ตอนที่ 1/1 สถานีพักใจ

1459 Words
“อืม” ว่าแล้วอัญญาก็กลั้นใจยกแก้วมาร์การิต้าดื่มจนหมดในทันที “เป็นยังไงบ้างครับ รสชาติโอเคมั้ย?” ภูษิตเผยลักยิ้มตรงมุมปากขณะเอ่ยถาม แม้ว่าฝีมือในการชงเหล้าของเขาจะเป็นที่ถูกอกถูกใจของเหล่าลูกค้า แต่ชายหนุ่มก็ไม่เคยหยุดพัฒนาฝีมือและรับฟังคำติชมของทุกคนที่มาสถานที่แห่งนี้ “ขออีกแก้วได้มั้ยคะ” เมื่อแก้วแรกหมดไป รสชาติของค็อกเทลที่ติดลิ้นทำให้อัญญาเอ่ยปากขอมันอีกแก้วในทันที “ได้ครับ” ภูษิตยิ้มรับก่อนจะจัดการรับแก้วมาร์ตินี่มาจากมือของเธอ เพียงไม่นานค็อกเทลสีใสก็พร้อมเสริฟให้หญิงสาวอีกแก้ว 30 นาทีต่อมา… พวงแก้มขาวเนียนของอัญญาก็เริ่มขึ้นสีแดงปลั่งราวกับผลมะเขือเทศใกล้จะสุก ยามเมื่อมองไปเบื้องหน้าแก้วมาร์ตินี่นับสิบก็ถูกสาวเจ้าซัดเรียบหมดเสียคนเดียว “นาย…เอามาอีกแก้วสิ…” ร่างเล็กๆ เริ่มฟุบใบหน้าลงกับโต๊ะหน้าเคาน์เตอร์บาร์ เสียงของอัญญาเริ่มยานคางเพราะฤทธิ์ของมาร์การิต้านับสิบแก้ว “คุณเมาแล้ว” ภูษิตปฎิเสธเสียงเรียบ “ฉันจะดื่ม…อึ๊ก!...นายเอามาอีกแก้วสิ” ใบหน้าแดงก่ำพยายามเงยขึ้นมาสบตากับใบหน้าหล่อเหลาเบื้องหน้า อัญญาเริ่มงอแงราวกับเด็กเล็กที่อยากได้ของเล่น เมื่อเห็นท่าว่าหญิงสาวเบื้องหน้าเริ่มไม่ได้สติแล้วภูษิตจึงเอ่ยถามเธอด้วยความเป็นห่วง “คุณพอจะมีเบอร์ติดต่อของแฟนหรือเพื่อนของคุณบ้างมั้ยครับ ดูแล้วผมว่าคุณคงกลับเองไม่ได้แล้วแน่ๆ” “แฟน?” “ครับแฟนหรือคนรักของคุณไงครับ” “คนรัก…” ว่าแล้วหยาดน้ำใสๆ ที่อัญญาพยายามเก็บกักมันเอาไว้ จู่ๆ มันกลับไหลบ่าลงมาราวกับทำนบแตก “แฟน…คนรัก…ฮ่าๆๆๆ” เมื่อเห็นปฏิกิริยาของสาวเจ้า ภูษิตก็แทบอยากจะตบปากของตัวเองนัก นี่เขาลืมไปได้อย่างไรว่าเธอกำลังอกหักนะ นัยน์ตาคมพยายามกวาดสายตาไปทั่วๆ ร้าน โชคดีที่วันนี้ร้านคนน้อยเลยไม่มีใครสนใจที่เคาน์เตอร์บาร์ตรงที่เขาอยู่ “ผมขอโทษนะครับคุณ เอ่อ…คุณพอจะมีเบอร์โทรศัพท์ของเพื่อนหรือคนรู้จักมั้ยครับ?” ทว่าอัญญาในตอนนี้มีเหรอจะมีกะจิตกะใจตอบคำถามของบาร์เทนเดอร์หนุ่มตรงหน้า คำว่าคนรักและแฟน ในตอนนี้ได้เป็นคำต้องห้ามของหญิงสาวไปเสียแล้ว “นายเคยรักใครสักคนมั้ย?” อัญญาไม่ตอบคำถาม แต่เธอกลับถามเขากลับทั้งที่น้ำตาคลอเบ้า “เคย” ภูษิตตอบเสียงเรียบพลางลอบตำหนิตัวเองในใจว่าไม่น่าเปิดประเด็นพูดคำนี้ออกมาเลยจริงๆ “แล้วนายเคยถูกคนที่รักทรยศมั้ย?” อัญญาเอ่ยถามด้วยใบหน้าที่แสนจริงจัง ภูษิตนิ่งคิดนิดนึงก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ “ไม่” “ถ้าอย่างนั้น…นายคงไม่มีวันเข้าใจฉันแน่ๆ ว่าการที่ถูกคนรักทรยศหักหลังมันเป็นแบบไหน? นายรู้มั้ยว่าในตอนนี้ฉันอยากจะตายๆ ไปซะ! เพราะมันเจ็บ…เจ็บจนไม่อยากที่จะหายใจ” อัญญาหลับตาลงพร้อมกับภาพที่ฉายวนซ้ำอีกครั้ง ราวกับว่ามันกำลังตอกย้ำความเจ็บปวดและถาโถมกระหน่ำซ้ำเติมเธอให้เจ็บปางตาย “ถ้ารักแล้วมันทำให้เจ็บ การปล่อยเขาไปคงน่าจะทำให้ความเจ็บนั้นทุเลาลงบ้างนะครับ” ภูษิตพูดนิ่งๆ คล้ายกับเข้าใจทุกอย่าง “นายจะไปเข้าใจอะไร นายไม่เป็นฉัน…นายคงไม่รู้…ฮือๆ” ถ้าฉันตายไปตอนนี้ทุกอย่างมันจะจบลงใช่ไหม? ความเจ็บปวดที่ฉันเผชิญอยู่ในตอนนี้มันจะเบาบางลงบ้างรึเปล่า? หรือว่าจะคอยตามหลอกหลอนฉันไปจนตาย… “ความตายสามารถทำให้คุณหลุดพ้นจากปัญหาที่อยู่ในใจได้จริงเหรอ? หรือว่ามันเป็นเพียงตรรกะที่คุณหมายมั่นว่านั่นคือทางออกจริงๆ ล่ะ?” ภูษิตพูดขึ้นคล้ายรู้ถึงความคิดในใจของเธอ “นายรู้ได้อย่างไร?” อัญญาถามขึ้นด้วยความรู้สึกประหลาดใจ “ถ้าคุณใช้ใจสัมผัส คุณจะรู้ว่าในโลกใบนี้ยังมีอะไรๆ อีกมากมายที่รอคุณอยู่เบื้องหน้า อย่าให้คนที่เขามองไม่เห็นคุณค่าในตัวคุณทำร้ายชีวิตของคุณเลยนะครับ” บาร์เทนเดอร์หนุ่มเผยลักยิ้มเล็กๆ ตรงมุมปากทั้งสองข้างอีกครั้งคล้ายกำลังจะปลอบใจเธอ “ถ้าชีวิตคนเรามันเปลี่ยนได้ง่ายดายอย่างที่พูดจริงๆ คงดีไม่น้อย แต่ชีวิตจริงมันไม่ได้ง่ายดายแบบนั้น!” มือเล็กแอบฉกวิสกี้ขวดเล็กที่วางบนเคาน์เตอร์บาร์เบื้องหน้าแล้วเปิดฝาออก อัญญารีบกระดกวิสกี้เพียวๆ คำโต “เฮ! คุณ หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” ภูษิตรีบฉกวิสกี้ยี่ห้อดังออกมาจากมือหญิงสาวได้ทันการ มิเช่นนั้นแล้วเขาก็ไม่อยากจะคิดว่าเธอจะเป็นเช่นไรต่อ “เอิ๊ก! เอามานะ! เอามา ช้าน…จะกิน…” และก็เป็นตามคาด อัญญาเมาฟุบหลับหมดสติไปเรียบร้อย “เฮ้อ! อีกแล้วสินะ” สามปีแล้วที่ภูษิตเปิดร้านเหล้าที่ย่านไนต์คลับชื่อดังแห่งนี้ ด้วยความหลงใหลในการเป็นบาร์เทนเดอร์และศาสตร์ด้านการรังสรรค์รสชาติใหม่ๆ ของค็อกเทล ภูษิต ไพศาล บุตรชายคนรองของเจ้าสัวโรงเหล้าระดับประเทศ ทายาทหมื่นล้านอย่างภูษิตจึงเลือกที่จะปฏิเสธธุรกิจหลักของครอบครัว แต่กลับผันตัวมาเป็นเจ้าของร้านเหล้าเล็กๆ ณ สถานที่แห่งนี้แทน สำหรับชายหนุ่มแล้วเงินไม่อาจจะซื้อทุกอย่างได้ แต่การได้ทำในสิ่งที่รักต่างหากที่จะทำให้ชีวิตเขามีความสุขและสามารถพัฒนาศักยภาพของตนเองได้ แม้จะเป็นเพียงเจ้าของร้านเหล้าเล็กๆ ในตรอกไนต์คลับ แต่หุ้นส่วนอีกห้าเปอร์เซ็นต์ของบริษัทบิดาที่ให้ชายหนุ่มไว้เป็นมรดกก็มากพอที่จะทำให้ภูษิตสบายไปทั้งชาติเลยทีเดียว “นี่คุณ! ตื่นๆๆๆ” ภูษิตพยายามเขย่าร่างบอบบางที่นอนหลับตาพริ้มราวกับเด็กแล้วส่ายหน้าเบาๆ ตลอดสามปีตั้งแต่ที่เขาเปิดร้านเหล้าแห่งนี้ มีสาวน้อยสาวใหญ่ที่อกหักและมาหาที่สถานีพักใจแห่งนี้ไม่น้อยเลยจริงๆ นี่เราคิดผิดหรือถูกกันแน่เนี่ยที่ตั้งชื่อร้านแบบนี้…สถานีพักใจ…เฮ้อ! ดวงตาคมจับจ้องเงาร่างบอบบางในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์พลางทอดถอนใจอีกครั้ง โชคดีที่ร้านของเขามีห้องพักสองห้องไว้สำหรับพักผ่อนในกรณีที่เขายุ่งและไม่สามารถกลับคอนโดได้ และอีกในกรณีหนึ่งคือไว้สำหรับลูกค้าสตรีที่เมาหลับเพราะปัญหาหัวใจอย่างสุภาพสตรีเบื้องหน้า “อาเฉา ผากดูร้านที ฉันว่าต้องพาคุณผู้หญิงคนนี้ไปพักข้างบนก่อน” ภูษิตสั่งเด็กหนุ่มหน้ามนหนึ่งในบริกรของร้านวัยสิบแปดยิ้มๆ ก่อนจะจัดการอุ้มร่างบอบบางที่นอนหมดสภาพเดินไปหลังร้านเพื่อขึ้นไปด้านบนห้อง ด้านอาเฉามองเจ้านายหนุ่มแล้วส่ายหน้านิดๆ “ไม่เข้าใจเลยว่าเจ้านายจะทำตัวเป็นเทพบุตรแบบนี้ไปอีกนานไหม ถ้าเป็นคนอื่นคงจัดเรียบไปทุกรายแน่ๆ” เด็กหนุ่มหวนนึกถึงบรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ที่หลังจากฟื้นสติหลังจากเมาฟุบหลับภายในร้าน หลังจากพวกเธอเหล่านั้นรู้ว่าตนเองถูกเจ้านายดูแลพวกเธออย่างดีและไม่แม้แต่จะคิดหาทางเอาเปรียบพวกเธอแม้แต่นิด สรุปแล้วบรรดาหญิงสาวเหล่านั้นกลับเปลี่ยนเป็นนังเสือสาวไล่รุมเร้าพร้อมประเคนตัวเองให้ภูษิตเสียด้วยซ้ำ หากเป็นเขาคงไม่มีวันยอมปล่อยให้หลุดรอดไปแม้แต่คนเดียวแน่ๆ แต่เพราะเป็นเจ้านาย เรื่องจึงต่างออกไป “เฮ้อ! โชคดีที่วันนี้เป็นวันธรรมดาลูกค้าเลยน้อย ถ้าเป็นวันหยุดล่ะก็ หึๆ ไม่อยากคิดว่าห้องจะว่างไหม อิจฉาโว้ย!” หมิงหมิงบริกรหนุ่มอีกคนที่อยู่ในวัยไล่เลี่ยกันเดินมาตบไหล่อาเฉา “อิจฉาไปก็ไร้ประโยชน์ ใครใช้ให้คุณมึงไม่หล่อและรวยเอง ทุกอย่างจะเป็นเรื่องง่ายดายถ้าแกเทพ!” หมิงหมิงหนุ่มหน้าตี๋ยักคิ้วกวนๆ ให้อีกฝ่ายก่อนจะเดินไปทางเคาน์เตอร์แล้วเก็บแก้วมาร์การิต้าที่วางเรียงรายแล้วส่ายหน้า “สงสัยเจ้านายจะไม่เก็บตังค์อีกตามเคย ช่วยไม่ได้เพราะรวยอยู่แล้ว”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD