“อยากให้ไปส่งไหม ?”
เสียงกระซิบแหบพร่าดังขึ้นจากข้างหลังพร้อมแรงกอดรัดรอบเอวเล็ก ทำให้เธอขมวดคิ้วและหันกลับไปมองร่างสูงเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาราวรูปสลัก เรือนผมสีเทาของเขาดูยุ่งเหยิงจนเธออดไม่ได้ที่ยื่นมือบางออกไปจัดมันให้เข้าที่เข้าทาง
“แล้วแต่นาย”
ร่างบางตอบเสียงเรียบเพราะสำหรับเธออะไรก็ได้ทั้งนั้นไม่ไปส่งก็แค่เรียกแท็กซี่มารับ ไม่เห็นจะยากเลย แต่คนที่ได้ฟังน้ำเสียงแสนเฉยชาของเธอกลับหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อย
“งั้นไม่ไปส่งนะ ฝากล็อกประตูให้ได้ด้วย”
คนอย่างนีลก็ไม่คิดง้อใครอยู่แล้ว ในเมื่อเธอแล้วแต่เขาอย่างนั้นก็กลับเองไปแล้วกัน ร่างสูงคิดในใจก่อนจะปล่อยมือออกจากเอวคอดและซุกหน้าลงกับหมอนอย่างสบายใจ
ส่วนร่างบางก็ลุกขึ้นแต่งตัวและเดินทางออกจากคอนโดมิเนียมเขาในช่วงเช้าด้วยรถบริการรับส่งในแอปสีเขียวเพื่อมาเอารถส่วนตัวที่ลานจอดรถ Zombie Pub
เมื่อกลับมาถึงคอนโดมิเนียมของตัวเองแล้วเธอถึงพึ่งรู้ว่าร่างกายแสนถึกทนนั้นอ่อนไหวมากแค่ไหน เพียงล้มตัวลงนอนความร้าวรานทั่วทั้งร่างโดยเฉพาะกลางกายทำเธอปวดจนน้ำตาเล็ดเลยละ แต่เพราะกลัวไปเรียนตอนบ่ายสามโมงไม่ไหวเลยรีบข่มตานอนทันที เพราะตอนนี้เป็นเวลาแปดโมงเช้าของวันเสาร์ ยังพอมีเวลาให้เธอได้พักผ่อนอีกหลายชั่วโมง
มหาวิทยาลัยพรินซ์
แสงแดดอบอุ่นในช่วงบ่ายแก่ทำให้ร่างบางหลับสบายจนกระทั่งมีมือมาสะกิดที่สีข้างมาเฟียจึงรีบงัวเงียตื่นขึ้นมา
“อาจารย์ออกไปแล้ว”
“อือ”
เธอพยักหน้าให้มินะ ก่อนจะเก็บข้าวของลงกระเป๋า แม้วันนี้เป็นวันเสาร์นิสิตปีสามอย่างพวกเธอก็ต้องมาเรียนเพราะอาจารย์นัด โชคดีที่วิชานี้ไม่มีอะไรมากเธอเลยแอบงีบตลอดคาบ
“แหม ท่าทางเพลียจัด”
ใบหน้าสวยสุดเซ็กซี่มาพร้อมเสียง ทำให้เธอที่กำลังง่วนเก็บของละสายตามามองยาหยีที่ทำสีหน้าท่าทางเจ้าเล่ห์
“เพลีย” มาเฟียตอบแข็งทื่อ
“เย็นชามาก เขาหล่อขนาดนั้นไม่ชอบเหรอ ?”
ร่างบางใบหน้าสวยจัดหรี่ตามองเพื่อนสาวอย่างยาหยีที่เอ่ยปากถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น รวมถึงเปอร์เซียและมินะด้วยที่จ้องมองเธออย่างรอคอยคำตอบ
เธอนึกไปถึงค่ำคืนแสนเร่าร้อนกับผู้ชายคนนั้นแล้วได้แต่ยกยิ้มมุมปาก เพราะถือว่าเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ดี อีกอย่างเรื่องความหล่อของเขาก็ไม่ได้อยากปฏิเสธว่าผู้ชายคนนั้นหล่อเอามาก ๆ เลยละ
“เขาชื่อนีล หล่อดี”
“แค่นี้ ? แล้วไม่รู้สึกชอบเขาเลยเหรอ” เปอร์เซียถามต่อ
“พึ่งเจอกันไม่กี่ชั่วโมง เอาอะไรมาชอบ” มาเฟียสบตามองเพื่อน
“นั่นสิ”
และพวกเธอต่างก็พยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย เรื่องบนเตียงกับเรื่องหัวใจมันคนละอย่างกัน แต่ถ้าเพื่อนไม่คิดมากกับความสัมพันธ์ในครั้งนี้ก็ได้ เคยได้ยินคนพูดกันว่า ‘ครั้งแรกมักทำให้ตัดใจยากเสมอ’ แต่ดูจากสีหน้ามาเฟียแล้วท่าจะใช้ไม่ได้ผล
เพื่อนคนนี้เย็นชาชะมัด !
มาเฟียเก็บของเสร็จก็ลุกขึ้นยืนทันทีเพราะวันนี้มีเรียนที่ ช็อปวิศวกรรม อย่างที่บอกว่าตอนเปิดเทอมลงเรียนพร้อมพวกเจ้านาย บางวิชาเลยไม่ได้เรียนกับแก๊งเพื่อนสาว
“แกจะไปเรียนแล้วเหรอ ?” มินะเปลี่ยนเรื่องถามเพื่อน
“อือ อีกไม่กี่นาทีจะเริ่ม ว่าจะแวะซื้อชานมไข่มุกร้านเจ๊น้ำ”
“อยากกิน แต่ช่วงนี้ลดน้ำหนัก” เปอร์เซียเอ่ยตาละห้อยทำให้เธอยื่นมือไปบีบแก้มเพื่อนสาวคนสวยด้วยความมันเขี้ยว
“ลดอะไร ตัวเล็กแค่นี้”
“จริงนะ น้ำหนักขึ้นตั้งสองกิโลฯ แน่ะ”
“ไม่เชื่อย่ะ !” ยาหยีเอ่ยแทรกขึ้นมาพลางเบะปาก
“โอ๊ะ ไอ้นายมันตามแล้วฉันรีบไปก่อนนะ”
เธอรีบโบกมือลาแก๊งเพื่อนสาวเมื่อเห็นแชตของเพื่อนชายคนสนิทอย่างเจ้านายทักมาเตือน เลยรีบขอตัวออกมา อย่างไรวันนี้ก็ต้องได้กินชานมไข่มุกร้านเจ๊น้ำก่อนไปเรียน
ร่างบางในชุดนักศึกษาเสื้อพอดีตัวสวมทับด้วยเสื้อช็อปสีน้ำเงินเข้มกับกระโปรงทรงเอผ่าข้าง รีบวิ่งออกจากตึกคณะวิศวะทันทีเพื่อมุ่งหน้าไปยังช็อปสาขายานยนต์ที่อยู่ไม่ไกล
เมื่อมาถึงช็อปก็รีบโยนกระเป๋ามาวางไว้บนโต๊ะ ก่อนจะออกมาซื้อชานมไข่มุกกิน เธอเป็นคนค่อนข้างติดน้ำหวาน ยิ่งเวลาเมาค้างพอได้กินแล้วมันสดชื่นมาก
ริมฝีปากบางสีแดงระเรื่ออย่างเป็นธรรมชาติดูดกลืนชานมในแก้วอย่างมีความสุข ใบหน้าสวยระบายยิ้มมุมปากเบา ๆ ทำเอาใครหลายคนที่มองอยู่ต่างตาพร่าไปกันหมด รวมถึงร่างสูงในชุดไพรเวตเรือนผมสีเทาสวยโดดเด่น นัยน์ตาคมทรงเสน่ห์หยุดสายตาไว้ตรงนั้นเนิ่นนานอย่างไม่แน่ใจ ว่าใช่ผู้หญิงคนเมื่อคืนไหม จนกระทั่งเธอหันมาถึงรู้ว่าเป็นคนเดียวกัน ‘บังเอิญ’ ชะมัด
ทั้งที่อุตส่าห์จะลืมแล้วแท้ ๆ ไม่คิดว่าเพียงไม่กี่ชั่วโมงที่ยังไม่ทันได้ลืมเลือนก็ได้มาเจอเธอแล้ว
“มองอะไรวะ ?”
เสียงเข้มของไวท์เอ่ยปากถาม ก่อนนัยน์ตาสีฟ้าจะมองตามทางที่เพื่อนมองอยู่ มุมปากเขายกยิ้มทันทีเมื่อเห็นว่านีลมองสาวสวยเรือนผมสีบลอนด์คนเดียวกับที่มันหิ้วไปกกเมื่อคืน
“เฮ้ย สาวคนเมื่อคืนนี่”
แบดเอ่ยแทรกขึ้นมา เพราะเขากับเลนินไปแวะห้องน้ำเลยเดินมาช้า แต่เมื่อมาถึงระหว่างทางไปช็อปคนตาไวอย่างแบดก็สังเกตเห็นร่างบอบบางของมาเฟียที่กำลังเดินกินชานม และเมื่อหันกลับมาดันเห็นเพื่อนแสนร้ายกาจอย่างนีลกำลังมองเธอตาไม่กะพริบ เขาจึงเอ่ยปากแซวขึ้นมา
“อืม”
นีลครางรับในลำคอก่อนจะหันมาทำตาดุใส่แบด เพราะเพื่อนตัวดีดันส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้เขาเลยต้องดักคอมันไว้ก่อน
“ไม่เข้าไปทักหน่อยวะ” เลนินเอ่ยเสียงเรียบ
“เออ ไม่อยากสานต่อเหรอ สวยนะเว้ย”
เพราะนีลไม่คั่วกับสาวที่ไหน มีแต่ได้ จบ และแยกย้าย แต่แบดเห็นว่าสาวผมบลอนด์คนนี้เป็นคนแรกที่นีลเข้าหาก่อน เลยคิดว่าเพื่อนอาจจะชอบอยู่บ้าง
“ไม่จำเป็น”
นีลปรายตามองเพื่อนและเอ่ยตอบเสียงแข็ง นัยน์ตาคมทรงเสน่ห์ละสายตาจากร่างบาง เพื่อจะเดินเข้าไปทำธุระที่ตึกคณะวิศวะแต่เสียงของแบดกลับทำให้เขาชะงักกึก
“เฮ้ย ดูนั่น”
สาวสวยที่กำลังตกเป็นประเด็นให้สี่หนุ่มมองอยู่กำลังเดินถือชานมกลับช็อปวิศวะ แต่เสียงเอ่ยรั้งไว้แสนคุ้นเคยทำให้เธอหันมาแทบจะทันที
“เจ๊เฟีย !!”
เสียงตะโกนเรียกทำให้เธอขมวดคิ้วมองน้องรหัสอย่างกัสเขม็งเพราะไม่เข้าใจว่ามันเสียงดังทำไม พลางกวาดสายตามองทั่วทั้งร่างว่ามีตรงไหนที่บุบสลายไหมหลังจากมันหัวฟาดเข้าโรงพยาบาลตั้งแต่ไปเลี้ยงสายกัน นี่พึ่งได้เจอมันครั้งแรก
“เรียกทำไมวะไอ้กัส”
เธอขมวดคิ้วยืนรอน้องรหัสทั้งที่อีกไม่กี่นาทีต้องเข้าเรียนแล้ว กัสเดินเข้ามาใกล้ด้วยใบหน้าสงบเสงี่ยมจนมาถึงเธอมันก็กระแทกเข่าลงตรงหน้ามาเฟีย
“เจ๊สุดที่รักยกโทษให้กัสด้วย จะไม่ปากดีอีกแล้ว”
“อะไรของมึงลุกขึ้นเร็ว ๆ”
เพราะท่าทางของทั้งคู่ทำให้หลายคนต่างเบิกตากว้างและคิดอะไรที่มันซับซ้อนกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่มากเกินกว่าพี่น้องสายรหัส ต่างกับมาเฟียที่ถลึงตามองดุกัส เพราะเธอรู้ไส้รู้พุงมันที่ทำแบบนี้คงตั้งใจแกล้งมากกว่า
“ไม่เอา เจ๊ต้องยกโทษให้กัสก่อน” ไม่ว่าเปล่ายังยกแขนกอดรอบขาเรียวของเธออีก จะขยับก็กลัวว่าจะหงายหลังล้มลงกับพื้น
“ไอ้กัส ปล่อยเดี๋ยวนี้ !” มาเฟียเริ่มชักสีหน้า
“ไม่ปล่อย” และคนมึนอย่างกัสก็ไม่ยอมง่าย ๆ เช่นกัน
“ทำอะไรกันวะ ?”
เสียงทุ้มเอ่ยปากถามด้วยความแปลกใจ ชายหนุ่มใบหน้าหล่อร้าย เรือนผมสีน้ำตาล สวมเสื้อช็อปสีน้ำเงินเหมือนกับมาเฟียเดินเข้ามาหาคนทั้งคู่
“เจ้านายมึงมาช่วยดึงไอ้กัสออกเร็ว”
“ไม่นะ เฮียเจ้าอย่าเอาเจ๊เฟียไป”
“อะไรวะพวกกูจะไปเรียน” มาเฟียเริ่มจะหงุดหงิด มือบางพยายามกระชากหัวกระชากเสื้อของน้องรหัสออก และเจ้านายที่เดินออกมาตามมาเฟียไปเรียนก็รีบมาช่วยอีกแรง กลายเป็นภาพชุลมุนวุ่นวายของทั้งสามคนทันทีเมื่อกัสก็ดื้อด้านไม่ยอมปล่อย
ตัดมาที่อีกด้าน ภาพนั้นทำให้นีลเดือดดาลขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ จิตใจมันร้อนรุ่มจนยากจะระงับ ยิ่งเห็นทั้งสองคนตรงนั้นยิ่งทำให้มือหนากำเข้าหากันแน่น
“แม่งมีเจ้าของแล้วเหรอวะ” เลนินเอ่ยออกมาเสียงไม่เบา
“อย่างนี้มึงก็สอยเมียชาวบ้านดินีล” แบดเอ่ยเสริมทัพทันที
ทำให้คนที่กำลังหัวร้อนและหงุดหงิดกับภาพตรงหน้าตวัดสายตามองเพื่อนทั้งสองคนอย่างไม่พอใจ
“เออ โทษที” เลนินแค่นเสียงหัวเราะพลางเอ่ยขอโทษ
“ฮอตฉิบหาย นั่นมาอีกคนละ” ไวท์พยักพเยิดไปยังผู้ชายอีกคนที่กำลังเดินเข้ามาแยกสาวสวยผมบลอนด์กับชายที่นั่งคุกเข่า
“สรุปไอ้นีลไม่ใช่มือที่สามนะ แต่เป็นมือที่สี่ว่ะ ฮ่าฮ่า”