Zombie Pub
สถานบันเทิงแห่งใหม่ใกล้มหาวิทยาลัยพรินซ์ (Prince) ไม่มีใครรู้ว่าเจ้าของเป็นใคร ทุกอย่างถูกจัดการออกมาได้เป็นอย่างดีและมีระดับ แต่นักศึกษาก็สามารถมาใช้บริการได้ถ้าเงินถึง
“ไอ้นีลมาแล้ว”
เสียงเข้มของชายหนุ่มผมดำลูกครึ่งเกาหลีทำให้สายตาสองคู่ของเพื่อนร่วมโต๊ะต่างหันไปมองยังทิศทางที่อีกคนเอ่ยขึ้นมาทันที
“เคลียร์เรื่องที่บ้านจบแล้วเหรอวะ”
เมื่อชายหนุ่มเรือนผมสีเทาใบหน้าโดดเด่นผสมผสานระหว่างหลายเชื้อชาตินั่งลงบนโซฟา ชายหนุ่มผมยาวระต้นคอก็เอ่ยปากถามขึ้นมา
“อืม” นีลตอบรับในลำคอ
“เดี๋ยวพ่อมึงก็เข้าใจเองแหละ” ชายหนุ่มร่างสูงใบหน้าลูกครึ่งตาสีฟ้ามีเสน่ห์ตบบ่าเพื่อนอย่างให้กำลังใจ ก่อนจะเลื่อนแก้วที่ชงเหล้ารสแรงมาตรงหน้าชายหนุ่มผมเทาที่ชื่อว่า นีล
“แม่งไอ้นีลหน้าเครียดไม่หายเลย”
แบด ชายหนุ่มผมดำตาคมเฉี่ยว ผิวขาวจัดเพราะเป็นลูกครึ่งไทย-เกาหลี เอ่ยออกมาอย่างหัวเสียที่เพื่อนมานั่งอมทุกข์เพราะเรื่องไร้สาระจนนีลปรายตามอง
“พ่อกู ไม่ใช่พ่อมึงไง”
“ก็พ่อมึงนั่นแหละ จะไปใส่ใจแกทำไมวะ โคตรไร้สาระ มึงเลิกสนใจคนอื่นแล้วมาสนใจตัวเอง” แบดเอ่ยขึ้นมาเพราะรู้ดีว่าเพื่อนชอบทะเลาะกับที่บ้านเพราะไม่ยอมสานต่อธุรกิจ แต่มาเปิดอู่ซ่อมรถและเปิดผับตามสไตล์ผู้ชายสายลุย ซึ่งพ่อนีลไม่เห็นด้วยมากเวลาเจอกันเลยทะเลาะกันตลอด
“เออ ไอ้สัตว์แบดพอเถอะ นั่นก็พ่อมัน”
ชายหนุ่มหน้าลูกครึ่งไทย-สวีเดน นัยน์ตาสีฟ้ามีเสน่ห์อย่าง ไวท์ เอ่ยปากห้ามปรามแบดที่บ่นไม่เลิก บางทีความปากหมาของแบดก็ไม่เคยมีขอบเขต
“ถ้าแม่งไม่หุบปากมึงเจอตีนกู” นีลปรายตามองเขม็ง
“ทำโหดอีกแล้วไอ้ห่า” แบดบ่นพึมพำ เบะปากอย่างไม่พอใจก่อนจะยกแก้วขึ้นกระดก ท่าทางเหมือนเด็กทำให้ชายหนุ่มผมยาวระต้นคออย่าง เลนิน หัวเราะในลำคอ
พวกเขาเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่เรียนมหาลัยปีหนึ่งจนตอนนี้อายุได้ยี่สิบห้าปีแล้ว หลังเรียนจบต่างก็แยกย้ายไปทำงานของตัวเองหรือธุรกิจของที่บ้าน ส่วนวันนี้ที่ได้นัดกันมาดื่มที่ผับเพราะพรุ่งนี้เป็นการเรียนวันแรกในฐานะนักศึกษาปริญญาโท
“มึงก็รู้ว่ามันขี้หงุดหงิดง่าย ยังจะไปยั่วมันอีก” เลนินเอ่ย
“โธ่ ไอ้นีลมันก็เดือดได้แม่งทุกวันนั่นแหละ” แบดเถียงกลับ เพราะคนที่ภายนอกดูร้ายกาจ ภายในก็ร้ายกาจจริงเป็นคนอารมณ์ร้อน ปากร้าย (ถ้ามันพูด) และยังเอาแต่ใจไม่ฟังใคร นีลเลยทะเลาะกับพ่อตลอด
“มึงต่อยกับกูเหอะแบด ถ้าจะปากเหี้ยแบบนี้” คนอารมณ์ร้อนเลิกคิ้ว ก่อนจะวางแก้วกระแทกลงบนโต๊ะเสียงดัง จนเพื่อนในโต๊ะขยับออกห่างแบด
“กูพูดเล่น เพื่อนรักอย่างมึงใครจะกล้าว่า นาน ๆ ทีเจอกันแบบนี้เอาหญิงหน่อยไหมวันนี้เด็ด ๆ ทั้งนั้น”
คนปากดีอย่างแบดรีบเปลี่ยนเรื่อง เพราะไม่อยากทำตัวมีปัญหากับเจ้าพ่อความโหดอย่างนีล ก่อนจะรีบกวาดสายตาผ่านกระจกของชั้นสองเพื่อมองหาสาวสวยที่แสนจะโดดเด่นของคืนนี้ เพราะคนอย่างนีลนั้นเรื่องมาก เรื่องเยอะยิ่งกว่าผู้หญิงตอนเป็นประจำเดือนอีก
“แม่งมีช้างเผือกมาว่ะ !” แบดตะโกนเสียงดังอย่างตื่นเต้น
“ช้างเผือกอะไรของมึง” ไวท์เลิกคิ้วด้วยความสงสัยรวมถึง
เลนินด้วยอีกคน ท่าทางหูตั้งหางกระดิกของแบด มันน่าหมั่นไส้มากจริง ๆ
“สาวสวยไง”
“สวยจนมึงแทบจะโดดลงจากชั้นสองไปสวบเลยเหรอวะ ?” เลนินตะโกนถาม เพราะแบดไปยืนเกาะกระจกเพื่อมองดูชั้นล่าง เหมือนหมาไม่มีผิด พลางคิดในใจว่าไอ้นี่เจอหญิงเข้าหน่อยเป็นไม่ได้
“สวยจริง ๆ นะเว้ย บอกไม่ถูกว่าคนไหนสวยกว่ากัน”
“มีหลายคน ?” ไวท์เอ่ยปากถาม
“เออสิ เราลงไปดีลกันไหม ก่อนจะโดนหมาคาบไปแดก”
แบดรีบกลับมานั่งที่โซฟาด้วยตาเป็นประกาย เขาเล็งไว้คนหนึ่งท่าทางน่ารักเหมือนกระต่ายถูกใจเขามาก แต่อีกคนก็สวยเซ็กซี่ถูกใจอีกเหมือนกัน
“ไม่ไป !” นีลเอ่ยแบบขวานผ่าซาก ทำเอาใจแบดพังทลายลง
“ทำไมวะ มีแต่คนสวย ๆ นะเว้ย รับรองเด็ด”
“มึงรู้ได้ยังไงว่าเด็ด ในเมื่อพึ่งเคยเจอ” นีลปรายตามอง
“แค่เห็นหน้าก็รู้แล้วไหม”
“ผู้หญิงก็เหมือนกันหมดนั่นแหละ ไม่มีอะไรน่าสนใจ” ร่างสูงใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติเอ่ยออกมาอย่างเฉยชา แต่สมองพลันนึกไปถึงแววตากลมโตที่จ้องหน้าเขาเขม็งอยู่ชั้นล่าง ก่อนจะสลัดมันออกไปเพราะบางทีเธออาจจะมองเพราะเขาหล่อก็ได้
ไม่ได้อยากมั่นนะ แต่ดีเอ็นเอบนหน้ามันบ่งบอก
“มึงลองก่อนไหม ดูดิ โคตรสวย”
แบดไม่ลดละความพยายามที่จะเร้าหรือพวกเพื่อน ทำให้นีลถอนหายใจอย่างรำคาญ ร่างสูงลุกขึ้นจากโซฟาด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย และเดินไปยืนตรงกระจกเพื่อมองลงไปดูผู้คนที่ชั้นหนึ่ง
นัยน์ตาคมกริบแฝงแววร้ายกาจกวาดสายตามองก็ยังไม่เจออะไรให้สนใจนอกจากเหล่าผีเสื้อราตรีที่ต่างพยายามโยกตัวตามจังหวะเพลง
“ไหนคนสวยของมึง” เขาเอ่ยถามแบดเสียงเข้ม
“โต๊ะนั้น ๆ เห็นยัง เอ๋… แล้วอีกสองคนไปไหนวะ”
แบดรีบชี้ไปยังโต๊ะของกลุ่มสาว ๆ ที่เขาเล็งไว้แต่กลับพบว่าในโต๊ะนั้นมีสาวสวยอยู่แค่สองคน ส่วนอีกสองคนที่ดูน่ารัก และคนนิ่ง ๆ ผมสีอ่อนออกทองไม่ได้อยู่ในนั้น
“นั่นไงมาแล้ว”
นีลปรายตามองตามนิ้วของแบดที่ชี้ไปยังบริเวณทางไปหน้าห้องน้ำ ตรงนั้นมีร่างบอบบางของสองสาวขนาดตัวเท่า ๆ กันคนหนึ่งผมสีเข้มไว้หน้าม้า ส่วนอีกคนผมสีออกบลอนด์ ทั้งคู่เดินจับมือกันมาตลอดทาง เขายอมรับเลยว่าพวกเธอดูโดดเด่นกันทุกคนอย่างแบดว่าจริง ๆ
“เป็นไง จ้องนานเลยนะมึง กูบอกแล้วว่าสวย” แบดเอ่ยอย่างภูมิใจ
“หึ สวยแล้วไงวะ ไม่เห็นจะน่าสนใจตรงไหนเลย”
เขาแค่นเสียงอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะปรายตาลงไปมองชั้นล่างอีกครั้ง และพบว่าพวกเธอสองคนเหมือนจะมีปัญหาเล็กน้อย
“อ้าวเฮ้ย ไอ้เวรที่ไหนมาจับแขนน้องกระต่าย”
แบดโวยวายเมื่อมีผู้ชายร่างสูงคนหนึ่งใจกล้า เดินมาคว้าแขนผู้หญิงผมหน้าม้าดูบอบบางราวตุ๊กตากระเบื้องเคลือบและเหมือนจะลากแขนไปด้วย แต่ติดที่ผู้หญิงผมบลอนด์ใบหน้าสวยจัดดึงรั้งไว้ทัน
“นีล มึงไม่คิดจะลงไปจัดการเหรอ นี่ถิ่นเรานะเว้ย”
“เย็นไว้” ชายหนุ่มใบหน้าเรียบเฉยยังคงมองสถานการณ์นิ่ง ๆ ถึงแม้จะเป็นถิ่นของพวกเขาแล้วยังไงล่ะ และเขาไม่ใช่คนดีที่จะยื่นมือเข้าช่วยเหลือใครด้วย
“เย็นเหี้ยอะไร มันกำลังจะฉุดผู้หญิง” แบดเดือดดาล
“หึ งั้นมึงก็ลงไปแสดงตัวเป็นฮีโรสิ” นีลเอ่ยเสียงเยาะเย้ยเพราะรู้ดีว่ามันอยากทำตัวเป็นฮีโร เพราะมีจุดประสงค์บางอย่าง เขาเลยทำเพียงแค่นเสียงหัวเราะ โดยที่แววตายังจับจ้องมองสถานการณ์ข้างล่างนั้น ขอดูหน่อยซิว่าจะเป็นยังไงต่อ
ด้านล่างที่ไม่รู้ว่ากำลังโดนใครบางคนจับตามองก็เดือดจนแทบหักคอคนได้ มาเฟียจ้องเขม็งมองผู้ชายร่างยักษ์ที่กล้ามากระชากแขนเปอร์เซียเพื่อนของเธอ
“ปล่อยแขนเพื่อนฉัน” มาเฟียเอ่ยเสียงเย็น
“ไม่ปล่อย” ท่าทางของมันดูมึนเมาเล็กน้อยและยังเอ่ยด้วยสีหน้าระรื่นเหมือนไม่รู้สึกผิดอะไร ต่างกับเพื่อนแสนบอบบางที่ทำสีหน้าหวาดกลัว มาเฟียกัดฟันแน่นก่อนจะเหลือบตาไปมองขวดที่วางเรียงรายอยู่บนโต๊ะข้าง ๆ กัน
“โอ๊ย เจ็บนะ ปล่อยเดี๋ยวนี้”
เสียงหวานใสของเปอร์เซียทำให้มาเฟียละสายตาจากบรรดาสิ่งรอบข้างและกลับมามองที่จุดเดิม แววตาคู่สวยมีเสน่ห์หรี่ลงเมื่อเห็นว่าข้อมือของเพื่อนรักแดงก่ำ
“จะไม่ยอมปล่อยสินะ”
“ไม่ปล่อย น้องคนนี้ต้องไปกับพี่ เอ๊ะ ! หรือน้องคนสวยอยากจะไปด้วยกันไหมล่ะ บ้านพี่รวยมากไปด้วยกันหลายคนสนุกจะตาย”
ท่าทางหื่นกามและบ้าอำนาจทำให้มาเฟียพอจะเข้าใจว่าทำไมมันถึงกล้าฉุดผู้หญิงในผับอย่างหน้าตาเฉย คงจะเส้นใหญ่และเคยทำมาหลายครั้งแล้วสินะ
“หึ ถ้าแกไม่ปล่อยเพื่อนของฉัน ก็เอานี่ไปกิน” เธอเดินเข้าไปใกล้มันด้วยท่าทีนิ่งสงบ ก่อนจะคว้าขวดเบียร์ที่วางบนโต๊ะชาวบ้านติดมือมาด้วย และยกเท้าถีบปลายคางของมันอย่างแรงด้วยท่าเทควันโดจนมันเผลอปล่อยมือเปอร์เซีย เธอเลยรีบดึงเพื่อนมาไว้ข้างหลัง
“กรี๊ด !” เสียงผู้คนรอบข้างกรีดร้องอย่างตกใจและขยับตัวออกจากบริเวณที่เกิดเหตุทะเลาะวิวาท
“เป็นอะไรไหม ?” มาเฟียหันมาถามเพื่อน
“ไม่ ๆ” เปอร์เซียส่ายหน้าพัลวัน
ร่างบางผมสีบลอนด์น้ำตาลจึงวางใจและหันมาจัดการกับชายร่างยักษ์ตรงหน้า พอมันตั้งสติได้ก็รีบพุ่งตัวเข้ามาหาเธอทันทีด้วยความอับอาย แน่นอนว่าร่างบางเตรียมตัวไว้แล้ว มือบางกำขวดเบียร์แน่นและยกขึ้นฟาดศีรษะชายร่างยักษ์อย่างแรงจนอีกฝ่ายตาเบิกโพลง
เพล้ง !!!
“โอ๊ย อีเวร” ชายร่างยักษ์ร้องลั่น
“สมน้ำหน้าไอ้กร๊วก !”
“อ๊าก ! ลูกชายกู”
ร่างบางยกยิ้มมุมปากอย่างสะใจและยกเท้ากระทืบซ้ำที่กล่องดวงใจ ทำเอาผู้ชายหลายคนที่แอบมองอยู่ต่างรีบก้มหน้าหลบสายตาทันที พลางคิดในใจว่าตอนแรกอยากจีบตอนนี้คงต้องพับเก็บโครงการหนีกันหมด ก็เธอโหดขนาดนี้ใครจะกล้ากัน
ทุกการกระทำของร่างบางใบหน้าสวยจัด เรือนผมสี
บลอนด์น้ำตาล ถูกสายตาคู่คมจับจ้องด้วยแววตาราวสัตว์ร้าย ความรู้สึกตื่นเต้นและบ้าระห่ำมันทำให้เขาอยากล่า
แบบนี้ค่อยน่าสนใจหน่อย !
“แม่งโคตรน่ากลัว เห็นแล้วเสียวไข่ว่ะ”
นีลที่กำลังรู้สึกอยากล่าถึงกับต้องปรายตามองเพื่อนสนิทอย่างแบดที่เอามือกุมเป้ากางเกงด้วยท่าทางหวาดกลัว
“หึ กับแค่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ มึงจะกลัวทำไม”
“ไม่กลัวก็บ้าแล้ว นั่นของสำคัญเลยนะเว้ย” แบดโวยวาย
“ก็ถ้าปราบพยศได้ก็ไม่มีอะไรต้องกลัวไง” นีลยกยิ้ม
“นี่มึง หมายความว่ายังไง ?” เลนินที่เดินตามมาทีหลังเลิกคิ้วถาม
“กูรู้สึกอยากลองล่าดู” นัยน์ตาคมมองตามร่างบางด้วยความสนใจ ทำเอาแบดและเลนินถึงกับมองหน้ากันทันที
“ผู้หญิงที่ดูเย็นชาคนนั้นน่ะเหรอ ?” เลนินเลิกคิ้วถามย้ำ
นีลไม่ตอบนอกจากกระตุกยิ้ม แววตาร้ายกาจมองตามร่างบอบบางเดินกลับไปยังโต๊ะของเธอด้วยแววตาสนใจ ท่าทางดุร้ายขัดกับใบหน้าสวยราวรูปสลักทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นมาก
“พวกมึงว่า ผู้หญิงที่ดูเย็นชาแบบนี้จะเร่าร้อนไหมวะ”
“!!!”
เพื่อนทั้งสามคนถึงกับชะงักไปทันที เมื่อได้ยินนีลเอ่ยออกมาแบบนี้ และดูแววตานั่นสิ พวกเขาทั้งสามคนรู้สึกขนลุกแทนผู้หญิงคนนั้นเลย