📚 “5” ⟣ഒ
เช้าวันอาทิตย์ ลานอาคารกีฬาเต็มไปด้วยเสียงวุ่นวาย เหมือนตลาดนัดฉบับนักกีฬา เสียงนกหวีดดังเป็นจังหวะ เสียงลูกบาสกระทบพื้น “ตึง ตึง ตึง” ดังสลับกับเสียงรองเท้ายางลากไปมาและเสียงคนตะโกนเรียกกันดังทั่ว มีป้ายไวนิลคัดตัวทีมบาสแขวนอยู่เหนือหัวผู้คนที่เดินขวักไขว่
พิมสะพายกระเป๋าผ้า เดินเร็วเข้ามาที่บูธชมรมพร้อมแยม คู่หูภารกิจ “เข้าถึงตัวแบบเนียน ๆ” วันนี้พิมรวบผมหางม้า แต่งตัวเรียบง่าย เสื้อยืดสีครีม กางเกงวอร์ม รองเท้าผ้าใบ พร้อมทำงานเบื้องหลังทุกอย่างตามใบสมัคร
“น้องพิม ทางนี้!” พี่จอม รองกัปตันชมรมโบกมือเรียก เขาผิวเข้ม ท่าทางลุย ๆ แววตาเป็นมิตร “มากับเพื่อนใช่มั้ย”
“ค่ะพี่จอม นี่แยมเพื่อนหนูค่ะ”
“ดีเลย วันนี้คนขาดมือเยอะ พี่ฝากน้องสองคนช่วยย้ายอุปกรณ์ไปสนาม B หน่อย มีกรวย ซองเชือกตีเส้น ลูกบาส ลังน้ำ ถึงแล้ววางตามแผนนี้นะ” พี่จอมชี้แผนผังบนกระดาษเคลือบ ก่อนยื่นกุญแจห้องเก็บของให้ “เปิดใช้แล้วอย่าลืมล็อกกลับด้วย”
แยมทำท่ากำปั้น “จัดมา!”
พิมยิ้ม ได้ทำจริงแล้ว แม้ใจจะแอบสั่นนิด ๆ เมื่อเจอคำว่า “ย้ายของหนัก”
พอเปิดห้องเก็บของ กลิ่นยางจากลูกบาสผสมกลิ่นฝุ่นโชยออกมา พิมกับแยมช่วยกันยกลังลูกบาส ลูกละไม่ถึงกิโล แต่รวมกันแล้วก็หนักเอาการ กรวยพลาสติกสีส้มเป็นตั้ง ๆ ส่วนเชือกตีเส้นม้วนใหญ่ก็ดูหนักเกินไป
“เอาไงดี ของเยอะเลย” แยมบ่น
“แยกเป็นรอบ ๆ ดีมั้ย” พิมว่า แต่พอเห็นเวลาเหลือแค่ 25 นาที เธอก็ลังเล “หรือจะยกทีเดียวจบไปเลย”
แยมยิ้ม “ลุยทีเดียว! ฉันหอบลังน้ำกับลูกบาสครึ่งหนึ่ง แกเอากรวย เชือก แล้วก็บาสอีกครึ่ง”
“โอเค…” พิมสูดลมหายใจ มือซ้ายถือถุงกรวย มือขวาอุ้มลูกบาสสามลูก หนีบอีกลูกไว้ที่ข้อศอก แล้วแบกเชือกตีเส้นพาดไหล่ ดูเหมือนกำลังโชว์การทรงตัวมากกว่าขนของ
ทั้งสองเดินออกจากห้องเก็บของ คนในลานกีฬามองตาม บางคนยิ้มให้ บางคนหลบทาง พิมพยายามไม่คิดถึงเรื่องแก้วหกเมื่อวันก่อน วันนี้ห้ามพลาด
“ระวังขั้นบันได!” แยมเตือน
“รับทราบ!” พิมก้าวข้ามขั้นที่แตก เชือกบนไหล่เริ่มคลาย หางเชือกห้อยลงมาเกือบพันขา เธอขยับไหล่สะบัด แต่เพราะมือเต็มไปด้วยของ หางเชือกเลยดีดพันรอบเอวแน่นเหมือนเข็มขัดชั่วคราว
“โอ๊ย…ไม่เป็นไร ๆ” พิมหัวเราะแห้ง รีบปรับท่าแล้วเดินต่อ
ถึงขอบสนามยาง B โค้ชกับรุ่นพี่หลายคนกำลังคุยกันเรื่องลำดับคัดตัว เสียงนกหวีดดัง “ชิ๊บ!” ก่อนตามด้วยคำสั่ง “ตั้งกรวยสิบห้าจุด ระยะห้าเมตร เว้นเลนนี้ไว้เป็นทางวิ่ง!”
พี่จอมเห็นพิมกับแยมเดินมาถึงก็พยักหน้า “เยี่ยม เอากรวยไปวางตามบล็อกนี้เลย เชือกไปกับพี่กันต์ เดี๋ยวเขาลากเส้นแบ่งคอร์ต”
กันต์ เพื่อนสนิทธันวาโผล่มาพอดี ใบหน้าคมมีแววขี้เล่น “น้องพิมใช่มั้ย โอเค งั้นพี่ขอเชือกนะ เดี๋ยวไปทำเส้น”
“ค่ะ—” พิมจะยกเชือกลง แต่เชือกที่พันเอวแน่นกลับดึงติดกับสายกระเป๋าผ้าและถุงกรวย เธอบิดซ้ายทีขวาทีจนพันกันยิ่งกว่าเดิม
“ให้ช่วยมั้ย” กันต์ยิ้มขำ ๆ
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวได้—” พิมดึงแรงเกินไป เชือกสวิงพันแขนเกี่ยวกับถุงกรวย ลูกบาสที่คาอยู่ข้อพับหลุดกลิ้งออกไป
“พิม!” แยมร้อง แต่สายไปครึ่งวินาที
ตุ้บ…ถุงกรวยหลุดมือ ลูกบาสสามลูกกลิ้ง “ตุบ ตุบ ตุบ” เชือกดึงจนพิมเสียหลัก เธอก้าวถอยหลังแต่ดันเหยียบกรวยที่ตกอยู่—แกร๊ก! แผละ! ล้มก้นกระแทกพื้นสนามยางเต็มแรง
เสียงรอบสนามเงียบไปหนึ่งจังหวะ ก่อนมี “โอ๊ะ!” และเสียงหัวเราะเบา ๆ ดังประปราย
พิมนั่งกะพริบตาปริบ ๆ มือยังถือหูถุงกรวยอยู่คนละใบเหมือนโชว์กลาง เธออยากมุดลงดินให้รู้แล้วรู้รอด แต่ยังพยายามดึงชายเสื้อลงมาปิดเข่า อย่าซ้ำรอยแก้วหกอีก…
“ฮ่า ๆ ๆ โอ้ย น้อง เหมือนโดนเชือกจับกุม” กันต์หัวเราะกลั้นไม่อยู่ แต่ก็ยื่นมือมาให้ “ลุกไหวมั้ย”
พิมกำลังจะเอื้อมมือไป ทันใดนั้นร่างสูงในเสื้อโปโลสีดำก็ก้าวเข้ามาที่ขอบสนาม…สายตาคมเรียบ นิ่ง — ธันวา.
