ด้านในสนามบาสกำลังซ้อมแข่งอย่างขะมักเขม้น และจริงจัง เพราะสัปดาห์หน้าคือรอบชิงชนะเลิศ
“ทางสะดวก!”
เมษากระซิบ พร้อมลากแขนพริ้มย่องกลับเข้ามาในสแตนด์เชียร์อีกครั้ง
ทั้งสองคนกลับมานั่งที่เดิมอย่างแนบเนียนไม่มีพิรุธ (อย่างน้อยเธอสองคนก็คิดแบบนั้น)
เมษากะพริบตาปริบ ๆ มองไปรอบสนามอย่างมีความสุข ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งที่เพิ่งตบยับกับกลุ่มแฟนคลับพี่คีตะไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อน
พริ้มถอนหายใจแรงก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงข้าง ๆ
“แกนี่มัน...โคตรมือลั่น”
“ก็ไม่ได้ตั้งใจลั่น...แต่พอได้ตบแล้วมันส์อ่ะ แกเข้าใจฟีลป้ะ?”
เมษาทำหน้าทะเล้น แล้วเท้าคางหันมามองพริ้มแบบคนรู้ทัน
“ว่าแต่แก...หน้าแดงนะยะ”
พริ้มชะงัก
“…ใครแดง ใคร!?”
“อย่ามาเนียน! ตอนเจอพี่คินน่ะ หน้าแกแดงจนถึงใบหู ส่วนสายตาก็แทบกลืนสูทเขาเข้าไปทั้งตัวอยู่ละ”
เมษาหัวเราะคิกคักใส่เพื่อน ก่อนจะเอียงหัวทำท่าเหมือนกูรูเรื่องความรัก
“เชื่อฉันสิ สายตาของคนมีความรักน่ะ ฉันดูออก~”
พริ้มเอามือปิดหน้า พยายามซ่อนแก้มแดง ๆ ของตัวเอง
“โอ๊ย หยุดเลยเมษาาา! ใครจะไปมองเขาแบบนั้นวะ พี่เขาเหมือนหลุดมาจากซีรีส์สายลับ แถมยังหล่อกว่าไอดอลอีก!”
“อ้าว~ ซีรีส์สายลับ แต่ขโมยหัวใจแกเฉยเลยน้า~”
เมษายังไม่หยุดแซว ทำเอาพริ้มเขินจนแทบกัดลิ้น
แต่แล้วจู่ ๆ เสียงซุบซิบจากสแตนด์ด้านล่างก็ดึงความสนใจไปทันที
“เฮ้ย นั่นพี่มีนานี่นา...”
“นางมาทำไมอะ? เลิกกับพี่คีตะไปตั้งชาติแล้วนี่”
“หรือจะเป็น...ถ่านไฟเก่าที่ลุกขึ้นมาอีกครั้ง?”
เมษาหูผึ่งทันที เธอหันขวับไปมองที่ข้างสนามก่อนจะชะงัก — ผู้หญิงคนนั้น…ในชุดนักศึกษาพอดีตัว ใบหน้าหวาน ผมยาวสลวยกำลังยืนยิ้มคุยอยู่กับคีตะและภูผาอย่างสนิทสนม
“นั่นแฟนเก่าพี่คีตะใช่ป่ะ?” พริ้มตาโต ก่อนปิดปากตัวเองเมื่อเห็นสายตาเหี้ยมเกรียมของเมษา
“เอาน่า… ตามข่าวคือเขาเลิกกันนานแล้วน้า~ อย่าไปคิดมากนะเมษา” พริ้มพยายามปลอบ
เมษาสะบัดหน้าพรืด กอดอกแน่น
“ฉันไม่ได้สนใจสักหน่อย!”
เธอพูดออกมาเสียงแข็ง แล้วกัดฟันพูดต่อ
“แฟนเก่าก็คือของที่หมดอายุแล้ว เขาไม่เอากลับมาหรอก...”
พริ้มเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหลุดถามเบา
“แน่ใจเหรอ”
“…พริ้ม พูดมาก” เมษาเสียงเขียว ดวงตาวาววับ
แต่คำพูดนั้นก็ย้อนสะท้อนกลับมาในใจเธอเอง เมษาค่อย ๆ ก้มลงมองไปยังภาพตรงหน้าอีกครั้ง
และสิ่งที่เห็น…ทำให้หัวใจของเธอเต้นผิดจังหวะ
สายตาของคีตะ…ตอนที่เขามองมีนา มันไม่ใช่สายตาแบบที่เขาใช้กับเธอเลยสักนิด
นั่นมัน...สายตาของคนที่เคยรัก ความห่วงใย ความอ่อนโยน ความอาลัย ทุกอย่างอยู่ในแววตาคู่นั้น...ชัดเจนเกินไป
เมษากำมือแน่น จิกเล็บลงฝ่ามือ หัวใจเธอปวดหนึบ
“ทำไมต้องมองแบบนั้น…”
เธอกัดริมฝีปากแน่นจนแทบจะห้อเลือด
‘ไม่ยอมนะ!! พี่คีตะต้องมองแค่หนูคนเดียวเท่านั้น!!’
คิดได้ดังนั้น เมษาก็แทบจะกระโดดจากสแตนด์ลงไปทันที แต่ต้องรีบเบรกตัวเองเพราะ…อย่าลืมว่าเธอยังต้อง ‘เจ็บเท้า’ อยู่!
ถึงอย่างนั้น ขาก็ไวกว่าใจ—เธอรีบสาวเท้าลงจากสแตนด์อย่างคล่องแคล่วชนิดที่ถ้าอคินอยู่แถวนั้นคงต้องกุมขมับ
พริ้มที่เดินตามแทบวิ่งหอบขวดน้ำกับกระเป๋าเป้แทบไม่ทัน
“พี่คีตะ~”
เสียงหวานเจือออดอ้อนดังขึ้น ทำให้บทสนทนาทั้งหมดตรงจุดพักข้างสนามเงียบลงชั่วครู่ ก่อนสายตาหลายคู่จะหันมองทันที
“น้องเมษา~ เท้าเป็นไงบ้าง”
ภูผายิ้มกว้าง ทิ้งลูกบาสในมือแล้วเดินปรี่เข้าไปเพื่อดูอาการ
“หยุด”
เสียงทุ้มเย็นของคีตะดังขึ้น พร้อมกับมือคว้าคอเสื้อเพื่อนเอาไว้ทันก่อนจะถึงตัวเมษา
เขาก้าวเข้ามายืนบังหน้าภูผา สายตายังแน่วนิ่งมองเด็กสาวตรงหน้า
“ฉันซ้อมเสร็จแล้ว กลับได้”
เมษายิ้มหวานอย่างพอใจ ก่อนจะเดินไปยืนข้างคีตะราวกับเป็นเจ้าของ
แต่ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไร เสียงใส ๆ ก็ดังแทรกขึ้น
“น้องน่ารักจังเลยค่ะ”
มีนายิ้มหวานให้เมษา ดวงตาเต็มไปด้วยแววสนใจปนเอ็นดู
“ชื่อเมษาใช่มั้ยคะ?”
เมษาชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าน้อย ๆ
คีตะมองสลับระหว่างทั้งสองคน แล้วเอ่ยแนะนำด้วยน้ำเสียงนิ่ง
“นี่มีนา เพื่อนฉัน...รู้จักกันไว้ก็ดี”
พริ้มที่ยืนอยู่ข้าง ๆ กลอกตาเบา ๆ แล้วแกล้งเอียงหัวถามอย่างใสซื่อ
“เพื่อนหรือว่า...แฟนคะ?”
มีนาหัวเราะทันที น้ำเสียงสดใสราวกับไม่มีอะไรในใจ
“ไม่ใช่จ้ะ~ ไม่ใช่แฟนอะไรแบบนั้นหรอกน้า~”
แต่ไม่ทันขาดคำ—เสียงของใครอีกคนก็ดังขึ้นจากด้านหลัง
“หืม? พูดถึงผมเหรอครับ?”
ธาม เพื่อนสนิทของคีตะ เดินตรงเข้ามาพร้อมรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม
“แฟนพี่เองครับ มีนาเนี่ย”
ทุกสายตาหันไปมองเขาทันที — โดยเฉพาะเมษา ที่เผลอเบิกตากว้าง ส่วนคีตะ...แม้สีหน้ายังนิ่ง แต่แววตากลับหม่นลงเล็กน้อยในเสี้ยววินาที
เสี้ยววินาทีนั้นเอง ที่ธามเหลือบตามองเพื่อนสนิทของตัวเอง ก่อนจะกระตุกยิ้มบาง ๆ อย่างรู้ทัน
‘ยังไม่ลืมสินะ...’
“ว่าแต่น้องคนสวยคนนี้…” ธามหันมาหาเมษา แววตาแพรวพราว
“ใช่ลีดเดอร์ของ R.C.U. ใช่มั้ยครับ?”
เมษาฉีกยิ้ม ก่อนพยักหน้า
“ใช่ค่า~ แต่รอบชิงคงไม่ได้ขึ้นเต้นแล้วนะคะ” ”
เธอพูดพร้อมชี้ให้ดูผ้าพันข้อเท้า
“โห น่าเสียดายจังเลยครับ” ธามหัวเราะน้อย ๆ
“พี่ตั้งใจจะมาดูเลยนะ เห็นว่าน้องลีดทีมนี้สวยสุดในมหา’ ลัย” เขาพูดจบแล้วยักคิ้วน้อย ๆ อย่างหยอกเย้า
พริ้มที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เมษาถึงกับหลุดขำเบา ๆ ขณะที่เมษายิ้มรับมุกด้วยท่าทีเป็นมิตร
“อวยเก่งแบบนี้ ระวังแฟนพี่จะงอนนะคะ~” เมษาพูดพร้อมหัวเราะคิก
“ไม่หรอกครับ มีนาใจดี~ แค่พี่ชมสาว ๆ บ้าง เธอไม่ถือหรอก...ใช่มั้ยครับ?”
ธามหันไปส่งยิ้มให้มีนา ซึ่งหัวเราะกลบเกลื่อนเล็กน้อย
“ไม่ถือค่ะ…แต่เก็บรายละเอียดหมดนะ” มีนาว่าพลางหยิกแขนธามเบา ๆ
คีตะยืนนิ่งไม่พูดอะไรตั้งแต่ต้นบทสนทนา สีหน้าดูเรียบเฉย แต่คิ้วเริ่มขมวดทีละนิด
สุดท้ายเขาก็พูดขึ้นเรียบ ๆ
“เมษา กลับได้แล้ว”
เมษาหันไปมองเขา ก่อนจะยิ้มกว้าง
“ค่ะ~” เธอตอบรับเสียงใสแล้วหันไปโบกมือให้ธามกับมีนา
“ไปก่อนนะค้า~” เมษาพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริง ก่อนเดินเคียงข้างคีตะ
“....” มีนาได้แต่มองตามด้วยแววตาอาลัยอาวรณ์
ธามมองตามร่างของคีตะที่เดินนำเมษาออกไป แล้วหันกลับมามองมีนา ก่อนจะหลุบตาลง พลางถอนหายใจเบา ๆ
‘แฟนก็อยู่ตรงนี้…แต่ใจยังหันไปหาอีกคน จะเป็นแบบนี้อีกนานแค่ไหนกันนะ…’
🌸🌸🌸
“พี่คิน...หนูอยากให้พี่ช่วยสืบอะไรให้หน่อยค่ะ...”
เสียงหวานเปล่งออกมาอย่างเร่งรีบ ในขณะที่เมษาเดินวนไม่หยุดอยู่ในห้องนอน แขนเรียวกอดอกแน่น แผ่นอกสะท้อนจังหวะลมหายใจที่เริ่มร้อนรน มือที่ถือโทรศัพท์สั่นเล็กน้อย แม้ภายนอกจะดูนิ่ง—แต่ภายในนั้นปั่นป่วน
“ว่าไงครับคุณหนู?”
เสียงอคินตอบกลับมาด้วยโทนสุภาพตามเคย แต่ก็แฝงด้วยความตื่นตัวเมื่อรับรู้ถึงโหมด ‘ด่วนจี๋’ ของคุณหนูตัวน้อย
“อยากให้สืบข้อมูลของคนชื่อมีนาค่ะ ...หนูคิดว่าน่าจะเป็นแฟนเก่าพี่คีตะ”
เสียงเธอแผ่วลงเล็กน้อย แต่ดวงตากลับวาวโรจน์ด้วยความตั้งใจ
“หนูอยากรู้ทุกอย่างของเธอค่ะ ตั้งแต่ตอนคบกัน เลิกกัน จนถึงตอนนี้...”
“เข้าใจครับ ผมจะให้ทีมเริ่มเช็กข้อมูลทันที”
“ขอเร็วที่สุดนะคะ”
“ผมจัดให้ครับคุณหนู”
เมื่อสายตัดไปแล้ว เมษาก็ยืนนิ่งอยู่กลางห้อง สายตาเหม่อไปยังหน้าต่าง ภาพที่คีตะยืนคุยกับมีนาไม่ยอมหายไปจากหัวเสียที
“ไม่เอาน่า เมษา...” เธอกอดอกแน่น พลางเงยหน้าขึ้น
“คนเก่งอย่างเธอ ไม่มีทางแพ้ผู้หญิงคนนั้นหรอก…”
ริมฝีปากเม้มแน่น ก่อนจะคลี่รอยยิ้มเล็ก ๆ ออกมา
“เพราะพี่คีตะต้องเห็น...ว่าเธอก็สำคัญได้ไม่แพ้ใคร!”
...
เวลาล่วงเข้าสี่ทุ่ม
เมษายืนอยู่หน้าห้องคีตะในชุดนอนผ้าซาตินสีขาวครีม ทรงคอวีลึกเล็กน้อยแต่ไม่โป๊เกินงาม แขนเสื้อบางเบาพริ้ว ส่วนชายชุดคลุมยาวแค่เข่า เผยผิวเนียนนุ่มราวตุ๊กตา กลิ่นกายหอมสดชื่นกลิ่นซากุระนวล ๆ
เธอจัดชุดตัวเองให้เรียบร้อย มือหนึ่งหอบหนังสือเรียน อีกมือกำลังจะเคาะประตู
‘เล่นบทเด็กดีหน่อยละกันคืนนี้’
เธอคิดในใจอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้า แล้วเคาะประตูเบา ๆ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ไม่ถึงสิบวินาที เสียงฝีเท้าหนัก ๆ ก็ดังเข้ามาใกล้ แล้วประตูก็เปิดออกเผยให้เห็นคีตะในชุดเสื้อยืดกับกางเกงวอร์มธรรมดา—แต่แค่นั้นก็ทำให้หัวใจเธอสั่นระรัว
“มีอะไร?”
เขาถามสั้น ๆ น้ำเสียงง่วงนิด ๆ แต่สายตาก็เลื่อนลงมาหยุดที่...ชุดของเธอ
เมษารีบกอดหนังสือแน่นขึ้น แสร้งทำตาโตน่ารักแบบไม่รู้ตัว
“ขอโทษนะคะ...หนูแค่มาขอถามเรื่องโจทย์ฟิสิกส์นิดหน่อยค่ะ พอดีหนูคิดไม่ออกเลย...”
คีตะเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
“ดึกแล้ว”
“แป๊บเดียวเองค่ะะะ นะคะ~”
เมษาแถมเสียงอ้อนนิด ๆ เข้าไปแบบไม่เกินพิกัด แล้วชูหนังสือในมือ
“แค่ข้อนี้ ข้อนี้ แล้วก็ข้อนี้...”
เธอชี้นิ้วไล่ตามหน้ากระดาษอย่างตั้งใจ แต่จงใจโน้มตัวเข้าใกล้เขานิดหน่อย กลิ่นหอมจากร่างเล็ก ทำเอาคีตะหายใจไม่ทั่วท้อง สายตาคมของคีตะนิ่งไปนิดหนึ่ง...ก่อนถอนหายใจแล้วถอยออกจากประตู
“เข้ามา...”
“ขอบคุณค่า~” เมษายิ้มร่า ก่อนจะก้าวเข้าไปในห้อง พร้อมกับหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