ตอนที่ 4 รอยยิ้มของคุณหนู...กับหมัดของนักสู้

2289 Words
แดดยามบ่ายคล้อยเริ่มอ่อนแรง—นักศึกษาทยอยเดินออกจากตึกเรียน เมษากับพริ้มเดินออกมาด้วยกัน เพราะพวกเธอตั้งใจจะไปร้านคาเฟ่ที่ชาวโซเชียลรีวิวเอาไว้ ทั้งสองคนพูดคุยกันหัวเราะคิกคัก เดินเลี้ยวไปยังทางเดินข้างคณะ เพื่อมุ่งไปยังลานจอดรถของวิศวะ กลับพบว่าทางเดินถูกบล็อกด้วยสาวรุ่นพี่กลุ่มหนึ่ง—ชุดนักศึกษาพอดีตัว รองเท้าส้นสูง และท่าโพสกอดอกเหมือนพร้อมจะถ่ายขึ้นปกนิยายนางร้าย “จะรีบไปไหนจ๊ะ...น้องปีหนึ่ง” เสียงหวานติดเย็นดังขึ้นจากหญิงสาวผมประบ่า หน้าคมแต่งหน้าจัด ยืนอยู่กลางกลุ่มด้วยท่าทางน่าเกรงขาม “น้องชื่อเมษาใช่มั้ย? เมษา…ที่ซ้อนท้ายคีตะมาเมื่อเช้า?” พริ้มจับแขนเมษาเบา ๆ ทันที สัญชาตญาณบอกว่า ไม่ปลอดภัยแล้วแน่ ๆ เมษาหันกลับมา มองรุ่นพี่ทุกคนด้วยรอยยิ้มอ่อนหวาน แต่ในแววตากลับเยียบเย็นอย่างน่าประหลาด ริมฝีปากแดงธรรมชาติยกยิ้มนิด ๆ “ค่ะ เมษาเอง แล้วมีอะไรเหรอคะ รุ่นพี่?” “แหม...ก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่จะถามเฉย ๆ ว่าน้องมีสิทธิ์อะไรถึงได้ใกล้ชิดกับคีตะขนาดนั้น?” “สิทธิ์เหรอคะ?” เมษากะพริบตาปริบ ๆ ก่อนจะโน้มตัวเล็กน้อย “หนูก็ไม่รู้หรอกค่ะ แต่หนูอยู่บ้านเดียวกันกับพี่คีตะน่ะค่ะ~” ผ่าม! คำตอบของเธอทำให้บรรยากาศเหมือนมีใครจุดชนวนระเบิดกลางอากาศ รุ่นพี่สาว ๆ หน้าเปลี่ยนสีทันที บางคนกัดปาก บางคนกำหมัดแน่น “เก่งมากเลยนะคะ...งั้นคงต้องสั่งสอนมารยาทเสียหน่อยแล้ว” ฟึ่บ! ทันใดนั้น ร่างของสาวรุ่นพี่สามคนก็เข้าประชิดเมษาเร็วราวกับจัดท่ารำมวย—หนึ่งคนยืนขวางด้านหน้า อีกสองคนตีวงด้านหลัง ประกบไว้เหมือนปลาปักเป้าในเข่ง พริ้มก้าวมาข้างหน้าอย่างลืมตัว “เห้ยยย! รุมกันนี่หว่า!!!” แต่เมษายกมือกันเพื่อนเอาไว้—เธอไม่แสดงความกลัวเลยสักนิด ตรงกันข้าม…เธอถอนหายใจเบา ๆ พลางเอียงคอเล็กน้อย คล้ายกับกำลังเบื่อหน่าย “จะรุมเลยมั้ยคะ?” เสียงหวานพูดนิ่ง ๆ “จะได้ถอดต่างหูไว้รอ” เมษายักคิ้วกวน ๆ คำพูดของเมษาทำเอาพวกรุ่นพี่ควันออกหู โกรธหน้าดำหน้าแดง “ปากดีนักนะแก!!” เสียงรุ่นพี่สาวแก่คนหนึ่งเอ่ยขึ้น ก่อนจะปรี่เข้ามาอย่างคนที่คิดว่าเด็กปีหนึ่งไม่มีพิษสง ฟึ่บ! มือของเมษายกขึ้น… แต่แทนที่จะหลบ เธอกลับรับหมัดนั้นไว้ แล้วหมุนข้อมือกลับ พร้อมออกแรงสะบัดเบา ๆ แบบศิลปะป้องกันตัวที่เรียนมาตั้งแต่ประถม รุ่นพี่คนนั้นเซไปอีกด้านทันที ยังไม่ทันตั้งหลัก… เพี๊ยะ! เมษาก็สะบัดฝ่ามือเข้าเต็มแก้มของอีกคนที่โผล่มาข้างหลังอย่างแม่นยำ “หนึ่ง…” เธอพึมพำเบา ๆ พลางเหลือบมองรอบตัวอย่างใจเย็น “สอง…” เพี๊ยะ! อีกฝ่ามือฟาดเข้าอีกคนจนผมหน้าม้าแตกกระเจิง สาว ๆ ที่เหลือเริ่มชะงัก…ไม่คิดว่าน้องปีหนึ่ง จะเป็นแม่เสือสาว “สั่งสอนพอแล้วเหรอคะ?” เมษาเชิดหน้ายิ้ม หยิบยางมัดผมมัดหางม้าให้แน่นขึ้นอย่างสุดเท่ แต่ก่อนที่เธอจะได้ฟาดคำว่า “สาม!” — หนึ่งในรุ่นพี่ก็ดันใช้จังหวะวิ่งเข้ามาด้านข้าง พุ่งชนแรงจนร่างของเมษาเซถลา แต่ด้วยประสาทสัมผัสที่เฉียบไว เธอถีบสวนเข้าที่ท้องของรุ่นพี่คนนั้นเต็มแรงจนกระเด็นลงไปนอนกับพื้น ขณะเดียวกันหน้าตึกคณะวิศวกรรมศาสตร์ คีตะและภูผากำลังเดินคุยกันลงมาเรื่องโปรเจกต์ที่ได้รับมอบหมายจากอาจารย์ เพื่อนร่วมรุ่นคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหาทั้งคู่ “ไอ้คีตะ!! น้องที่ซ้อนท้ายมึงมาเมื่อเช้า โดนรุมอยู่หลังโรงอาหารว่ะ!” คำพูดนั้นทำให้เขาชะงัก ดวงตาคมวาววับเป็นประกาย ก่อนจะออกวิ่งตรงไปยังหลังโรงอาหารทันที โดยมีภูผาโวยวายตามหลัง ทางด้านเมษาที่กำลังตบรุ่นพี่อย่างเมามันด้วยทักษะที่เหนือกว่า ดันตาไวเห็นคีตะกำลังวิ่งตรงมาแต่ไกล ร่างสูงในชุดนักศึกษาที่พับแขนเสื้อกับกระเป๋าสะพายเฉียงนั้น…ใครเห็นก็ต้องรู้ว่าหล่อชะมัด! เธออาศัยจังหวะชุลมุนรีบตีหน้ารุ่นพี่จนคิ้วแตกทันที—เอ๊ย! ตีหน้าเศร้า…แล้วทำเป็นลื่นล้มลงกับพื้น พร้อมเซฟตัวเองด้วยท่าทางเนียน ๆ ที่ดูเหมือนถูกทำร้ายอย่างหนัก ตุบ! “อ๊ะ!” เสียงเมษาร้องเบา ๆ มือเล็กยันพื้นไว้ ก่อนจะแกล้งตัวสั่นนิด ๆ คีตะที่วิ่งมาถึง เห็นภาพนั้นพอดี—โดยไม่ทันมองเลยว่าอีกสามสาวนั้น…ผมกระเซิง แก้มแดง มือสั่น หน้าตาเละกว่าซุปมิโสะ! “พวกเธอทำบ้าอะไรกัน?” เสียงของเขาตะคอกออกมาด้วยอารมณ์โมโห ก่อนตรงเข้าไปหาเมษาที่ล้มอยู่ “มะ…ไม่ใช่นะ พวกเราแค่…” “ไสหัวไป ก่อนที่ฉันจะรายงานเรื่องนี้ให้อาจารย์รู้” น้ำเสียงเย็นเยียบและสายตาคมกริบของคีตะทำให้สาว ๆ รุ่นพี่รีบถอยออกไปแบบไม่คิดชีวิต คีตะหันกลับมาหาเมษา “เจ็บตรงไหนมั้ย?” เมษาเงยหน้ามองเขา ตาใส ๆ สั่นระริกเล็กน้อย “หนู…ไม่เป็นไรค่ะ” คีตะยื่นมือให้ “ลุกไหวมั้ย?” เมษายิ้มบาง ๆ พร้อมคว้ามือนั้นไว้ “ขอบคุณค่ะ” “โอ้ย แฮ่ก แฮ่ก” ภูผาที่วิ่งตามมาหอบแฮ่กด้วยความเหนื่อย “น้องเมษาเป็นไรมั้ย?” “ไม่เป็นไรค่ะ” เมษายิ้มให้ภูผาแต่ยังไม่ยอมปล่อยมือจากคีตะ ขณะที่ร่างสูงยังคงกวาดตามองทั่วร่างเธอว่ามีการบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า “อะแฮ่ม~ จะไม่แนะนำหน่อยเหรอ” พริ้มกระแอมเตือนเพื่อน “อุ๊ย พี่คีตะ พี่ภูผา นี่พริ้มเพื่อนเมษาค่ะ” เมษาแนะนำเพื่อนสาว “สวัสดีค่ะ พี่คีตะ พี่ภูผา” “ว้าววว~ น้องพริ้มน่ารักไม่แพ้น้องเมษาเลยนะเนี่ย” ภูผาตาเป็นประกายแพรวพราว “จริงสิ พี่คีตะ พี่ภูผา" เมษาร้องขึ้นเหมือนนึกอะไรออก “วันนี้หนูกับพริ้มว่าจะไปคาเฟ่เปิดใหม่ ชื่อ จันทร์ละมุน ตามรีวิวในโซเชียลเลยค่ะ คาเฟ่ตกแต่งแนวเกาหลีมินิมอล มีโทนสีขาวครีมกับดวงไฟที่เหมือนแสงจันทร์~ หนูอยากไปถ่ายรูปมากเลย!” เธอยิ้มกว้างอย่างตื่นเต้น ดวงตาเป็นประกายใส “ไปด้วยกันมั้ยคะ? ถือว่าเป็นการเลี้ยงขอบคุณที่พวกพี่มาช่วยเมษาก็ได้~” “ไปสิ!” ภูผารีบตอบทันทีด้วยท่าทางกระตือรือร้นสุด ๆ “ไปใช่มั้ย ไอ้คี” คีตะมองเมษาเงียบ ๆ อยู่พักหนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ “เธอเจ็บตัวแทนที่จะพัก กลับจะลากฉันไปคาเฟ่?” “หูย~ หนูไม่ได้เป็นแผลตรงไหนนะคะ แค่เจ็บก้นนิดเดียวเอง” เมษาเอียงคอฉีกยิ้มกว้าง ทำเอาพริ้มกลั้นขำแทบไม่อยู่ คีตะยกมือขึ้นลูบต้นคอตัวเองอย่างปลง ๆ “ก็ได้... แต่อย่าซ่าอีกล่ะ” “เย่~!” เมษากับพริ้มตะโกนเบา ๆ พร้อมตบมือตัวเองด้วยความดีใจ ก่อนจะพากันเดินไปยังลานจอดรถพร้อมคีตะ โดยมีภูผาเดินตามหลังพร้อมบ่นว่า “หวังว่าร้านจันทร์ละมุนจะมีเค้กช็อกโกแลตไม่หวานเกินนะ...” 🌸🌸🌸 คาเฟ่จันทร์ละมุน ร้านคาเฟ่ชื่อดังที่กำลังไวรัลในโซเชียล ตั้งอยู่ในซอยเล็ก ๆ ใกล้กับมหาวิทยาลัย บรรยากาศอบอุ่น ตกแต่งด้วยโทนสีขาวครีม ผสมกลิ่นอายเกาหลีมินิมอลและความวินเทจละมุนตา ภายในร้านมีแชนเดอเลียร์ทรงพระจันทร์เสี้ยวห้อยอยู่กลางร้าน แสงสีทองนวลส่องกระทบเฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อน เพิ่มความอบอุ่นน่าถ่ายรูปไปทุกมุม เคาน์เตอร์ไม้หน้าร้านมีป้ายเขียนด้วยลายมือหวัดสวยว่า: 🌕 เมนูแนะนำวันนี้ · เค้กชาไข่มุกหน้านุ่ม “Moon Boba Cream” · บลูเบอร์รี่ชีสพายเย็น · ลาเต้ “Midnight Moon” (ลาเต้เข้มสูตรลับเฉพาะของร้าน) · คาราเมลมัคคิอาโต้ร้อน · ครัวซองต์อบสดเนยฝรั่งเศส · ทีรามิสุซากุระ เมษาเป็นคนแรกที่เดินเข้าไปในร้าน ดวงตาเปล่งประกายวิบวับทันที เมื่อเห็นโซนกระจกริมหน้าต่างที่ประดับด้วยม่านลูกไม้ และมีโต๊ะกลมวางแจกันดอกไลแล็คสีชมพูพาสเทล “ว้าววว~ น่ารักมากเลยค่ะ~” เมษาหมุนตัวเล็กน้อยด้วยท่าทางสวยงามสมกับเป็นคุณหนูลูกท่านทูต “อยากนั่งตรงนั้น!” พริ้มชี้ไปยังมุมโปรดที่เห็นพระจันทร์จำลองบนผนัง ขณะที่ทุกคนกำลังเลือกที่นั่ง พนักงานหน้าตาน่ารักก็มารับออเดอร์ “พี่คีตะชอบกาแฟเข้ม ๆ ใช่มั้ยคะ? หนูสั่งลาเต้มิดไนท์ให้นะคะ~” เมษาหันมาถามด้วยรอยยิ้มแสนหวาน คีตะพยักหน้าน้อย ๆ “แล้วของเธอล่ะ?” “Moon Boba Cream ค่ะ~ เค้กชาไข่มุกหน้านุ่มอันนี้ดังมากในรีวิวเลย ต้องลอง!” “ผมเอาคาราเมลมัคคิอาโต้ร้อนกับครัวซองต์ครับ~” ภูผาเสริมพลางยิ้มกว้าง “แล้วพริ้มล่ะ จะกินอะไรดี?” เมษาหันไปถามเพื่อนสาวที่กำลังนั่งดูเมนูด้วยท่าทางครุ่นคิด “ขอเป็น Strawberry Bloom Soda กับชีสเค้กยูซุค่ะ~” พริ้มยิ้มหวานให้พนักงาน ก่อนจะหันไปกระซิบเมษาเบา ๆ “นึกว่าจะไม่ถามฉันแล้ว เห็นจ้องแต่พี่คีตะจนแทบจะกินพี่เขาเข้าไปแล้ว” “ยัยพริ้ม!” เมษาหัวเราะเขิน ๆ แล้วตีแขนเพื่อนเบา ๆ หลังจากทุกคนสั่งเมนูเสร็จเรียบร้อย ก็พูดคุยกันอย่างเป็นกันเอง โดยภูผาเอาแต่ซักถามประวัติของเมษาอย่างออกนอกหน้า จนคีตะต้องปรามเพื่อน ไม่นานนัก พนักงานเสิร์ฟ ก็นำของหวานที่ทุกคนมาเสิร์ฟที่โต๊ะ กลิ่นหอมของกาแฟคั่วสดลอยคลุ้งทั่วร้าน เสียงเพลงบรรเลงเปียโนเบา ๆ กล่อมให้ทุกอย่างดูสโลว์ไลฟ์ เมษาใช้เวลาจัดจานถ่ายรูป—เธอค่อย ๆ หมุนเค้กให้มุมดีที่สุด แสงตกกระทบหน้าครีมสีขาวที่สอดไส้ไข่มุกน้ำตาลอ่อน “นี่ ๆ พี่คีตะลองเค้กหน่อยมั้ยคะ?” เมษาตักคำเล็ก ๆ แล้วจ่อช้อนมาตรงหน้าเขา “ลองดูสิคะ” คีตะเลิกคิ้ว แต่ก็ยอมก้มหน้าลงมาเล็กน้อย...แล้วงับเค้กเข้าปาก ก่อนเคี้ยวตุ้ย ๆ เมษากับพริ้มเห็นแบบนั้นก็หลุดหัวเราะคิกคักออกมา “อร่อยมั้ยคะ?” เมษาเอียงคอถาม “อืม...ใช้ได้” เขาพูดสั้น ๆ แต่กลับตักเค้กของเมษาอีกคำโดยไม่ขอ “เย้~” ‘พี่คีตะยอมกินเค้กที่หนูแนะนำแล้ว~ ถือว่าเป็นความสำเร็จของวันนี้เลยค่ะ!’ “แบบนี้ต้องอัปลงไอจีแล้ว~” เมษาหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายภาพรวดเร็ว ทั้งบรรยากาศ ทั้งเซลฟี่ ทั้งแอบแชะพี่คีตะกับภูผาไว้ครบ “ว่าแต่...ไอจีพี่คีตะชื่ออะไรคะ เดี๋ยวหนูแท็กไป~” เธอทำเสียงใส ๆ พร้อมเอียงหน้าถามด้วยความน่ารัก “ฉันไม่ค่อยเล่นพวกนั้นหรอก” เขาตอบนิ่ง ๆ แต่ตักเค้กของเธออีกคำอย่างหน้าตาเฉย “ไอ้คีมันขี้เก๊ก อย่าไปเชื่อ” ภูผาเสริมขณะง่วนอยู่กับครัวซองต์ในมือตัวเอง “จริง ๆ มันมีครบ ทั้งแอพแชทเขียว แอพฟ้า ไอจี สตอรี่… แต่มันแค่เอาไว้ส่องเฉย ๆ “งั้น...” เมษาอมยิ้มแบบเนียน ๆ “หนูขอแอดเฟรนด์พี่คีตะได้มั้ยคะ?” คีตะนิ่งไปนิด ก่อนจะหยิบมือถือออกมายื่นให้เธอ “เอาไปแอดเองแล้วกัน” ภูผากับพริ้มถึงกับตาโต ในขณะที่เมษาดี๊ด๊ารับมือถือของคีตะมา แล้วรีบแอดเฟรนด์ครบทุกแอปฯ อย่างคล่องมือ ก่อนจะยิ้มตาหยี “แอดเสร็จแล้วนะคะ~ เดี๋ยวหนูแท็กไปค่ะ” เธอส่งมือถือคืนให้คีตะ ในขณะที่หัวใจแอบเต้นตึกตัก เมษานั่งไขว่ห้างอย่างเป็นธรรมชาติ มือเรียวยกมือถือขึ้นมาไถดูรูปที่เพิ่งถ่ายในร้านเมื่อครู่นี้ “อืม…รูปนี้ดีสุด~” เธอยิ้มบาง ๆ เมื่อเห็นภาพที่คีตะก้มหน้ากินเค้กแบบไม่รู้ตัว กล้องจับจังหวะได้พอดีเป๊ะ แม้เขาจะมีสีหน้าเฉยเมยกับการตักเค้ก แต่ก็ยังดูหล่อเหลากระชากใจสาว ๆ อยู่ดี และที่สำคัญ...เธอเองก็อยู่ในเฟรม แอบส่งยิ้มหวานในฉากหลัง เมษาแต่งสีภาพนิด ๆ เติมฟิลเตอร์ละมุนให้ดูเหมือนภาพฟุ้ง ๆ จากฝัน แล้วก็พิมพ์แคปชั่นลงไปในโพสต์อย่างใจเย็น… “เค้กหวานมั้ย...ไม่รู้ ต้องถามคนตรงข้ามดู 💬🍰 #เคยบอกว่าไม่ชอบของหวาน...แต่ก็กินเค้กของหนูไปตั้งสองคำแล้วนะคะ 💗 @keetah.eng” “หนูแท็กหาพี่เรียบร้อยแล้วค่ะ” โพสต์เสร็จ เมษาส่งยิ้มหวานให้คีตะที่พยักหน้าหงึกหงัก โดยมือยังคงตักเค้กกินไม่หยุด หลังจากเมษาโพสต์ไม่นาน คอมเม้นต์ก็หลั่งไหลมาเต็ม เพราะยอดฟอลของเธอก็หลักแสนคนอยู่ “เรียบร้อย~ ส่งสัญญาณให้โลกทั้งใบรู้ว่า...ฉันเริ่มรุกแล้ว~” พริ้มกลอกตาแรงใส่เพื่อน “ยัยคุณหนูสายบุก…อย่าลืมพกอาวุธด้วยนะ เดี๋ยวพวกสาว ๆ รุ่นพี่จะเล่นแกอีกยก” “กลัวที่ไหนกัน~” เมษากระซิบตอบพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “พร้อมบวกเสมอ...รวมถึงเป้าหมายด้วย~”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD