📚 “ 8 ”⸝⸝ 𖥧* ❀
สายวันพฤหัสฯ
ลมพัดใบหญ้าริมสนามยางไหวไปมา เสียงลูกบาสจากคอร์ทข้าง ๆ “ตึง ตึง” ดังเป็นจังหวะคุ้นเคย พิมเดินถือถุงผ้าเข้ามา ข้างในมีสมุดกฎกับปากกาเน้นข้อความที่เธอพกติดตัวเสมอ ก่อนเริ่มงาน เธอเปิดดูไลน์กลุ่ม วันนี้มีนัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับ “เกมเชิญแขก” วันเสาร์ โรงเรียนมัธยมในเครือจะมาซ้อมกับชมรม
“เฮ่ น้องพิม!” เสียงดังมาก่อนตัว กันต์โผล่จากหลังเต็นท์เหมือนโผล่จากฉากละคร เขายกมือโบกยิ้มกว้าง “เด็กวันชนแฟ้มใช่ไหม”
พิมหลุดหัวเราะ “พี่ยังไม่เลิกเรียกหนูแบบนั้นอีกเหรอ”
“สเตจเนมไงน้อง จำง่าย ฮาเร็ว” เขาแลบลิ้นขี้เล่น ก่อนพิงศอกกับลังลูกบาส “ว่าแต่ วันนี้ว่างยาวปะ มีโปรเจกต์ใหญ่ต้องใช้ ‘มือหลังบ้าน’ ระดับท็อป”
“ว่างค่ะ” พิมยกมือ ยิ้มพร้อม “พี่จะให้ทำอะไรบอกมาเลย”
กันต์ดีดนิ้ว
“หนึ่ง - ต้องจัดอุปกรณ์โต๊ะสกอร์พกพาไปอีกคอร์ท
สอง - ทำ ‘สตาฟต์คิท’ ให้ทีมต้อนรับเด็กม.ปลาย
สาม - เช็กไมค์ลอยให้หัวหน้าใช้เปิดงานไม่ติดขัด”
เขาพูดรัวเหมือนแร็ป
“แล้ว สี่ - ถ้ามีเวลา อยากให้พิมช่วยดูสคริปต์ เผื่อมีช่องโหว่”
“จัดมาเลย” พิมหยิบสมุดเล็กขึ้น “อุปกรณ์โต๊ะสกอร์มี…เครื่องบอร์ดพกพา, รีโมต, ปลั๊กสามตา, สายต่อ, แบตสำรอง, เทปพันสาย, คู่มือฉุกเฉิน, ผ้าไมโครไฟเบอร์—” เธอหยุดนิดหนึ่งก่อนหัวเราะ “ของสำคัญ”
กันต์ผิวปาก “บอกแล้ว ‘เด็กวันชนแฟ้ม’ แป๊บเดียวกลายเป็น ‘สตาฟต์ฮาร์ดคอร์’”
พิมยิ้มรับ “แต่ยังไม่ฮาร์ดพอจะไม่หกนะคะ”
“หกได้ แต่อย่าหกบนคอนโซล ไม่งั้นหัวหน้าดุพังแน่” กันต์ทำเสียงจริงจังหนึ่งวินาทีแล้วกลับมายิ้ม “เอ้า ตามมา เดี๋ยวพี่เปิดคลังลับให้”
ห้องเก็บของชมรมเย็น ๆ มีกลิ่นยางกับเทปกาว พิมเริ่มชินแล้ว กันต์ควงกุญแจเล่นเหมือนโชว์ “นี่แหละ ‘ถ้ำของหัวหน้า’ อย่าบอกนะว่าพี่ชอบซ่อนของเรียงสี”
“เรียงสี?” พิมก้มดู เห็นลูกบาสเรียงจากเข้มไปอ่อน กรวยสีส้มไล่เฉด เชือกขาวพับเรียบเหมือนเค้ก ทุกอย่างเป็นระเบียบเกินไป
“หัวหน้าเก็บ พี่จัดทองคำเปลวเอง” กันต์ยักคิ้ว “โอเค พิม ช่วยพี่จัด ‘สตาฟต์คิท’ สี่ชุด กล่องใสแบบนี้ รายการมี เทปผ้า ทิชชู่ ผ้าไมโครไฟเบอร์ ปลอกแขนเรืองแสง ปากกาเคมี สมุดเล็ก ยางรัดสาย…ธูป ไม่ใช่ ล้อเล่น!”
พิมหัวเราะ “พี่กันต์!”
“ทำงานกับเด็กต้องมีมุก” เขาขยิบตา ก้มตรวจไมค์ลอยกับรีซีฟเวอร์ “ส่วนไมค์นี่…แบตเต็มหรือยังน้า”
พิมขยับมือคล่องกว่าครั้งก่อน ๆ เธอหยิบกล่องใส วางเรียง เปิดลิ้นชักหยิบอุปกรณ์ตามลิสต์ คลี่ผ้าไมโครไฟเบอร์พับเรียบ วางปากกาเคมีสองแท่งแล้วติดเทปใสกันกลิ้ง แยกยางรัดสายใส่ซอง “นี่ค่ะ ชุดหนึ่ง” เธอยื่นให้
“สวยขนาดนี้เรียก ‘คิทที่อยากหยิบใช้’ ได้เลย” กันต์ยกนิ้ว “ถ้าเป็นบริษัทเอกชน พี่รับเข้าฝ่ายปฏิบัติการน่ารักทันที”
“ฝ่ายอะไรนะคะ” พิมหัวเราะแก้มแดง
“ฝ่ายที่ทำให้งานหนักดูเบาเพราะจัดของสวย” กันต์ตอบทันที ก่อนลดเสียงแกล้งจริงจัง “สำคัญคือหัวหน้าเดินผ่านต้องพยักหน้าในใจว่า ‘ผ่าน’ ”
ชื่อ “หัวหน้า” ทำให้พิมเงียบไปนิด ไม่ใช่แค่เขิน แต่เพราะเสียงรองเท้ากีฬาเดินดังใกล้เข้ามา เธอหันไปมองโดยไม่ตั้งใจ
ธันวาเดินมาพอดี ใส่เสื้อโปโลชมรม แขนเสื้อพับขึ้น เผยท่อนแขนชัด เขาหยุดหน้าประตู มองเข้ามาในห้อง
“ของพร้อมกี่เปอร์เซ็นต์” เขาถามกันต์สั้น ๆ
“เจ็ดสิบแล้วครับ หัวหน้า สแตฟต์คิทกำลังจะเสร็จโดยน้องพิม” กันต์ผายมือพรีเซนต์เหมือนโชว์รายการแข่งทำอาหาร
ธันวาเหลือบตามองพิมแค่เสี้ยววินาที แต่เธอรู้สึกเหมือนถูกตรวจละเอียดทั้งตัว จากนั้นเขาพยักหน้าเบา ๆ คล้ายจะบอกว่า “โอเค” โดยไม่พูดคำว่า “ดี”
พิมกลั้นยิ้มแล้วทัก “สวัสดีค่ะ”
“อืม” เขาตอบสั้น ๆ ตามสไตล์ แล้วหันไปถาม “ไมค์ลอยเช็กหรือยัง”
“กำลังเช็กแบตครับ เดี๋ยวเทสต์เสียง” กันต์รีบตอบ
ธันวาพยักหน้าอีกที ก่อนก้าวเข้ามาช่วยโดยไม่รอคำสั่ง เขาวางแฟ้มในมือลง หยิบรีซีฟเวอร์ขึ้นมาเช็กช่องสัญญาณ ปรับสวิตช์ให้ตรงทุกตัว มือขยับคล่องราวกับจำตำแหน่งได้หมดจากความเคยชิน
กันต์หันมาหาพิม ทำเสียงล้อเบา ๆ “เห็นไหม หัวหน้าคือคนที่ปุ่มทุกอันอยู่ในหัว เชื่อมกับนิ้วตรง ๆ”
พิมหัวเราะเบา ๆ “ค่ะ”
“เอ้อ พี่ต้องไปขนสติ๊กเกอร์สปอนเซอร์ที่อาคารกิจกรรม เดี๋ยวกลับมา พิมช่วยอยู่เทสต์ไมค์กับหัวหน้าก่อนได้มั้ย” เขาพูดรวดเดียว ก่อนชิ่งออกไปทันที “ขอบใจล่วงหน้า!”
พอประตูปิดลง เหลือเพียงพิมกับธันวา บรรยากาศเงียบลง เหลือแค่เสียงแอร์กับเสียงนิ้วเขากดสวิตช์ “คลิ๊ก คลิ๊ก”
ธันวาเงยหน้ามองเธอแวบหนึ่ง “ไปที่ยิม เทสต์เสียง”
“ค่ะ” พิมรีบคว้ากล่องไมค์ตามเขา เดินห้าสิบเมตรที่เหมือนยาวกว่าปกติ ความเงียบไม่ได้อึดอัด แต่หัวใจของเธอกลับดังจนรู้สึกเองได้
ในโรงยิม ไฟยังไม่เปิดเต็ม บรรยากาศสลัว ๆ ธันวาเสียบรีซีฟเวอร์เข้ามิกเซอร์เล็กที่โต๊ะเทคนิค แล้วส่งไมค์ให้พิม
“เปิด”
พิมกดสวิตช์ ON ไฟเขียวติด “เทสต์…หนึ่ง สอง สาม” เสียงก้องกลับมาใสชัด
ธันวาหมุนเกนขึ้นนิด “พูดต่อ”
“เอ่อ…สวัสดีค่ะ พรุ่งนี้มีคิวต้อนรับโรงเรียนมัธยมมาซ้อมกับชมรมค่ะ ขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย—” พิมเผลออ่านสคริปต์จริงจังแล้วหัวเราะออกมาเอง
ธันวายืนพิงโต๊ะ แขนไขว้ มองเธอเฉย ๆ “ดี ระดับเสียงโอเค”
“ไมค์นี้ต้องใส่แบตสำรองในกระเป๋าคู่เสมอใช่ไหมคะ” พิมถาม
“อืม เอาใส่คิทหัวโต๊ะด้วย กล่องใสที่มีเทปผ้ากับปากกา” เขาตอบแบบไม่ต้องมอง พิมพยักหน้าทันที
เขาก้มเช็กสายต่อ “วันเสาร์จะจัดเวทีตรงครึ่งคอร์ตฝั่งที่นั่ง อย่าให้สายไฟไขว้เลนวิ่ง ใช้เทปผ้าดำตอกทุก 30 เซนติเมตร ถ้าเป็นพื้นไม้ให้วางเทปกระดาษก่อน”
“ค่ะ” พิมตอบ ถึงจะยังงงเรื่องเทปอยู่บ้าง แต่ก็รับไว้
ธันวาพูดต่อทันทีเหมือนอ่านใจ “ถ้าไม่ชัวร์—ถาม”
พิมหัวเราะ “ค่ะ จำแล้วค่ะ”
เขาเงียบไปนิด มองรอบยิมตามนิสัย ก่อนหยิบไมค์อีกตัวเปิด “หนึ่ง สอง” เสียงทุ้มของเขาในระบบ PA ดังนิ่ง ชัด จนฟังแล้วรู้สึกว่าแค่ไม่กี่คำก็เหมือนเขาคุมทั้งภาพรวมอยู่ในมือ
พิมยืนถือไมค์เงียบ ๆ ไม่กล้าพูดเพิ่ม กลัวไปทำระบบสะดุด เธอมองฝุ่นลอยในแสงไฟ พยายามวางมือให้นิ่ง ไม่เผลอกดสวิตช์ผิด
“พิม” เสียงเขาเรียก ทำเธอสะดุ้งนิด หันไป “คะ?”
“วันเสาร์ เธออยู่โซนกลาง โต๊ะเทคนิคกับโต๊ะสกอร์ พี่จอมดูเกม กันต์วิ่งนอก เธอเฝ้าสายกับเช็กไมค์ ถ้าสัญญาณหายให้สลับความถี่ตรงนี้ A กับ B จำแค่นี้ก่อน” เขาชี้สวิตช์เล็ก ๆ
“รับทราบค่ะ” พิมตอบ แล้วแกล้งพูดขำ “ห้ามกด CLR ALL โซนไมค์”
คิ้วเขากระดิกนิด “ดี”
ห้องเงียบไปครู่หนึ่ง ไม่อึดอัด แต่ทำให้พิมสังเกตเขาชัดขึ้น—สายตาที่กวาดหาของไม่เข้าที่ การวางฝาแบตกลับจุดเดิม การหยิบเทปแล้วเก็บม้วนให้เรียงเป๊ะทุกครั้ง
กันต์เคยพูดเล่นว่า “หัวกับนิ้วเชื่อมกัน” ตอนนี้เธอเชื่อเต็ม ๆ
“โอเค” ธันวาปิดไมค์ เก็บเข้ากล่อง “ไปทำคิทต่อ” เขาพยักหน้าไปทางห้องเก็บของ พิมพยักหน้าตาม
พอเดินผ่านโถง พี่ ๆ ฝ่ายสื่อกำลังติดสติ๊กเกอร์แบ็กดรอป “น้องพิม มาช่วยถือหน่อย” พิมรีบไปจับมุมไวนิล กันต์กลับมาพอดีพร้อมกล่องสติ๊กเกอร์ “ว้าว งานเดิน!”
“พี่กันต์ไปถึงอาคารกิจกรรมแล้วกลับไวมาก” พิมแซว
“พี่วิ่งเสมอ ยกเว้นตอนโดนหัวหน้าจับได้—จะเดินให้ดูเรียบร้อย” กันต์หรี่ตา กระซิบหยอก “ว่าแต่…เมื่อกี้อยู่กับหัวหน้าเป็นไง”
“เขาสอนเทสต์ไมค์ แล้วก็แบ่งโซนงานวันเสาร์ค่ะ” พิมตอบปกติ แต่หูกลับร้อนเอง
กันต์ทำหน้ารู้ทัน “ดีแล้ว เขาชอบคนที่ตั้งใจจนมองออกจากไกล ๆ นะ”
“พี่ดูออกจากไกลเลยเหรอคะ” พิมถามยิ้ม ๆ
“อือ พี่สายตาดี โดยเฉพาะเรื่องรัก ๆ” กันต์ยิงมุกทันที “เอ้า อย่ายิ้มเยอะ เดี๋ยวสติ๊กเกอร์เบี้ยว”
พิมเลยเก็บยิ้มไว้แค่ที่มุมปาก งานที่เหลือก็ไหลลื่นกว่าตอนเช้า สแตฟต์คิทครบสี่ชุด โต๊ะสกอร์เช็กผ่าน ไมค์ลอยสองตัวทำเครื่องหมายสีต่างกัน ปลั๊กและสายพ่วงม้วนเลขแปดเรียบร้อย
บ่ายยาวไปจนเย็น แดดส้มส่องเข้ามุมยิม ธันวาเดินตรวจรอบสุดท้าย เขาเช็กเสาสแตนด์ดิสเพลย์ ขยับขาให้แน่น แล้วย้ำตอกอีกที พิมกับกันต์ยืนรอเหมือนรอฟังผล
“ใช้ได้” เขาพูดสั้น ๆ แล้วมองทุกคน “พรุ่งนี้มาจัดไฟต่อ”
“รับแซ่บ” กันต์ตอบขำ ๆ ก่อนหันมายักคิ้วให้พิม “น้องไปก่อนได้ เดี๋ยวพี่ปิดห้องเก็บของเอง”
พิมกำลังจะลา แต่ธันวาเดินมาหยุดข้าง ๆ เขาหยิบแฟ้มพาดแขน ยืนห่างเธอพอดีหนึ่งช่วงแขน พิมสังเกตเห็นปลายนิ้วเขามีฝุ่นขาวจากเทปเล็กน้อย ทำให้เขาดูเป็น “คนทำงานจริง” มากกว่าภาพหัวหน้าบนเวที
กันต์หันมาชำเลือง ก่อนถอยห่างอย่างรู้จังหวะ “โอเค พี่ไปดูสติ๊กเกอร์ต่อ” แล้วก็หายไป ทิ้งพื้นที่ไว้ให้สองคน
ในยิมเงียบจนได้ยินเสียงพัดลมหมุน ธันวาไม่พูด เขาเพียงกวาดตามองจากเวทีเล็กไปจนถึงขอบสนามเหมือนเช็กภาพรวมอีกครั้ง
พิมยิ้มบาง ๆ “วันนี้…หนูไม่กดอะไรพังนะคะ”
เขาหันมามองตรง ๆ สองวินาที แล้วพยักหน้า “อืม”
ความอุ่นแปลก ๆ วูบขึ้นในอกพิม เธอไม่รู้จะพูดอะไรต่อ เลยยืนเงียบ รอว่าเขาจะพูดอีกไหม
ธันวาขยับแฟ้มในมือ “พรุ่งนี้มาก่อนเวลานะ”
น้ำเสียงไม่แข็ง แต่เหมือนชวนให้รับผิดชอบมากขึ้น พิมพยักหน้า “ได้ค่ะ…มากี่โมงดีคะ”
“เก้าโมงครึ่ง เริ่มสิบโมง แต่จะจัดไฟก่อน”
“รับทราบค่ะ” พิมกลั้นยิ้ม แต่ก็ยังเผลอขึ้นที่มุมปาก “แล้วต้องเตรียมอะไรเพิ่มมั้ยคะ”
“เหมือนวันนี้ แต่เพิ่มแบตสำรองไมค์อีกสองก้อน เผื่อ”
“ค่ะ” เธอตอบรับ รู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก
ธันวาพยักหน้าเบา ๆ แล้วเดินผ่านไป ไม่ได้ชม ไม่ได้พูดยาว แต่คำเดียวที่เขาทิ้งไว้ทำให้พิมยืนยิ้มอยู่นาน
กันต์โผล่มาพอดี “อะแฮ่ม—หัวหน้าบอกอะไร”
พิมทำท่าเหมือนถือแบตในอากาศ “พรุ่งนี้มาก่อนเวลา”
กันต์ยกนิ้วโป้ง “ยินดีต้อนรับสู่แก๊งที่หัวหน้าไว้ใจให้มาก่อนเวลาคนอื่น”
“มีแก๊งด้วยเหรอคะ”
“ไม่ได้มีใบสมัคร แต่มีชื่อเสียง เด็กชมรมจะรู้เองว่า ‘อ๋อ คนนี้แหละ หลังบ้านตัวจริง’ ” กันต์หรี่ตายิ้ม “แล้วตอนนี้ชื่อเธอเริ่มเข้าแก๊งแล้วนะ”
พิมหัวเราะเบา ๆ รู้สึกแก้มร้อนอย่างพอใจ เธอมองมือตัวเองที่ไม่สั่นเหมือนวันแรก ๆ หยิบสมุดกฎในถุงผ้าออกมา เปิดหน้าท้ายสุด เขียนโน้ตเล็ก ๆ ข้างรายการอุปกรณ์
💗 เขาจำชื่อเราแล้ว
💗 วันนี้เขาบอกให้ “มาก่อนเวลา”
เธอวาดหัวใจสองดวงไว้เป็นบันทึกส่วนตัว
เมื่อเก็บของเสร็จ เธอไหว้ลาพี่ ๆ แล้วออกจากยิม ลมเย็นยามเย็นปะทะแก้มที่ยังอุ่น พิมเงยหน้ามองท้องฟ้าสีส้มอมม่วง คิดในใจว่า พรุ่งนี้เธอจะมาก่อนเวลา พร้อมแบตสองก้อน ผ้าไมโครไฟเบอร์ และมือที่คล่องกว่าเดิม
เพราะต่อให้ใครแซว เธอก็อยากให้หัวหน้าจำเธอได้แค่สิ่งเดียว—เธอไว้ใจได้จริง ๆ
และคำที่ยังวนอยู่ในหัวก็คือ
“พรุ่งนี้มาก่อนเวลานะ”
⊹𓈒 ✿ ⊹ ⟢ ⋆ ₊ ☽ ·˚ *⋆