📚 ปาร์ตี้ชมรม (จัดฉาก) ᨳ﹅♥︎₊˚

2176 Words
📚“16” ᨳ﹅♥︎₊˚ เย็นวันศุกร์ หลังซ้อมเสร็จ กันต์ยกเสียงดังกลางสนาม “วันนี้ไม่มีประชุม! ไม่มีงาน! ไม่มีไฟดับ! ทุกคน คาเฟ่หลังมอ ใครไม่ไปถือว่าขัดคำสั่งฝ่ายสื่อ!” เสียงเฮดังทันที แยมตะโกนแซว “นี่ชมรมกีฬาหรือทัวร์บริษัทคะพี่!” แต่ก็หัวเราะ เพราะรู้ว่ากันต์ตั้งใจชวนให้ทุกคนผ่อนคลาย พิมที่กำลังเก็บสายไฟหยุดมือเมื่อได้ยินคำว่า “คาเฟ่” เธอไม่ได้อยากปฏิเสธ แต่ในใจลังเลว่าจะนั่งตรงไหน ยังไง โดยเฉพาะถ้าธันวาไปด้วย “เปิด” กันต์ลากทุกคนไปคาเฟ่หลังมอ “รีแลกซ์” คาเฟ่ชื่อ Mellow Court อยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยแค่ห้านาที เดินเข้ามาแล้วบรรยากาศเหมือนรีสอร์ตเล็ก ๆ มีโซฟาหนังสีเข้มรอบโต๊ะไม้ยาว เพลงแจ๊ซเบา ๆ คลอไปกับกลิ่นกาแฟและเค้ก กันต์ขยับโต๊ะกลางร้านมาต่อเป็นแถว “พี่ หนูรวมโต๊ะนะ จะได้ถ่ายรูปหมู่ง่าย” เจ้าของร้านหัวเราะ “เอาเลยกันต์ ร้านว่างอยู่แล้ว” ทุกคนนั่งกันตามสบาย แต่กันต์แอบมองพิมกับธันวา เขากระซิบแยม “เดี๋ยวฉันจัดที่นั่งให้เนียน ๆ แกช่วยบังหน่อย” แยมยักคิ้ว “โอเค ฉันจะทำเป็นคุยดึงคนไปอีกฝั่ง” สุดท้ายกันต์จัดที่นั่งให้ธันวาอยู่มุมซ้ายสุดของโซฟายาว แล้วเหลือเก้าอี้ว่างพอดีสำหรับพิมข้าง ๆ จากนั้นเขาก็นั่งฝั่งตรงข้าม ยิ้มเงียบ ๆ เหมือนวางหมากสำเร็จ “กลาง” จัดที่นั่งให้พิม–ธันวาข้างกันแบบแนบเนียน “พิม ทางนี้” กันต์เรียกเสียงดัง พิมเดินไปตามเสียง ก่อนรู้ตัวก็ยืนอยู่ตรงเก้าอี้ที่เหลือข้างธันวา เธอชะงักนิดหน่อยเมื่อเห็นเขา ธันวาใส่โปโลกรมท่า กางเกงยีนส์เข้ม ดูสบาย ๆ แต่ยังนิ่งเหมือนเดิม “นั่งเลย” เขาขยับให้ เธอยิ้มบาง “ขอบคุณค่ะ” แล้วนั่งลง โต๊ะเริ่มคึก เสียงสั่งเมนูดังต่อกัน “ลาเต้เย็นครับ” “บลูเลมอนโซดาค่ะ” “เอสเพรสโซ่ดับเบิล” กันต์สั่งใหญ่ ทั้งกาแฟ แพนเค้ก ครัวซองต์สาม “กันไว้เผื่อหิว” พิมเปิดเมนูแต่ใจเหม่อ แอบเหลือบมองแก้มธันวาตอนเขาก้มสั่ง “เอสเพรสโซ่เย็น” น้ำเสียงเรียบเหมือนทุกครั้ง ไม่นาน ขนมกับเครื่องดื่มเต็มโต๊ะ แยมเปิดบทสนทนา “ปิดเทอมนี้ใครจะไปไหนบ้าง” มีทั้งทะเล ภูเขา บ้านต่างจังหวัด กันต์ชวนคุยต่อ ส่วนพิมฟังเงียบ ๆ แต่หัวใจกลับเต้นแรงเพราะรับรู้ถึงความใกล้จากคนข้างตัว “จุดพีค” แก้วของธันวาวางใกล้มือพิม เขาขยับให้ “เดี๋ยวหก” พิมกำลังหัวเราะกับมุกพี่จอม มือเอื้อมไปจะหยิบส้อมแบ่งเค้ก แต่ปลายนิ้วเกือบชนแก้วเอสเพรสโซ่เย็นของธันวาที่วางชิด ธันวารีบดึงแก้วเข้าหาตัว “เดี๋ยวหก” น้ำเสียงเรียบ แต่ฟังออกว่าห่วง พิมชะงัก หันไปสบตาเขาแค่ครู่เดียว แต่กลับรู้สึกว่าสายตานั้นอ่อนลงกว่าตอนอยู่ในสนาม “ขอบคุณค่ะ” เธอพูดเบา ๆ แล้วนั่งตัวตรง แต่แก้มร้อนขึ้นอย่างห้ามไม่ได้ กันต์ที่นั่งฝั่งตรงข้ามเห็นเต็ม ๆ ต้องก้มแกะครัวซองต์กลบยิ้มทันที “ปิด” พิมได้รูปหมู่ที่เขาอยู่ข้าง ๆ ซูมเก็บทันที หลังจากเสียงหัวเราะซาลง กันต์หยิบมือถือ “ถ่ายรูปหมู่ ๆ เดี๋ยวไม่มีลงเพจ” เขาตั้งขาตั้งเล็ก ๆ กลางร้าน กวาดมุมให้ครบทุกคน “โอเค ยิ้ม…หนึ่ง สอง สาม” แชะ! พิมยิ้มตาม แต่หัวใจเต้นแรงเพราะธันวานั่งใกล้จนไหล่แทบชน เธอแอบมองจอพรีวิว ใช่ เขาอยู่ข้างเธอชัดเจน พอได้ไฟล์รูป พิมรีบเซฟแล้วซูมเฉพาะมุมที่ตัวเองกับเขานั่งติดกัน ใบหน้าของเขานิ่ง ๆ แต่ใกล้จนรู้สึกได้ เธอมองภาพนั้นอยู่นาน ก่อนจะกดตั้งเป็นรูปโปรไฟล์ไลน์ทันที (ครอปให้เหลือแค่ตัวเองกับเศษแขนเสื้อเขา) ในใจพิมมีเพียงความคิดเดียว กันต์จัดฉากสำเร็จแล้ว…ขอบคุณจริง ๆ ⟣┄─ ˑ ഒ 📚 “17 ” บทสนทนานอกตำรา ༊*·˚ คาเฟ่ Mellow Court ค่อย ๆ เงียบลง เพลงเบาลงตามคนที่ทยอยกลับ กลิ่นกาแฟยังลอยอุ่นอยู่เหนือโต๊ะไม้ยาวที่เต็มไปด้วยแก้วและจาน กันต์ลุกตบมือ “กิจกรรมรีแลกซ์โดยฝ่ายสื่อจบแล้วครับ ค่าใช้จ่ายแยกกัน แต่หัวใจรวมกัน” ทั้งโต๊ะโห่แซว ก่อนเขาจะสั่งต่อ “ใครว่างช่วยเก็บโต๊ะ เก้าอี้ จานหน่อย” พิมยกมือทันที “หนูช่วยค่ะ” แยมเดินไปเคลียร์หน้าเคาน์เตอร์กับเจ้าของร้าน พี่จอมขยับเก้าอี้เข้าที่ ส่วนกันต์…ถือมือถือถ่ายคลิปลงสตอรี่เหมือนเดิม ธันวาลุกเงียบ ๆ หยิบผ้าเช็ดโต๊ะจากพนักงาน แล้วยื่นอีกผืนให้พิม “เอา” “ขอบคุณค่ะ” พิมรับมา รีบกวาดเศษน้ำตาลบนโต๊ะ ข้างตัว ธันวากำลังซ้อนจานเป็นตั้งอย่างเป็นระเบียบ ทุกจังหวะนิ้วของเขาดูเป็นคนที่คุ้นกับการจัดทุกอย่างให้อยู่เข้าที่เสมอ “แก้วยังไม่หมด?” ธันวาถามเรียบ ๆ “อีกนิดค่ะ หวานพอดีเลย” พิมยิ้มตอบ เขาพยักหน้า ก่อนเลื่อนไปเช็ดคราบน้ำแข็งที่ละลาย สายตากวาดช้า ๆ เหมือนจะไม่ยอมให้เหลือแม้รอยเล็ก ๆ พิมแอบขำในใจ ถ้าเทปผ้าคือโหมดสนาม ผ้าเช็ดโต๊ะก็คือโหมดคาเฟ่ของเขา แค่เปลี่ยนอุปกรณ์ แต่ยังคือ “ทำให้ของทำงาน” เหมือนเดิม ลูกค้าคนสุดท้ายออกจากร้าน เสียงกระดิ่งดังเบา ๆ เหลือเพียงพวกเธอ พี่เจ้าของร้านเอ่ย “เก็บช้า ๆ ก็ได้ เดี๋ยวพี่ปิดไฟเอง” แล้วหายไปหลังครัว พิมยกถาดจากโต๊ะปลายห้องมาวางที่เคาน์เตอร์ พอหันกลับมาก็เจอธันวายืนรออยู่ใกล้ ๆ เหมือนตั้งใจรอจังหวะให้ตรงกัน “ครอบครัวเป็นยังไงบ้าง” เขาถามขึ้นเสียงธรรมดา แต่สำหรับพิม มันไม่ธรรมดาเลย เพราะเขาไม่เคยชวนคุยนอกเรื่องซ้อมมาก่อน เธอชะงักนิด “เอ่อ… อยู่ต่างจังหวัดค่ะ แม่ชอบปลูกต้นไม้ พ่อชอบทำขนม บ้านเลยหอม ๆ อุ่น ๆ ตลอด” ธันวาพยักเบา ๆ เหมือนส่งสัญญาณให้เล่าต่อ พิมหัวเราะเบา ๆ ก้มมองว่าโต๊ะยังเหลือแก้วไหนไม่เก็บ ก่อนย้ายผ้าเช็ดไปบนไหล่ “แม่ปลูกทุกอย่างที่เอื้อมถึงค่ะ จากกระถางเล็ก ๆ ไปจนถึงไม้เลื้อยเต็มระเบียง กลับบ้านทีไรเหมือนเจอป่ามินิ แม่ยังเขียนป้ายชื่อต้นไม้เองด้วย ‘มินต์’ ‘โหระพา’ ‘โรสแมรี’ ‘ผักชีฝรั่ง’ บางทีก็ขัดป้ายใหม่ให้สะอาด เห็นแล้วน่ารักดี” “พ่อ?” เขาถามสั้น ๆ “พ่อเป็นมนุษย์เตาอบค่ะ” พิมหัวเราะ “ทำขนมจนเพื่อนบ้านเรียก ‘ลุงเค้ก’ เริ่มจากทำเค้กวันเกิดให้แม่แล้วติดใจ วันหยุดทีไรก็อบขนมปัง คุกกี้ บราวนี่ บ้านเลยหอมเนยหอมวานิลลาตลอด” ธันวาวางผ้า เช็ดมือบนผ้ากันเปื้อน “เลยชอบกลิ่นอบใหม่” “ใช่ค่ะ” พิมพยักหน้า “มันให้ความรู้สึกเหมือนบ้านเปิดไฟอุ่น ๆ โดยไม่ต้องกดสวิตช์ แค่ได้กลิ่นก็รู้ว่ามีคนอยู่ รอให้กลับไปกินของร้อน ๆ” เขาเงียบไปครู่หนึ่ง เหมือนเก็บคำตอบเข้าความทรงจำ “ที่มหา’ลัย อยู่หอ?” “ค่ะ หอใน ห้องเล็ก ๆ แต่มีหน้าต่างรับแดดเช้าเลยวางต้นยางอินเดียไว้ตรงนั้น แล้วก็…” พิมชี้กระเป๋าผ้าของตัวเอง “มักพกขนมติดกระเป๋า เผื่อใครหิวตอนซ้อม” เขาพยักช้า ๆ แล้วพูดเบา ๆ “เลยพกขนมตลอด” ประโยคไม่ใช่คำถาม แต่เป็นการสังเกต พิมนึกถึงหลายครั้งที่เคยให้คุกกี้กันต์ ยื่นลูกอมให้พี่จอม หรือแอบวางกล้วยไว้ที่โต๊ะเทคนิค เธอคิดว่าไม่มีใครสนใจ แต่เขากลับรู้ หัวใจพิมอุ่นเหมือนถูกละลายด้วยเนยร้อน ๆ เธอเงยหน้าถามเบา ๆ “พี่สังเกตด้วยเหรอคะ” “อืม” เขาตอบสั้น ๆ ไม่ขยายความ แต่สายตานิ่ง ๆ เหมือนจะบอกว่า ผมเห็นเสมอ…เวลาที่เธอทำให้ระบบยังมีแรงเดินต่อ กันต์เดินผ่านมาพอดี ยกนิ้วโป้ง “ฝั่งโน้นเก็บจานเสร็จละ โอ้ย มุมนี้หอมวานิลลาขึ้นมาเลย” “ไปไลฟ์สดต่อที่ครัวพ่อหนูไหมคะพี่” พิมแซวกลับ แยมที่เดินมาจากเคาน์เตอร์หัวเราะเสียงดัง “ถ้าเธอทำขนมเป็น พรุ่งนี้ขอชิม” กันต์ยักคิ้ว คำว่า พรุ่งนี้ ทำให้พิมหันไปมองธันวาโดยไม่ตั้งใจ เขาไม่พูดอะไร แค่ก้มพับผ้าเช็ดโต๊ะเป็นแท่งเรียบร้อย เหมือนบอกเงียบ ๆ ว่า เอามาก็ได้ “งั้น…พรุ่งนี้หนูลองทำบราวนี่มาให้ชิมนะคะ” พิมตัดสินใจ แยมตบมือดีใจ “เยส!” กันต์ผิวปาก “ประกาศลงกลุ่มเลยไหม” “อย่าเลยพี่ เดี๋ยวคาดหวังกันทั้งชมรม” พิมรีบโบกมือ “ทำไม่อร่อยนี่มีร้องไห้แน่” ธันวาวางผ้าลงบนเคาน์เตอร์ แล้วเลื่อนแก้วเอสเพรสโซ่เย็นของตัวเองออกจากมุมที่ถาดวางเอียง “เดี๋ยวหก” คำพูดสั้น ๆ เสียงเรียบเหมือนเดิม แต่พิมเห็นรอยยิ้มเล็ก ๆ แอบอยู่ในนั้น ทั้งเหมือนเตือนและเหมือนเอ็นดู “รับทราบค่ะหัวหน้า” พิมยกมือทำท่าตะเบ๊ะตามเคย กันต์หัวเราะ “อย่าเรียกหัวหน้าตอนอยู่นอกร้าน เดี๋ยวคนหันหา” “งั้น…ค่ะ ‘พี่’ ” พิมแก้ ก่อนแอบเหลือบมองใบหูธันวายังแดง ๆ เหมือนตอนเช้าอยู่หรือเปล่านะ เธอไม่แน่ใจ แต่อุ่นในอกขึ้นมาเอง พวกเขาช่วยกันเก็บจนร้านเรียบร้อย โต๊ะยาวถูกเลื่อนเข้าที่ เก้าอี้เรียงเป็นแถว พี่เจ้าของร้านยกกล่องคุกกี้ออกมา “ให้เด็ก ๆ เอากลับไปกิน” “ขอบคุณครับพี่” กันต์รับก่อนแล้วแบ่งให้ทุกคน “เฮ้ พิม เธอนี่ต้องชิมเป็นกรรมการนะ” พิมหัวเราะ “รับตำแหน่งด้วยความยินดี” เธอหยิบคุกกี้ขึ้นมาดม กลิ่นเนยผสมช็อกโกแลตคุ้นเคยจนอยากโทรหาพ่อทันที แล้วหยิบอีกชิ้นใส่กระเป๋าผ้า—เผื่อใครหิวระหว่างทางกลับหอ พอออกจากร้าน ลมเย็นกลางคืนพัดมา ทางเดินหลังมอมีไฟถนนสีส้มส่องเป็นช่วง ๆ กลิ่นดินชื้นจากร้านต้นไม้ใกล้ ๆ ลอยมา ธันวาเดินนำก้าวครึ่ง พิมเดินตามข้าง ๆ เว้นระยะพอดีใกล้พอคุยได้ แต่ไม่ล้ำเกิน “บ้านพี่อยู่ไหนคะ” พิมลองถาม “ชานเมือง” เขาตอบสั้น “แถวคลอง” “มีสวนมั้ยคะ” “มีบ้าง” เขาคิดนิด “พ่อชอบเครื่องมือ แม่ชอบต้นไม้ บ้านเลยเหมือนที่เก็บเครื่องมือในสวน” พิมหัวเราะ “ฟังดูเป็นระบบความสุขดี” ธันวาเงยหน้ารับลม “ลมดี เดินกลับไหวใช่ไหม” “ไหวค่ะ หอไม่ไกล เดี๋ยวเดินกับแยม” “อืม” เขารับ ก่อนหันไปบอกกลุ่ม “แยกตรงนี้ ปลอดภัยแล้ว ระวังทางด้วย” น้ำเสียงสั้น ๆ แต่เหมือนเดิมเป็นภาษาของ “คนดูแลเฟรม” แม้จะนอกสนาม พิมแอบยิ้มกับความสม่ำเสมอนั้น กันต์โบกมือ “เจอกันพรุ่งนี้ โหมดบราวนี่!” แยมตาเป็นประกาย “ฉันจะเป็นเจ้าแม่สายรีวิวเอง” “อย่าเพิ่งพูดคำว่ารีวิว เดี๋ยวเครียด” พิมทุบไหล่เพื่อนเบา ๆ ธันวาหยุดนิดเดียวก่อนแยก หันมามองพิม “บราวนี่…ไม่หวานจัด” น้ำเสียงเหมือนสั่งงาน แต่จริง ๆ คือการบอกความชอบ “รับทราบค่ะ” พิมยิ้ม “คาแรกเตอร์เข้มขมหน่อย แต่ยังอุ่นใช่ไหม” เขายกคิ้วน้อย ๆ คล้ายบอกว่า ใช่ แล้วพยักหน้า ก้าวออกไปเหมือนปกติ พิมมองตามแผ่นหลังเขาจนลับโค้ง ก่อนถอนหายใจยาว ๆ แยมแอบชะโงก “มุมปากแกขึ้นแล้วนะ” “บ้า” พิมหัวเราะ แต่ไม่เถียง เย็นนั้น พอกลับหอ พิมวางกระเป๋าแล้วเปิดหน้าต่างให้ลมเข้ามา เธอยกต้นยางอินเดียเล็กมาตั้งตรงขอบไฟถนน แล้วหยิบโทรศัพท์กดวิดีโอคอล “แม่~” ภาพแม่ในเสื้อยืดลายดอก มือถือตะกร้าดินขึ้นจอ “ว่าไงลูก” “คิดถึงกลิ่นบ้าน แม่ทำอะไรอยู่คะ” “กำลังย้ายกุหลาบไปแดดเช้า แดดบ่ายมันแรงไป” แม่หันกล้องให้ดู “แล้วลูกล่ะ กินข้าวหรือยัง” “กำลังจะทำบราวนี่ อยากได้สูตรพ่อ” พิมยิ้ม พ่อโผล่มาจากครัว ใส่ผ้ากันเปื้อนสีเทา “ใครเรียกมนุษย์เตาอบ” “ลูกจะทำบราวนี่ให้เพื่อนกินพรุ่งนี้” แม่พูดพลางหัวเราะ “โอ้โห เพื่อน? หรือว่าคนพิเศษ” พ่อยิงมุกทันที “เพื่อนทั้งชมรมค่ะ” พิมตอบเลี่ยง แต่แก้มร้อนเอง “พ่อมีเคล็ดลับไหมคะ อยากได้แบบเข้มขมแต่ยังอุ่น” พ่อทำท่าคิด “ใช้ดาร์กช็อกฯ 70% ขึ้นไป ใส่โกโก้ไม่หวาน แล้วเพิ่มเอสเพรสโซช็อตเล็กน้อย จะได้รสนัว อย่าตีแป้งนาน เนื้อจะได้หนึบ ไม่แห้ง” “อบกี่นาทีดีคะ” “เตาลูกเล็กใช่ไหม 170 องศา ประมาณ 18–20 นาที ใช้ไม้จิ้มฟันเช็ก ถ้ามีช็อกโกแลตชื้น ๆ ติดออกมา แปลว่าใช่เลย” แม่เสริม “โรยเกลือทะเลนิดบนหน้าก็อร่อยขึ้นนะ” “ขอบคุณค่ะแม่พ่อ” พิมยิ้มจนตาโค้ง “คิดถึงกลิ่นบ้านจัง” “ทำเสร็จถ่ายมาอวดด้วย” พ่อชูนิ้วโป้ง “ได้เลยค่า” เธอโบกมือก่อนกดวางสาย ………“17”(ต่อ)……… 𓇬 ⸝⸝⸝⋆ 🀱 𓈒𓐍 🀱˚.⃗ ⚯ ྀི 𓇬 ⸝⸝⸝⋆ 🀱 𓈒𓐍
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD