“วันนั้นข้าเป็นมังสวิรัติ แต่วันนี้ไม่ได้เป็น ไม่ได้หรืออย่างไร เจ้าตัวไร้ประโยชน์ เจ้าไม่เข้าใจหลักธรรมชั้นสูง เพียงใจเรามีศีล เช่นนั้นจะกินเนื้อสัตว์หรือไม่ ก็ไม่มีอะไรต่างกัน”
“อืม” รัชทายาทเพียงเหลือบมองขี้เมาสาวอย่างเอือมระอา เรื่องเถียงข้าง ๆ คู ๆ เอาสีข้างเข้าถู ก็มีเพียงฮั่วฮั่วเท่านั้นที่เป็นยอดฝีมือ ต่อให้เขามีสิบปากก็เถียงสู้นางไม่ได้
“ฮั่วฮั่ว ดื่มสุราให้มันน้อย ๆ เถอะ วันนี้เจ้าดื่มไปหลายไหแล้ว ไปรวยอะไรมาหรือ ถึงได้มีก้อนเงินไปซื้อสุรามาหลายไหเช่นนี้”
“ข้าไปดื่มสุราบนศีรษะเจ้าหรืออย่างไร บิดาเป็นเซียนน้อยของเขาเทวะ มีผู้คนนับหน้าถือตามากมาย จะหาเงินตำลึงสักก้อนมันจะยากที่ตรงไหน”
นักพรตหญิงขี้เมายิ่งพูด ก็ยิ่งเหมือนอันธพาลเข้าไปทุกที รัชทายาทหนุ่มได้แต่ส่ายหน้าอย่างระอาใจ
“ข้าเสกก้อนทองได้ เจ้าไม่เชื่อหรือ…ทำหน้าเช่นนี้ ในเมื่อเจ้าไม่เชื่อ เซียนน้อยอย่างข้าก็ได้แต่จนใจ”
ฟางรั่วหยุนไม่ได้เปิดโปงนาง แต่สายตาที่เจ้าตัวไร้ประโยชน์มองมา ไม่มีแววศรัทธาเลื่อมใสเลยสักนิด กลับกันเขายังเหลือบมองรอยปะชุนชุดนักพรตหญิงเก่า ๆ สีตุ่น ๆ ของนางเสียด้วยซ้ำ
ผ่านไปหนึ่งชั่วยาม ปลาที่ย่างไว้ ถูกแมวตะกละกินไปหมดแล้วก็ช่างเถอะ แต่นักพรตหญิงขี้เมาที่กลายเป็นโจรเด็ดบุปผา หลอกกินเต้าหู้บุรุษหน้าด้าน ๆ …นับว่าไร้ยางอายแล้ว
นิสัยย่ำแย่ของเซียวฮั่ว นับว่าเกินจะเยียวยาแล้วจริง ๆ …
‘เมาสุรา…ลวนลามบุรุษ’
‘เมาสุรา…อาละวาด ทำตัวเป็นนักเลงโต’
‘เมาสุรา…ตื่นมาแล้วจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่ได้’
"ดื่ม ๆ ดื่มอีก" เสียงที่เคยไพเราะราวกระดิ่งเงินของเซียวฮั่ว กลายเป็นเสียงอ้อแอ้ลิ้นไก่สั้นจากฤทธิ์ของสุราไปเสียแล้ว
"เจ้าเป็นเซียนสุราเสียเปล่า กลับคอแข็งสู้องค์ชายเช่นข้าไม่ได้"
ปกตินักพรตน้อย เฉลียวฉลาดขี้ระแวง จะหลอกนางนั้นยากยิ่งนัก แต่พอเป็นเรื่องของสุรา เซียนสาวขี้เมากลับตกหลุมพรางได้อย่างง่ายดาย
"มาดื่ม ๆ หมดจอก เจ้าตัวไร้ประโยชน์ อย่าพูดจาเพ้อเจ้อ บิดาหรือจะดื่มสุราแพ้บุรุษหน้าขาวเช่นเจ้า"
ฮั่วฮั่วรินสุราจนเต็มชามแล้วดื่มอัก ๆ จนคว่ำชาม ส่วนฟางรั่วหยุนทำท่ายกชามสุราขึ้นดื่ม แต่กลับเทสุราในชามลงกระถางต้นไม้ที่อยู่ใกล้ ๆ
"เจ้าเมาแล้ว พอเถอะ"
ฟางรั่วหยุนยังพยายามห้ามปรามคล้ายจะหวังดี อยู่กับนางบนเขาเทวะมานานถึงเพียงนี้ ย่อมรู้จักนิสัยอันธพาลไม่ยอมคนของเซียนน้อยนางนี้ดี เวลาเมาเซียวฮั่วชอบทำตัวกร่าง และหัวแข็งไม่แพ้นักเลงหัวไม้
ผ่านไปอีกหนึ่งชั่วยาม ไหสุราว่างเปล่าวางเกลื่อนพื้น ฟางรั่วหยุนยกกระถางต้นไม้ไปเทสุราออก ทำลายหลักฐาน แล้วเดินกลับเข้ามาจัดการเซียนสาวขี้เมาอย่างใจเย็น
"เขียนเสร็จแล้ว ก็ลงนาม พิมพ์ลายนิ้วมือเสียด้วยสิ"
"เชอะ! เขียนก็เขียนสิ เซียนอย่างข้า กล้าพนันย่อมกล้าแพ้อยู่แล้ว"
ผมยาวสยายของนางหลุดลุ่ยจนกระจายเต็มแผ่นหลัง ริมฝีปากอิ่มที่แดงก่ำ ยามขี้เมาสาวเผลอตัวแล้วกัดริมฝีปากนุ่มดูคล้ายเชิญชวนให้เขาไปลิ้มลอง กลิ่นหอมสุรา ที่แผ่ออกมาจากเนื้อนวล ช่างกระตุ้นให้เกิดการกระทำที่ผิดบาปได้โดยง่าย
"ผมจะจุ่มลงในจานฝนหมึกแล้ว"
ฟางรั่วหยุนโอบเอวบางมาพิงหน้าอกกว้างของตน แล้วจับมือเล็ก ๆ ของขี้เมาสาว มากดกับตลับชาดทาปากสีแดง ก่อนจะกดพิมพ์ลงไปบนกระดาษ
"เจ้าเป็นคนเขียนเองนะเซียนน้อย พรุ่งนี้อย่าได้มาโวยวายใส่ข้า" ฟางรั่วหยุนยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะอ่านทวนข้อความในกระดาษ
"สัญญาหมั้นหมาย ระหว่างองค์ชายใหญ่ฟางรั่วหยุน กับนักพรตหญิงเซียวฮั่วแห่งเขาเทวะ ข้าเซียวฮั่วยินดีทำสัญญาหมั้นหมายนี้ขึ้นด้วยความเต็มใจ ยินยอมให้คำมั่น แต่งเข้าวังบูรพา เป็นพระชายาของรัชทายาทฟางรั่วหยุน ลงชื่อเซียวฮั่ว"
"ยินดีต้อนรับว่าที่พระชายาของข้า"
สาวน้อยที่นั่งทรงตัวให้ตรงยังลำบาก จะเข้าใจว่าตัวเองถูกหลอกไปเชือดแล้วหรือไม่ ฟางรั่วหยุนก็ไม่แน่ใจ เขาช้อนอุ้มนางไปวางบนเตียงอย่างใจดี
“ขี้เมาสาว ถึงเจ้าจะเป็นว่าที่พระชายาของข้า แต่ธรรมเนียมชายหญิงไม่อาจใกล้ชิด ทำเช่นนี้ไม่ค่อยดีกระมัง”
มือจิ้งจกเหนียวหนึบหนับ กอดคอหนาของรัชทายาทหนุ่มเอาไว้แน่น รั่วหยุนพยายามแกะมือของนางออกก็ไม่เป็นผล ในที่สุดก็ต้องล้มตัวลงนอนข้างนางอย่างไม่เต็มใจ
"ฮั่วฮั่ว! นอนนิ่ง ๆ ห้ามเจ้าหลอกกินเต้าหู้ข้า!"
ริมฝีปากนุ่มที่เหมือนจะปัดโดนริมฝีปากหนาของเขา แต่ก็คล้ายเพียงแค่เฉียดใกล้ ยิ่งทำให้ชายหนุ่มผลักร่างเล็ก ๆ ของนางออก
“หัวผักกาดน้อย ตัวขาว น่ากินนัก มาให้บิดาลองชิมดูสักคำมา…”
ขี้เมาสาวเมากรึ่ม ลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่น ตอนนี้รู้เพียงว่าเจ้าตัวไร้ประโยชน์ ดูเหมือนเป็นหัวผักกาดขาวสดฉ่ำอันโอชะ ริมฝีปากนุ่มของนาง จึงอ้าปากแล้วงับลงไปคำใหญ่
“เลิกเล่นได้แล้ว เจ้าเป็นสตรีไม่ควรยั่วยวนบุรุษ!!!”
ต่อให้บังคับพระองค์ได้ดีเพียงใด แต่มาเจอหมูอันธพาลเช่นฮั่วฮั่ว ใคร ๆ ก็ตบะแตกได้ง่าย ๆ ฟางรั่วหยุนตัดสินใจงับริมฝีปากของนางไปแรง ๆ เพื่อเตือนสติ
ใครเลยจะคิดว่า หมูอันธพาลพอถูกขัดขืน จะยิ่งทำตัวร้ายกาจ “ฟางรั่วหยุน เจ้าตัวไร้ประโยชน์ เจ้าบังอาจกัดปากบิดา คอยดูว่าบิดาจะสั่งสอนเจ้าอย่างไร”
สาวน้อยพูดได้แค่นั้น ก็เริ่มลงมือกัดไปทั่วใบหน้าหล่อเหลาราวหยกสลักของรัชทายาทหนุ่มอย่างมันเขี้ยว
“เซียนน้อย ขอเตือนไว้ก่อน หากยังคงทำเช่นนี้ต่อไป พรุ่งนี้หากเจ้าตื่นมาแล้วพบว่าเกิดอะไรขึ้น อย่าได้โทษข้า และอย่าได้เสียใจภายหลังเชียว” ฟางรั่วหยุนยังเอ่ยเตือนไม่ทันจบ โจรเด็ดบุปผาก็พลิกตัวขึ้นคร่อมเขาไว้ทั้งตัว