เขาไม่ได้รีบ ไม่ได้ถามอะไรยืดยาว แค่ก้มลง มือหนึ่งแกะปมเชือกออกจากกระเป๋าอย่างแม่นยำ อีกมือหมุนเชือกเก็บเข้ารูปเหมือนคุ้นเคย แล้วพูดเสียงเรียบ “ปล่อย ผมยกเอง”
ก่อนพิมจะเถียง เขายกเชือกพาดบ่าเหมือนไม่หนัก คว้าถุงกรวยจากมือเธอรวบไว้ทีเดียว ก้มเก็บลูกบาสหนีบกับสะโพกสองลูก แขนอีกข้างเกี่ยวอีกลูก รวมทั้งหมดห้าอย่าง แล้วลุกขึ้นยืนราวกับไม่มีอะไรยาก
เขาหันไปบอกกันต์สั้น ๆ “เอาเชือกไป” แล้วยื่นให้ กันต์รับทันทีพร้อมยิ้มเก้อ ๆ “ครับหัวหน้า”
ธันวาหันกลับมามองพิม สายตากวาดเช็กตั้งแต่หัวจรดเท้า ไม่ได้ตำหนิ แต่ถามสั้น ๆ “เจ็บมั้ย”
พิมส่ายหน้าเร็ว “มะ…ไม่ค่ะ” ถึงก้นจะชาแต่ศักดิ์ศรี “อาสาเบื้องหลังทุกอย่าง” ยังอยู่ เธอรีบปัดฝุ่นกางเกงแล้วลุกขึ้นเอง
“ดี” เขาพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนหันไปมองกรวยที่กระจาย แล้วออกคำสั่ง “กันต์ วางกรวย 1–15 ช่องละห้าเมตร พิม ไปช่วยฝ่ายน้ำตรงเต็นท์ ขาดคน”
เสียง “ครับ” ของกันต์ดังทันที ส่วนพิมก็ตอบ “ค่ะ!” เสียงดังเกือบเหมือนเคารพธงชาติ ใจยังเต้นไม่หยุดกับประโยคสั้น ๆ “ปล่อยผมยกเอง” ที่กลายเป็นซาวด์แทร็กฮีโร่ในหัวเธอ
ระหว่างเดินออกไป พิมเหลือบเห็นแยมยืนอ้าปากค้างอยู่ไกล ๆ ก่อนยกนิ้วโป้งส่งสัญญาณ เธอหัวเราะหอบ ๆ กับตัวเอง ซวยก็ตรงที่พระเอกมาเห็นฉากโกลาหลเต็ม ๆ นี่แหละ…
ถึงเต็นท์ฝ่ายน้ำ ลังน้ำดื่มซ้อนกันสามชั้น พี่ผู้ชายอีกคนชื่อบอลกำลังลากพาเลต “น้องพิมใช่มั้ย ช่วยเปิดฝาขวดแล้วแจกตามจุดให้หน่อย”
“ได้ค่ะ” พิมรับคัตเตอร์มา กรีดห่อพลาสติกอย่างระวัง คราวนี้เธอทำทุกขั้นตอนช้าลง เปิดฝากว้าง ส่งขวดไปทีละรอบ กลับมาเปิดห่อใหม่ในจังหวะสม่ำเสมอ เธอพึมพำกับตัวเอง ทำให้เป็นจังหวะ ทำให้เป็นจังหวะ…
ไม่นาน น้อง ๆ ที่มาคัดตัวเริ่มเข้าคิวเช็กชื่อ พี่จอมเป่านกหวีด “เลนวอร์มอัพตรงนี้!” พิมรีบวิ่งไปวางน้ำเพิ่มที่จุดพัก สลับกับถือถังน้ำแข็งเติมตู้กด วิ่งวนจนเหงื่อซึม
“พิม!” แยมโผล่มาพร้อมลิฟต์มือบรรทุก “ขึ้นมา เดี๋ยวเราเข็นไปจุดกรวยให้”
“ขอบใจ—” พิมกระโดดขึ้นท้ายลิฟต์ มือจับเสา เข็นผ่านหลังธันวาที่กำลังกอดอกมองการวัดความเร็วเลี้ยงบอล เธอรีบหลบตา ไม่อยากโป๊ะอีก
แต่ธันวาหันมามองพอดี สายตาชนกันตรง ๆ พิมรีบยกขวดน้ำขึ้นนิดหนึ่งเหมือนบอก แจกน้ำค่ะ ท่าซื่อ ๆ เขาไม่ยิ้ม ไม่พยักหน้า แค่หันกลับไปมองสนาม แต่พิมกลับรู้สึกชัดว่าเขา “รับรู้”
การคัดตัวเข้มขึ้น เสียงรองเท้ากระทบพื้น เสียงลูกบาสลงห่วงดังสวบ เสียงเชียร์กระจายรอบสนาม พิมกับแยมวิ่งทำงานหลังบ้านจนลืมเวลา แม้ก้นที่ล้มเมื่อกี้ยังเจ็บ แต่ความฮึกเหิมกลบหมด
พักครึ่งแรก พี่จอมตะโกน “แจกน้ำ! แจกน้ำ!”
พิมสะพายกระเป๋าผ้าน้ำขวดสองข้าง วิ่งไปตามเลน วางขวดตรงหน้าคนคัดตัวทีละแถว “นี่ค่ะ นี่ค่ะ” มือคล่องขึ้นทุกครั้ง หยิบ—วาง—ยิ้ม—ถอย—ไม่ขวางทาง—มองเช็กว่าต้องการเพิ่มไหม
จังหวะหนึ่ง พิมวางขวดที่ปลายเลนแล้วเงยหน้าขึ้น เจอธันวายืนอยู่พอดี เขาเพิ่งสั่งงานผู้ช่วยเสร็จ มือเอื้อมหยิบขวดจากเธอไปหนึ่ง ไม่ได้มองหน้าโดยตรง แต่พูดสั้น ๆ “ขอบคุณ”
พิมชะงักนิดเดียว ก่อนพยักหน้า “ค่ะ” เสียงดังเกินที่คิด รีบถอยสองก้าวจนเกือบชนเสาธง แต่คว้าไว้ได้ทัน คล่องมือ ๆ สิพิม เธอเตือนตัวเอง
กันต์เดินมาพอดี แกล้งหยอกเสียงสดใส “น้องพิมเมื่อกี้ท่ายากมากนะ เอาเชือกพันตัวแล้วสไลด์ลงพื้น ยกให้ 9 เต็ม 10 จากกรรมการกันต์”
พิมยกมือไหว้ตอบขำ ๆ “ขอบคุณค่ะ สัญญาจะไม่รีรันแล้ว”
ธันวาเหลือบตามามองนิดเดียว เหมือนจะบอกว่า อย่าให้มีรอบสอง แต่ไม่พูดออกมา
ช่วงทดสอบความอึดเริ่มขึ้น นักกีฬาวิ่งสลับยิง พักแค่สั้น ๆ พิมกับแยมวิ่งเติมน้ำไม่หยุด ระหว่างนั้นมีเสียงเรียกจากโต๊ะสื่อ “น้องพิม ๆ ช่วยถือบอร์ดเลขให้โค้ชที”
พิมรับทันที เดินเลียบเส้นขาว ชูบอร์ดให้เห็นชัด ขยับตามเกมอย่างไม่เกะกะ คราวนี้เธอคุมจังหวะได้ดีขึ้นจริง ๆ
“เอ้า เก่งขึ้นว่ะ” แยมกระซิบตอนแอบกินกล้วยหอมหลังเต็นท์
“ก็…เขาเห็นฉากล้มไปแล้ว จะล้มอีกก็โป๊ะเกิน” พิมหัวเราะ แต่ในใจไม่อยากให้ธันวาจำภาพเธอว่าแค่ “ซุ่มซ่าม”
ครึ่งหลังเริ่มเข้มข้น ธันวายืนคุมกลางสนาม คำสั่งของเขาสั้นและชัด
“สลับเลน—ยิง—รีบาวด์—เปลี่ยน”
เขาแทบไม่ต้องตะโกน ความนิ่งของเขาทำให้ทุกคนฟังและขยับพร้อมกัน
พิมสังเกตเขาระหว่างทาง — เขาเก็บขวดที่เกะกะออกจากเส้น เขาก้มผูกเชือกรองเท้าให้น้องที่ผูกไม่แน่น เขาปรับกรวยที่เอียงโดยไม่รอใครสั่ง เรื่องเล็ก ๆ แต่ทำให้สนามเรียบร้อยโดยไม่ต้องประกาศตัวเอง
นี่แหละ หัวหน้าชมรมที่เคยพูดว่า “ทุกตำแหน่งสำคัญเท่ากัน” แล้วทำจริง พิมคิด เธอยกถังน้ำแข็งอีกครั้ง รู้สึกว่ามือไม้คล่องขึ้นแม้จะเหนื่อย
ท้ายกิจกรรม มีเหตุวุ่นนิดหน่อย สายลำโพงสะดุดกับถังขยะเกือบล้มใส่เลนวิ่ง พิมเห็นทัน รีบวางถังน้ำแล้วพุ่งไปประคอง ครืด…กึก! เธอยื้อไว้ได้ น้ำแข็งหกบนพื้นเล็กน้อย เธอตะโกนทันที “ระวังพื้นลื่นค่ะ!” แล้วคว้าไม้ถูที่ยืมแม่บ้านมาเช็ดออกอย่างคล่อง
ธันวาหันมาเห็นพอดี ดวงตานิ่ง ๆ ของเขาเหมือนตรวจสถานการณ์ แวบหนึ่งพิมเหมือนเห็นปลายตาเขายิ้ม? เธอไม่แน่ใจ แต่ในใจกลับรู้สึกเหมือนถูกประทับตรา “ผ่าน”
เสียงนกหวีดสุดท้ายดัง “ปรี๊ดดด!” จบคัดตัวรอบแรก ทุกคนถอนหายใจพร้อมกัน
“สตาฟรวม!” พี่จอมเรียก ทีมหลังบ้านไปรวมตัวหลังเต็นท์ พิมกับแยมยืนหอบ เหงื่อเกาะไรผมแต่ตาเป็นประกาย
“วันนี้ดีมาก ขอบใจทุกคน ทั้งยกของ เติมน้ำ ทำสัญลักษณ์ ขอพักห้านาทีแล้วช่วยเก็บสนามต่อ” พี่จอมพูดพร้อมยิ้ม
กันต์เดินมาถือกระปุกน้ำมันมวย “ใครก้นกระแทกพื้นบ้าง ยกมือ—พี่มีของดี”
แยมรีบชี้พิม “นี่เลยค่ะ ผู้เสียสละสนามยาง!”
เสียงหัวเราะดังรอบวง พิมยกมือครึ่งเดียว หน้าแดง “โอเค…นิดหน่อยค่ะ” กันต์ยื่นยาให้ “ทาตอนกลับหอนะ”
พิมกำลังจะรับ แต่ร่างสูงก็เดินเข้ามา ธันวาวางแฟ้มรายชื่อบนโต๊ะ เขาไม่ร่วมวงคุย แค่หันมาบอกพิมสั้น ๆ
“ตอนเก็บสนาม ระวังเชือก” น้ำเสียงเหมือนพูดกับคนที่เคยมี “ประวัติ”
พิมยิ้มเล็กน้อย “ค่ะ จะระวังเป็นพิเศษ”
เขาพยักหน้า แล้วเดินไปคุยกับโค้ชอีกมุม
แยมรีบกระซิบ “แก เขาจำเคสเชือกของแกได้ด้วยอะ โอ๊ย น่ารักในแบบพี่คูล!”
พิมกลอกตา แต่ยิ้มไม่หุบ “หยุดแซว เดี๋ยวทำงานต่อก่อน”
ช่วงเก็บสนาม พิมตั้งใจสุด ๆ เธอจับเชือกหามุมแล้วค่อย ๆ ม้วนตามทิศทาง ไม่ฝืน ไม่ดึงแรง รวบหางเชือกพันเป็นเลขแปดแล้วรัดอย่างที่กันต์สอน สำเร็จในครั้งเดียว
“โอ้โห มือขึ้นแล้วน้อง” กันต์ชม
“ขอบคุณค่ะ วันนี้ได้เรียนรู้เยอะเลย” พิมยิ้มกว้าง
กรวยซ้อนเรียง ลูกบาสเก็บเข้าลังครบ พิมช่วยพี่บอลยกปลายลัง กล้ามแขนล้า แต่ใจกลับเบาสบายอย่างบอกไม่ถูก
………(มีต่อ 5 )………
꒰ ⁺⋆ °˖✧₊˚ ꔛ﹆ •⌯✧ ⋆♡̷̷̷ ⑅◡̈