ตอนที่ 3.2 ส่งผิด

1527 Words
ตอนที่ 3.2 ส่งผิด หัวใจของลิญาณาแทบหยุดเต้น น้ำตาไหลรินอาบแก้ม ก่อนจะปล่อยโฮออกมาจนสุดเสียง ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังมีสติที่จะกดบันทึกคลิปดังกล่าวนั้นไว้ ขณะที่อีกไม่กี่วินาที ต่อมาอีกฝ่ายกลับกดลบ ยกเลิกข้อความดังกล่าว ‘อุ้ยส่งผิด เธอคงยังไม่ได้กดดูใช่ไหม’ นางเอกสาวมองข้อความนั้นด้วยหัวใจแตกร้าว หล่อนรู้ว่าอีกฝ่ายจงใจส่งคลิปดังกล่าวมาให้เธอดู หวังเยาะเย้ย ให้เธอเจ็บใจ เสียใจ หญิงสาวปาดน้ำตาที่กำลังไหลรินอาบแก้มทิ้ง พยายามตั้งสติ หยุดร้องไห้ แต่เหมือนยิ่งห้ามตัวเอง ก็ยิ่งร้องไห้หนักขึ้น พลันนึกถึงเหตุการณ์บางอย่างก่อนหน้านี้ ที่ผ่านมาเธอไม่เคยฉุกคิดสักนิด ว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพราะอะไร แรก ๆ นั้นเขาก็ดูใส่ใจ คอยดูแลตามรับส่ง แต่ระยะหลังมานี้ กลับห่างเหินไม่ได้สนใจเธอเหมือนอย่างเคย แม้กระทั่งในคืนวันที่เขาคุกเข่าขอเธอแต่งงานที่ภูเก็ต บนเรือยอร์ชหรู... วันนั้น เขาก็หายไปตลอดทั้งคืน ไม่ได้กลับมานอนที่ห้อง ทั้ง ๆ ที่เธอเตรียมใจไว้แล้วว่า คืนนั้น เธอจะต้องเป็นของเขา เพราะความกลัวและฝังใจกับการมีความสัมพันธ์ในเชิงนั้น จากอดีตที่เคย... เกือบจะต้องถูกข่มขืนจากใครคนหนึ่งที่เธอเคยเชื่อใจและให้ความเคารพรัก ทว่า นับจากวันนั้นมันทำให้เธอกลายเป็นหวาดกลัว และฝังใจ แต่กว่าจะทำใจ ที่จะยอมมอบสิ่งนั้นให้กับเขาได้... เขากลับหายไปไม่กลับมา ปล่อยให้เธอรอเขาอยู่เกือบตลอดทั้งคืน หยดน้ำตาไหลรินอาบแก้ม หล่อนสะอื้นตัวโยนอยู่คนเดียวลำพัง ในคืนที่ทั้งเงียบเหงา และว้าเหว่ ใจเธออยากมีใครสักคนโอบกอดและปลอบประโลมเธอบ้าง...ความหวาดกลัวที่เกิดขึ้นในวันนี้ยังไม่ทันจางหาย แต่กลับต้องมาเจอเรื่องนี้....หัวใจเธอแทบไม่เป็นชิ้นดี ทว่า ในชั่ววินาทีนั้นที่หล่อนตัดสินใจอะไรได้บางอย่าง ปลายตามองแหวนเพชรที่ประดับอยู่บนนิ้วนางข้างซ้ายนิ่งนาน ถอดมันทิ้งไว้ พลางคิดหมายมาดในใจว่า เธอจะไม่ยอมจากมาง่าย ๆ ให้คนคู่นั้นได้เสวยสุขท่ามกลางความทุกข์ของเธอเป็นแน่ หญิงสาวสะอื้นในอก พยายามปาดน้ำตาที่กำลังรินไหล มือเรียวหยิบลิปสติกสีโปรดแบรนด์หรูขึ้นมา สายตาจ้องมองดูตนเองผ่านกระจกบานใหญ่ตรงหน้า ก่อนจะค่อย ๆ ละเลียดบรรจงทาบนริมฝีปากอิ่มบางรูปกระจับ อย่างช้าๆ หล่อนสวยสง่า ในชุดเดรสเกาะอกสีขาวสั้นเลยเข่ามาเพียงนิด ผมยาวปล่อยสยายถึงกลางหลัง สวมเครื่องประดับน้อยชิ้นเพียงแค่ต่างหูทอง กับแหวนเพชรเม็ดเสี้ยว เป็นแหวนวงที่เธอซื้อไว้ใส่เล่น แต่กลับวางแหวนเพชรเม็ดใหญ่น้ำงามลงบนโต๊ะ ลิญาณาปรายตามองแหวนวงนั้นเพียงนิด น่าขันที่เธอกลับไม่รู้สึกเสียดายมันเลยแม้แต่สักเสี้ยวความรู้สึก ในเมื่อคิดที่จะตัด เธอก็จะต้องตัดให้ได้ หล่อนพยายามพร่ำบอกตัวเองแบบนั้น! ความรัก หากเขาไม่รัก...ไม่ใยดี เหตุใด เธอจะต้องไปวิ่งตามเขา พร้อมกับสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ นัยน์ตาเด็ดเดี่ยว ยามเมื่อมองใบหน้าสวยหวานของตนเอง ฉาบด้วยเครื่องสำอางราคาแพง ช่วยปกปิดร่องรอยความเจ็บช้ำได้อย่างดีเยี่ยม ร่างระหงย่างเท้าเข้ามาในคลับหรูของโรงแรมเคลย์คิงตัลตั้งอยู่ชั้นบนของตัวอาคาร ภายในร้านนั้นค่อนข้างเงียบสงบ ไม่ค่อยมีผู้คนพลุกพล่านมากนัก อาจเป็นเพราะวันนี้ยังอยู่ในช่วงเวลาของความวุ่นวาย โชคดีที่โครงสร้างอาคารของที่นี่ค่อนข้างแข็งแรง มาตรฐานสูงด้วยวัสดุและการออกแบบ ทำให้ตัวอาคารแทบจะไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อตอนกลางวันเลยสักนิด หลังจากตรวจเช็คจากวิศวกร จนเรียบร้อย แขกได้กลับมาเข้าพัก ทุกอย่างภายในโรงแรมจึงกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ นางเอกสาวเลือกที่นั่งหลบมุม ห่างไกลสายตาผู้คนพอสมควร หล่อนนั่งจมอยู่กับความคิดของตนเอง ขณะที่ปลายนิ้วนั้นกำลังจดจ่ออยู่กับบางอย่าง หล่อนกำลังชั่งใจอย่างหนัก ว่าควรจะกดส่งข้อความนั้นไปดีหรือไม่ ขณะกำลังครุ่นคิดหนักอยู่นั้น ท้ายที่สุด ข้อความที่ว่า ‘เราเลิกกันเถอะค่ะ’ ถูกกดส่งไปทันที เพียงไม่กี่นาที เท่านั้น ที่เสียงโทรศัพท์แผดร้องดังขึ้น ลิญาณาปลายตามองชื่อที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์แล้วได้แต่สะอื้นออกมาเบา ๆ กับใจที่เจ็บช้ำเจียนคลั่ง แต่ด้วยสติที่มีอยู่เพียงน้อยนิดในตอนนี้ มันคอยตอกย้ำ ให้เธอต้องเพียรระงับความคิดมากมาย ที่อยากทำลายคนทั้งคู่ให้ย่อยยับ ตายตกไปด้วยกัน เพราะความคับแน่น แค้นใจ คนหนึ่งก็เพื่อน อีกคน...คือคนที่เธอรัก! น้ำตารินไหลอาบแก้ม ไม่รู้ทำไมแต่ แค่เธอยังไม่พร้อมเผชิญหน้าเขาในตอนนี้เท่านั้น เธอกลัว... กลัวทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ ไหนจะข่าวเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น...ใครจะหัวเราะแล้วสมน้ำหน้าเธอยังไง คบไม่กี่เดือนก็ประกาศแต่งงาน...ไม่ทันไรจะประกาศเลิกแล้วอย่างนั้นหรือ? หญิงสาวสูดลมหายใจเข้า ขณะครุ่นคิดหนัก ใจเธอเจ็บ ปวดรวดร้าว จนแทบจะไม่อยากมีชีวิตต่อ เตกิล่าแก้วแล้ว แก้วเล่าถูกกระดกยกขึ้นดื่ม ราวกับต้องการดับไฟในหัวใจเธอที่กำลังแผดเผา จนไหม้เกรียม กระทั่ง “พอได้แล้วมั่ง” เสียงเข้มห้วนดุ เอ่ยขึ้น พร้อมกับดึงแก้วที่อยู่ในมือเธอออกอย่างถือวิสาสะ จนหญิงสาวถึงกับหันมองหน้าชายคนนั้น ตาเขียวปั๊ด ตั้งท่าจะวีนเหวี่ยงใส่ แต่กลับต้องชะงัก แล้วหยุดความคิดนั้นไว้ทันที ใบหน้าหล่อเข้ม คลับคล้ายคลับคลา ว่าเธอเคยเจอที่ไหนสักแห่ง แต่เพราะสติอันพร่าเลือน ทำให้ใบหน้าสวยขมวดมุ่น พยายามครุ่นคิด หญิงสาวสาวกะพริบตาถี่ พร้อมกับสะบัดหน้าไปมา เรียกสติตัวเองที่มีเหลืออยู่เพียงน้อยนิด “นั่น...คุณ!?” “พอได้แล้วคุณ ดื่มหนักขนาดนี้ เดี๋ยวก็มีคนมาหิ้วไป” เสียงเข้มเอ่ยตำหนิเตือน พร้อมกับทรุดตัวนั่งเก้าอี้บาร์ข้างเธอ ก่อนจะหันไปสั่งเครื่องดื่มกับบาร์เทนเนอร์ที่มายืนรอรับออเดอร์ด้วยความนอบน้อมอยู่ก่อนแล้ว “ยุ่งทำไม เรื่องของฉัน” คำตอบถือดีของหญิงสาว กลับทำให้เขากระตุกยิ้มมุมปาก จากใบหน้าหล่อของซีอีโอหนุ่มใหญ่ เจ้าของธุรกิจหลักหมื่นล้าน ให้ยิ่งนึกขบขันกับท่าทีเหล่านั้น “หึหึ” ริมฝีปากหนากระตุกยิ้ม หัวเราะเบา ๆ ในลำคออย่างอารมณ์ดี “ฉันคุ้นหน้าคุณนะ...เหมือนเราเคยเจอกัน” ชายหนุ่มไม่ตอบ เพียงแต่ยกแก้ววิสกี้ราคาเฉียดแสน กระดกรวดเดียวจนหมด “อ๋อ....ออออ...รู้แล้ว คุณที่ช่วยฉันวันนี้” นึกอยู่นานกว่าจะนึกออก หล่อนถึงกับลากเสียงยาว หัวเราะร่วนออกมาด้วยความชอบใจ อวยยศความจำตนเองที่ยังคงดีเยี่ยม แม้สติจะเลือนรางแค่ไหน แต่ก็ยังจำผู้มีพระคุณของเธอได้ดี “หึหึ” ซีอีโอหนุ่มใหญ่เจ้าของโรงแรมเคลย์คิงตัล หัวเราะในลำคอ ขณะที่เธอนั้นเอาแต่ชื่นชมความจำของตนเอง พรรณนาไปเรื่อยด้วยเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ ที่กำลังสูบฉีดทั่วร่าง พลอยทำให้ไม่เป็นตัวของตัวเอง แสงไฟจากหน้าจอโทรศัพท์หรูสว่างวาบอยู่ตลอดเวลา กระทั่ง เขาที่คอยลอบมองสังเกตได้สักระยะ จึงเอ่ยขึ้น “เหมือนจะมีคนโทรศัพท์หาคุณนะ” ลิญาณามองไปยังโทรศัพท์เครื่องหรูที่หล่อนปัดทิ้งไปเสียไกลตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ ก่อนจะตัดสินใจคว้ามันกลับขึ้นมาดู แค่นหัวเราะออกมาทั้งน้ำตา เมื่อเห็นชื่อของคนรักเธอที่กระหน่ำโทรกลับมาหาเกือบสิบสาย แม้กระทั่งข้อความต่าง ๆที่ถูกพิมพ์ส่งเข้ามาให้เธอได้นึกขำอยู่ในใจ ‘เล่นบ้าอะไรเซลีน!’ ‘รับโทรศัพท์พี่เดี๋ยวนี้นะ!’ ‘หยุดงี่เง่าเสียทีเซลีน’ ก่อนจะตัดสินใจส่งคลิปและข้อความที่เธอมีจากไอมิ ส่งกลับไปให้เขา จะได้รู้เสียทีว่าเธอไม่ได้โง่ เพียงแต่ไว้ใจเขามากเกินไปเท่านั้น “คุณคะ...ช่วยอะไรฉันได้ไหม” “ช่วยอะไร” “ไปเป็นเพื่อนฉัน” เจ้าของใบหน้าคมคาย นิ่งงันไปชั่วขณะ เมื่อเห็นใบหน้าสวยเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา หล่อนสวย หวาน ทว่า นัยน์ตาคู่นั้นกลับหม่นเศร้า สะกดให้เขาจ้องมองนิ่งไม่วางตา “ไปไหน” “ไปเอาเลือดหัวคนออก!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD