5.เชื่อไปแล้ว

1314 Words
เจเนวีพาตัวเองกลับมายังที่พัก แน่นอนที่ด้านหน้าประตูทางเข้าเรือนรับรองของเธอ ผู้ที่ยืนอยู่ยังคงเป็นเบรเดนที่มีสีหน้าเย็นชาประดุจเจ้าชายน้ำแข็ง แน่นอนว่าเมื่อเขาเห็นเธอที่กำลังเดินเข้ามายังเรือนรับรอง สิ่งที่เบรเดนทำคือการก้มหน้าลงเพื่อทำความเคารพตามปกติ หลังจากนั้นเขาก็เบือนหน้าหนีอย่างไม่คิดแยแสเธอเลย เจเนวีได้แต่มองหน้าของเบรเดนนิ่งๆ นั่นสินะ..เธอควรจะให้เวลาเขาหน่อย ให้เวลาเขาได้จัดการกับความรู้สึกของตัวเอง ส่วนเธอเองก็ควรจะให้เวลาตัวเองได้คิดจัดการหาข้ออ้างในการพบเจอเขาอีกหน่อย หรือว่าจะช่างแม่งภารกิจแล้วใช้ชีวิตสวยๆ รวยๆ ที่นี่ให้รู้แล้วรู้รอดไป ฉันล้มตัวนอนลงบนเตียง ชีวิตของฉันมันไม่เคยได้โรยด้วยกลีบกุหลาบหรือว่ามีความรักที่แสนดีอะไรแบบนั้นอยู่ ฉันมีชีวิตที่ต้องทำงานหนักและต้องดิ้นรนทำงานเพื่อให้มีเงินใช้จ่าย พอช่วงเย็นหลังจากกลับมาจากที่ทำงาน ฉันก็มักจะผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยล้าอยู่เสมอๆ มันเป็นการทำงานอย่างหนักที่ได้พักสัปดาห์ละหนึ่งวัน การอยู่ที่นี่ก็ไม่ได้แย่อะไรเลยนี่ ฉันในตอนนี้คือเจ้าหญิงเจเนวี แน่นอนว่าเรื่องเงินนั้นไม่ต้องเป็นห่วงอะไรเลย ฉันมีเงินที่ใช้จ่ายสบายๆ ไปทั้งชาติโดยที่ไม่ต้องกังวลในส่วนนั้น ใจจริงฉันอยากจะพบเจอพ่อและแม่ของเจเนวีสักครั้งหนึ่ง.องค์จักรพรรดิและจักรพรรดินี..พวกท่านจะใจดีกับฉันไหมนะ ฉันไม่เคยอยู่กับพ่อและแม่มาก่อนเลย เพราะชีวิตจริงพ่อกับแม่ของฉันเลิกกันตั้งแต่ฉันยังเด็ก จึงถูกเลี้ยงมาผ่านคุณยายที่แก่ชรา และเมื่อท่านเสียชีวิต ฉันก็ต้องเผชิญหน้ากับความยากลำบาก กว่าจะผ่านมันมาได้ก็ทำเอาเกือบตายเหมือนกัน ฉันเองจะสามารถอยู่ที่นี่ได้รึเปล่า เป็นเจเนวีที่มีครอบครัวที่ดีพร้อมและรักนาง..การคาดหวังเช่นนั้นมันจะเป็นการโลภมากเกินไปรึเปล่านะ ........... “ลูกส่งเจนนี่ไปอยู่กับท่านป้าพ่ะย่ะค่ะ อย่างน้อยในระหว่างที่นางไม่อยู่ที่พระราชวัง ก็คงจะไม่มีเรื่องเสื่อมเสียอย่างแน่นอน” จักรพรรดินีมากาเรตส่งยิ้มให้กับองค์รัชทายาทที่กล่าวออกมาด้วยความแน่วแน่ “อันที่จริงการส่งเจนนี่ออกไปข้างนอกพระราชวังถือเป็นเรื่องที่ดีอยู่เหมือนกัน ถึงแม้ว่านางจะสร้างเรื่องราวที่เสื่อมเสียให้กับราชวงศ์แต่ทว่านางก็คือองค์หญิงและคือน้องสาวของเจ้าด้วย จีซัส..พ่อว่าลูกควรจะมองหาคฤหาสน์สักหลังเพื่อส่งเจเนวีไปอยู่ที่นั่นและให้นางได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในสิ่งที่นางเลือก แน่นอนว่าพ่อไม่เห็นด้วยหรอกนะหากว่าลูกจะให้น้องแต่งงานน่ะ..พ่อรู้ว่าลูกและแกรนด์ดยุคสนิทสนมกันและการแต่งงานระหว่างเจนนี่กับไอแซ็คนั้นก็นับว่าเหมาะสม แต่ทว่าพ่อไม่ชอบเด็กที่ไม่มีสายเลือดอันสูงส่งของราชวงศ์เลยจีซัส ดยุคโรแลนด์เดิมทีเป็นเพียงทหารรับจ้างเท่านั้น สายเลือดของพวกเขาต่ำต้อยมากไปหน่อย หากจะเทียบกับเจนนี่ของเราน่ะ” จารีอัลยกยิ้มขึ้นมา “ลูกไม่คิดจะให้เจนนี่และไอแซ็คสานสัมพันธ์กันอยู่แล้วพ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ ลูกแค่อยากให้น้องสาวของลูกได้พักผ่อนจึงส่งนางไปที่นั่น อีกทั้งท่านป้าก็เอ็นดูนางมากกว่าใครอยู่แล้ว” องค์จักรพรรดิอาเธอร์หรี่ตามองลูกชาย “เช่นนั้นก็ดีจีซัส เจนนี่คือน้องสาวเพียงผู้เดียวของเจ้านะ เพราะฉะนั้นแล้วเจ้าจะต้องปกป้องนางให้ถึงที่สุดในฐานะของพี่ชายน่ะ” เขาเกลียดน้องสาวที่ขยันสร้างเรื่อง เกลียดเสด็จพ่อที่เอาแต่เข้าข้างนาง เกลียดเสด็จแม่ที่เอาแต่ยิ้มเพียงอย่างเดียวเท่านั้นไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา เขาถูกเลี้ยงมาในกรอบที่ถูกตีเอาไว้ ขณะที่เจเนวีนางถูกเลี้ยงมาด้วยความรักและความตามใจ ที่นางทำตัวอื้อฉาวเช่นนั้น ส่วนหนึ่งมาจากเสด็จพ่อและเสด็จแม่ที่ตามใจนางด้วยกันทั้งสิ้น! “พ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ ลูกรู้ดีว่าจะต้องทำเช่นไร” องค์จักรพรรดิอาเธอร์พยักหน้า “เช่นนั้นเจ้าก็ออกไปเถิด พ่ออยากจะคุยกับแม่ของเจ้าเป็นการส่วนตัว” มีกำแพงเกิดขึ้นมาเสมอระหว่างเขาและเสด็จพ่อ กำแพงนั่นไม่มีวันจางหายไปและไม่มีวันสลายหายไปไหน..ทำไมเสด็จพ่อถึงได้รักเจนนี่มากกว่าเขากันนะ? เขาทำอะไรผิดงั้นหรือ ทั้งๆ ที่เขาก็ทำทุกอย่างได้ดีเสมอ “การทำให้ลูกรู้สึกด้อยค่าในตัวเองคือความสุขของฝ่าบาทอย่างนั้นหรือเพคะ” จักรพรรดินีเอ่ยถามด้วยความรู้สึกเจ็บปวด รอยยิ้มจางหายไปจากใบหน้าที่แสนงดงามของพระองค์ “ใช่แล้วมากาเรต..การมองดูจีซัสเคียดแค้นคือความสุขของข้าเลยล่ะ เพราะทุกครั้งที่ข้าแสดงออกว่าข้าสนใจเจนนี่มากกว่า ความอยากเอาชนะของเขาก็จะมีมากขึ้น เจ้าเองก็ควรจะสวดภาวนาให้มากหน่อยสิ ให้ลูกสาวของเจ้ารอดพ้นจากคมดาบแห่งความเคียดแค้นของ จีซัสต่อไปเรื่อยๆ” กับบางอย่าง..การพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงมันไม่มีทางเป็นไปได้เลย เพราะกับบางคนการพยายามมากแค่ไหนก็ไม่สามารถทำให้เขาเชื่อเธอได้ หากว่าเขาปักใจเชื่อไปแล้วว่าเจเนวีมิใช่ลูกสาวของเขา.. ............... “เจนนี่หลานรัก มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่หลานจะสามารถมีความสัมพันธ์กับองครักษ์ อย่าลืมสิว่าหลานคือราชวงศ์น่ะ อย่าลืมว่าหลานมีอำนาจในการชี้นิ้วสั่งการ..” ฉันกำลังนั่งรถม้าเพื่อเดินทางไปที่วิหารกับท่านป้า วันนี้มีงานวันขอบคุณพระเจ้า ที่สองข้างทางเต็มไปด้วยโคมไฟสีต่างๆ ที่ประดับประดาเอาไว้หน้าบ้านเรือน “แล้วถ้าหากว่าสิ่งที่หลานต้องการมันคือความรักล่ะคะ ความรักมิใช่ร่างกาย..” ท่านป้าเซียร่าหัวเราะออกมา “นั่นคือเรื่องอันตรายแล้วเจนนี่เพราะการต้องการความรักนั้นไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่นัก เจ้าจะจมปลักอยู่ในวังวนที่ไม่อาจหลุดพ้น และจะทุ่มเททุกสิ่งอย่างเพื่อให้ได้ความรักกลับมา หากเกิดผลตรงกันข้าม หากไม่ได้รับความรักกลับมาผู้ที่เจ็บปวดก็คือเจ้าเพียงผู้เดียวเพราะแบบนั้นป้าขอแนะนำว่า อย่าไปอยากได้ความรักจากใครทั้งนั้น จงอยากได้ความภักดีหรือว่าความเชื่อใจจะดีกว่า” การเป็นเจเนวีก็ไม่ง่ายเหมือนกันแฮะ.. เมื่อรถม้าจอดเทียบที่ด้านหน้าของวิหาร เหล่านักบุญก็รีบเดินมาต้อนรับท่านป้าของเธอในทันที ไม่เว้นแม้แต่คาดินันอีริค เขาขยับแว่นตาเล็กน้อยเมื่อมองเห็นใบหน้าของสตรีที่ไม่ควรอยู่ที่นี่เลยแม้แต่น้อย องค์หญิงเจเนวีมาที่นี่ทำไมกัน? “อีริค..ข้าจะเข้าไปที่ห้องสวดภาวนาสักหน่อย ฝากเจ้าช่วยดูแลหลานสาวของข้าด้วยนะ ข้าอาจจะเข้าไปนานกลัวว่านางจะ เหงาน่ะ” ตัวเขานั้นปฏิเสธคำขอของท่านเซียร่ามิได้อยู่แล้วเพราะว่านางคือผู้สนับสนุนหลักของวิหารแห่งนี้ “เชิญทางนี้พ่ะย่ะค่ะองค์หญิง”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD