สุดท้ายไอ้ห่าเกรย์ก็ไม่สนใจคำขอของผมแล้วผมแม่งก็ต้องมานั่งแดกข้าวกับมันแล้วก็เมียของมัน
มองหน้ายัยน้ำขิงแล้วรำคาญตาว่ะ หน้าไม่ได้แต่ง แต่งตัวมาเหมือนไม่เต็มใจด้วยซ้ำสภาพโคตรเป็นอาซิ่มแต่เสือกทำให้ผมเห็นภาพในฝันซ้อนขึ้นมาอยู่บ่อย ๆ ได้ยังไงก็ไม่รู้
“อื้อ~ / อ่าส์~”
พั่บ!
“ไทน์~ มันเจ็บ อ๊ะ!”
“เดี๋ยวก็หาย อ่าส์~ ครางดัง ๆ”
พั่บ!
พั่บ พั่บ พั่บ!
“อ๊ะ! มันเจ็บไทน์”
“เดี๋ยวก็หาย อ่าส์~ เอาแรง ๆ เดี๋ยวก็ชิน”
พั่บ พั่บ พั่บ!
“อื้อ~ ไทน์มันเจ็บ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ!”
“อ่าส์~ เจ็บหรือเสียววะขิงครางดังฉิบหาย”
“อื้อ~ ไอ้บ้าไทน์~ อ๊ะ! อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ!”
คำพูดที่เกิดขึ้นในความฝันยังดังวนอยู่ในหัวผมไม่หาย นั่งกินข้าวฟังไอ้เกรย์ถามห่าอะไรยัยนี่ก็ไม่รู้แต่พอยัยนี่ตอบถึงจะแค่เบา ๆ ก็ยังเสือกกลายเป็นเสียงครางดังในโสตประสาทของไอ้ไทน์คนนี้แทนซะงั้น
แม่งเอ้ย! ของจริงเป็นแบบในฝันไหมวะเพราะถ้าเป็นแบบในฝันผมว่าไอ้เกรย์เพื่อนรักของผมโคตรน่าอิจฉาเลยว่ะ
“...”
“เป็นเหี้ยอะไรของมึงได้ไทน์”
“...ฮะ?” ผมมองไอ้เกรย์แล้วเปล่งคำนี้ออกไปสั้น ๆ ด้วยความงงว่ามันถามผมทำไม
“มึงเป็นเหี้ยอะไรของมึง”
“อ่อ...” เป็นเหี้ยอะไร? จะเป็นเหี้ยอะไรล่ะนอกจากเป็นคนที่กำลังนึกถึงความฝันที่ได้เอากับเมียมึงไงไอ้เพื่อนรัก
“ว่าไง? อ่อแล้วเงียบทำห่าอะไรกูจะรู้ด้วยไหม”
“เปล่า ไม่มีไร” ผมขี้เกียจหาคำโกหกสู้ไม่บอกเลยดีกว่าง่ายดี
“...”
“ไม่มีอะไรไงวะ” มันเอาแต่จ้องไม่เลิกผมเลยย้ำไปอีกครั้ง
“อืม ถ้างั้นก็แดกเลิกจ้องกูสองคนสักที จ้องอยู่ได้ไอ้ห่า”
“ฮึ ๆ ๆ กูไม่คิดว่ามึงสองคนจะคบกันนี่หว่า” ผมตอบมันแล้วมองไปที่น้ำขิง พอมองยัยนี่ก็หลบสายตาผมทันที
ฮึ! ตลกว่ะ นึกถึงตอนที่น้ำขิงมาสารภาพรักกับผมแต่พอผมไม่รับรักก็หันไปคบกับไอ้เกรย์เพื่อนรักของผมแทนแม่งโคตรตลกเลย ตลกแต่ขำไม่ออกเพราะไม่รู้ว่ายัยนี่คิดอะไรอยู่กันแน่
ตื๊ด ตื๊ด~
“แม่กูโทรมาว่ะ เธอกินกับมันไปก่อนนะ” เวลาผ่านไปไม่ถึงสิบนาทีเสียงโทรศัพท์ไอ้เกรย์ก็ดังขึ้น ไอ้เกรย์บอกผมว่าแม่มันโทรมาแล้วก็หันไปบอกเมียมันว่าให้กินกับผมไปก่อนแล้วมันก็ลุกจากโต๊ะอาหารเดินไปคุยโทรศัพท์ด้านนอกระเบียงทันที
ฮึ ๆ ๆ แม่หรือเด็กที่ไหนกันแน่ไอ้ห่า แต่เรื่องนั้นไม่น่าสนใจเท่าคำที่มันพูดหรอก
“เธอกินกับมันไปก่อนนะ”
...กินได้เหรอวะ?
ถ้ากินได้กูจะกินให้หนัก ๆ เอาให้สมกับที่ตามมาหลอนกูเกือบยี่สิบสี่ชั่วโมงเพราะความฝันเลย
“ไง ไอ้เกรย์ดูแลดีไหม” บรรยากาศในโต๊ะอึมครึมยัยนี่ก็ทำหน้าเหมือนอึดอัดและกำลังจะขาดใจตายผมเลยอาสาอ้าปากพูดทำลายบรรยากาศแต่เหมือนการอ้าปากพูดของผมจะทำให้เมียหมาด ๆ ของเพื่อนรักจะอึดอัดมากกว่าเดิมซะแล้วสิ
“...อื้ม ดี”
“แบบไหนวะ ไม่เคยเห็นไอ้เกรย์คบใครจริงจังเดาไม่ออก”
“ก็ดีไง ดูแลเทคแคร์เหมือนคนอื่นที่มีแฟนนั่นแหละ” น้ำขิงตอบผมแต่เธอไม่สบตาผมเลยสักนิด
“เหรอ? เธอแม่งโชคดีว่ะ มันรักเธอน่าดูไม่งั้นคงไม่คบหรอกเธอว่าจริงไหม”
“...อื้ม”
“ฉันไม่เคยเห็นมันจริงใจกับใครนอกจากเธอคนแรกเลยนะน้ำขิง”
“อื้ม...ฉันรู้” ตอบได้โคตรไม่เต็มใจตอบ ดูไม่ภูมิใจหรือดีใจที่จะพูดถึงเรื่องพวกนี้เลยสักนิด แต่ก็ไม่แปลกที่จะไม่เต็มใจเพราะความจริงผมก็สังเกตเห็นอยู่ว่ายัยนี่ดูไม่ค่อยอินกับไอ้เกรย์สักเท่าไหร่ และอาการของยัยนี่ที่แสดงออกมานี่ล่ะที่ทำให้จากคนที่ไม่สนว่าพวกมันสองคนจะคบกันได้ยังไงหรือไปเอากันครั้งแรกเมื่อไหร่อย่างผมกลับกลายเป็นสนใจขึ้นมา
“ไม่คิดว่าเธอกับมันจะคบกัน”
“...อื้อ” พูดแค่นี้ยัยนี่ก็ทำหน้าอึดอัดซ้ำซ้อนกว่าเดิมอีก เห็นแล้วทำผมหมั่นไส้
“เหมือนที่ไม่คิดว่าเธอจะมาสารภาพรักกับฉันเลยว่ะน้ำขิง” เพราะความหมั่นไส้ล้วน ๆ ทำให้ผมพูดประโยคนี้ออกไป ที่สำคัญท่าทางยัยนี่จะไม่ค่อยชอบในสิ่งที่ผมพูดซะด้วยสิถึงได้จ้องผมเขม็ง
“...”
“ทำไมจ้องหน้าขนาดนี้ ไม่พอใจเหรอวะ?” ผมไม่ได้โกรธที่ยัยนี่มาคบกับเพื่อนผม ไม่ได้เสียหน้าไม่ได้เป็นหมาหวงก้างหรอกนะครับ ผมไม่ได้เสียดายแต่ที่ผมเป้นอยู่ตอนนี้แค่หมั่นไส้ท่าทางอึดอัดใจของยัยนี่ต่างหาก แถมไม่ใช่ว่าเพิ่งอึดอัดตอนไอ้เกรย์ไปคุยโทรศัพท์แต่ยัยนี่แสดงอาการอึดอัดตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาในห้องนี้ด้วยซ้ำ อึดอัดทำห่าอะไรในเมื่อตัวเองมีผัวแล้ว ที่สำคัญแค่มาแดกข้าวกับผัวและเพื่อนผัวไม่เห็นมีอะไรให้ต้องอึดอัด ความจริงควรมีความสุขด้วยซ้ำเพราะใหม่ ๆ ผัวเมียที่ไหนมันก็ต้องอยากอยู่ใกล้กันทั้งนั้นนอกจากยัยนี่...จะไม่จริงใจกับเพื่อนรักของผม
“ควรพูดเรื่องนี้เหรอ?” ฮึ ๆ ๆ เอาเรื่องว่ะ
“ก็ไม่” ผมตอบพร้อมกับยักไหล่ใส่
“แล้วพูดทำไม?” น้ำขิงจ้องผมเขม็งท่าทางเอาเรื่องไม่ได้ดูอึดอัดแล้วก็คอยพยายามหลีกเลี่ยงการสบตากับผมอย่างที่ผ่านมา เห็นยัยนี่จ้องเอาเรื่องผมก็จ้องกลับไปเหมือนกัน
“แล้วมึงคบกับเพื่อนกูทำไม?”
“...”
“ว่าไง มึงคบเพื่อนกูทำไมวะขิง มึงต้องการอะไร ประชดกูเหรอที่กูไม่รับรักมึงถึงได้ไปเอากับเพื่อนกูแทน?”