📚 (ต่อ) “6” 𑁍ࠬܓ
คราวนี้เกมไหลลื่นขึ้นชัดเจน
พิมกด +2 +3 ตรงจังหวะ กรรมการชี้ฟาวล์ เธอก็ตามทัน พอมีช็อตลังเล เธอยกมือถามดัง ๆ “ขอเช็กค่ะ เมื่อกี้สามแต้มใช่ไหมคะ?” กรรมการพยักหน้า เธอจึงกด +3 ได้ถูกต้อง ไม่ต้องแก้
ควอเตอร์สุดท้ายมีจังหวะเล็ก ๆ ทีมส้มขอไทม์เอาต์ พิมกดหยุดเวลาใส่บอร์ด พอทีมกลับลงสนามพร้อมเสียงเชียร์ ธันวายืนกอดอกมองเกมเหมือนเดิม แต่ตอนเดินผ่านโต๊ะสกอร์ เขาเอ่ยสั้น ๆ ที่มีแค่เธอได้ยิน “ดี”
ไม่รู้หมายถึงเกม หมายถึงระบบ หรือหมายถึงเธอ แต่พิมเลือกจะคิดเข้าข้างตัวเอง และใช้คำนั้นเป็นแรงใจให้มั่นคงกว่าเดิม
เมื่อไซเรนจบเกมดัง ผู้เล่นแตะมือกัน โค้ชปรบมือ “ดีมาก!” พี่จอมประกาศคะแนนสุดท้ายด้วยเสียงดัง ทุกอย่างผ่านไปได้โดยไม่มีปัญหา คะแนนไม่หาย ระบบไม่พัง และไม่มีเสียงหัวเราะเพราะความผิดพลาดของเธออีกแล้ว
พิมเก็บของเสร็จ นั่งยอง ๆ รวบสายไฟเป็นห่วง รัดตีนตุ๊กแกแน่นเรียบร้อย คราวนี้ทำได้ดีกว่าครั้งก่อน เธอยืนขึ้น เก็บคู่มือใส่ซอง แล้วเงยหน้าเจอธันวาแยกจากโค้ชพอดี
เขาเดินผ่านหน้า พิมบังคับตัวเองให้สบตา “วันนี้…ขอบคุณที่เตือนนะคะ”
“อืม” เขาตอบสั้นตามแบบเขา ก่อนเสริมอีกคำ “ดีขึ้น”
หัวใจพิมพองนิด ๆ เธอยิ้ม ไม่กรี๊ดออกมา แค่รวบแจ็กเก็ตแน่นขึ้นนิด “ต่อไปถ้าไม่ชัวร์ หนูจะถามก่อนค่ะ”
เขาพยักหน้า “ใช่”
กันต์วิ่งมาพอดี “เฮ้ สกอร์บอร์ดที่รัก! วันนี้เฉียบเลย” เขายกขวดน้ำซัดอึกก่อนหันมากระซิบ “ตอนฝนลงลุ้นแทบตาย กลัวไฟช็อต แต่ผ่านได้ เอาไปสิบแต้มจากกรรมการกันต์”
พิมหัวเราะ “ขอบคุณค่ะ เมื่อกี้เกือบหลุด แต่กู้กลับมาได้”
“นั่นแหละ ทีมงานที่ดีไม่ใช่ไม่พลาด แต่แก้พลาดเป็น” กันต์ยักคิ้ว แล้วตะโกนหาพี่จอม “ไปกินข้าว!”
แยมเดินมาข้าง ๆ “หัวหน้าคูลชมแกว่า ‘ดีขึ้น’ นะคุณพิม บันทึกลงสมุดเลยมั้ย”
พิมหัวเราะ “จะบันทึกด้วยปากกาเน้นข้อความเลย”
ระหว่างเดินกลับอาคาร มีน้องปีหนึ่งสองคนที่มาคัดตัวยกมือไหว้ “พี่คะ ขอบคุณที่ช่วยบอกคะแนนนะคะ หนูเห็นพี่พยายามมากเลย”
“ขอบคุณจ้ะ สู้ ๆ นะ” พิมยิ้ม เขินจากตอนกดรีเซ็ตค่อย ๆ ละลาย กลายเป็นบทเรียนแทน
คืนนั้นกลับถึงหอ พิมอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อ นั่งทายาที่แผลพองตรงโคนนิ้วโป้งจากการกดปุ่ม แล้วเปิดสมุดบันทึก เขียนหน้าถัดไปด้วยลายมือใหญ่กว่าปกติ
กฎแรกที่ทำพัง 📖✍️
• เหตุการณ์: กด CLR ALL ระหว่างเกม คะแนนหายเรียบ (อายจาก 1/10 → 9/10 → เหลือ 3/10 หลังแก้ได้)
• ดีที่มี: แยมจดสถิติเลยตั้งคะแนนกลับได้ทัน / โค้ชใจเย็น / ทีมไม่โวย
• คำสอนจากหัวหน้า: “ทำอะไรไม่เป็นถามได้” + “อย่าเดา เวลามีระบบ”
• บทเรียนฉบับพิม: อ่านบรรทัดตัวหนาให้ครบ / ถ้าไม่ชัวร์ = ขอเช็ก / เขียนโน้ตเตือนตัวเอง
• ผลลัพธ์: ควอเตอร์ถัดมาทำได้ดีขึ้น ได้คำว่า “ดีขึ้น” จากเขา (ใส่กรอบทอง)
พิมวาดกรอบรอบคำว่า ดีขึ้น แล้วเติมรูปบอร์ดคะแนนเล็ก ๆ ข้าง ๆ ก่อนปิดสมุด เอนหัวกับพนักเก้าอี้ ยกมือแตะหน้าอกตัวเองเบา ๆ
เสียงเรียบ ๆ ของเขายังวนในหัว ทำอะไรไม่เป็น ถามได้ มันไม่ใช่คำปลอบ แต่เป็นการอนุญาตให้พลาดได้ถ้ารับผิดชอบต่อทีม เป็นพื้นที่ปลอดภัยที่ไม่หวาน แต่มั่นคง และพิมก็อยากโตในสนามแบบนี้จริง ๆ
เธอหยิบมือถือ เปิดไลน์กลุ่มชมรมแล้วพิมพ์
Pim (ปี 1): ขอบคุณทุกคนสำหรับวันนี้นะคะ 🙇🏻♀️ โต๊ะสกอร์ขอโทษอีกครั้งที่กดผิดค่ะ ต่อไปจะถามก่อนกดค่ะ
ไม่ถึงสิบวินาที มีอีโมจิ 👍 โผล่มาหลายอัน ตามด้วยข้อความจากพี่จอม
จอม: ไม่เป็นไรน้องพิม แก้ทัน ถือว่าเรียนรู้ เดี๋ยวพี่ทำสรุปวิธีใช้เครื่องส่งให้ในกลุ่มอีกที
กันต์ส่งสติกเกอร์หมีพร้อมคำว่า ทีมเดียวกัน แล้วแจ้งเตือนเล็ก ๆ สีแดงก็ขึ้นมา
Thanwa: โอเค
คำเดียว ไม่มีอีโมจิ ไม่มีจุด แต่พิมเผลอยิ้ม มันหนักแน่นพอให้เธออยากทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม
ก่อนปิดไฟ เธอยกมือแตะขมับเหมือนตอนบ่ายแล้วพูดเบา ๆ “รับทราบค่ะหัวหน้า” แล้วหัวเราะกับตัวเอง เด็กปีหนึ่งที่เคยอ่านกฎไม่ครบ ทำพังไปครั้งหนึ่ง แต่ก็เดินกลับเข้ากฎด้วยหัวใจที่แน่นขึ้น
พรุ่งนี้ เธอจะพกปากกาเน้นข้อความไปสนาม เพื่อทำสิ่งเดียว—ขีดเส้นใต้บรรทัดตัวหนา และถ้าไม่ชัวร์ เธอจะ ถาม ก่อนกดเสมอ
⚀ ⚁ ⚂ ⚃ ⚄ ⚅
📚 “7” คุยจริงจังครั้งแรก ᜊ•ᴗ•ᜊ
หลังเกมซ้อมเล็กจบ เสียงในสนามค่อย ๆ เงียบลง ทุกคนช่วยกันเก็บของ พิมปิดระบบโต๊ะสกอร์ตามคู่มือทีละขั้นตอน กดหยุดเวลา ปิดไฟบอร์ด เซฟข้อมูลสำรอง แล้วค่อยดึงปลั๊กออก เธอทำครบทุกข้อ ไม่ข้ามแม้แต่เล็กน้อย
สมุดกฎที่พี่จอมถ่ายเอกสารให้อยู่ในมือ ปากกาเน้นข้อความสีชมพูเสียบไว้ตรงหน้า อย่ากด CLR ALL ระหว่างเกม ถูกขีดเส้นหนาเหมือนมีวงกลมล้อม แต่ก็ยังมีหลายข้อที่เธอไม่เข้าใจ โดยเฉพาะเรื่องแก้แต้มกับหยุดเวลาฉุกเฉิน วันนี้เธอตั้งใจว่าจะถามให้ชัด
เธอกวาดตามองหาธันวา เขายืนช่วยกันต์ม้วนเชือก เก็บลูกบาสใส่ลังเป็นระเบียบ พิมสูดหายใจลึก กำสมุดแน่น แล้วเดินเข้าไปหา
“พี่ธันวาคะ” เธอเรียกดังพอให้เขาหันมา
เขาเหลือบมอง พยักหน้าเบา ๆ “มีอะไร” น้ำเสียงเรียบ แต่ไม่ใช่โทนตัดบท
พิมชูสมุดขึ้น “หนูอยากถามเรื่องกฎใช้บอร์ดค่ะ อ่านแล้วบางขั้นตอนไม่เข้าใจ”
เขามองสมุดแวบเดียวแล้วพยักหน้า “เอามา”
พิมส่งให้ทันที เขากางสมุดออก มือใหญ่กดกระดาษนิ่ง ๆ ปลายนิ้วมีรอยจากเทปพันข้อมือ แต่สะอาดเรียบไม่มีเล็บยาว
“ตรงไหนที่ไม่เข้าใจ” เขาถามสั้น ๆ
“เรื่องแก้แต้มค่ะ สมมติถ้ากดผิด ต้องกดปุ่มไหนก่อน ปุ่มไหนทีหลัง”
ธันวาพยักหน้าเหมือนสรุปในหัว “ง่าย ๆ สองขั้น” เขาชี้ไปที่สมุด
“หนึ่ง กด ‘Edit’ เข้าโหมดแก้ไข
สอง ใช้ลูกศรเลือกทีมที่จะปรับ แล้วกดลบแต้มก่อนใส่แต้มที่ถูก”
พิมพยักหน้าตามทุกคำ เขาเสริม “ต้องเร็ว แต่ไม่ต้องรีบจนลน ช้าสักห้าวินาทียังดีกว่ากดผิดซ้ำ”
“ค่ะ” เธอตอบทันที
เขาวางสมุดลง หยิบปากกาไวท์บอร์ด วาดรูปบอร์ดคะแนนง่าย ๆ บนกระดาน “นี่ ทีม A ทีม B สมมติว่ากดทีม A สามแต้มแทนสอง วิธีแก้คือ…” เขาสาธิตทีละขั้นเหมือนสอนในห้องเรียน มือขยับมั่นคงไม่สะดุด “เห็นไหม ไม่ต้องรีเซ็ตทั้งบอร์ด”
พิมตามตาไม่กะพริบ พยักหน้าหลายครั้ง “อ๋อ เข้าใจแล้วค่ะ”
“ดี” เขาวางปากกา หันมามองเธอตรง ๆ สายตาคราวนี้ไม่ใช่แค่ตรวจงาน แต่เหมือนตั้งใจจำ
แล้วเขาถามออกมา คำที่พิมเฝ้ารอหลายสัปดาห์
“ชื่ออะไร”
หัวใจเธอกระโดดขึ้นมาทันที เขายังไม่รู้ชื่อ…แต่ตอนนี้กำลังจะรู้แล้ว
“พิมค่ะ” เธอตอบเสียงนุ่มแต่ชัด
“อืม…พิม” เขาทวนช้า ๆ เสียงเรียบเหมือนเดิม แต่เต็มไปด้วยน้ำหนักของการจดจำ
มันไม่ใช่การเรียก “น้องปีหนึ่ง” อีกแล้ว แต่คือ “พิม” ที่ถูกเก็บจริง ๆ ในความจำของเขา
เขาพยักหน้าเบา ๆ “โอเค พิม ถ้ามีอะไรไม่เข้าใจเรื่องระบบ มาถามได้เลย ไม่ต้องรอจนพัง”
พิมหัวเราะน้อย ๆ “รับทราบค่ะหัวหน้า”
เขาเลิกคิ้วนิดหนึ่ง แต่ไม่แก้คำที่เธอเรียก แค่หมุนตัวกลับไปช่วยกันต์เก็บของ ทิ้งให้พิมยืนอยู่ตรงนั้นกับหัวใจที่เต้นแรงกว่าตอนกดบวกสามแต้ม
เดินออกจากโรงยิม ลมเย็นจากฝนก่อนหน้าพัดผ่าน พิมก้มมองสมุดกฎในมือ เธอหยุดตรงไฟหน้าประตู พลิกไปหน้าสุดท้าย ใช้ปากกาเน้นข้อความสีชมพูเขียนโน้ตเล็ก ๆ มุมกระดาษ
💗 เขาจำชื่อเราแล้ว – “พิม”
หกตัวอักษรกับรูปหัวใจเล็ก ๆ ทำให้ทั้งหน้ากระดาษดูสว่างขึ้นทันที
เธอกอดสมุดแน่น เดินต่อพร้อมแก้มที่ยังร้อน ไม่ใช่เพราะเหนื่อย แต่เพราะคำสั้น ๆ คำเดียว ที่ทำให้รู้สึกเหมือนได้ถูกจับเข้าสู่เรดาร์ของเขาแล้วจริง ๆ
🏀 ˻˳˯ₑ𓇥 ⛄︎ ⋰˚.⃗ * ۪۪۪۫ ˖ ˑ ܸܸ ۰ ༝༚༝༚♡゙