ตอนที่ 4.2 ขยะ

1303 Words
ตอนที่ 4.2 ขยะ “ไม่ต้องมอง” เสียงทุ้มเข้มเอ่ยบอก ทว่า กลับทำให้หัวใจหญิงสาวอุ่นซ่านขึ้น โสตประสาทการมองเห็นถูกปิดกั้น ทว่า หญิงสาวกลับรับรู้ได้ถึงกลิ่นหอมสะอาด ละมุนในความรู้สึก จนทำให้หญิงสาว ค่อยๆ ผ่อนคลาย แทบจะลืมความเจ็บปวดในหัวใจที่มีในวินาทีนั้น นานหลายวินาที กว่าที่เขาจะค่อยๆเอามือเลื่อนออกจากดวงตาทั้งสองข้างของเธอ ทว่า ทันทีที่หญิงสาวลืมตาขึ้นมองภาพหญิงชายคู่นั้นก็หายวับไปจากสายตาของเธอแล้ว เธอมองหน้าเขาด้วยแววตาเคลือบคลอเต็มไปด้วยคำถาม “คุณพร้อมใช่ไหม” แม้จะแปลกใจ ข้องใจ สงสัยกับท่าทีและคำพูดของเขา แต่เธอก็ไม่คิดปริปากถาม ยอมให้เขาจับจูงพาเดินไปยังทางที่ค่อนข้างมืดสลัว มีเพียงความสว่างจากโคมไฟดวงเล็ก ติดตามทางเดิน โดยมีคนของเขาเป็นฝ่ายนำทางให้ แม้จะตื่นกลัว หวาดหวั่น หัวใจหล่อนเต้นแรงทุกขณะที่ก้าวเดิน แต่เพราะไออุ่นจากมือหนาที่เกาะกุม จูงเธอเดิน กลับทำให้เธอรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัยอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ทุกย่างก้าว ก้าวเดินอย่างช้า ๆ จน กระทั่งถึงหน้าห้องพัก ห้องหนึ่ง ที่ก่อนหน้านี้มีบอดี้การ์ดยืนอยู่ แต่ไม่รู้ด้วยเหตุผลกลใด คนเหล่านั้นจึงหายไปจากหน้าห้องพักได้อย่างรวดเร็ว “พร้อมไหม” เขายังคงหันมาถามย้ำ ขณะที่เธอหน้าซีด ใจสั่นหวิว เริ่มหายใจไม่ทั่วท้อง คิดอยากจะหมุนตัวกลับแล้ววิ่งหนีไปให้ไกล แต่ติดอยู่ที่เขานั้นกลับจับกุมมือเธอไว้แน่น สายตาคมคู่นั้น หันกลับมาจ้องมองหน้าสวยของลิญาณา มือกระชับจับกุมแน่นขึ้น ยิ่งทำให้หญิงสาวรู้สึกอบอุ่นใจขึ้นอย่างประหลาด ชั่วจังหวะนั้นพร้อมพัชร์ ค่อย ๆ แตะคีย์การ์ดที่ถืออยู่ในมือ ขณะที่ลิญาณารับรู้ได้ถึงความเย็นจากอุณหภูมิในห้อง พุ่งกระทบผิวกาย จนเย็บวาบไปทั่วทั้งตัว “คุณ...” ร่างเล็กเกิดความลังเล ใจสั่น สองขาไร้เรี่ยวแรงเกินกว่าจะก้าวเดินไปข้างหน้า หล่อนทั้งประหม่า ทั้งหวาดกลัวกับความจริงที่กำลังจะเกิดขึ้น หญิงสาวยืนหอบใจแรง จนกระทั่งเขา วางมือลงบนบ่าของหญิงสาว เอ่ยด้วยเสียงทุ้มนุ่ม ทว่า แฝงด้วยความพลังความรู้สึกบางอย่าง “ไม่ต้องกลัว” เพียงประโยคเดียวที่ทำให้ใจของหล่อนกลับรู้สึกอุ่นวาบ มีพลังขึ้นมาอย่างประหลาด ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าเรียกกำลังใจให้ตัวเอง แล้วค่อย ๆ ผลักบานประตูนั้นเข้าไป เสียงหัวเราะต่อกระซิกดังแว่วมาให้ได้ยิน พลอยทำให้สองขาที่กำลังก้าวเดินถึงกับหยุดชะงัก หัวใจแทบหยุดเต้น คิดว่าเก่ง คิดว่าแน่แล้ว...