ตอนที่ 3 เปิดเทอมวัยใส...มีแต่เรื่องยุ่ง

1634 Words
เช้าวันนี้ที่บ้านของคีตะ...เป็นวันเปิดเทอมใหม่วันแรก “คีตะ เปิดเทอมวันแรก พาน้องไปด้วยนะ” คุณอัญญาหันมาบอกลูกชายขณะวางจานไข่กระทะบนโต๊ะอาหาร คีตะ—ในชุดเสื้อช็อปวิศวะพับแขน กับกางเกงยีนส์ซีดตัวเก่ง เหลือบมองหญิงสาวตัวเล็กที่เดินลงมาจากบันได... สายตาเขาชะงักไปชั่วครู่ เสื้อนักศึกษาพอดีตัวกระชับช่วงเอวและหน้าอก... กระโปรงพรีสสั้นเหนือเข่าเล็กน้อยพอให้เห็นเรียวขาขาวเนียน ผมหางม้าถูกรวบหลวม ๆ เผยใบหน้าใสซื่อ แต่เต็มไปด้วยพลังบางอย่างที่เขาไม่กล้าอธิบาย รองเท้าผ้าใบสีขาวดูสดใสเข้ากับบุคลิกเด็กปีหนึ่งสุด ๆ “ผมไปมอไซค์นะ...เมษาจะไหวเหรอ?” เขาถามเสียงเรียบ แต่แววตานั้นแอบเหลือบมองขา พลางคิดในใจ...ยังดีที่ไม่โป๊... “สบายมากค่ะ พี่คีตะ~” เมษาตอบใบหน้ายิ้มระรื่น “หนูใส่กางเกงขาสั้นกันโป๊ไว้แล้วค่ะ!” เธอชูนิ้วเป็นรูปตัววี ประกอบรอยยิ้มสดใส มั่นใจสุด ๆ คีตะกระแอมเบา ๆ แสร้งเมิน “อืม งั้นก็...ไปกัน” เมษาวิ่งตามไปยังลานจอดรถ พร้อมสายตาที่จับจ้องมอเตอร์ไซค์คันโปรดของเขา—ดูเคติ มอนสตาร์ สีดำด้าน ที่ทั้งสวย หรู ดูแพงแบบมีระดับ พอเห็นเขายื่นหมวกกันน็อคให้ เธอก็กระโดดขึ้นซ้อนท้ายทันที (แถมแอบเขยิบให้แนบชิด...นิดนึง) “จับดี ๆ ล่ะ อย่าร้องนะ ถ้ารถมันแรง” “พี่คีตะ~ หนูเคยซ้อนลุงที่ขี่เรฟไปตลาดมาแล้วค่ะ...ไม่มีอะไรแรงไปกว่านั้นอีกแล้ว~” “...” คีตะไม่รู้จะขำหรือถอนหายใจดี ทันทีที่คีตะบิดคันเร่งดูเคติ มอนสตาร์สีดำด้าน ก็พุ่งออกจากบ้านราวกับลูกศร “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด!!!” เสียงกรีดร้องของเมษาดังแสบแก้วหู ร่างเล็กสะดุ้งเฮือก ก่อนจะกอดเอวของคีตะไว้แน่นโดยอัตโนมัติ “ฮะ...หนูไม่คิดว่ามันจะแรงขนาดนี้!!! 😭” เสียงของเธอสั่นระรัวขณะซุกหน้าลงกับแผ่นหลังของเขา คีตะหัวเราะในลำคอเบา ๆ ด้วยความเอ็นดู “เมื่อกี้ใครบอกว่าเคยนั่งเรฟไปตลาดมาแล้วสบายมาก?” “ฮือออ ตอนนั้นลุงเขาขี่ช้า...นี่มันจะบินแล้วค่าาา~” คีตะไม่ตอบอะไร นอกจากเอียงหน้ากลับมานิดหนึ่งแล้วบอกเสียงเรียบ “กอดแน่น ๆ ล่ะ อย่าปล่อย...เดี๋ยวหล่น” เมษารีบพยักหน้าอย่างว่าง่าย กอดเอวเขาแน่นขึ้นอีกระดับ หัวใจเต้นรัวจนแทบทะลุเสื้อ กระโปรงปลิวว่อนใต้แจ็กเก็ตที่เธอสวมใส่ไว้กันลม แต่ถึงจะกลัวแค่ไหน...ใบหน้าแดงระเรื่อของเธอก็แอบคลี่ยิ้ม ‘ได้กอดพี่คีตะแนบแน่นแบบนี้ กำไรชีวิตยัยเมษาแล้วววว!!!’ ... ณ ลานจอดรถหน้าคณะวิศวกรรมศาสตร์ เสียงเครื่องยนต์ของดูเคติ มอนสตาร์ดับลงพร้อมกับสายตาหลายคู่ที่หันมามองแทบจะทันที “นั่นพี่คีตะใช่ปะวะ?” “เห้ย หล่อไม่ไหวอ่ะ” “แต่คนที่ซ้อนท้ายคือใครน่ะ!?” คีตะถอดหมวกกันน็อคด้วยท่าทางเฉยชา สะบัดผมนิด ๆ เผยใบหน้าหล่อเข้มในลุคนักศึกษาปีสี่ เสียงกรี๊ดของสาว ๆ ดังขึ้นแทบจะทันที ข้างหลังเขา เมษาค่อย ๆ ถอดหมวกกันน็อคของตัวเอง ใบหน้าแดงก่ำเพราะแรงลมและ...แรงใจกอดเอวพี่คีตะมาตลอดทาง “ขอบคุณค่ะพี่คีตะ” “อืม” เขาพยักหน้านิด ๆ แล้วรับหมวกจากมือเธอ ตึง— เสียงรถกระแทกเบา ๆ ดังขึ้นจากอีกด้านของลานจอด ภูผาเพื่อนสนิทของคีตะ เพิ่งจอดมอไซค์คันเล็กของเขาอยู่ถัดออกไป “โหย~ วันนี้รถมึงดูดีว่ะ...แต่น้องเมษานี่สิ น่ารักกว่าอีก~” เขาเดินตรงเข้ามาหาทั้งคู่ สายตาแพรวพราวแบบคนมีแผน “วันนี้น้องเมษาน่ารักจังเลยครับ ไปส่งหน้าห้องเรียนมั้ย?” “ไม่เป็นไรค่า หนูเดินไปเองได้~” เมษายิ้มหวานเก็บอาการ แต่ในใจนั้นยังไงก็มองไปที่คีตะอยู่ดี คีตะไม่ได้พูดอะไร แต่ขมวดคิ้วเล็กน้อย ทันใดนั้น— “เมษาาาา~!!!” เสียงใสของหญิงสาวอีกคนดังขึ้นจากอีกฟากของลานจอด รถสปอร์ตสีชมพูเมทัลลิคเพิ่งจอดเสร็จ เจ้าของรถคือพริ้ม เพื่อนสนิทของเมษาตั้งแต่สมัยประถม เธอแต่งตัวสวยจัดในชุดนักศึกษาตัวเป๊ะ ผมตรงปล่อยยาวสลวยสะบัดตามลม “พริ้มมมม!” เมษาโบกมือดีใจ เตรียมวิ่งไปหา แต่ทันใดนั้นร่างบางก็ราวกับติดเบรกกะทันหัน เธอหันกลับมา มองหน้าคีตะด้วยสายตาขอบคุณ “พี่คีตะ ขอบคุณมากนะคะที่พามาด้วย หนูไปก่อนนะคะ” เธอยิ้มหวาน ก่อนจะหมุนตัวกลับไปวิ่งหาเพื่อนสาวอย่างร่าเริง ไม่แยแสกับสายตาจิกกัดจากสาว ๆ รอบข้างที่มองมาจนลูกตาแทบถลน “โห๊ย~ เปิดเทอมวันแรก มีกลิ่นดราม่าลอยมาแต่ไกลแล้วเว้ย~” ภูผาผิวปากหวือเบา ๆ คีตะหันมามองเขานิดหนึ่ง “ดราม่าอะไรของมึง” “ก็เล่นพาน้องซ้อนท้ายรถเข้ามาโชว์กลางลานขนาดนี้ คิดว่าบรรดาสาว ๆ ของมึงจะยอมเร้อ~” ภูผายักคิ้วกวน ๆ แล้วหัวเราะเบา ๆ “…” คีตะไม่ตอบอะไร นอกจากมองตามหลังของเมษาที่กำลังวิ่งไปหาพริ้ม “ไม่มีอะไรหรอกน่ะ” เขาตอบเสียงเรียบ แล้วหันหลังเดินเข้าคณะไป “เห้ยย! รอกูด้วยเซ่!” เสียงโวยของภูผาดังตามหลังมา พร้อมกับที่เขารีบวิ่งตามเพื่อนซี้เข้าไปอย่างอารมณ์ดี 🌸🌸🌸 ตอนเที่ยง... โรงอาหารของคณะสถาปัตย์... แม้จะไม่ได้หรูหราเหมือนภัตตาคาร แต่ก็มีมุมเก๋ ๆ สไตล์มินิมอล โต๊ะไม้ยาวนั่งรวมกันแบบโอเพ่นสเปซที่ทำให้การกินข้าวไม่ต่างจากเวทีแฟชั่นโชว์ เมษาถือถาดใส่ชามราเมนเดินตามหลังพริ้มเข้ามาในโรงอาหาร ท่ามกลางเสียงพูดคุยจอแจ และ...สายตาหลายคู่ที่จ้องมองมายังเธอแบบไม่ปิดบัง “เหย...นั่นเด็กปีหนึ่งที่ซ้อนพี่คีตะมาป่ะวะ?” “ย่ะ! เห็นเลยตอนลงจากมอไซค์ ยังจะมายิ้มหวานอีกนะ!” “น้องใหม่เหรอ? นี่ปีสี่อย่างฉันยังไม่เคยนั่งมอไซค์คีตะเลยนะยะ!” “นางเป็นใคร ทำไมได้ซ้อนมอไซค์คีตะวะ!” เสียงกระซิบที่ดังไปทั่ว บรรดาสาว ๆ ทุกคนมองเมษาราวกับประหนึ่งเป็นศัตรูหัวใจ แต่เมษาไม่สนใจ เดินต่ออย่างมั่นใจ เพราะเธอตั้งใจจะจีบพี่คีตะเต็มสตรีมอยู่แล้ว พริ้มที่เดินมาด้วยกันยกมือป้องปาก แล้วเอียงตัวมากระซิบ “ยัยเมษา...ฉันว่า ยัยรุ่นพี่สาวแก่ทั้งหลายของพี่คีตะคงไม่ปล่อยแกไว้แน่!” เธอเน้นคำว่า “สาวแก่” พร้อมเบ้ปากแรง ๆ จนเมษาหลุดหัวเราะพรืดออกมา “พูดเหมือนฉันแย่งแฟนพวกเขางั้นแหละ~” “ไม่แย่งก็เหมือนแย่ง! พี่คีตะน่ะเขาหล่อ แถมยังขึ้นชื่อว่าไม่เคยพาใครซ้อนท้ายมาก่อนด้วยป่ะ?!” เมษาชะงักนิดหน่อย ก่อนจะวางถาดอาหารลงบนโต๊ะอย่างนุ่มนวล เธอหยิบชามราเมนเซรามิกออกมาวางตรงหน้า จัดวางตะเกียบเรียบร้อย ก่อนฉีกห่ออย่างประณีตด้วยปลายนิ้ว แล้วจับตะเกียบอย่างถูกต้องตามมารยาท พร้อมเริ่มกินด้วยท่วงท่าเรียบร้อยสง่างาม “แกรู้ได้ไง?” เธอถามพลางเป่าเส้นราเมนเล็กน้อย แล้วค่อย ๆ จับขึ้นมาทานทีละคำ ภาพลักษณ์คุณหนูลูกผู้ดีตอนกินข้าวของเมษา ตัดกับสายตาแรง ๆ รอบด้านได้อย่างพอดิบพอดี “นี่ไง!” พริ้มยื่นมือถือให้ดู หน้าจอเปิดอยู่ที่กระดานข่าวของมหา’ ลัย ที่นอกจากจะมีหัวข้อ “ลือหนัก! ปีหนึ่งคนสวยซ้อนท้ายพี่คีตะ!” ยังแนบภาพตอนเช้าที่มีคนแอบถ่ายไว้อีกต่างหาก ไม่พอ...ยังมีลิสต์โหวต “หนุ่มฮอตประจำปี” ที่คีตะครองแชมป์แบบทิ้งห่าง! “ว้าว~ ว่าที่สามีฉันดังขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย” เมษาตาโต คว้ามือถือมาดูอย่างตื่นเต้น “เห้ยยย แกก็เวอร์ไป๊!” พริ้มหัวเราะพรืด เธอชินแล้วกับอาการมโนของเพื่อนสาว เพราะตั้งแต่สมัยประถม เมษาก็พร่ำพูดถึงพี่คีตะไม่หยุด “พี่คีตะจะชอบผู้หญิงแบบไหนนะ?” “ถ้าฉันทำข้าวกล่องให้ พี่เขาจะกินมั้ย?” “วันนี้พี่เขาทำอะไรอยู่นะ?” และที่พริ้มรู้ดีที่สุดก็คือ... แม้เมษาจะเป็นคุณหนูลูกท่านทูตที่เพียบพร้อมทุกอย่าง แต่กลับพยายามทุกทางเพื่อพี่คีตะ ไปเรียนทำอาหาร ทำขนม ฝึกงานบ้าน เรียนมารยาท ทั้งที่ความจริงแล้ว—เมษาเป็นเด็กแสบ แก่น กล้า ซน และขี้เล่นสุด ๆ ความซนระดับสุดที่พริ้มเคยเห็น คือแอบปีนรั้ววัดตอนประถมเพื่อเอาข้าวไปเลี้ยงหมาน้อยในเขตวัด แต่นั่นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น... “นี่ เมษา...” “หืม?” เมษาสูดเส้นราเมนเข้าไปเงียบ ๆ แบบมีมารยาท ตายังคงมองจอมือถือไม่หยุด “ถ้าแกโดนลากไปตบหลังโรงอาหารนะ...” “ก็ตบกลับสิ กลัวไร~” เมษาเงยหน้าขึ้นยิ้มหวานแต่แววตาดื้อรั้นเต็มร้อย “กะแล้ววว~!” พริ้มกลอกตา แต่สุดท้ายก็หัวเราะออกมา แล้วทั้งคู่ก็หัวเราะคิกคักกันในโลกใบเล็กของพวกเธอ ท่ามกลางสนามรบสายตาของโรงอาหาร…ที่เพิ่งจะเริ่มขึ้นเท่านั้นเอง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD