ตอนที่ 1

3811 Words
ที่รัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา วันนี้ที่ชั้นดาดฟ้าของตึกสูงสามสิบชั้นจัดงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของลุคส์ ฮันเตอร์ หนุ่มฝรั่งรูปหล่อลูกชายเจ้าของสายการบินยักษ์ใหญ่ของอเมริกาและทุกคนรู้จักเขาในชื่อ ลุคส์ คาร์โล ซึ่งเป็นชื่อกลางของคุณทวดที่เขาใช้ในการเรียนเพื่อป้องกันตัวเองจากอัตรายรอบด้านจากผู้ไม่หวังดีเพราะเขาเป็นทายาทของนักธุรกิจชื่อดังกลัวจะถูกจับตัวไปเรียกค่าไถ่แต่เพื่อนๆที่มหาลัยก็ไม่มีใครสนใจจะสืบเสาะประวัติของเขาแค่รู้ว่าเขามีเงินเท่านั้น “ไฮไท” สาวฝรั่งสุดสวยและเซ็กซี่เพื่อนสาวของธามไทหนุ่มหล่อคมเข้มชาวไทยที่ดึงดูดสาวฝรั่งให้หลงใหล “ไฮเลนนี่ นั่งสิดื่มอะไรดี” ธามไทพูดกับสาวสวยและขยับให้เธอนั่งข้างเขา “กินยูได้มั้ยไท” เลนนี่กระซิบข้างหูหนุ่มหล่องานดีที่เธอชอบลีลาเซ็กส์ของเขาจึงควงนานกว่าใครปกติเธอก็จะเลือคบแต่คนมีเงิน “ยูได้กินแน่เลนนี่ แต่ตอนนี้ดื่มก่อนมั้ย” ธามไทยิ้มให้สาวฝรั่งแล้วงวางมือบนสะโพกขยำเบาๆ “ใจคอจะคุยกันสองคนหรือไงวะไอ้ไท” อนันดาแซวเพื่อนที่กระซิบกระซาบกับเพื่อนสาวฝรั่งร่วมมหาลัย “มึงก็คุยสิวะ แล้วนี่เด็กมึงยังไม่มาอีกเหรอไอ้นัน” ธามไทถามเพื่อนเขายังไม่เห็นเพื่อนสาวของอนันดาเลยแต่เพื่อนหนุ่มสาวในคลาสเรียนของพวกเขามากันกว่ายี่สิบคนทั้งหนุ่มสาวหลากเชื้อชาติ “กูเลิกแล้วว่ะ กะจะมาหาเอาในงานเลี้ยงของไอ้ลุคส์นี่แหละ”อนันดาตอบเพื่อนพวกเขาอายุแค่ยี่สิบก็ต้องมีบ้างแต่ไม่ได้มั่วและระมัดระวังตัวอย่างดียิ่งสาวฝรั่งเขาเปิดกว้างในเรื่องเพศสัมพันธ์หรือเรียกว่าฟรีเซ็กส์ก็ต้องระวังตัวมากขึ้นหลายเท่า “งั้นตามสบายเถอะเพื่อน” ธามไทก็คบเป็นคนๆและเขาคุยกับเลนนี่แล้วว่าถ้าควงกับเขาห้ามไปยุ่งกับคนอื่น หากเบื่อหรือเจอคนใหม่ถูกใจกว่าก็ให้บอกเพราะเขาก็ไม่ได้คิดจริงจังและระวังตัวเองเพราะไม่อยากผูกพันกับใครไปมากกว่าคู่นอน “ใครจะเหมือนมึงล่ะ กล้วยก็ใหญ่เอวก็ไวเอาได้ทุกที่ที่เธอต้องการ..” อนันดาแซวเพื่อนเป็นภาษาไทยแล้วยิ้ม “ก็ผู้หญิงเขาเสนอถ้าไม่สนองแม่คุณจะหาว่าเราโง่อีก หรือแกไม่เอาวะ” “แน่นอน กูพร้อมจะขย่มพวกหล่อนอยู่แล้วเรื่องอะไรจะเป็นควายวะ” อนันดาหนุ่มลูกครึ่งไทยอเมริกาพูดภาษาไทยชัดถ้อยชัดคำ “คุยอะไรกันอยู่วะ” ลุคส์ถือแก้ววิสกี้เดินมาหาเพื่อนทั้งสองที่รู้จักกันเมื่อเข้าเรียนมหาวิทยาลัยปีแรกเพราะเขาไม่ได้แสดงตัวตนเป็นลูกชายมหาเศรษฐีเขาใช้ชีวิตเหมือนหนุ่มอเมริกันทั่วไปในมหาลัยและถูกใจหนุ่มไทยกับหนุ่มลูกครึ่งไทยอเมริกันจึงคบกันมาจนถึงตอนนี้ก็สองปีแล้ว “ก็คุยเรื่องกล้วยๆนั่นแหละ ไหนล่ะสาวสวยสุดเอ็กซ์ที่มึงบอกกูยังไม่เห็นสักคน” อนันดาตอบเพื่อนและถามหาสาวสวยที่ลุคส์บอก “ใจเย็นๆสิเพื่อนหรือว่ากล้วยมึงสุกงอมแล้ววะ หึหึๆๆ” ลุคส์พูดล้อเพื่อนอย่างขำๆ “ก็ใกล้จะสุกแล้วน่ะสิ มึงก็ดูไอ้ไทสิ” “เฮ้ อนันดายูพูดอะไรน่ะไอฟังไม่รู้เรื่องเลย” เลนนี่นั่งเงียบอยู่นานไม่เข้าใจภาษาที่สามหนุ่มคุยกันจึงถามอนันดา “ไอบอกว่ายูสวย แล้วไอ้ไทมันบอกว่าคืนนี้ไม่ให้ไอไปนอนที่หอพักด้วยน่ะสิ” อนันดาตอบเลนนี่อีกอย่างแต่หญิงสาวพอใจซึ่งปกติอนันดามักจะแวะไปนอนที่ห้องของธามไทบ่อยๆหากเพื่อนอยู่ธามไทไม่ให้เธอไปที่ห้องพัก “จริงเหรอคะไท งั้นคืนนี้” เลนนี่พูดทิ้งท้ายแล้ววางมือบนต้นขาแกร่งบีบเบาอย่างรู้กัน “ดื่มดีกว่าว่ะ” อนันดาค้อนเพื่อนอย่างหมั่นไส้ที่มีคู่แต่เขากำลังมองหาสาวสวยที่เพื่อนบอก ทุกคนดื่มกินกันอย่างสนุกสนานมีดีเจมาเปิดเพลงให้แดนซ์กันกระจายจนกระทั่งเที่ยงคืนทุกคนก็เมามายและแยกย้ายกันกลับบ้านแต่ธามไทกลับบ้านแทบไม่ไหวเลนนี่จึงพาเขาไปพักโรงแรมใกล้ๆเพราะเลนนี่เองก็เมาแต่ทั้งสองยังมีสติจึงเลือกโรงแรมระดับกลางที่เคยมาพักด้วกันสองสามครั้ง “ไทคะไหวมั้ยคะ” เลนนี่ถามหนุ่มคู่ควงเบาๆเธอก็มึนเหมือนกันแต่ยังไหว “หวายสิเลนนี่ ยูจะเอากี่ยกบอกมาคืนนี้ไอคึกมากอยากบริหารเอวแล้วมามะมาให้ไอเอาเสียดีๆคนสวย” หนุ่มหล่อพูดเสียงยานคางเขาเมาจริงแต่ยังมีสติควบคุมตัวเองได้ “ขนาดเดินยังจะไม่ไหวแล้วจะเอาเลนนี่ไหวเหรอเนี่ย” เลนนี่มองพ่อหนุ่มไทยหนุ่มนักรักรูปหล่อเซอร์ๆขนาดเมาเขาก็ยังหล่อและลีลายังเด็ดเร้าใจอีกด้วย ธามไทกอดรัดฟัดเหวี่ยงเลนนี่ลงบนเตียงแล้วแลกจูบกันอย่างดูดดื่มดึงทึ้งเสื้อผ้าออกจากร่างกายของกันและกันไม่รู้ว่ามือใครเป็นมือใครจนเปลือยเปล่าแล้วสาวฝรั่งก็ผลักร่างสูงหงายหลังลงไปก่อนจะตวัดขาคร่อมกลางลำตัวของธามไทหันหลังให้เขาแล้วก้มลงจัดการลูกรักของเขาอย่างเมามันส์ “อ่าส์ เลนนี่ดูดแรงที่รัก หื้มม..” ชายหนุ่มพูดเสียงกระเส่ายกมือขึ้นลูบแผ้นหลังขาวโพลนของเลนนี่ไปมาด้วยความเสียวซ่านเมื่อริมฝีปากกว้างอมดูดลูกรักตัวใหญ่ยาวของเขาเต็มปากเต็มคำอย่างช่ำชองโชกโชน “กล้วยของยูทั้งใหญ่ทั้งยาวแบบนี้ไอถึงชอบเอาไง แพร่บๆๆ...” เลนนี่รูดลูกรักตัวอวบใหญ่ของชายหนุ่มรัวเร็วๆสลับดูดดื่มอย่างแรงจนแก้มตอบจนร่างใหญ่นอนใต้ร่างเด้งสะโพกสอบขึ้นใส่ปากเธอด้วยความเสียวซ่านจนกลั้นไม่ไหว “โอ้เลนนี่ไอไม่ไหวแล้ว อ่าส์ โอ้ววววส์..” เสียงห้าวร้องคำรามออกมาเสียงดังลั่นเมื่อได้ปลดปล่อยความต้องการออกมาใส่เต็มปากของเลนนี่ “อึ้กกๆ..แพร่บๆๆ” เลนนี่ถอนปากออกแล้วดูดดื่มลูกรักของชายหนุ่มอย่างแรงติดกันอีกครั้งทิ้งท้ายจนหนุ่มไทยเสียวสะท้านไปทั้งตัว “ยูสุดยอดมาเลนนี่ อ่าส์ หื้มม..” ชายหนุ่มครางกระเส่าหายใจแรงมองเลนนี่ยกสะโพกขึ้นแล้วจับแก่นกายอวบใหญ่ของเขาจ่อกลางร่องสวาทก่อนจะลดสะโพกลงไปช้าๆ “อ้ะ อ้า ไทช่วยไอหน่อย อู้วว์ อ้า..” เลนนี่ร้องให้ชายหนุ่มช่วยหนุ่มไทใจถึงก็กระทุ้งแกนกายอวบใหญ่ขึ้นใส่อย่างแรงติดกันแล้วจับเอวคอดกดลงใส่ปะทะกันอย่างจัง “โอ้วว์..” ธามไททั้งเมาเหล้าและเมารสสวาทของเลนนี่ที่ปรนอเปรอเขาอย่างถึงใจจนลืมป้องกันรวมทั้งสาวฝรั่งใจถึงก็เช่นกันเพราะเหล้าไวน์ที่ดื่มเข้าไปทำให้พวกเขาไม่สนใจจะป้องกันจึงเล่นรักกันอย่างถึงพริกถึงขิง “ตั้บบๆๆ ตั้บบๆๆ..” เลนนี่กระแทกกระทั้นสะโพกลงใส่แกนกายอวบใหญ่อย่างรุนแรงและรัวเร็วๆอย่างไม่หยุดยั้งเพราะเธอใกล้จะถึงจุดสุดยอดจึงเร่งจังหวะสวนลงใส่แกนกายลำใหญ่ที่เด้งสวนขึ้นอย่างรุนแรงทุกจังหวะติดกันไม่หยุด “เร็วอีกเลนนี่ ไอจะเสร็จแล้ว อ่าส์ หื้มม..” เสียงห้าวห้วนเร่งสาวสวยที่ขยับสะโพกงอนลงใส่แกนกายอวบใหญ่ที่เขาเด้งขึ้นใส่อย่างรุนแรงจนร่างผอมบางกระเด้งกระดอนสองมือทาบบนขาแกร่งของเขาไว้โยกสะโพกไปซ้ายขวาเข้าใส่รัวกระหน่ำถี่ยิบ “ตั้บบๆๆ ตั้บบๆๆ..” “อะ ไอก็ไม่ไหวแล้ว อ่า กรี้ดดดส์..” “โอ้ววววส์..อ่าส์...” สองหนุ่มสาระเบิดเข้าใส่กันอย่างท่วมท้นแต่ไม่มีใครสนใจนอกจากเซ็กส์ที่เร่าร้อนก่อนสาวสวยจะยกสะโพกออกจากแกนกายอวบแล้วนอนข้างๆชายหนุ่มที่จับตัวพลิกค่ำหน้าลงแล้วสอดใส่ทางด้างหลังดึงสะโพกงอนขึ้นมาจนเลนนี่อยู่ในท่านคลานเข่าแล้วกระแทกกระทั้นแกนกายอวบใหญ่เข้าใส่อย่างแรง “ตั้บบๆๆ ตั้บบๆๆ..” สองหนุ่มสาวขับเขี่ยวกันอย่างดุเดือดจนทั้งห้องลุกเป็นไฟไม่สนใจว่าห้องข้างๆเขาจะได้ยินหรือเปล่านอกจากสนองความต้องการปลดปล่อยอารมณ์ดิบเถื่อนของตัวเองอย่างถึงอกถึงใจพลิกแพลงหลายท่าจนหมดแรงไปด้วยกันแล้วต่างก็หลับไปท่ามกลางกลิ่นคาวน้ำรักคละคลุ้ง เช้ามาเลนนี่ตื่นก่อนก็กลับที่พักเลยไม่ได้สนใจธามไทที่ยังนอนสลบไสลเพราะฤทธิ์แอลกอฮอลจนกระทั่งสิเอ็ดนาฬิกาแม่บ้านของโรงแรมมาเคาะประตูห้องเพื่อบอกให้เขาเช็คเอาท์ก่อนเที่ยง “โอ้ย.ปวดหัวฉิบหาย” ธามไทลุกขึ้นหยิบเสื้อผ้าที่เขาถอดทิ้งขึ้นมาใส่แล้วเสยผมก่อนจะเดินไปห้องน้ำล้างหน้าล้าตาแล้วกลับห้องพัก หลังจากวันนั้นเขาก็นัดเจอกับเลนนี่อีกสองครั้งก่อนจะยุติความสัมพันธ์กันเพราะเลนนี่เจอลูกชายเศรษฐีและเขาก็ไม่ได้สนใจเพราะต่างก็แค่แลกเปลี่ยนความสุขกันเท่านั้นก่อนจะคบสาวฝรั่งคนใหม่และคบๆเลิกๆกันเป็นเรื่องปกติ เวลาผ่านไปเข้าปีที่สามที่ธามไทมาเรียนต่อที่นิวยอร์กประเทศสหรัฐอเมริกาแล้วพ่อแม่ก็มาเยี่ยมเขาพร้อมกับน้องชายที่กำลังเรียนมัธยมปีสุดท้ายและจะมาเรียนต่อต่างประเทศเช่นกันแต่จะเรียนปริญาตรีที่เมืองไทยก่อนแล้วจะมาต่อโทที่อังกฤษ “นายไม่อยากมาเรียนที่นี่จริงเหรอซี” ธามไทถามน้องชายขณะรอพ่อแม่แต่งตัวเพราะวันนี้จะต้องกลับเมืองไทยแล้วหลังจากมาอยู่ได้สิบวัน “ผมว่าเรียนที่อังกฤษดีกว่าเดินทางไปกลับเมืองไทยแค่สิบชั่วโมงนิวยอร์กไกลเกินไปผมขี้เกียจนั่งเครื่องบินนานแบบนี้ไม่ไหวครับ” คนเป็นน้องตอบพี่ชายเพราะการเดินทางนาน “ก็แล้วแต่นายนะ ที่จริงคุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องมาเยี่ยมพี่ก็ได้สมัยนี้มีเทคโนโลยีล้ำสมัยจะอยู่ไหนก็โทรคุยกันได้ตลอดเวลาและเห็นหน้าด้วยจะได้ไม่ต้องนั่งเครื่องบินนาน” ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่อยากให้พ่อแม่มาหายังไงก็คุยกันบ่อยๆ “พ่อก็เบื่อนั่งเครื่องบินนานเหมือนกันนะตาแซนด์ งั้นพ่อกับแม่จะรอแกอยู่ที่เมืองไทยก็แล้วกันเรียจบเมื่อไหร่ก็ค่อยกลับบ้านเราดีมั้ยล่ะ” วิกรมเดินออกมาจากห้องได้ยินลูกชายคนโตพูดพอดีจึงพูดกับลูกชายซึ่งเขาได้เห็นแล้วว่าธามไทโตแล้วรับผิดชอบตัวเองได้และอีกปีหนึ่งก็จบปริญญาตรีแล้วต่อโทอีกสองปี “ครับคุณพ่อ แต่ผมว่าจบแล้วจะทำงานหาประสบการณ์ที่นี่ก่อนสักปีสองปีแล้วค่อยกลับเมืองไทยครับ หากผมเรียนจบแล้วกลับไปทำงานเลยอาจจะไม่มีใครยอมรับเพราะผมไม่มีประสบการณ์” ธามไทตอบพ่อตามที่เขาคิดไว้หาก “แซนด์จะเอาอย่างนั้นเหรือลูก” นันทิดาหน้าม่อยลงเธออุตส่าห์ดีใจว่าลูกชายเรียนอีกสามปีจบก็กลับบ้าน “ครับคุณแม่ ผมไม่อยากให้ใครมาพูดได้ว่าเพราะเป็นลูกคุณพ่อถึงได้ตำแหน่งผมอยากทำให้ทุกคนเห็นว่าผมก็มีความสามารถที่จะบริหารงานช่วยคุณพ่อได้และต้องได้ตำแหน่งมาด้วยฝีมือไม่ใช่เพราะเป็นลูกคุณพ่อครับ” เขาคิดมาตลอดว่าการที่เป็นลูกชายนักธุรกิจคนดังจะต้องถูกจับตามองและพ่อของเขาก็เก่งสามารถนำบริษัทในเครือฟันฝ่าอุปสรรคมาได้เป็นเบอร์หนึ่งของเมืองไทยซึ่งมันไม่ง่ายเลยและเขาต้องทำให้ได้เพื่อจะได้ไม่เสียชื่อปู่และพ่อ “ดีลูก งั้นพ่อจะรอวันที่ไทสำเร็จการศึกษาแล้วกลับบ้านเรานะลูก” วิกรมพูดกับลูกชายแล้วตบไหล่เบาๆให้กำลังใจลูกชายเขาให้อิสะรทั้งการตัดสินใจและความคิดวันข้างหน้าธามไทจะต้องเป็นผู้บริหารบริษัทต่อจากเขา “ขอบคุณครับคุณพ่อที่เข้าใจผม” ธามไทยิ้มให้พ่อกับแม่ที่เข้าใจการตัดสินใจของเขาซึ่งวันข้างหน้าเขาจะต้องสานงานต่อจากพ่อและจะพัฒนามันมันล้ำหน้าคู่แข่งยืนอันดับหนึ่งของประเทศเหมือนที่พ่อทำ “ถ้าแซนด์ว่างก็กลับไปเยี่ยมพ่อแม่และคุณย่าบ้างนะลูก” นันทิดาพูดกับลูกชายด้วยความเป็นห่วงตามประสาแม่ “แม่ขออย่างหนึ่งได้มั้ยลูก” “อะไรครับคุณแม่” “แซนด์อย่ามีเมียฝรั่งนะลูก” นันทิดาบอกลูกชายทำให้สามีกับลูกชายทั้งสองหัวเราะขำ “คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงครับ ผมยังไม่มีเมียจนกว่าผมจะทำงานประสบความสำเร็จครับ” ธามไทตอบแม่อย่างจริงจัง “ขอบใจลูก” นันทิดายิ้มอย่างพอใจกับคำตอบของลูกชาย “กันเถอะคุณแอ๋ว เดี๋ยวจะตกเครื่อง” วิกรมบอกภรรยาที่ห่วงลูกชายเรื่องผู้หญิงและอยากคุยมาตั้งแต่มาถึงแล้วแต่ไม่มีโอกาสจนมาถึงวันกลับ ธามไทไปส่งพ่อแม่และน้องชายที่สนามบินJFK ซึ่งอยู่ห่างจากโรงแรมที่พักประมาณครึ่งชั่วโมงเมื่อส่งพ่อแม่เสร็จชายหนุ่มก็ไปมหาลัยตามที่นัดกับเพื่อนๆไว้เพราะต้องหาข้อมูลเพื่อนทำงานส่งอาจารย์ ที่เมืองไทย บ้านปูนสองชั้นหลังใหญ่ติดชายทะเลมีเขตติดต่อค่ายทหารเรือสัตหีบเป็นที่ดินส่วนบุคคลบนเนื้อที่สิบห้าไร่ติดชายทะเลเป็นแนวยาวบ้านหลังดังกล่าวเป็นมรดกตกทอดจากพ่อของคุณปรียามล วรางค์กุล หรือย่ากุ้ง ที่ซื้อไว้ตั้งแต่เธอยังไม่เกิดและเป็นบ้านที่เธอเติบโตมาและยังเป็นลูกสาวคนเดียวของพลเรือเอกสมมาตรกับคุณหญิงพิไลวรรณ วรางค์กุล และได้พบรักกับ คุณนิยม แสงไท นักธุรกิจหนุ่มไฮโซรูปหล่อตอนไปเรียนที่กรุงเทพกก่อนจะแต่งงานกันแล้วไปใช้ชีวิตอยู่กรุงเทพมีลูกด้วยกันสามคน เมื่อคุณนิยมเสียชีวิตทำให้คุณปรียามลกลับมาใช้ชีวิตอยู่บ้านเดิมที่ท่านให้น้ำทิพย์และจักรี ภพาพิรุณ สองสามีภรรยาที่ไว้ใจเพราะจักรีเป็นลูกชายนายทหารเรือคนสนิทของพ่อที่อยู่ด้วยกันมานานดูแลบ้านให้ หลังจากพ่อแม่จากไปแล้วท่านอยู่กรุงเทพก็จะแวะมาดูบ้านทุกสองเดือนบางทีก็เดือนล่ะครั้งจนกระทั่งสามีจากไปท่านก็มาอยู่ที่บ้านหลังนี้แม้ลูกๆจะห้ามแต่ท่านก็ขอมาอยู่บ้านเกิดและแบ่งทรัพย์สมบัติทั้งหมดของสามีให้ลูกๆทุกคนตามสัดส่วนที่จะได้รับ ในส่วนของท่านก็มีเงินสดในบัญชีและที่ดินบ้านหลังนี้ไว้เท่านั้นระยะห้าปีที่ท่านมาอยู่ลูกๆหลานๆก็แวะเวียนมาเยี่ยมประจำแต่ช่วงหลังๆก็งานเยอะจึงมากันเฉพาะวันสำคัญยกเว้น วิกรม แสงไท ลูกชายคนโตที่แวะเวียนมาหาแม่ทุกเดือนด้วยความเป็นห่วงบางครั้งก็มาพร้อม นันทิดา แสงไท ภรรยาซึ่งเป็นสาวสังคมออกงานทุกวี่ทุกวันส่วนหลานๆก็แล้วแต่ใครสะดวก “สวัสดีค่ะคุณย่ากุ้ง” เสียงใสดังขึ้นขณะที่คุณปรียามลกำลังนั่งคิดถึงความหลังอยู่ที่ศาลาหลังบ้านที่ท่านชอบมานั่งดูน้ำทะเลขึ้นลงและวิ่งเล่นชายหาดแถวนี้ทุกวันหลังเลิกเรียนเหมือนกับเด็กสาวตรงหน้าที่กำลังเรียนมัธยมปีสุดท้ายและกำลังสอบเอนทรานซ์เพื่อเข้าเรียนมหาวิทยาลัยดังตามรอยคุณย่ากุ้งของเธอที่จบคณะนิเทศศาสตร์จากมหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศและเป็นดาวของคณะอีกด้วย “สวัสดีแม่ปูลม