แต่พอเอาจริง หล่อนก็แทบไม่มีแรงก้าวเดิน “คิกคิก เบา ๆ ซี่ ไหนบอกจะเบา ๆ ไง อุ้ยพี่ภีมอย่าซี่...เดี๋ยวเป็นรอย” “อยู่นิ่ง ๆ สิ จะดิ้นทำไม” “เดี๋ยว ! พี่ภีมหยุดก่อน อ๊ะ...อื้อ” “มีอะไร” “ตอบไอมิก่อน” “ว่า?” “พี่รักไอมิไหม” “อืมรัก” ตอบส่ง ๆ อย่างเอาใจ ทว่ากลับทำให้เธอดีใจจนหัวเราะร่วนออกมา ย่ามใจถามต่อเขาอีกว่า “แล้วเซลีนล่ะ รักไหม” “จะถามอะไรตอนนี้ว่ะ” ลูกการเมืองใหญ่ชักฉุน แต่ด้วยจริตของหญิงสาวที่ใช้วาจาออดอ้อน “งื้อ...อย่าโกรธซี่...ไอมิแค่อยากได้ยิน ว่าไงคะ” “ไม่รัก!” “จริงเหรอ พี่ไม่ได้รักเซลีนเหรอคะ แล้วพี่จะไปแต่งงานด้วยทำไม” “อย่าพูดมากน่า เดี๋ยวเสียอารมณ์” “อื้อ...พี่ภีม...อื้อ...อ๊ะ..” พลั่ก!!! “โอ๊ย!” ถึงกับร้องเสียงหลง ลิญาณาอดทนยืนฟังคนสองคนพร่ำบอกรักกันไม่ได้อีกต่อไป หล่อนจึงใช้แรงทั้งหมดที่มี ถีบเข้ากลางลำตัวของอีกฝ่ายที่ยังไม่ทันตั้งตัว ถึงกับเสียหลักกระเด็นหงายท้อง กลิ้งตกข้างเตียงลงไปทันที “กรี๊ด!!!!” “เซลีน!!!” ลูกนักการเมืองใหญ่ร้องเรียกชื่อคนรักเสียงหลงด้วยความตกใจ พร้อมกับเสียงกรี๊ดลั่น ของหญิงสาวอีกคน ที่อยู่สภาวการณ์เดียวกัน ชายหญิงสภาพกึ่งเปลือยเปล่า อาภรณ์ที่สวมใส่หลุดลุ่ยจนแทบไม่มีอะไรปกปิดเนื้อกาย อยู่ในสภาวะตกใจสุดขีด ใบหน้าซีดขาวด้วยความตกใจ ทำอะไรไม่ถูก ขณะที่นางเอกสาว จ้องมองคนทั้งคู่ด้วยสายตาพร่าเลือนด้วยม่านน้ำตา หล่อนเจ็บปวด จวนเจียนขาดใจ น้ำตาไหลพรากอาบสองแก้ม ผรุสวาทเสียงสั่นสะอื้น “เพื่อนก็ชั่ว!แฟนก็เลว สาระเลวมันทั้งคู่” “เซลีน ฟังพี่ก่อน นะ...ฟังพี่ก่อน” เพียะ! ไม่มีปรานีปราศรัย หล่อนเงื้อมือฟาดอีกฝ่ายเต็มแรง และคงไม่หนำใจ จึงยกเท้าขึ้นถีบอีกฝ่ายที่กำลังจะเข้ามาหา หมายจะจับตัวหล่อนเพื่ออธิบาย จนหงายท้องล้มลงไปอีกครั้ง พลั่ก ! “ทุเรศ!” ผรุสวาทใส่เสียงดังลั่น สีหน้าแววตาของหล่อนยามมองชายที่ตนรักเต็มไปด้วยความ ผิดหวังเสียใจ และรังเกียจเขาที่แตะต้องผู้หญิงคนนั้น แล้วยังคิดจะมาโดนตัวเธออีก “พี่...” นัยน์ตาคู่สวยแดงก่ำ ขณะหันสายตามองไปยังอดีตเพื่อนสนิทที่กำลังหาอะไรมาปิดบังความอุจาดของตนเอง ร่างกึ่งเปลือยเปล่า จนเห็นอะไรต่อมิอะไร ยิ่งดูขยะแขยงต่อสายตาหล่อนมากยิ่งขึ้น “เซลีน ฟังพี่ก่อน” “หุบปาก!” หันไปสั่งเสียบเฉียบ ชี้นิ้วที่ไปหน้าของเขา จนระพีทัศน์ถึงกับสะอึกอึ้ง นิ่งเงียบไปทันที นางเอกสาวย่างสามขุมเข้าไปหาเพื่อนสนิท ที่ค่อย ๆ ถดถอยตัว ด้วยความหวาดกลัว เพราะหล่อนเองก็ไม่คิดว่า อีกฝ่ายยามเมื่อโกรธจัดจะน่ากลัวได้ถึงเพียงนี้ “แก...เอ่อ...เซลีน ฟังฉันก่อนสิ” เพียะ “นี่สำหรับคำว่าเพื่อน!” เพียะ “นี่สำหรับที่แกมาแอบกินแฟนฉัน” เพียะ “แล้วนี่สำหรับผู้หญิงสารเลวอย่างแก” ไม่รอให้ตั้งตัว และไม่คิดจะฟัง ลิญาณาเงื้อมือสุดแขน ฟาดฝ่ามือลงบนใบหน้าของอีกฝ่าย ระรัวถึงสามครั้งด้วยความแค้นเคือง และเหมือนเธอยังไม่หนำใจ อยากทำมากกว่านั้น แต่กลับต้องชะงัก เพราะถูกใครบางคนมาคว้าตัว กอดดึงรั้งไว้ ปรามด้วยเสียงทุ้มเข้ม ทว่า กลับทำให้เธอนิ่งสงบได้อย่างน่าประหลาด “พอเถอะ” “มึงเป็นใครว่ะ!” ระพีทัศน์เพิ่งสังเกตเห็นหันมามองหน้าอีกฝ่ายอย่างเอาเรื่อง ตั้งท่าจะลุกขึ้นมา แต่ก็ต้องล้มกลับลงไปนั่งตามเดิม เมื่อถูกคนของอีกฝ่ายเข้ามาจับตัวยึดไว้ ท่ามกลางเสียงโหวกเหวก โวยวายที่เริ่มดังขึ้น “เห้ยปล่อย!” “พี่ภีม เราจบกันตั้งแต่วันนี้! ต่อไปนี้อย่าได้วนมาเจอกันอีก ชีวิตนี้ขอให้เราขาดกันนะคะ!” หญิงสาวประกาศลั่น นัยน์ตาเด็ดเดี่ยว ขณะที่อดีตคนรักเธอ ถึงกับเบิกตากว้าง ด้วยความตกใจและคาดไม่ถึง สั่นหน้าปฏิเสธ ไม่อาจยอมรับคำประกาศิตของหญิงคนรักได้ “ไม่!ไม่นะเซลีน!” ลูกชายนักการเมืองที่เคยเย่อหยิ่ง ยิ่งใหญ่และคิดว่าเหนือใครมาตลอด ถึงกับครวญเรียกชื่อคนรักเสียงสั่นละล่ำละลัก ปฏิเสธเสียงสั่น ลิญาณาหยิบแหวนเพชรเม็ดใหญ่ที่เคยประดับอยู่บนนิ้วนางข้างซ้าย แต่ทว่า นับตั้งแต่ที่เธอถอดมันออก ก็ไม่เคยคิดสวมใส่มันกลับเข้าไปอีกเลย นำออกจากกระเป๋า ห่อใส่กระดาษทิชชูอย่างดี ปาใส่คนตรงหน้าด้วยแรงทั้งหมดที่มี “เอาขยะคุณคืนไป!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD