คณะวิศวกรรมศาสตร์
ฉันนั่งไถโทรศัพท์ด้วยความเคยชินเพราะระหว่างรอเรียนก็ไม่มีอะไรให้ทำ ยิ่งวิชานี้ลงเรียนคนละเซกกับเพื่อนในแก๊งแล้วยิ่งน่าเบื่อมากกว่าเดิม
ในสาขาของเรามีผู้หญิงน้อยมาก เทียบเป็นอัตราส่วนคงเป็นหนึ่งต่อสิบ ดังนั้นฉันก็จะมีทั้งกลุ่มเพื่อนสาวและกลุ่มเพื่อนผู้ชาย แน่นอนว่าเราสนิทกันหมดทุกคนเลย
“ได้ยินข่าวว่าไอ้กัสน้องมึงเข้าโรงบาล ?”
เสียงลากเก้าอี้มานั่งข้าง ๆ ทำให้ฉันเงยหน้ามองก่อนจะถอนหายใจออกมาเมื่อเห็น เจ้านาย เพื่อนผู้ชายที่ค่อนข้างสนิท เพราะตอนปีหนึ่งเราลงเรียนปรับพื้นฐานเหมือนกัน พอเปิดเทอมได้เจอกลุ่มเพื่อนใหม่ แต่พวกเราก็ยังสนิทกันเหมือนเดิม และนี่เป็นอีกเหตุผลที่ตอนเปิดเทอมพวกเราไม่ลงเรียนวิชานี้เพื่อมาลงเรียนตอนปีสามเหมือนกัน ส่วนเพื่อนสาวในแก๊งต่างลงเรียนตั้งแต่ปีหนึ่งกันแล้ว
“เออ หัวแตกเลยได้เย็บไปสองเข็ม”
“เชี่ย ใครมันทำวะ กูได้ยินแต่เข้าโรงบาล มึงบอกกูมาเลย กูจะไปจัดการกระทืบมันเอง !”
เจ้านายเอ่ยอย่างเป็นเดือดเป็นร้อน เพราะรู้จักกับกัสที่เป็นน้องรหัสของฉัน ในคณะกลมเกลียวยังไงแต่สาขาบรรดาพี่น้องต่างก็กลมเกลียวและรักกันมาก ไม่ว่าใครมีปัญหาก็พร้อมพุ่งตัวไปเสือก เอ๊ย ! ไปช่วยเสมอ
“กูเอง”
“ฮะ”
ฉันยกยิ้มก่อนจะก้มหน้าไถโทรศัพท์ต่อ เมื่อเห็นเจ้านายเบิกตากว้างด้วยความตกใจปนไม่อยากจะเชื่อ ว่าฉันจะเป็นคนฟาดหัวน้องรหัสของตัวเอง
“มึงอย่ามาหลอกกู ไอ้กัสน้องมึงนะไปตีมันทำไม !”
“ทำไม มึงจะมาตีกูคืน ?”
“ก็มึงออกจะรักมัน ถึงมันจะกวนตีนก็เถอะ เลยไม่อยากเชื่อเท่าไรว่ามึงจะฟาดมันลง อย่างน้อยก็เห็นแก่หน้าหล่อ ๆ ของมันบ้าง”
ฉันหัวเราะเมื่อเห็นเพื่อนทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกหลังจากที่บอกไปว่าฉันเป็นคนทำร้ายกัส และพยายามเอ่ยข้อดีของกัส
“เออ ไม่ได้ตี ก็แค่ทำท่าจะตี” มาเฟียตอบหน้าตาย
“อ้าว แล้วมันเข้าโรงพยาบาลได้ยังไง” เจ้าขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
“เมา” ฉันตอบเจ้านายสั้น ๆ
“อย่างมันน่ะเหรอเมา”
“อืม”
เห็นเพื่อนทำหน้าแปลกใจฉันเลยตัดสินใจเล่าให้ฟังไม่อย่างนั้นเจ้านายได้ซักไซ้ไม่เลิกแน่ เรื่องเมื่อคืนหลังจากที่โมโหให้น้องรหัสแล้วก็แค่แกล้งเล่น ๆ และกัสมันเมาด้วยมั้งตอนฉันฟาดขวดกับโต๊ะ มันเลยน็อกล้มลงกับพื้นแล้วหัวฟาดกับขอบเก้าอี้ เลยกลายเป็นว่าได้พากันหามมันส่งโรงพยาบาลจนตอนนี้ตื่นหรือยังก็ไม่รู้
“ฮ่าฮ่า ไอ้กัสแม่งโคตรป๊อดเลยว่ะ !!!”
เจ้าของใบหน้าหล่อเถื่อนแต่กลับมีลักยิ้มดูทรงเสน่ห์ตบเข่าหัวเราะอย่างชอบใจ เพราะเขาไม่คิดว่าน้องรักอย่างกัสจะกลัวมาเฟียมากขนาดนี้ แต่พอเห็นเพื่อนสาวคนสวยถลึงตามองก็พอจะเข้าใจ แค่สบตาก็เสียวสันหลังวาบแล้ว
“แต่มึงก็โหดกับมันเกิน”
“ก็ถ้ามึงแซวเรื่องนี้กูก็จะฟาดมึงเหมือนกัน”
ร่างบางยกมือขึ้นมาชูกำปั้นด้วยท่าทางดุดัน แต่เพราะใบหน้าหวานจัดเลยทำให้ดูน่ารักแปลก ๆ ในสายตาคนอื่น แต่กับเพื่อนแล้วนั้น ไม่มีทางจะมองว่าน่ารักได้
“กูเป็นผู้ชายก็ไม่เอามึงอะ โหดสัตว์ !!”
มาเฟียได้ยินอย่างนั้นถึงกับควันออกหู ช่วงนี้โดนสบประมาทบ่อยจนไม่สบอารมณ์แล้วนะ ไม่ใช่ไม่อยากมี แต่มันไม่มีถูกใจเข้ามาบ้างเลย อีกอย่างในแชตก็เจอแต่อะไรไม่รู้น่าเบื่อ
“กูก็ไม่เอามึงทำผัวแน่นอน” เธอเอ่ยขึ้นมาเสียงไม่ดังไม่เบาทำให้บรรดาเพื่อนที่นั่งรอเรียนอยู่แถวนั้นต่างหูผึ่ง แล้วหันมามองยังมาเฟียและเจ้านายที่ต่อปากต่อคำกันอยู่ด้วยความสนอกสนใจ
“เพื่อนรัก งั้นมึงเล็งใครไว้ ดุ ๆ แบบนี้ผู้ชายคณะอื่นไม่กล้าจีบหรอก อย่าว่าแต่คณะอื่นเลยสาขาอื่นก็ไม่มี ระวังหยากไย่เกาะเต็มถ้ำ”
ฮ่า ฮ่า
เสียงหัวเราะชอบใจของเพื่อนสนิททำให้ฉันแทบปรี๊ดแตกแต่เก็บมือเก็บเท้าไม่อยากถีบคน ก่อนจะยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เพื่อกลบเกลื่อนความโมโห
“ดูหน้ากูนะ สวย ๆ แบบนี้หาผัวได้แน่นอนและจะไม่ใช่ผู้ชายคณะวิศวะด้วย !”
ฉันมองสบตาเจ้านายด้วยสีหน้ามั่นอกมั่นใจ ทำให้เพื่อนคนอื่นต่างยกยิ้ม ส่วนไอ้คนที่มันกวนตีนฉันก็นิ่งไปสักพักก่อนจะหัวเราะเบา ๆ แล้วเอ่ยขึ้นมาอย่างไม่เชื่อ
“กูจะรอดู ว่าแต่จะเสียซิงทั้งทีต้องให้กูสแกนก่อนนะว่าผ่านไหม”
“ไอ้บ้า ถ้าถึงเวลานั้นกูต้องต่อสายโทร.ถามมึงก่อนป้ะ ว่าได้ไม่ได้”
“อา แบบนั้นดีเลย” เจ้านายตีมึนต่อทำให้ฉันยกยิ้ม
“งั้นคราวหลังเวลามึงหิ้วสาวไปต่อ ก็ช่วยวิดีโอคอลมาหากูด้วยนะจะได้นั่งดู นั่งจำ และนำไปใช้ !!”
โห~
เสียงโห่ร้องชอบใจกับประโยคเด็ดของมาเฟีย ทำเอาเธอเลิกคิ้วกวน ๆ ใส่เพื่อนก่อนจะหันหน้ามายังหน้าห้องเรียน เมื่ออาจารย์เดินเข้ามาเป็นการตัดจบบทสนทนาทันที
ส่วนเจ้านายก็งอนเพื่อนไปแล้วเรียบร้อย พลางบ่นพึมพำให้กับความปากร้ายของมาเฟีย อุตส่าห์จะแซวเพื่อนสักหน่อยไม่คิดว่าจะโดนเอาคืนแรงขนาดนี้ และในใจก็หวั่นไหวกับคำพูดของเพื่อนที่บอกจะหาผัวให้ได้
“ไม่ใช่คิดจะหาจริง ๆ ใช่ไหม”
ร่างบางไม่ได้นึกเอะใจอะไรกับพฤติกรรมของเพื่อน เพราะเธอกำลังคิดเรื่องที่จะทำอยู่ แน่นอนว่าเธออยู่ปีสามแล้ว ถึงจะติดเพื่อนและชอบทำอะไรด้วยตัวเอง แต่เธอก็ยังอยากลองมีแฟนหรือเรื่องแบบนั้นดูบ้างตามประสาวัยรุ่น
โดยที่ไม่รู้เลยว่าในอนาคตของเธอต่อจากนี้จะเปลี่ยนไปตลอดกาล เพราะมีตัวแปรบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้นในชีวิต