ทำไมวันนี้กลับแต่วันล่ะลูก” น้ำเสียงแหบดังขึ้นอย่างอ่อนโยนมองเด็กสาวกำพร้าที่ท่านรับอุปการะเพราะญาติทางพ่อของแม่ของเด็กสาวไม่มีใครสนใจจะรับไปอยู่ด้วยเพราะไม่มีสมบัติติดตัวซึ่งไม่มีใครรู้ว่าท่านเก็บสมุดบัญชีและที่ดินของจักรีกับนัดดาไว้ไม่ได้บอกใครและท่านก็รักเด็กสาวเหมือนหลานแท้ๆจึงอยากเลี้ยงดูเพื่อตอบแทนพ่อแม่ของเด็กสาวที่ดูแลบ้านให้อย่างดีและท่านก็ได้ดูแลเด็กสาวมาตั้งแต่อายุ12ปีจนตอนนี้อายุ18ปีและชื่อเทียนหอมท่านก็เป็นคนตั้งให้และยังตั้งชื่อเล่นว่าปูจะได้เหมือนท่านที่ชื่อกุ้งเพราะเป็นลูกหลานชาวเลพอโตมาทั้งแก่นและซนท่านจึงเรียกว่าปูลม “วันนี้อาจารย์ให้กลับมาอ่านหนังสือสอบเอ็นทรานซ์ค่ะ คุณย่ากุ้งขาถ้าปูสอบเอ็นทรานซ์ไม่ได้จะทำยังไงดีคะ” เด็กสาวกังวลใจกลัวว่าจะทำให้ผู้ปกครองผิดหวัง เทียนหอม ภาพพิรุณ นามสกุลจริงของพ่อแล้วเปลี่ยนมาเป็น เทียนหอม วรางค์กุล หรือปู ปูลม เด็กสาววัย18ปี เป็นหลานบุญธรรมของคุณย่ากุ้งหลังจากที่พ่อแม่จากไปเพราะออกไปหาปลาในทะเลแล้วเจอพายุหลบเข้าเกาะไม่ทันจึงทำให้เรือล่มกว่าจะเจอร่างของทั้งสองก็ไม่มีลมหายใจแล้ว เด็กสาวก็อยู่ในความดูแลของคุณย่ากุ้งเพราะญาติๆของพ่อแม่ไม่มีใครยอมให้เธอไปอยู่ด้วยอ้างว่าฐานะไม่ดีไม่มีปัญญาเลี้ยงเพราะมีลูกต้องดูแลเธอจึงอยู่ในความดูแลของคุณย่ากุ้งมาตลอดทำให้เธอรักท่านเหมือนย่าแท้ๆและท่านยังให้เธอเปลี่ยนมาใช้นามสกุล วรางค์กุล ขอท่านอีกด้วย “ถ้าปูลมทำเต็มที่แล้วไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เรียนที่มหาวิทยาลัยไหนก็ได้ลูก” คุณปรียามลบอกเด็กสาวอย่างอ่อนโยนและที่ท่านกลัวก็คือเทียนหอมเป็นห่วงท่านอาจจะทำให้สอบไม่ได้เพื่อจะได้เรียนใกล้บ้าน “ที่จริงปูเรียนที่บางแสนก็ได้นะคะคุณย่ากุ้ง ปูจะได้มีเวลาช่วยงานของพี่ตุ๊กด้วยค่ะ” หากเรียนที่บางแสนวันไหนเรียนเสร็จไวเธอก็กลับบ้านได้หรือไม่ก็ตื่นเช้านั่งรถเมล์ไปกลับก็ได้ยิ่งตอนนี้มีรถตู้วิ่งก็สะดวกเธอยอมเหนื่อยเพื่อจะได้มีเวลาดูแลคุณย่ากุ้งและช่วยงานของท่าน “ปูลมฟังย่านะลูก ที่ย่าให้สอบเอ็นทรานซ์เข้ามาหาวิทยาลัยที่ย่าจบมาก็เพื่ออนาคตของปูลมจะได้มีงานทำที่ดีและมั่นคงย่าจะได้นอนตายตาหลับไปบอกนัดดากับจักรีได้ พ่อแม่ของปูลมจะได้หมดห่วงนะลูก” คุณปรียามลพูดเสียงสั่นจนถึงวันนี้ท่านก็ยังทำใจไม่ได้ที่คนสนิทจากไปก่อนวัยอันควรซึ่งทั้งสองขยันขันแข็งทำงานดูแลบ้านและอพาร์เมนท์กับบ้านเช่าที่ท่านสร้างให้นายทหารเช่าและยังออกเรือหาปลาอีกเพื่อเก็บเงินไว้ให้ลูกสาวเรียนสูงๆและตอนนี้ท่านก็สานต่อให้ความหวังของทั้งสองแล้ว “ปูจะพยายามทำให้ดีที่สุดค่ะ ปูรักคุณย่ากุ้งค่ะ” เทียนหอมกราบที่ตักของคุณย่ากุ้งผู้มีพระคุณของครอบครัวเธอมาตลอดและเธอเห็นท่านมาตั้งแต่เด็กๆน้ำตาไหลด้วยความซาบซึ้งใจที่ท่านเมตตาเด็กกำพร้าอย่างเธอ “ดีมาก หลานย่ากุ้งต้องเข้มแข็งรู้มั้ยลูก ไม่ว่าชีวิตวันข้างหน้าจะเป็นยังไงเราต้องก้าวผ่านไปให้ได้” เสียงแหบนุ่มสอนหลานสาวนอกไส้อย่างอ่อนโยน “ค่ะคุณย่ากุ้ง” “งั้นไปอ่านหนังสือเถอะลูก” “ค่ะคุณย่ากุ้ง” เทียนหอมลุกขึ้นเดินเข้าไปในบ้านที่เธอย้ายมาอยู่บ้านหลังนี้กับคุณย่ากุ้งตั้งแต่พ่อแม่จากไปและคนในบ้านก็เอ็นดูเธอเหมือนเดิมแม้จะได้เป็นหลานบุญธรรมของท่านแต่เด็กหญิงเทียนหอมก็ยังทำตัวน่ารักอ่อนน้อมถ่อมตนกับลุงป้าพี่ๆคนงานในบ้านของคุณปรียามลเอ็นดู “ป้าแผ้วคะ มีอะไรให้ปูช่วยบ้างคะ” เทียนหอมเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็ลงมาถามแม่ครัวฝีมือดีที่มาอยู่ตอนที่คุณย่ากุ้งของเธอมาอยู่ที่บ้านเพราะเธอต้องทำงานให้เสร็จก่อนแล้วถึงจะไปอ่านหนังสือ “ป้าทำกับข้าวเสร็จแล้วจ้ะหนูปู คุณท่านบอกว่าคุณนาวิกจะมาป้าก็เลยรีบทำกลัวจะเสร็จไม่ทันน่ะ” นางแผ้วบอกเด็กสาวกำพร้าที่คุณปรียารับเป็นหลานบุญธรรมอย่างเอ็นดูเพราะรู้จักกับพ่อแม่ของเทียนหอมเป็นอย่างดีและเป็นโชคดีของเด็กสาวที่คุณท่านเมตตาและทุกคนในบ้านก็เอ็นดูเทียนหอมทุกคน “ไม่เห็นคุณย่ากุ้งบอกปูเลยว่าคุณลุงนาวิกจะมา” เด็กสาวพูดพึมพำคนเดียว “คุณท่านลืมมั้ง หนูปูลมอย่าลืมไปดูห้องพักที่อาพาร์ทเมนท์นะมีเมียคุณทหารมาบอกว่าน้ำไม่ไหลป้าให้นายเหลิมไปดูแล้วไม่รู้ว่าเสร็จหรือยังคุณตุ๊กตาก็ไม่อยู่ด้วยสิ” นางแผ้วบอกเด็กสาวที่ช่วยดูแลอพาร์ทเมนท์และบ้านเช่าที่คุณปรียาสร้างขึ้นตอนที่กลับมาอยู่ที่สัตหีบและให้พวกนายทหารเช่าอยู่ในราคาถูกมีบ้านพักสิบหลังและอพาร์เมนท์สี่ชั้นสี่หลังอยู่บริเวรด้านหน้าติดถนนสิบไร่และที่เหลือก็ปลูกบ้านพักตากอากาศห้าหลังจัดสวนดอกไม้และปลูกต้นมะพร้าวไว้สุดแนวยาวตามเขตแดนที่ดินของท่านซึ่งมีเศรษฐีมาขอซื้อท่านไม่ขายเก็บไว้ให้ลูกหลานไว้มาพักผ่อนนอนริมทะเล
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD