ตอนที่ 2...

4652 Words
"เธออยู่คนเดียวเหรอ" ธนภพถามเมื่อเข้ามาในห้องของกมลเนตร ที่อยู่บนชั้น 28 ของตึก "เห็นคนอื่นมั้ยล่ะ" เธอตอบกวน ๆ ก็เห็นกันอยู่เข้ามาไม่เจอใคร เขายังจะถามอีก "ถ้ามีคนอื่นอยู่ด้วยก็แปลก วัน ๆ ไม่ต้องทำอะไรกันพอดี คอยตามดูแลคนขี้เมาอย่างเธอ เสียเวลาแย่" ธนภพเบะปากใส่เจ้าของห้อง "เมื่อไหร่นายจะเลิกจิกกัดฉันสักทีฮะ ฉันบอกว่าฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันไม่อ้วกใส่รถนายก็บุญแค่ไหนแล้ว" เธอพูดขณะที่เดินออกจากห้องนอน และยื่นผ้าเช็ดตัวให้กับเขา "จะอาบน้ำ จะล้างซวยอะไรก็ตามสบาย" กมลเนตรชี้ไปที่ห้องน้ำ "ไม่ต้องถามหาเสื้อผ้า ขอเวลาหาก่อน โอเคมั้ย" เธอยักคิ้วบอกเขาทันทีที่ธนภพจะเอ่ยปาก เขาหยักไหล่และเดินเข้าห้องน้ำไปแต่โดยดี . "เสื้อผ้านายวางอยู่ตรงชั้น น้ำเปล่าวางอยู่บนโต๊ะ" เธอได้ยินเสียงเขาเดินออกมาจากห้องน้ำ และตอนนี้ก็กำลังง่วนอยู่กับการต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอยู่ด้วย "ทำไมมีกางเกงในด้วย อย่าบอกนะว่าเธอ... เธอผ่าออกแล้ว" ธนภพตกใจ ถ้าเธอเป็นแบบที่เขาคิดจริง ๆ เขาคงต้องพิจารณาความสามารถของตัวเองใหม่ "ของพี่ชายฉันน่ะ ถ้ารังเกียจก็ไม่ต้องใส่ก็ได้นะ กลับด้านของเก่าเอาสิ" กมลเนตรบอกสบาย ๆ "เสื้อผ้านายที่เลอะ เดี๋ยวฉันจัดการแล้วจะฝากออมไปคืนให้นะ" กมลเนตรหันมาบอกธนภพที่กำลังแต่งตัวอยู่ "แอบมองเหรอ" เขาหันมามองกมลเนตรที่ยืนตาค้างอยู่ "ปะ ปะ เปล่า... ฉันจะถามว่า นายจะกินด้วยกันมั้ย" เธอชี้ไปที่หม้อบะหมี่สำเร็จรูป "เอาสิ หอมดี" ธนภพใส่เสื้อ แล้วเดินมานั่งรอที่โต๊ะอาหาร เขามองกมลเนตรจากด้านหลังและคิดถึงแผ่นหลังขาวเนียนของเธอ และตอนนี้ก็กำลังจ้องมองบั้นท้ายกลมงอนที่เคลื่อนตัวไปมาใต้ชุดกระโปรง "นาย! เสร็จแล้ว" กมลเนตรปรบมือเบา ๆ เพื่อเรียกสติเขา "เหม่ออะไร กินสิ" เธอยื่นตะเกียบให้เขา ก่อนจะหยิบถ้วยของเธอมาวางตรงข้าม "ปกติเธอใส่พวกนี้ลงไปด้วยเหรอ" ธนภพใช้ตะเกียบชี้ไปที่บรรดาหมูสับ ไข่ ผัก และเต้าหู้ไข่ในถ้วย "ก็แล้วแต่ แต่ตอนนี้หิว อยากกินอะไรอร่อย ๆ น่ากินมั้ยล่ะ ชิมสิ" เธอคีบเส้นในถ้วยของเธอและเชิญชวนให้เขาชิมฝีมือของเธอ แม้ว่าเธอจะไม่ปรุงรสอะไร แค่ใส่วัตถุดิบอื่น ๆ เพิ่มลงไปก็เท่านั้น "อร่อยดี ปกติเคยกินแค่เส้นกับน้ำซุป" ธนภพบอกตามตรง "งั้นกินให้หมดนะ" เธอบอกพร้อมกับเดินไปหยิบขวดน้ำดื่มจากในตู้เย็น "เธอชื่ออะไรนะ" ธนภพเอ่ยถามเมื่อกมลเนตรกลับมานั่งทานต่อ "กุ๊บกิ๊บ นายล่ะ?" เธอเงยหน้าขึ้นมาตอบเขา พร้อมกับดูดเส้นบะหมี่เข้าปาก "แทน" เขาตอบและจิบน้ำเย็นในแก้ว "ไม่ได้เป็นเพื่อนพี่กฤษใช่มั้ย... ตอนแรกฉันคิดว่านายเป็นเพื่อนพี่กฤษ แต่ฉันจำได้ลาง ๆ ว่าเห็นพี่กฤษบอกว่านายเป็นน้องชาย" กมลเนตรนึกถึงสามีของเพื่อนสนิทที่เธอรู้จักมักคุ้นเป็นอย่างดี "น้องชายของเพื่อนสนิทพี่กฤษ" ธนภพไขข้อข้องใจให้เธอ "อ๋อ... เข้าใจแล้ว" กมลเนตรทบทวนชื่อและใบหน้าของธนภพจนพอจะนึกออกว่าเขาเป็นใคร "อืม" เขาตอบเธอเพียงสั้น ๆ "โอเค! แทน... เรื่องเมื่อกี้เราขอโทษนะ ทั้งเรื่องที่เราเมาไม่ได้สติจนต้องเป็นภาระให้นายมาส่ง ขอโทษด้วยที่พูดไม่ดีกับนาย ขอโทษที่... ที่อ้วกใส่นาย... แล้วก็ขอบคุณนะ ที่กลับมารับเรา และพาเรามาส่งที่นี่" กมลเนตรวางตะเกียบและบอกสิ่งที่เธอรู้สึกผิดในใจให้เขาฟัง "อื้ม ไม่เป็นไรหรอก ขอโทษเหมือนกันที่พูดไม่ดี แต่เรื่องที่เธออ้วกใส่ฉัน ฉันไม่ยกโทษให้เธอง่าย ๆ หรอกนะ" เขารับรู้ถึงความจริงใจในคำขอโทษและคำขอบคุณจากกมลเนตร ที่จริงเขาไม่ได้รู้สึกโกรธเธอมากมายเท่าไหร่แล้ว แต่เรื่องที่เธออ้วกใส่เขานั้น สมองมันสั่งการให้เขาพูดไป เพื่อว่ามันจะสร้างประโยชน์อะไรให้เขาได้ในอนาคต "ไหนบอกไม่อยากเจอหน้าฉันอีกแล้วไง" กมลเนตรท้วงถาม "เหรอ จำคำตอบพูดตัวเองไม่ได้เลย" เขาตอบนิ่ง ๆ ก่อนจะก้มหน้าก้มตากินบะหมี่ในถ้วยจนหมดอย่างรวดเร็ว "ขอบคุณนะ อร่อยมาก" ธนภพบอกกมลเนตรอย่างชื่นชม เขาไม่เคยกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ไหนอร่อยเท่านี้มาก่อน "จะกลับเลยมั้ย" กมลเนตรถาม เธอเห็นว่านี่มันเกือบหกโมงเช้าแล้ว และเธอก็อยากอาบน้ำจะแย่ "ยังอะ กลับตอนนี้รถติดจะแย่ กลางเมืองซะขนาดนี้ มีหวังฉันได้หลับคาพวงมาลัยแน่" ธนภพบอกพร้อมกับเดินไปนั่งที่โซฟา "เฮ้ย นี่พูดเล่นหรือพูดจริง" กมลเนตรถามเมื่อเห็นเขาทิ้งตัวสบายที่โซฟา "จริง ของีบหน่อยละกัน แปดโมงปลุกด้วย" เขาบอกพร้อมกับหลับตานอน "นายจะนอนไม่ได้นะ กินเสร็จแล้วนอน มันจะเป็นกรดไหลย้อนนะ" กมลเนตรเดินไปหยิบหมอนมาตีเขาเบา ๆ นี่เขาไม่เคยอ่านหนังสือสุขภาพหรือไงเนี่ย "พิงเฉย ๆ ไม่ได้นอน แปดโมง ปลุกด้วย ฉันง่วงไม่ไหวละ" เขาบอกพร้อมกับแย่งหมอนจากกมลเนตรมานอนกอด เธอถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย ก่อนจะเดินไปทำความสะอาดอุปกรณ์ในการทำอาหารเมื่อครู่ เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็เดินไปดูธนภพที่โซฟา ก่อนจะใช้มืออังที่จมูกโด่งของเขา เพื่อดูระดับการหายใจว่าหลับไปแล้วหรือยัง เมื่อสัมผัสได้ว่าลมหายใจของเขาสม่ำเสมอ เธอก็ยิ้มออกมาอย่างสบายใจ "ฉันจะได้อาบน้ำสักที" เธอบอกก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอน "ล้างจานเสียงดังขนาดนั้น ใครจะไปหลับได้วะ ประสาท!" ธนภพได้ยินเสียงของกมลเนตรเดินเข้าไปในห้องนอน ก็พูดออกมาเบา ๆ พร้อมยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี "ยิ้มเหี้ยอะไรวะไอ้แทน" เขาถามตัวเองอย่างงง ๆ ก่อนจะใช้หมอนอิงที่กมลเนตรใช้ตีเขาเมื่อสักครู่นี้ปิดหน้าตัวเอง กมลเนตรเข้าไปในห้องนอนเพื่อเปลี่ยนเสื้อและค่อย ๆ ทิ้งน้ำหนักที่เท้าเบา เพื่อเดินมาเข้าห้องน้ำโดยไม่รู้ตัวเลยว่า มีสายตาของธนภพแอบมองอยู่ 'คิดว่าตัวเองเป็นนกกระยางเหรอ' คนแอบมองคิดในใจ เมื่อเธอเดินเข้าไปในห้องน้ำและล็อคประตู เขาก็เด้งตัวขึ้นจากโซฟาทันที ธนภพเดินสำรวจคอนโดของกมลเนตรเงียบ ๆ เขาสังเกตว่าเธอน่าจะใช้ชีวิตอยู่คนเดียวอย่างที่เธอบอกจริง ๆ ของใช้ต่าง ๆ ในห้อง ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ ของที่มีอยู่เต็มตู้เย็นดูแป๊บเดียวก็รู้ว่าเธอต้องชอบทำอาหาร ส่วนพวกของกระจุกกระจิกก็มีไม่มากมายเท่าไหร่ และกมลเนตรคงจะไม่ชอบสีฉูดฉาดเท่าไหร่นัก เพราะดูจากโทนสีของห้อง ของตกแต่งต่าง ๆ รวมถึงห้องนอนของเธอที่แม้แต่ผ้าห่มและผ้าปูที่นอนยังเป็นสีดำ แต่ก็มีหมอนกับหมอนข้างที่เป็นสีเทาอ่อนตัดกันอย่างลงตัว เขาแอบเปิดตู้เสื้อผ้าของเธออย่างสำรวจ "โห... ถ้าทางจะแต่งตัวจัด" เขาหยิบชุดเดรสสั้นแขนกุดสีแดงออกมาดู แถมด้านหลังมีส่วนที่เว้าโชว์หลังขาว ๆ ของเธออีกด้วย "ใส่ไปได้ไงวะเนี่ย" เขามองชุดของกมลเนตรอย่างงง ๆ และแขวนมันไว้ที่เดิม เขามองดูหัวเตียงของเธอที่มีกรอบรูปวางอยู่ รูปแรกเป็นรูปของเธอกับครอบครัวที่มีพ่อกับแม่และน้องชาย หรืออาจจะเป็นพี่ชาย ที่น่าจะอายุไล่เลี่ยกับเธอ อีกรูปเป็นรูปของเธอและกลุ่มเพื่อนสนิท โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเหมือนจะเป็นจุดที่รกที่สุดของห้อง เขามองดูลิปสติกที่ตกอยู่ในรถเขาก่อนหน้านี้ ที่วางแยกตัวจากกับลิปสติกแท่งอื่น ๆ อีกกว่ายี่สิบแท่ง เขาหยิบแต่ละแท่งขึ้นมาดู ก่อนจะวางมันไว้ที่เดิมและส่ายหัวอย่างไม่เข้าใจ "สีมันต่างกันตรงไหนวะ" ธนภพสำรวจห้องนอนของกมลเนตรจนพอใจ และเดินออกมาจากห้องนอนของเธอ "เฮ้ย! เข้าไปทำอะไร" กมลเนตรเดินออกมาจากห้องน้ำโดยมีชุดคลุมอาบน้ำคลุมตัวอย่างหลวม ๆ และมีผ้าเช็ดตัวคลุมผมที่เพิ่งผ่านการสระมา "ฉะ... ฉะ...ฉัน" ธนภพตะกุกตะกัก เขาคิดว่าเขากะเวลาไว้ดีแล้วนะ ทำไมยัยขี้เมาถึงอาบน้ำเร็วแบบนี้นะ "ฉันอะไร!" กมลเนตรชี้หน้าถามธนภพอย่างเอาเรื่อง พร้อมกับเชือกผูกที่เอวให้แน่นขึ้น "ฉัน... ฉันละเมอ" ธนภพบอกพร้อมทำท่างัวเงียเดินไปที่โซฟา "โกหก!" กมลเนตรเดินตามเขาไปเพื่อจับผิด "ไม่ได้โกหก ละเมอจริง ๆ คอนโดฉันมันก็ห้องประมาณนี้" เขาหาข้ออ้างมาสนับสนุนเหตุผลของตัวเอง "ไหน พูดใหม่สิ ทำไมถึงเดินออกมาจากห้องฉัน!" กมลเนตรจ้องตาธนภพไม่กระพริบ "ฉัน นอน ละ เมอ... ชัดมั้ย!" เขาตอบทีละคำอย่างชัดถ้อยชัดคำ "โกหก! ดวงตาของนายมันไม่นิ่งเลย ลุกลิก แบบนี้มันแปลว่าโกหก!" กมลเนตรจับผิดเขาได้ เพราะเธอเคยอ่านหนังสือวิธีจับคนโกหก แถมงานที่เธอทำต้องคอยอ่านบุคลิกและท่าทางของคนอื่นอยู่เสมอ ทำให้เธอไม่พลาดกับธนภพที่โกหกไม่เก่งแบบนี้ "เออ ยอมรับก็ได้" ธนภพปัดมือของกมลเนตรที่ชี้หน้าเขาให้ออกห่าง ก่อนจะดึงเธอลงมาบนโซฟา โดยมีตัวของเขารองรับไว้ "ทำบ้าอะไรของนายเนี่ย ปล่อยนะ" เธอดิ้นอยู่ใต้อ้อมแขนของธนภพ "ดิ้นสิ ดิ้นอีก ดิ้นให้น้องชายฉันมันตื่นเลย" เขาขู่ให้เธอไม่กล้าลองดี "กาก!" กมลเนตรหยุดดิ้นและบอกเขาอย่างเย้ยหยัน "อะไร เธอว่าใครกาก" เขาถามด้วยความงุนงง "ว่านายไง กาก! อ่อน! เป็นคนอื่นแค่เห็นฉันออกจากห้องสภาพนี้ เค้าก็ลุกชูชันกันแล้ว ไม่เห็นต้องให้ฉันเสียแรงปลุกเลย นายมันกาก!" เธอบอกเขาอย่างดูถูก จนคนที่อยู่ใต้ร่างของเธอหน้าแดงด้วยความโกรธ "มันจะดูถูกกันเกินไปแล้วนะ" เขาเลื่อนมือมาจับหน้าของเธอไว้ไม่ให้ขยับไปไหน "ก็ดูถูกไง นายมันกากจริง ๆ ขนาดนายยังยอมรับเองเลย" กมลเนตรทำหน้ากวนใส่เขาอีกครั้ง "เธอผ่านผู้ชายมาแล้วกี่คน" ธนภพยกตัวของกมลเนตรให้นั่งบนโซฟา และลุกขึ้นมานั่งข้าง ๆ เธอ "สิบ" "งั้นขอลองของหลวม ๆ หน่อยละกัน" เขาบอกพร้อมกับหันไปจูบกมลเนตร โดยที่เธอไม่ตั้งตัว เขาแทรกลิ้นเข้าไปในปากของกมลนเตร หญิงสาวอ้าปากให้เขาได้ดูดดื่มโพรงปากโดยดี แต่ไม่ยอมตอบสนองต่อลิ้นของเขาก็เท่านั้น "ทำไมไม่จูบตอบ" ธนภพมองหน้าเธออย่างเอาเรื่อง "ทำไมฉันต้องจูบ ฉันไม่ได้พิศวาสอะไรนายสักหน่อย" เธอเถียงลอยหน้าลอยตา "เหรอ! งั้นขอเล่นด้วยอีกหน่อยแล้วกัน" ไม่พูดพร่ำทำเพลง ธนภพก็บรรเลงเพลงจูบของเขาอีกครั้ง แม้อีกฝ่ายจะไม่ร่วมบรรเลงกับเขาด้วยก็ตาม เมื่อเห็นหญิงสาวยังคงอยู่นิ่งไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ใด ๆ ของจึงเลื่อนริมฝีปากมาลูบไล้ที่กกหูของเธอ ก่อนจะเลื่อนลงมาเรื่อย ๆ ที่ซอกคอ ธนภพใช้มือหนาของเขาทั้งสองข้าง ขยับชุดคลุมอาบน้ำที่คลุมไหล่ของกมลเนตรให้เปิดออก จนเผยให้เห็นเนิอกสีขาวผ่อง "หึ! นิ่งให้ได้ตลอดนะ" เขาทำเสียงเย้ยหยัน ก่อนจะจุมพิศและขบกัดไปทั่วทั้งคอระหงส์ไล่มาถึงเนินอก กมลเนตรยังคงนั่งนิ่งไม่เคลื่อนไหว ไม่มีอารมณ์ร่วมใด ๆ กับผู้รุกรานทั้งสิ้น "เดี๋ยวเธอต้องได้ร้องออกมาแน่" ธนภพพูดพร้อมกับดึงชุดคลุมอาบน้ำให้กองอยู่ที่เอวของเธอ หน้าอกขาวเต่งตึงทั้งสองเต้า เผยให้เขาเห็นเต็มสองตา หลังจากที่เขาเห็นมันจากด้านข้างเมื่ออยู่บนรถ "โอ้วววว" ไม่รอเช้าเขาก็มุดหน้าลงไปที่หน้าอกของกมลเนตรทันที "อู้ววว นุ่ม" ธนภพร้องออกมา สองเต้าที่แนบอยู่ที่แก้มของเขาทั้งสองข้างตอนนี้ มันช่างละมุนเหมือนแก้มเด็ก "อาห์ สีชมพูอ่อน... แถมยังชี้นิ้วเรียกอีกตั้งหาก" เขาบอกเมื่อพิจารณายอดปทุมถันทั้งสองเต้าของกมลเนตรที่กำลังตั้งเด่อย่างเชิญชวน เขาใช้นิ้วสะกิดยอดอกทั้งสองข้าง และส่งสายตายั่วยวนให้เธอ "ยังทนได้อีกเหรอยัยขี้เมา" เขาขยับนิ้วขึ้นลงเร็วขึ้น และจ้องมองใบหน้าของกมลเนตรที่สบตาเขาอย่างไม่ยอมแพ้ "เก่งเกินไปแล้วนะ" เขาเบือนหน้าหนีจากเธอ และใช้ลิ้นชื้นปาดผ่านยอดอกของเธอเบา ๆ "อ๊า" ในที่สุดกมลเนตรก็ครางออกมา "ดี! ร้องออกมาอีก" เขาใช้ลิ้นชิมรสจากยอดอกของเธอสลับข้างซ้ายและข้างขวาอย่างเมามัน "นาย! อาห์ พอแล้ว" กมลเนตรจับผมยุ่ง ๆ ของเขา เพื่อเตือนให้เขาหยุดทำแบบนี้กับเธอสักที "อะไรของเธอ ผ่านมาตั้งเยอะ แค่ฉันเลีย... เลีย... แล้วก็เลียแค่นี้ ทำไมทนไม่ได้ฮะ" เขาถามแต่ไม่ได้ต้องการคำตอบใด ๆ ก่อนจะก้มลงไปชิมมันอีกครั้ง ตอนนี้ร่างกายธนภพไม่สามารถควบคุมได้แล้ว เปลวไฟที่มันถูกจุดในกองฟางกำลังเผาไหม้ และยิ่งได้หน้าอกกลมกลึงเต่งตึงของกมลเนตรที่เปรียบเสมือนลมที่ช่วยพัดกองไฟด้วยแล้ว ไฟอย่างเขาไม่มีวันมอดดับง่าย ๆ แน่ "อาห์ นาย หยุด! อย่านะ หยุด!" เธอร้องห้ามและใช้มือเล็กปัดมือของเขาที่กำลังพยายามคลายปมเชือกที่ผูกชุดคลุมอาบน้ำเอาไว้ ถ้าเขาทำสำเร็จ ร่างกายของเธอต้องเปลือยเปล่าให้เขาได้เห็นแน่ ๆ "เธอนั่นแหละหยุด!" ธนภพบอกบอกพร้อมกับรวมมือทั้งสองของของกมลเนตรเข้าด้วยกัน และจับรวบมันไว้เหนือหัวเธอ ก่อนใช้มืออีกข้างคลายเชือกที่ผูกกันอยู่หลวม ๆ จนในที่สุดมันก็เป็นอิสระ "หึ ขอฉันลองของเก่า ๆ หน่อยนะ" เขาบอกพร้อมกับใช้มือข้างที่เหลืออยู่ดึงชุดคลุมอาบน้ำของเธอออก ร่างกายที่เปลือยเปล่าของกมลเนตร ถูกสำรวจด้วยสายตาหื่นกระหายของธนภพตั้งแต่หัวจรดเท้า ผมยาวหนาสีน้ำตาลอ่อนที่ดัดลอนธรรมชาติ ตอนนี้ปิดบังหน้าอกของเธอกลับถูกธนภพใช้ปากคาบมันให้ไปอยู่ด้านหลัง "อู้ววว" เขาเลื่อนมองต่ำลงมาที่หน้าท้องแบนราบและเอวคอดกิ่ว "เอวเล็ก... แต่เซ็กไม่เห็นจัดแฮะ" เขากัดปากตัวเองให้อดทนรอเวลา ตอนนี้เขาต้องสำรวจทุกสัดส่วนให้เต็มตาเสียก่อน "ปล่อยฉัน! ไอ้ทุเรศ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ" กมลเนตรใช้แรงที่มีอยู่ดิ้นอย่างสุดพลัง ร่างเปลือยเปล่าของเธอนอนราบอยู่บนโซฟา โดยมีร่างของธนภพคร่อมอยู่ "ปล่อยก็โง่แล้ว" เขาบอกพร้อมกับมองต่ำลงไปที่จุดซ่อนเร้นแสนเย้ายวนของกมลเนตร และใช้นิ้วแทรกลงไปที่กลีบดอกไม้ และเขี่ยนิ้วสะกิดกับเกสรของมัน... "อ๊า! นาย หยุดนะ อย่ามายุ่งกับฉัน" กมลเนตรก้มหน้ามองมือของธนภพ เธอต้องแย่แน่ ๆ "หยุดเหรอ แน่ใจเหรอว่าอยากให้ฉันหยุด ร้องออกมาอีก" เขาก่อกวนกับอารมณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ของกมลเนตร แม้ปากของเธอจะห้ามปรามมันมากแค่ไหนก็ตาม "อืม อื้มม อื๊อออ" กมลเนตรเม้มปากเพื่อไม่ให้เสียงของความเสียวซ่านดังออกมาให้เขาได้ยิน แต่มันก็ไม่สามารถช่วยได้เลย "ฉันว่าเธอพร้อมแล้วนะ" ธนภพบอกพร้อมกับถอดเสื้อและกางเกงของตัวเองออกจนร่างของเขาไร้อาภรณ์ปกคลุมไม่ต่างกับกมลเนตร "ไม่! ฉันไม่พร้อม อย่านะ นาย ปล่อยฉันนะ" เธอบอกอีกครั้ง เมื่อเห็นเขาใช้มือใหญ่ของตัวเองลูบแก่นกายที่อยู่หว่างขา เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมก่อนจะออกศึก "อึ้งเหรอ ของฉันใหญ่กว่าสิบคนที่เธอเคยผ่านมาเหรอ" ธนภพบอกพร้อมกับจับขาทั้งสองข้างของกมลเนตรดันขึ้น และแยกมันออกจากกัน "นาย ฉันขอร้อง อย่าทำนะ ฉันไม่พร้อม" กมลเนตรบอกด้วยความกลัว "เยิ้มติดมือฉันขนาดนี้ ยังจะบอกว่าไม่พร้อมอีกเหรอฮะ" เขาไม่ฟังเสียงเรียกร้องใด ๆ ของกมลเนตร และดันปืนใหญ่ของเขาใส่ข้าศึกอย่างกมลเนตรทันที "อ๊ายยยยยยย!" เธอร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด "โอ๊ะ... อู้ววววววว" ธนภพตกใจเมื่อปืนใหญ่ของมีปราการของกมลเนตรขวางกั้นไว้ "อ๊า ออกไป ออกไปนะ" เธอใช้สองมือตีอกแกร่งของธนภพ "นิ่ง ๆ ได้มั้ย สิบคนบ้าบออะไร ทำไมมันเล็กแบบนี้ฮะ" เขาพยายามออกแรงกระแทกมากกว่าเดิม เขาไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน ผู้หญิงที่เขาเคยผ่านมาล้วนแต่มีประสบกาณ์ทั้งนั้น กมลเนตรโกหกเขาแน่ ๆ ถ้ายังไม่ผ่านการใช้งานมาเลย ก็คงจะไม่ได้ใช้งานมานานแล้ว ปึก ปึก ปึก "ฉันเจ็บ นาย ฉันเจ็บนะ" กมลเนตรเจ็บปวดเหลือเกิน หน้าของเธอแสดงออกอย่างชัดเจน รวมถึงสองมือที่บีบหลังของเขาเพื่อระบายความเจ็บปวดนั้นด้วย "อาห์ อยู่เฉย ๆ !" ธนภพบอกพร้อมกับออกกระแทกให้แรงขึ้น เมื่อเขาสัมผัสได้ว่า ประตูที่เป็นทางผ่านไปช่องทางรักของกมลเนตรค่อย ๆ เปิดกว้างให้เขา "อาห์" กมลเนตรเริ่มรู้สึกหายเจ็บ แต่กลับมีความรู้สึกแปลก ๆ เข้ามาแทนที่ "เริ่มเสียวแล้วล่ะสิ... ได้แล้ว โอ้ววววว" ธนภพร้องครางออกมาเมื่อปืนใหญ่ของเขาทำสำเร็จ เขาขยับมันเขาออกอย่างช้า ๆ เพื่อให้กมลเนตรได้ผ่อนคลาย "อ๊ะ... อาห์... อืมมม" มันเป็นแบบที่ธนภพพูดจริง ๆ ด้วย ตอนนี้เธอรู้สึกถึงความหน่วงในช่องท้อง ขาทั้งสองของเริ่มชา และมีความรู้สึกเกร็งในส่วนที่ทำให้ร่างกายของเธอและธนภพรวมกันเป็นหนึ่งเดียว "อู้ววว... แน่นมาก มันรัดจนฉันจะตายอยู่แล้ว... อ๊า... อ๊า" ธนภพเสียวซ่าน "เธอรู้สึกยังไงฮะยัยขี้เมา" เขาถามพร้อมกับก้มลงไปโลมเลียยอดอกของกมลเนตร "อ๊ะ..." ตอนนี้เธอไม่สามารถให้คำตอบอะไรเขาได้ทั้งสิ้น "เสียวสินะ... ฉันก็เสียว... อืมมม... เสียวมากด้วย ของเธอนี่มันสุดยอดจริง ๆ " เขาบอกพร้อมกับขยับส่วนล่างให้เร็วขึ้น "อื๊อออ..." กมลเนตรรู้สึกว่าชาไปทั้งตัว ไม่ใช่แค่ขาเท่านั้น "นาย! ฉัน... ฉันชาไปทั้งตัวแล้ว" เธอทุบอกแกร่งบอกเขา "อืมมมม ฉันรู้... ฉันจะทำให้เธอหายชาเอง" เขาขยับแก่นกายเป็นจังหวะสม่ำเสมอ "เธอเริ่มตอดมังกรฉันแล้วนะ จะเสร็จแล้วใช่มั้ย" เขาถามกมลเนตรเพื่อทดสอบว่าเธอห่างหายจากเรื่องแบบนี้มานาน หรือว่าเธอไม่เคยรู้สึกแบบมาก่อน "ฉัน... อาห์... ฉันไม่รู้" เธอไม่รู้จริง ๆ ว่าความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไรกัน "แต่ฉันรู้..." ธนภพออกแรงให้แรงและเร็วยิ่งขึ้น "พร้อมกันนะ... ยัยขี้เมา" เขาบอกและโน้มตัวมาจูบกมลเนตรอย่างเร่าร้อน ธนภพและกมลเนตรร้องครางออกมาด้วยพลังแห่งไฟราคะ เขาทิ้งตัวลงทาบทับกมลเนตรที่นอนหายใจหอบอยู่ด้านล่างตัวเขา ลมหายใจร้อน ๆ ของกมลเนตรที่รดต้นคอของเขา ทำให้เขารับรู้ถึงความเหน็ดเหนื่อยของเธอ นี่ต้องเป็นครั้งแรกของเธอแน่ ๆ เขามั่นใจ! "นี่เหรอสิบคนของเธอ... รู้มั้ยว่ามันทำให้ฉันเสียวแค่ไหน มันแทบจะไม่อ้าออกจากกันด้วยซ้ำ" ธนภพกระซิบที่ข้างหูกมลเนตร "ทุเรศ สุดท้ายนายก็ทำเรื่องทุเรศ ๆ กับฉัน" เธอต่อว่าเขาด้วยสีหน้านิ่งเฉย "ใช่ คนกาก ๆ อย่างฉันมันทุเรศ" เขาบอกก่อนจะลุกออกจากตัวของกมลเนตร และหยิบชุดคลุมอาบน้ำที่กองอยู่ที่ปลายเท้ามาคลุมร่างของเธอเอาไว้ "ถือว่าฉันตอบแทนเรื่องแย่ ๆ ที่ทำกับนายเมื่อคืนแล้วกันนะ ฉันกับนายไม่มีอะไรติดค้างกันแล้ว ไม่มีเวรมีกรรมอะไรต่อกันทั้งนั้น" กมลเนตรบอกพร้อมกับลุกเดินให้พ้นจากเขา แต่เมื่อเธอก้าวขาเพียงเล็กน้อย... เธอก็รู้สึกเจ็บที่ส่วนนั้นขึ้นมาทันที "โอ๊ย!" เธองอตัวเพื่อระบายความเจ็บ ธนภพเห็นความเจ็บปวดของกมลเนตรก็รู้สึกผิดในใจขึ้นมา เขาเข้าไปพยุงตัวของเธอและบังคับให้เธอนั่งลงบนโซฟา "อย่าขยับ นั่งนิ่ง ๆ เข้าใจมั้ย" ธนภพบอกอย่างออกคำสั่งและเดินตรงไปยังห้องน้ำ เขาเข้าไปเตรียมน้ำอุ่นในอ่างอาบน้ำ จนรู้สึกว่าได้อุณหภูมิที่เหมาะสมแล้ว และจะเดินกลับมาอุ้มร่างของกมลเนตรที่รออยู่ที่โซฟา แต่เมื่อเดินออกมาที่ห้องนั่งเล่น กลับไม่พบเธอแล้ว เขามองหาเธออย่างร้อนรน ก่อนจะพบว่าเธอนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งภายในห้องนอน "ฉันบอกว่าห้ามลุกไปไหน ให้นั่งนิ่ง ๆ ไม่เข้าใจหรือไง" เขาเลื่อนประตูกระจกแล้วตะคอกใส่ร่างบางที่นั่งหันหลังให้เขา "เข้าใจ แต่ฉันไม่จำเป็นต้องเชื่อคนอย่างนาย" เธอบอกเขาโดยที่ไม่หันกลับมามอง "คนอย่างฉันมันเป็นยังไงฮะ!" ธนภพตรงดิ่งเข้าไปอุ้มร่างอรชนที่นั่งอยู่อย่างโมโห "ปล่อยนะ ไอ้ทุเรศ!" กมลเนตรดิ้นอยู่ในอ้อมแขนของเขา "ปล่อยแน่แหละ ตัวหนักเหมือนช้าง ใครจะไปอุ้มไหวฮะ" ธนภพสวนกลับ พร้อมกับเดินตรงไปยังอ่างอาบน้ำและปล่อยเธอลงในนั้น "โอ๊ย ทำบ้าอะไรฮะ ฉันเปียกหมดแล้วนะ" ฝ่ายที่ตัวเปียกปอนโวยวายเสียงดัง "เจ็บไม่ใช่เหรอ แช่น้ำอุ่นไป จะอยู่คนเดียวเงียบ ๆ หรือจะให้ฉันลงไปอยู่ข้าง ๆ ด้วย" เขาบอกอย่างอารมณ์เสียก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำไปทันที ขืนอยู่นานกว่านี้เขาต้องทนไม่ได้กับอะไรต่อมิอะไรที่ทะลุออกมาจากชุดคลุมเปียก ๆ แน่ ธนภพเดินออกมานั่งที่โซฟาด้วยความรู้สึกผิดอยู่เต็มหัวใจ เขาไม่เคยบังคับฝืนใจผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน เพราะผู้ชายแบบเขามีแต่สาว ๆ รายล้อม และเต็มใจที่จะมอบความสุขแบบนี้ให้เขาทั้งนั้น ภาพใบหน้าของกมลเนตรที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด และเสียงขอร้องที่ออกจากปากของเธอทำให้เขาหงุดหงิดกับการกระทำของตัวเองเหลือเกิน "จะง้อยังไงดีวะ แค่ขอโทษคงไม่จบง่าย ๆ แน่" เขาคิดถึงผู้หญิงที่อยู่ในห้องน้ำ เดาไม่ยากเลยว่าแสบ ๆ อย่างเธอ แค่คำขอโทษคงไม่พอ ก๊อก ก๊อก ก๊อก "นี่เธอ จะนอนหลับคาห้องน้ำหรือไงฮะ" เขาเคาะประตูเรียกกมลเนตร เมื่อเห็นว่าเป็นเวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงแล้ว แต่เธอก็ยังไม่ออกมาสักที ก๊อก ก๊อก ก๊อก เขาเคาะประตูอยู่หลายครั้งก็ไม่มีเสียงตอบรับจากเธอ ถ้าจะเงียบขนาดนี้ ให้เธอตะโกนด่า เขายังจะสบายใจกว่า "นายจะกลับได้หรือยัง ฉันอยากพักผ่อน" กมลเนตรเปิดประตูออกมาจากห้องน้ำ ด้วยใบหน้าซีดเซียวและพูดด้วยเสียงที่เบาเหลือเกิน เธอไม่ได้นอนมาหลายชั่วโมง แถมยังมีอาการเมาค้างจากเมื่อคืน ไหนจะเรื่องแย่ ๆ ที่ต้องรับมือเมื่อสักครู่อีก เธอเหนื่อยจนไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงกับเขาแล้ว "กุญแจรถนายอยู่ที่ฟร้อนท์ข้างล่างนั่นแหละ บอกเลขห้องฉันไป" เธอรู้สึกดีขึ้นจากอาการเจ็บ หลังจากได้แช่น้ำอุ่น ๆ แต่ตอนนี้เธอรู้สึกเพลียจนแทบจะลืมตาไม่ขึ้น "ออกไปสิ ฉันจะนอน" เธอหันไปบอกเขาอีกครั้ง เพื่อเป็นการไล่ เพราะเห็นว่าเขายังยืนนิ่งไม่ขยับไปไหน ธนภพมองหน้าใบหน้าของกมลเนตรที่เขาไม่สามารถเดาความรู้สึกของเธอได้ เธอคิดจะให้อภัยเขาบ้างไหม หากเขาเอ่ยคำขอโทษ "จะต้องให้ฉันต้องยกมือไหว้ขอร้องนายมั้ย นายถึงจะกลับ" กมลเนตรสบตากับเขาอย่างไร้เยื่อใย ธนภพตัดสินใจทำตามคำขอของเธอ เขาเดินไปหยิบกระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์มือถือที่ห้องนั่งเล่น ก่อนจะเดินออกจากห้องของกมลเนตรไปอย่างเงียบ ๆ . ธนภพขับรถออกจากคอนโดของกมลเนตรด้วยหัวใจที่ว้าวุ่น เขารู้สึกไม่สบายใจเลยสัก ขอโทษเธอสักคำเขาก็ยังไม่ได้พูด แถมหน้าตาไม่มีเรี่ยวแรงของเธอก็ทำให้เขาเป็นห่วงขึ้นมาจับใจ เขาเบี่ยงรถเลี้ยวเข้าปั๊มที่อยู่ด้านหน้าและต่อสายถึงอัญญา ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของกมลเนตรและเป็นเพื่อนร่วมงานของเขาด้วย รวมทั้งยังเป็นเจ้าของงานแต่งงานเมื่อคืน ที่ทำให้เขาได้เจอกับเธอนั่นเอง เขาและอัญญารู้จักกันมาเป็นเวลากว่าสองปีแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่เขาจะมีเบอร์สำหรับติดต่อเธอ "ออม เราโทรมากวนหรือเปล่า" ธนภพถามปลายสาย "ไม่กวน ๆ มีอะไรเหรอแทน เพื่อนเราทำอะไรให้นายหนักใจหรือเปล่า" อัญญาถามเมื่อคิดถึงความเมาไม่ได้สติของกมลเนตรเมื่อคืน "เอ่อ... เปล่าหรอก เพื่อนออมลืมของไว้บนรถเรา มีเบอร์ติดต่อหรือเปล่า เราจะเอาของไปคืนให้" ธนภพพูดข้ออ้างที่เขาคิดไว้ก่อนหน้านี้ "อืม... เอามาให้เราที่ออฟฟิศก็ได้ เดี๋ยวเราเอาไปคืนกุ๊บกิ๊บให้" อัญญาปฏิเสธที่จะให้เบอร์โทรศัพท์ของเพื่อนสนิท เพราะกลัวว่าจะเป็นการเสียมารยาทกับเพื่อน "อ่อ... ได้ ขอบคุณนะ" เขาตัดสายทันที ที่หนทางการติดต่อกับกมลเนตรพังลงไม่เป็นท่า "โธ่เว้ย! รู้สึกอะไรวะไอ้แทน" เขาทุบพวงมาลัยรถอย่างอารมณ์เสีย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD