นแรง ทุกอย่างรอบตัว ไหวโยกรุนแรง ข้าวของต่างๆสั่นกึง กระตุกไหวราวกับมีชีวิต หล่อนรู้แล้วว่าเหตุการณ์ตรงหน้า ไม่ใช่สถานการณ์ปกติ หัวใจหล่อนเต้นถี่รัว กอปรกับความกลัวเริ่มเข้ามาครอบงำในความรู้สึก สายตากวาดมองดูรอบๆด้วยความสับสน เสียงใครคนหนึ่งที่ร้องบอกว่า แผ่นดินไหว...ให้ซุกตัวลงใต้โต๊ะ พลอยทำให้หญิงสาวในชุดเดรสสวย ราคาแพงรีบหยอบตัวลงนั่งกับพื้น ขณะที่ในมือยังถือโทรศัพท์ค้าง... วินาทีนี้...หล่อนกลัวจับขั้วหัวใจ...อยากให้คนที่เธอรัก อยู่กับเธอในเวลานี้...กอดปลอบขวัญให้หายกังวล หรือแม้แต่ได้ยินเสียง...ทว่า...ปลายสายไม่กดรับสายเธอเช่นเคย มิหนำซ้ำยังกดตัดสายทิ้ง หัวใจหล่อนหล่นวูบ ไม่กี่วินาทีต่อมา...กลับมีข้อความส่งตอบกลับมาว่า ‘ติดธุระอยู่ยังไม่ว่าง’ หยดน้ำตาเอ่อคลอ เมื่อได้เห็นข้อความนั้น หล่อนไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าเหตุการณ์ที่เธอกำลังเผชิญอยู่คืออะไร...จะใช่แผ่นดินไหวอย่างที่ใครตะโกนบอก หรือ...ตึกสูงเสียดฟ้าที่เธออยู่ในเวลานี้กำลังจะพังทลาย หล่อนกลัวสุดหัวใจ อยากได้ยินเสียงของเขาในเวลานี้...ความเคว้งคว้าง ความหวาดกลัวกับสิ่งที่เจอผสมปนเปจนแทบทำอะไรไม่ถูก เสียงเปรี้ยงปร้างราวกับฟ้าผ่า ฟ้าร้อง ดังโครมครามคล้ายกับมีของหนักร่วงหล่นยิ่งทำให้หล่อนผวาหนัก อาการไหวโยกรุนแรงของทุกสรรพสิ่งรอบตัว แม้กระทั่งหล่อนเอง ก็แทบจะทรงตัวไว้ไม่ไหว กระทั่ง เสียงใครสักคนในเวลานี้เอ่ยดังขึ้นว่า “เราต้องไปนะ...อยู่ตรงนี้ไม่ได้หรอก” เสียงรีบร้อนนั้นร้องบอกกับคนใกล้ตัวของเขา อย่างร้อนรนเต็มไปด้วยความกระวนกระวายใจ ก่อนที่จะพากันประคองและจับจูงมือเดินผ่านหน้าเธอออกไปจากห้องอาหารหรูดังกล่าวที่เริ่มมีคนขยับก้าวตาม เสียงกระจกสั่นกราวจนกลัวจะแตกร้าว ยิ่งทำให้สองขาแทบขยับไม่ออก ก้าวขาแทบไม่ได้ กระทั่ง “ไปกับผม” เสียงทุ้มนุ่ม ดังใกล้ราวกับกระซิบ ขณะโอบประคองตัวหล่อนที่กำลังสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวพาเดินลัดเลาะ มายังทางเดินที่มีผู้คนกำลังวิ่งไปมาขวักไขว่ด้วยความสับสน ปนอลหม่าน สองข้างทางประดับด้วยม่านคริสตัลหรู ราคาแพง ห้อยระย้ากวัดแกว่งไปมา พร้อมกับเสียงลั่น ๆ ของตัวอาคาร คล้ายกับปริแตก ชั่วจังหวะนั้นที่สายตาเจ้าหล่อนเหลือบมองไปเห็นสายน้ำจากอาคารใกล้เคียง ที่กำลังไหลลงมาราวกับน้ำตก อาคารใกล้เคียงไหวโยกรุนแรง ราวกับถูกใครจับเขย่า ยิ่งทำให้เจ้าหล่อนแทบลืมหายใจ สองขาอ่อนแรง “ไม่ต้องกลัว สูดหายใจเข้าลึก ๆ ผมจะพาคุณออกไปเอง” สุ้มเสียงหนักแน่น พลอยทำให้หัวใจที่กำลังสั่นไหวด้วยความความหวั่นกลัว อุ่นวาบขึ้นมา นิ่งสงบกับถ้อยคำของเขาได้อย่างแปลกประหลาด สองเท้าขยับก้าวตามเขาอย่างช้าๆ “เราคงลงลิฟต์ไม่ได้ตอนนี้ คุณลงบันไดไหวไหม” ถามเสียงเข้มด้วยใบหน้าเคร่งเครียด แววตาครุ่นคิดหนักขณะจ้องมองหน้าหญิงสาวที่กำลังก้มหน้าลงเล็กน้อย ร่างบอบบางในชุดเดรสยาวสีขาว สวมรองเท้าส้นสูงราคาแพง คงจะเป็นอุปสรรคอยู่ไม่น้อย เนื้อตัวเจ้าหล่อนสั่นเทา สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดวิตก ตึกสูงเสียดฟ้าที่มีจำนวนชั้นมากกว่าเจ็ดสิบชั้น แม้ในตอนนี้ชั้นที่เธอและเขาอยู่จะไม่ใช่ที่อยู่บนสุด แต่ความสูงและจำนวนชั้นที่ค่อนข้างมากก็ทำให้หญิงสาว ชะงักนิ่งไปเล็กน้อย ทว่า... หนทางเดียวที่จะนำพาเธอรอดจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ คือการต้องเดินลงบันไดจากตึกสูงชั้นห้าสิบกว่า ผ่านบันไดหนีไฟ ที่เริ่มมีคนวิ่งนำลงไปก่อนหน้านี้แล้ว “นายครับ” เสียงเรียกของชายในชุดสูท ที่ยืนอยู่ใกล้เอ่ยเรียก คล้ายกับต้องการกระตุ้น ชายหนุ่มเพียงหันไปพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะประคองเธอให้ก้าวเดิน แต่เจ้าหล่อน กลับหยุดชะงักสีหน้าคล้ายกับลังเล “มีอะไร” “ฉัน...ขอถอดรองเท้าก่อนได้ไหมคะ” ชายหนุ่มปริศนาตอบรับด้วยเสียงในลำคอ “อืม” หญิงสาวที่มีใบหน้าสวยเด่นสะดุดตาใครต่อใคร เม้มริมฝีปากเล็กน้อย ก่อนจะรีบก้มหน้าลงถอดรองเท้าราคาแพงที่ตัวเองสวมใส่อยู่มาถือไว้ ขณะที่ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ เจ้าของใบหน้าหล่อเหลา คมคาย คิ้วเข้มหนากับดวงตาเรียวรี เจ้าของนัยน์ตาสีนิลคู่นั้น จมูกโด่งเป็นสัน รับรูปหน้าอย่างเหมาะเจาะ ถือวิสาสะเอื้อมมาจับมือเธอคว้าพาเดินไปทันที ยิ่งก้าวลงเดินบันได ที่เริ่มมีผู้คนต่างทยอยวิ่งตามลงมาจากแต่ละชั้น ท่ามกลางเสียงหวีดร้องดังเป็นระยะ กับชิ้นส่วนบางอย่างจากตัวอาคาร ทั้งฝ้าเพดาน แผ่นปูน ร่วงหล่น ถึงอย่างนั้น กลับไม่มีความวุ่นวายชุลมุน ทุกคนต่างก้าวเดินเร็วๆอย่างเร่งรีบเพราะอยากออกไปจากตัวอาคารนี้ให้เร็วที่สุด “ระวัง!” เสียงร้องดังขึ้นขณะที่หญิงสาวถูกดึงเข้าไปกอดแนบอก พร้อมกับเสียงดังโครมใหญ่ ฝุ่นขาวตลบคละคลุ้ง จนแทบหายใจไม่ออก หญิงสาวร่างบางเนื้อตัวสั่นเทาด้วยความตกใจ หล่อนหลับตาปี๋ หอบหายใจแรง รับรู้ถึงอันตรายที่มีอยู่รอบตัว หากไม่ได้เขาเข้ามาช่วยหล่อนในเวลาเช่นนี้...ก็ไม่รู้ว่าเธอจะทำอย่างไรดีกับสถานการณ์เช่นนี้ “ไปต่อ! ช้าไม่ได้แล้ว” เอ่ยเร่งเมื่อเสียงเคลื่อนไหวตัวของอาคารสั่นแรงขึ้น ทั้งฝุ่นปูนโรยร่วงหล่นราวกับผงแป้ง เศษ หิน ดิน ทราย ร่วงกราวลงมา เตือนสติว่าหล่อนไม่ควรรำไร ชักช้า สองเท้าขยับตามแรงจูงของเขา ทว่า กลับรู้สึกเจ็บแปลบ บริเวณข้อเท้าถึงกับนิ่วหน้า แต่หล่อนก็ต้องกัดฟัน ฝืนเดินต่อโดยไม่คิดปริปากบ่น เดินตามแรงจูงเขาลงมาเรื่อยๆ แม้จะปวดเจ็บ ทุกครั้งที่หล่อนลงน้ำหนักเท้า หรือเหนื่อยหอบ อ่อนแรงแค่ไหนแต่หล่อนก็พยายามกัดฟันสู้ จนกระทั่งมาถึงบริเวณชั้นหนึ่ง แสงสว่างจากตัวนอกอาคารกับผู้คนที่ต่างกรูกันออกไปด้วยความดีใจ พลอยทำให้เธอใจชื่นขึ้นมาได้บ้าง ทว่า ระหว่างนั้นเสียงหวีดร้องกับความโกลาหล เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อตัวอาคารจากภายนอก ทั้งเศษ หิน ดิน ทราย ร่วงกราวลงมาพร้อมกับชิ้นส่วนอาคาร ที่ดูแตกร้าว ดังกัมปนาท สนั่นหวั่นไหว ราวกับอาคารจะพังทลาย สายน้ำที่ไหลร่วงหล่นมาราวกับน้ำตกจากอาคารสูงด้านนอก พลอยทำให้ผู้คนบริเวณนั้นต่างแตกตื่น วิ่งวุ่น อลหม่าน “นายครับ...ทางนั้นครับ” “เกิดอะไรขึ้น” เขาหันไปถามคนสนิทอีกคนที่วิ่งมาอีกด้านของอาคารราวกับว่ารั้งรอที่จะเจอเขาอยู่ก่อนแล้ว ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “แผ่นดินไหวครับนาย” “อืม” “ไปหลบทางนั้นก่อนดีกว่าครับ” ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำ หวีผมเรียบร้อยท่าทางสุภาพ ผายมือ พร้อมกับก้าวเท้านำไปยังทิศทางที่บอก ขณะที่เขานั้นกลับไม่คิดปล่อยมือเธอ พาจูงเดินฝ่ากลุ่มคนที่เดินกรูกันออกไปยังประตูทางเขาเพื่อไปหลบตามที่โล่งแจ้งต่างๆบริเวณด้านหน้าอาคาร “มีคนติดในลิฟต์นะ...อ้าวเห้ย มีคนติดในลิฟต์” เสียงดังจากพนักงานโหวกเหวก พลอยทำให้สองเท้าชะงักเล็กน้อย สายตามองตามกลุ่มคนที่พากันกรูไปยังทิศทางดังกล่าวด้วยสีหน้ารีบเร่ง ร้อนใจ “มีอะไร” “ฉันขอโทรศัพท์หน่อยได้ไหมคะ” หล่อนก้มหน้าลงเล็กน้อยตอบเขาด้วยเสียงสั่นเครือ ยังไม่หายตื่นกลัว แต่เพราะห่วงใครบางคน...และเธออยากรู้ว่าเขานั้นอยู่ที่ไหนในเวลานี้ “ไปโทรทางโน้น” บอกเสียงเข้มพร้อมกับจับมือเธอก้าววิ่งไปยังทิศทางที่บอดี้การ์ดของเขานำพาไป ด้วยความรีบร้อน แม้จะเหนื่อยหอบ หายใจถี่ กระชั้น แต่เพราะความเป็นห่วงคนที่เธอรัก พลอยคิดคาดเดาว่าเขาอาจจะพลัดหลงกับเธอก่อนหน้านี้ หล่อนพยายามเพียรโทรหาเขา...เขาคนนั้น...คนที่เธอรัก ด้วยใจกระวนกระวายเป็นห่วง ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน ทำอะไร...จะอยู่บนอาคาร หรือติดอยู่ตรงไหน...เธอก็อยากรับรู้ว่าเขาปลอดภัยดี...แต่ปลายสายกลับไม่คิดรับสายเธอ ยิ่งนาน ใจคอยิ่งไม่ดี ‘ไม่สะดวกรับสาย มีอะไรพิมพ์มา’ “อยู่ไหนคะ” อ่านแต่ไม่ตอบ หัวใจหล่อนยิ่งหวาดกลัวหนัก สมองนั้นคิดไปต่าง ๆ นานา ว่าเขาอาจจะเป็นอันตรายอยู่ที่ไหนสักแห่ง “จะไปไหน” เสียงเข้มเอ่ยดังขึ้น สองเท้าที่กำลังจะก้าวเดินกลับเข้าในตัวอาคารด้วยความเป็นห่วงคนรัก ถึงกับหยุดชะงัก หันมามองหน้าเขา “ข้างในอันตราย” คำนั้นเอ่ยเตือนสติให้เธอฉุกคิดได้ หันสายตากลับไปมองในตัวอาคาร ที่ยังมีผู้คนวิ่งไปมาขวักไขว่ ด้วยความแตกตื่น สับสนอลหม่าน เพื่อให้ได้ออกห่างจากตัวอาคาร ชั่วจังหวะนั้นที่สายตากำลังจ้องมองความสับสนวุ่นวายตรงหน้า กลับเห็นร่างสูงคุ้นตาสวมใส่เสื้อเชิ้ตขาว พับแขนเพียงครึ่งกับกางเกง สแล็คสีดำ กำลังเดินเท้าเปล่าโอบประคองใครบางคนที่สวมใส่เพียงชุดคลุมอาบน้ำ ผมเปียกลู่ เนื้อตัวยังคงเปียกชื้น ใบหน้าสวยอยู่ในอาการตื่นตระหนก เสียขวัญไม่ต่างจากเธอ เดินน้ำตาไหลรินในอ้อมกอดของชายคนนั้น ลิญาณาหยุดยืนค้าง สองขาแทบไร้เรี่ยวแรง แทบลืมวิธีหายใจ เพราะผู้หญิงคนนั้น...เธอจำได้ดีว่าหล่อนเป็นใคร เพื่อนสนิทเธอเอง!

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

พันธะร้าย..ดวงใจรัก

read
2.1K
bc

เชลยรักท่านอ๋องอำมหิต

read
17.0K
bc

แม่หมอแห่งซูโจว

read
7.5K
bc

วิญญาณตามรัก

read
1K
bc

คุณหนูสิบเจ็ดตระกูลเจียง

read
10.6K
bc

รักต้นฉบับ(ไม่ลับ)แม่มดมนตรา

read
1K
bc

หยุดหัวใจไม่รักดี

read
4.3K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook