2 เรื่องของภรรยาเขา

1257 Words
พันธนาการรัก เมียจำเลย Episode 2 ภรรยาของเขา โดย Lanchana (ลัญชนา)/Ginoichi 4 ปีต่อมา "ครูครับ" "ครู" "คิณพัฒน์ ชกหน้า เดม่อนอีกแล้ว" ใบหน้านวลหลุบลงมองเด็กน้อย ที่ยืนร้องให้จ้า ขณะที่อีกนัยหนึ่งปากก็ฟ้องเธอไม่หยุด ภาวนาคลี่ยิ้มบางๆ ก่อนจะขยับแว่นตากลมสีใสให้เข้าที่ ปากจิ้มลิ้มเอ่ยถามเด็กน้อยในทันที "เดม่อนเด็กดี บอกครูทีว่าคิณพัฒน์อยู่ตรงไหน" เด็กชายตัวน้อย ชี้มือทันทีที่ฟังประโยคคำถามจบ มือป้อมรั้งเอาชายกระโปรงครูสาวหมาดๆให้เดินไปด้วยกันคล้ายกับลูกจูงแม่ไม่มีผิด "นั่นครับครู นั่นไง คิณพัฒน์!" เด็กน้อยป้องปากบอก พร้อมกับย้ายตัวเองมาหลบอยู่ด้านหลัง ภาวนาอมยิ้ม ทอดสายตาผินมองเด็กชาย 'คิณพัฒน์' อยู่ชั่วครู่ ฝ่ายทางเด็กน้อยที่รู้ตัวว่าถูกสายตาของผู้มาใหม่จับจ้อง ดวงตาเรียวรีก็มองกับไม่หลบสายตาเช่นกัน 'นับว่ากล้าเกินเด็กจริงๆ' ทันทีที่สบตาภาวนาขมวดคิ้วมุ่น แววตาของเด็กชายคิณพัฒน์ เหมือนใครสักคนที่คุ้นตาเธอเหลือเกิน แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ติดอยู่ที่ปาก นึกอย่างไรก็นึกไม่ออก ร่างเพรียว ระหงษ์เดินไปหยุดตรงหน้าก่อนที่ครูสาวจะทรุดตัวนั่งลงตรงข้ามเด็กตัวน้อย เสียงหวานใสเจือด้วยความเอ็นดูเอ่ยออกไปช้าๆ "หนูชื่ออะไรคะ" "พายุ ชื่อ พายุ" เด็กชายตอบกลับด้วยท่าทีเรียบนิ่ง บุคลิกเกินอายุ แม้ท้ายประโยคจะไม่มีหางเสียง ก็ยังหน้าฟังและดูน่าเชื่อถือไปพร้อมกันจนภาวนารู้สึกแปลกใจ 'ว่าพายุเหมือนใครสักคน' "พายุครับ รู้ใช่ไหมครับว่าไม่ควรใช้ความรุนแรงกับเพื่อน" "ครับรู้" เด็กชายตอบกลับเสียงอ่อน "รู้แล้วทำไมยังทำครับ" "เดม่อน ว่า พายุไม่มีแม่" ท้ายประโยคฟังดูแผ่วเบาหากแต่คนฟังก็ยังได้ยินชัดเจน ภาวนาขยับแว่นตาสีใส มองพิจารณาเด็กน้อยอีกครั้ง เมื่อเห็นในตาคู่นั้นคลอหน่วยไปด้วยน้ำตา ครูสาวหมาดๆค่อยๆพ่นลมหายใจออกมาช้าๆ "เอาแบบนี้แล้วกัน เดม่อน หนูทำผิดที่ล้อเลียนเพื่อน" "แต่เดม่อนพูดความจริง ใครๆก็รู้ ว่าคิณพัฒน์ไม่มีแม่" เด็กชายเดม่อนแย้งเสียงหลง "จะเอาอีกข้างใช่ไหม" ยังไม่ทันจบประโยค กำปั้นน้อยลอยเข้าปะทะใบหน้าของคู่กรณีดัง "ผลั้ว!" "โอ้ย!" เด็กชายเดม่อนร้องเสียงหลง จนภาวนาต้องอุ้มขึ้นมาเพื่อเป็นการห้ามทับ "คิณพัฒน์!" ครูสาวดุเสียงขุ่น "ครับ" "จะตีก็ตี หรือจะให้ยืนหน้าห้องเหมือนทุกที ผมก็ไม่ติด แต่อย่าเรียกพ่อผมมาก็พอ" เด็กชายสบตาไม่ลดละ น้ำเสียงที่เปร่งออกมาไม่ได้แข็งกร้าว หากแต่มันสะกดคนที่ฟังอยู่อย่างภาวนาได้อย่างดีทีเดียว จากที่อารมณ์ขุ่นมัวจากเหตุการณ์เมื่อครู่นี้ก็ดูจะเบาบางลง ซ้ำยังมีสติไตร่ตรองได้มากขึ้น "คราวนี้ไม่ได้ครับ" "ครูไม่รู้ว่าครูคนอื่นปฏิบัติกับคินณ์พัฒแบบไหน แต่สำหรับครู เรื่องวันนี้มันดูรุนแรงไปเกินอายุของคินณ์พัฒ ส่วนเรา เดม่อน เราเองก็ทำตัวไม่น่ารัก ครูจำเป็นต้องเรียกผู้ปกครองของเธอสองคนมาเจรจา เข้าใจไหมครับ" "แต่..." คิณพัฒน์หน้าซีดลงเล็กน้อย "ไม่มีแต่ครับ" "จะโทรกันเอง หรือจะให้ครูเป็นคนโทร" ครูสาวดุย้ำจน 'คิณพัฒน์ ' ต้องคว้าโทรศัพท์มากดโทรอย่างเสียไม่ได้ ภาวนา ที่เห็นเด็กน้อยปฏิบัติตามคำสั่ง จึงเดินเลี่ยงไปอีกทางเพื่อเตรียมการสอน สองชั่วโมงต่อมา รถ SUV ใหญ่ขับมาเทียบจอดหน้าโรงเรียน 'เพลิง' หรือคุณากร ก้าวลงมาจากรถด้วยอารมณ์ที่ไม่สู้จะดีนัก หลังจากได้รับโทรศัพท์จากลูกชาย 'ลูกชายวัยสามขวบที่มีเรื่องชกต่อยกับคนอื่น!' "มันไปเอาอย่างใครมาวะ!" เสียงทุ้มต่ำคำรามเบาๆด้วยความสงสัย ร่างสูงกำยำที่สวมเพียงเสื้อเชิ้ตสีดำพับแขนครึ่งศอกกับกางเกงเสล็คตัวโคร่ง กับดูโดดเด่น ผิวกายขาวซีด รับกับดวงตาเรียวรี ที่ใครได้มองสบตาทีเป็นต้องรู้สึกคล้ายว่าถูกแช่อยู่ในน้ำแข็งขั้วโลก แม้จะมีใบหน้าที่หล่อประดุจเทพปั้น แต่มันไม่ได้ทำให้ความหน้ากลัวของผู้้้ชายที่ชื่อเพลิงเบาบางลงสักนิด ร่างสูงโปร่งเดินทอดน่องตามแนวลาดลั่น บรรไดไปเรื่อยๆไม่รีบร้อน ถึงแม้ในใจจะพรวดพราดเข้าไปแล้วก็เถอะ คุณากรรักษาท่าทีสุขุมได้เสมอ เขาไม่เคยหลุดนิสัยส่วนตัวเลยสักครั้ง ภาพลักษณ์สุภาพ ที่แกล้งทำก็น้อยคนนักที่จะรู้ถึงสันดานที่แท้จริงของเขา ดวงตาเรียวรีสีดำสนิทมองสำรวจหน้าประตูห้องเรียนนิ่งๆ เขาไล่ดูรายชื่ออยู่หลายครั้ง จนแน่ใจวาห้องนี้ เป็นห้องของ 'พายุ' ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนแน่ๆ จึงถอยกลับมานั่งรอที่ระเบียงหน้าห้องด้วยท่าทีสบายๆ "มาพบใครคะ?" ภาวนาถามเสียงนุ่ม ทันทีที่ชายปริศนาหันมาหนังสือเตรียมสอนในมือก็ล่วงลงพื้นดังตุ้บในทันที "เฮีย...เฮียเพลิง!" ภาวนาตกใจจนลนลาน ต่างจากคุณากร ดวงตาสีดำสนิทเหลือบมองคนที่มาใหม่ตั้งแต่หัวจรดเท้าหัวคิ้วหนาขมวดมุ่นจนแทบชนชิด ความไม่พอใจฉายชัดในแววตาก่อนที่ไม่กี่นาทีต่อมามุมปากหยักจะยกขึ้นอย่างเหยียดหยัน กิริยาที่คุณากรทำนั้นภาวนาไม่เข้าใจมันเลยสักนิด ไม่ว่าเมื่อก่อนหรือว่าตอนนี้ "ให้พราวช่วยอะไรไหมคะ....พราวเห็นเฮียเพลิงนั่งอยู่นานแล้ว" ภาวนากลั้นใจถามเสียงอ่อน คุณากรมองอีกฝ่ายนิ่งๆ นอกจากไม่ตอบคำถามตาคมยังพิจารณาที่ป้ายคล้องคออันเล็กอย่างสนใจ "ฮึ" "ต้องสิ้นไร้ไม้ตอกแค่ไหน ถึงจ้างผู้หญิงขายร่างกายมาเป็นครู" "คนที่นี่เขารู้ไหม ว่าเธอเคยทำอะไรมา" น้ำเสียงเหยียดหยัน รับกันกับใบหน้าที่ฉาบไปด้วยความรังเกียจแทบทุกอณูเนื้อ ทำเอาภาวนาหน้าร้อนฉ่า เธอไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูดเลยสักนิด จริงอยู่ ว่าเธอทำอาชีพนางแบบถ่ายชุดชั้นใน แต่มันน่ารังเกียจมากมายขนาดนั้นเชียวหรือ ชายตรงหน้าถึงได้เหยียดหยามเธอเช่นนี้ "พราวไม่รู้ว่าพี่เพลิงพูดเรื่องอะไร" ใบหน้าหวานหลุบลงต่ำไม่ยอมสบตาเขา ราวกับคนมีชนักติดหลัง คุณากรที่เห็นแบบนั้น หัวคิ้วก็กระตุกขึ้นมาอย่างอัตโนมัติ "เสเเสร้งเหมือนกันไม่มีผิด จบหลักสูตรเดียวกันมาสินะ" "คนนึงเที่ยววิ่งเร่ไปหาผู้ชายรวยๆ ส่วนอีกคนก็เร่ขายร่างกาย ไม่จับเอาใว้สักคนเหมือนเพื่อนเธอหล่ะ อ้อ ผมลืมไป ก็คงจะเหมือนกันสินะ คนเดียวมันคงไม่ถึงใจ ถึงต้องเร่หาใหม่ไปเรื่อยๆ" ถ้อยคำที่คุณากรพ่นออกมาทำภาวนารู้สึกราวกับถูกค้อนทุบหัว แม้จะจับต้นชนปลายไม่ถูก แต่ที่แน่ๆเลย มันมีแต่คำดูถูกเธอและเพื่อนของเธอเต็มไปหมด แต่ เพื่อนของเธอ ก็มีแค่ปทิตตาภรรยาที่เขารักนักนักหนาไม่ใช่หรือยังไง!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD