🫗(ต่อ) “3”⟢⊹
ทั้งคู่เดินออกจากห้องน้ำไปนั่งโต๊ะหลบมุมหลังเสา
พิมนั่งชิดด้านในไม่ให้แสงย้อนทำเสื้อดูบาง แยมดันถาดข้าวมาให้ “กินก่อน เดี๋ยวหมดแรงจีบ”
“กินไม่ลงเลย” พิมตักกะเพราเข้าปากนิดเดียว กลืนทั้งข้าวทั้งความอายลงไปพร้อมกัน
ไม่นาน ไลน์เด้งขึ้น เป็นกลุ่ม Basketball Club ที่เธอเพิ่งถูกเชิญเมื่อวาน
Admin: ซ้อมเปิดเทอมวันนี้ 17:30 สนามยาง B ใครสมัครใหม่มาลองได้
P’Jom (รองกัปตัน): มีงาน staff ปฐมนิเทศชมรมเสาร์นี้ ต้องการคนช่วยลงทะเบียน/แจกน้ำ
แยมชะโงกดูหน้าจอ “โอกาสมาแล้ว ลงชื่อ staff สิ ได้คุยกับพี่ ๆ แบบเป็การเป็นงาน ไม่ต้องแกล้งทำแก้วหกแล้ว”
พิมลังเลแป๊บเดียว แต่นิ้วพิมพ์ไปก่อนสมอง
“ขอสมัคร staff แจกน้ำค่ะ…พิม ปี 1 สถาปัตย์” กดส่ง
ห้านาทีต่อมา ข้อความตอบกลับมา
P’Jom: โอเคน้องพิม เจอกันเสาร์นี้ 9 โมง บูธหน้าอาคารกีฬา ❤️
พิมก้มมองว่าใครกดหัวใจ ธันวาหรือเปล่า แต่ขึ้นแค่ “สมาชิกคนหนึ่ง” เพราะเขาปิดชื่อผู้กด เธอหัวเราะเบา ๆ กับความอยากรู้ของตัวเอง
“แต่…ฉันยังอยากคุยกับเขาวันนี้” พิมพูดตรง ๆ
“โอเค เย็นนี้แกไปยืนดูเขาซ้อมข้างสนาม อย่าเกะกะ แล้วถ้าเขาเดินผ่าน — “ยิ้ม” ทักว่า ‘พี่คะ หนูชื่อพิมนะคะ คนที่ทำแก้วหกตอนเที่ยง’ แค่นี้พอ ไม่ต้องพูดยาว” แยมจัดแผนเป็นขั้น ๆ “จำไว้นะ ชื่อเธอต้องเข้าหูเขาให้ได้”
พิมหัวเราะ “เข้าใจแล้ว หัวหน้าทีมปฏิบัติการ”
ทั้งคาบบ่าย พิมพยายามตั้งใจฟังอาจารย์ในห้องเรียนแนะนำรายวิชา แต่ทุกครั้งที่อาจารย์พูดว่า “ความผิดพลาดเป็นครู” เธอรู้สึกเหมือนตัวเองได้ใบประกาศเกียรติคุณเรื่องนี้แล้ว ส่วนแยมก็ส่งสติ๊กเกอร์เป็ดเช็ดเหงื่อมาให้กำลังใจเป็นพัก ๆ
พอถึงห้าโมง พิมยืนหน้ากระจกห้องน้ำอีกครั้ง คราวนี้เธอมัดผมหางม้าให้แน่นขึ้น เปลี่ยนเป็นเสื้อยืดสีครีมตัวหลวมที่พกมาเผื่อฉุกเฉินกับกางเกงยีนส์ หยิบแฟ้มใส่กระเป๋าผ้าแล้วชวนแยมเดินไปอาคารกีฬา
สนามยาง B อยู่หลังตึก ตอนเย็นแดดอ่อน ๆ มีคนเล่นกีฬาหลายอย่างทั้งบาส กรีฑา แบดมินตัน เสียงลูกบาส กระทบพื้น “ตึง ตึง ตึง” ทำให้หัวใจพิมเต้นตามแบบไม่ตั้งใจ
ทีมบาสกำลังวอร์ม ธันวาอยู่ตรงฝั่งกรวยฝึกเลี้ยงบอล ใส่เสื้อซ้อมดำ กางเกงขาสั้นสีเข้ม เหงื่อที่หน้าทำให้ดูจริงจังขึ้น เธอสูดลมหายใจ — ใจเย็นไว้พิม วันนี้แค่เป็นแฟนคลับเงียบ ๆ
“ฉันไปนั่งตรงอัฒจันทร์เตี้ย ๆ นั่นนะ” แยมบอก “แกอยากเข้าใกล้ก็ได้ แต่ห้ามกวนตอนเขาซ้อม”
พิมพยักหน้า เดินไปยืนริมรั้วใกล้เส้นฐาน มองทีมซ้อมยิง ธันวายิงสามคะแนนติดสองครั้ง เสียง “สวบ” เข้าห่วงเนียนจนเธออยากปรบมือ แต่เก็บไว้ในใจ
ตอนพักดื่มน้ำ ธันวาเดินมาที่โต๊ะน้ำแข็ง เทน้ำใส่แก้วกระดาษ พิมใจหวิวขึ้นมา — อีกแล้วนะ แก้วอีกแล้ว อย่าซ้ำรอยตอนเที่ยง เธอถอยหลังไปครึ่งก้าวโดยอัตโนมัติ
เขาเห็นเธอไหม — เห็น เพราะสายตาเขาเหลือบมามองแวบเดียว แล้วหันกลับไปที่แก้วน้ำ ความนิ่งของเขาเหมือนเดิม ไม่ได้แสดงว่าให้ความสำคัญอะไร
พิมนึกถึงแผนของแยม “ยิ้ม” ทัก บอกชื่อสั้น ๆ เธอกำกระเป๋าแน่น สูดลมหายใจแล้วก้าวเข้าไปสองก้าว “พี่คะ”
ธันวาเงยหน้ามามองแป๊บเดียว “หืม?”
“เมื่อเที่ยง…หนู—” เธอรีบหยุดตัวเองไม่ให้พูดเรื่องแก้วหกอีก “คือ…หนูยังไม่ได้แนะนำตัว หนูชื่อพิมค่ะ ปีหนึ่ง สถาปัตย์”
เงียบไปครู่หนึ่ง ธันวาพยักหน้าเบา ๆ “อืม”
เขาไม่ได้พูดต่อ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกแย่ พิมเลยค้อมหัวนิดหนึ่ง “ขอโทษอีกครั้งนะคะเรื่องตอนเที่ยง…แล้วก็ขอบคุณสำหรับทิชชู่ค่ะ”
“อืม” เขาวางแก้วลง “จะยืนตรงนี้ ระวังโดนบอล”
คำเตือนสั้น ๆ ทำให้พิมเผลอยิ้ม เพราะรู้ว่าเขาห่วงในแบบของเขาเอง “ค่ะ จะระวัง”
โค้ชตะโกนเรียก “ธัน! ไปดริลล์ต่อ”
เขาพยักหน้า หยิบบอลแล้ววิ่งกลับไปซ้อม
แยมที่นั่งมองอยู่บนอัฒจันทร์รีบชูนิ้วโป้งให้ พิมยิ้มตอบ หัวใจอุ่นแปลก ๆ ถึงจะไม่ได้มีอะไรพิเศษ แต่ชื่อของเธอก็ไปอยู่ในความรับรู้ของเขาแล้ว
หลังซ้อมเลิกตอนหนึ่งทุ่ม พิมกับแยมกำลังจะเดินกลับ ก็ได้ยินเสียงเรียกจากข้างหลัง “น้องปีหนึ่ง”
พิมหันไป เป็นธันวา เขาเดินมาหยุดตรงหน้า ห่างหนึ่งก้าว เธอชะงักนิดหน่อย แต่ก็รีบยิ้ม
“คะ?”
เขายื่นถุงซิปล็อกเล็ก ๆ ให้ ข้างในมีผ้าไมโครไฟเบอร์พับเรียบร้อย “เผื่อวันไหน…น้ำหกอีก”
แยมที่ยืนข้าง ๆ ทำตาโต พิมชะงักแล้วหัวเราะออกมา “ขอบคุณค่ะ” เธอรับถุงนั้นไว้ “วันนี้จะพยายามไม่หกแล้วค่ะ”
เขาพยักหน้า คำเดียวที่พูดคือ “ดี”
“แล้ว…เสาร์นี้หนูลงสตาฟบูธชมรมบาส—” พิมรีบพูดเก็บความตื่นเต้น “เจอกันนะคะพี่”
“อืม” เขาเหลือบดูนาฬิกา “กลับดี ๆ”
ประโยคธรรมดา แต่ทำให้พิมรู้สึกเหมือนลมเย็นพัดผ่านหน้า ไม่มีคำหวาน แต่กลับจำขึ้นใจ
พอเขาเดินออกไป แยมรีบมากอดแขนพิม “โอ๊ยยยย นี่มันพี่คูลเวอร์ชันอบอุ่นแบบเนียน ๆ อะดิ—ให้ผ้าเช็ดตัวแบบมินิ! โห”
พิมยิ้ม หน้าแดงนิด ๆ หัวใจเต้นแรง “แต่เขายังเรียกเรา ‘น้องปีหนึ่ง’ อยู่เลย…”
“ก็ดีแล้วไง อย่างน้อยชื่อเธอก็เข้าไปในวงเขาแล้ว เสาร์นี้ก็โชว์ตัวในฐานะ ‘พิม ปีหนึ่ง’ ให้เต็มที่ไปเลย” แยมตอบมั่นใจ
พิมก้มมองถุงผ้าไมโครไฟเบอร์ พลิกดูมุมเล็ก ๆ มีคำว่า Club Use ปักไว้ เธอเดาว่าเขาคงหยิบมาจากอุปกรณ์ชมรม คนแบบเขาคงเตรียมพร้อมกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้เสมอ ความคิดนั้นทำให้เธอเผลอยิ้มออกมา
ระหว่างเดินกลับหอ พิมเปิดไลน์กลุ่มชมรม บรรยากาศคึกคัก
ฝ่ายสื่อ : เสาร์นี้ขอรูปถ่ายกิจกรรมเยอะ ๆ นะ
ฝ่ายน้ำ : ขอ staff สองคนช่วยยกลังน้ำ
พี่จอม : น้องพิม เดี๋ยวพี่จัดให้นั่งโต๊ะแจกน้ำหน้าสุดเลยนะ
ไม่กี่วินาที แยมก็ส่งแชทส่วนตัวมา
แยม : โต๊ะแจกน้ำ = จุดสายตา 100% ทุกคนต้องเดินผ่านแก
พิม : ขออย่างเดียว อย่าหกใส่ใคร
แยม : ได้ แต่ให้หก “ความน่ารัก” แทน
พิมหัวเราะจนคนที่เดินสวนหันมามอง เธอรีบก้มหน้า ยิ้มเงียบ ๆ แล้วเดินต่อ ก้าวยาวขึ้นนิดหน่อยเหมือนมีเป้าหมายชัดเจน
คืนนั้น พิมซักเสื้อที่รอดจากศึกน้ำแข็งด้วยตัวเอง เช็ดรองเท้าให้แห้ง วางผ้าไมโครไฟเบอร์ลงลิ้นชักพร้อมป้ายไว้ในใจว่า “ของสำคัญ” แล้วหยิบสมุดมาเขียนบันทึกหน้าใหม่
✍️
วันที่… ❤
แผนแก้วหก = ล้มเหลว แต่ได้ข้อมูลใหม่:
1. เขาช่วยเงียบ ๆ ไม่ทำให้ขายหน้า
2. เขาพูดตรง ๆ “ซุ่มซ่าม” = รับตรง ๆ ไม่มีการปลอบ
3. เขายังไม่รู้ชื่อฉัน เรียกว่า “น้องปีหนึ่ง”
เป้าหมายพรุ่งนี้: ทำให้ “พิม” ติดหู
เป้าหมายเสาร์นี้: ทำงาน staff ให้ดี ไม่โป๊ะ ไม่ทำแก้วหก (อีก)
ปล. ได้ผ้าไมโครไฟเบอร์จากเขา = ของที่ระลึกจากความเฟล
เธอปิดสมุด หัวเราะเบา ๆ กับประโยคสุดท้าย ก่อนดับไฟ กอดหมอนแล้วนอนคว่ำหน้า ภาพธันวาในเสื้อซ้อมสีดำกับคำว่า “ซุ่มซ่าม” ยังวนอยู่ในหัว แปลกดี คำที่ไม่น่าจะหวาน กลับทำให้เธอหลับง่ายขึ้น
☀️ เช้าวันต่อมา
แสงแดดลอดม่าน พิมตื่นเช้ากว่าปกติ เธอหยิบเสื้อยืดสีครีมที่ซักไว้ มัดผมหางม้า หยิบกระเป๋าผ้าไปเรียน เช็กของในกระเป๋าละเอียดกว่าทุกวัน และสุดท้ายก็หยิบถุงไมโครไฟเบอร์ใส่ไปด้วยเหมือนเครื่องรางกัน “แก้วหก”
เดินผ่านลานหน้าตึก เจอกลุ่มผู้ชายปีหนึ่งเล่นบาสกัน ลูกบอลพุ่งหลุดมา “ระวัง!” ใครสักคนตะโกน พิมถอยหนึ่งก้าว ลูกกลิ้งผ่านปลายรองเท้าไปนิดเดียว เธอหัวเราะกับตัวเอง—ดีแล้วที่คำว่า “ระวัง” ติดหัวมาตั้งแต่วันแรกที่วิ่งชน
เธอก้มเก็บลูก เงยหน้าขึ้นพอดี เห็นธันวาเดินเลียบสนามไปทางอาคารเรียน เขาหันมามอง เธอยกมือทักเล็ก ๆ ไม่หวังคำตอบ แต่เขาพยักหน้าเบา ๆ พอให้เธอเห็น หัวใจพิมก็ฟูขึ้นมาทันที
วันนี้เธอไม่ได้มีแผนอะไรใหญ่ ไม่มีแก้ว ไม่มีการแกล้ง ไม่มีเหตุสุดวิสัย มีแต่ความตั้งใจเรียบง่าย—ถ้ามีโอกาสจะบอกชื่อให้ชัดอีกครั้ง และเสาร์นี้จะทำหน้าที่ “น้อง staff แจกน้ำ” ให้ดีที่สุด
จริง ๆ แล้ว การ “เข้าหาแบบเนียน ๆ” ไม่จำเป็นต้องทำให้ทุกอย่างน่าตื่นเต้นเสมอไป บางทีมันคือการเดินทีละก้าวเล็ก ๆ อย่างไม่พลาดง่าย ๆ หรือถ้าพลาด ก็พลาดแบบพอรับได้ และเตรียมผ้าไมโครไฟเบอร์ไว้ทุกครั้ง
พิมหัวเราะเบา ๆ กับความคิดตัวเอง แล้วเดินเข้าตึกเรียน หัวใจเต้นเป็นจังหวะใหม่ที่ชัดขึ้น มีคำว่า “พิม” เขียนอยู่ในนั้นตามที่ตั้งใจไว้
ต่อให้เขายังเรียกว่า “น้องปีหนึ่ง” ไปอีกนาน เธอก็ตั้งใจจะทำให้ชื่อของเธอค่อย ๆ ซึมเข้าไปในโลกที่เงียบของเขา เหมือนน้ำที่หกวันนั้น แต่ครั้งนี้ไม่สร้างปัญหา แค่เย็น สบาย และอยู่ตรงนั้นอย่างพอดี
ก่อนเข้าห้อง เธอหยิบมือถือขึ้นมา พิมพ์ในไลน์กลุ่มชมรม
Pim (ปี 1): เสาร์นี้เจอกันนะคะทุกคน ฝากตัวด้วยค่ะ 😊
ไม่กี่วินาทีต่อมา มีหัวใจเด้งขึ้นมาอีกดวง เหมือนครั้งก่อน เธอไม่รู้ว่าใคร แต่วันนี้พิมยิ้มออกมาได้ โดยไม่ต้องเดาให้เหนื่อย เธอไม่จำเป็นต้องรู้ทุกอย่างในทันที
ทีละก้าว ทีละคำ ทีละชื่อ
จากวันนี้ไป เธอจะไม่ยอมให้ใคร—รวมถึงตัวเอง—ลืมชื่อของเธออีกแล้ว
น้องปีหนึ่ง…ชื่อพิมค่ะ
ﮩ٨ـﮩﮩ٨ـ
“4” หัวหน้าชมรม 🏀
เช้าวันเสาร์ แดดแรงจนลานอาคารกีฬาสว่างจ้า เสียงลำโพงประกาศงานปฐมนิเทศดังไปทั่ว บูธชมรมเรียงเต็มลาน ทั้งดนตรีไทย ถ่ายภาพ เต้นเชียร์
พิมกับแยมเดินเบียดฝูงชน มือกอดแฟ้มแน่น
“คนเยอะมาก…” พิมบ่นพลางมองหา
“นั่นไง สีส้มสดตรงกลาง” แยมชี้ไปที่บูธ Basketball Club มีรูปทีมแข่งติดผนัง โต๊ะวางลูกบาสกับโปสเตอร์ไฮไลต์
ทันใดนั้น เสียงไมค์ก็ดังขึ้น—เสียงทุ้ม เรียบ ชัดทุกคำ
“ต่อไปขอเชิญหัวหน้าชมรมบาสเกตบอล ขึ้นมากล่าวแนะนำครับ”
พิมชะงัก หันไปทางเวทีเล็กด้านหน้า
ธันวาในเสื้อโปโลดำปักโลโก้ชมรม กางเกงยีนส์พอดีตัว เดินขึ้นเวทีอย่างมั่นคง ไม่รีบร้อน เขาหยุดกลางเวที มองคนดูด้วยสายตานิ่ง ๆ เหมือนจ้องตรงถึงข้างใน
มือจับไมค์หลวม ๆ เอียงหัวเล็กน้อย
“ชมรมบาสเกตบอล ยินดีต้อนรับทุกคนครับ”
น้ำเสียงไม่ดัง ไม่ยืด แต่ฟังชัด เท่จนพิมใจเต้นแรง
“เรามีการซ้อมประจำสัปดาห์ การแข่งขันทั้งในและนอก และกิจกรรมร่วมกับชมรมอื่น ๆ ตลอดปี จะเล่นเป็นหรือไม่เป็น ถ้าสนใจ มาลองได้”
สายตาเขากวาดไปทั่ว หยุดครู่หนึ่งตรงที่พิมยืน—หรือเธอคิดไปเองก็ไม่รู้
“อยากให้จำไว้ บาสเกตบอลเป็นกีฬาทีม เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ทุกตำแหน่งสำคัญเท่ากัน”
เขาพูดจบด้วยน้ำเสียงมั่นคง ก่อนพยักหน้าแล้วส่งไมค์คืน
พิมกับแยมยืนมองแบบไม่เก็บอาการ
แยมกระซิบ “โอ้โห…ตอนอยู่ข้างล่างก็ว่าหล่อแล้ว ขึ้นเวทีนี่คือ…หล่อกระหึ่มลำโพง”
พิมหัวเราะเบา ๆ แต่ตายังไม่กะพริบ “แก…ฉันคอนเฟิร์มแล้ว เป้าหมายใหญ่จริง ๆ”
ทันใดนั้น กันต์ รุ่นพี่ผิวเข้มร่างสูงในเสื้อโปโลชมรม เดินขึ้นเวทีถือไมค์ ยิ้มกว้าง “หัวหน้าหล่อแบบนี้แหละ คนสมัครพุ่งแน่นอน!”
เสียงฮือฮาดังขึ้นทันที พิมเห็นมุมปากธันวากระตุกขึ้นนิดเดียว ก่อนส่ายหัวเบา ๆ เหมือนไม่อยากเล่นตาม แต่ก็ไม่ปฏิเสธ
กันต์พูดต่อ “ใครสนใจไปที่บูธได้เลยครับ ทีมเราจะคอยแนะนำ…ถ้าโชคดี อาจได้หัวหน้าสอนยิงลูกเองนะครับ”
เสียงกรี๊ดจากกลุ่มผู้หญิงด้านหน้าเวทีดังจนพิมกับแยมมองหน้ากัน
“แกมีคู่แข่งเป็นฝูงเลยนะ” แยมแซว
“รู้แล้ว…” พิมเม้มปาก แต่ตาเป็นประกาย “ยิ่งต้องเข้าไปให้ได้”
หลังพิธีจบ คนทยอยไปบูธ บูธบาสเต็มไปด้วยนักศึกษาที่มาลองเดาะลูกบาสและขอถ่ายรูปกับรุ่นพี่ กันต์กำลังอธิบายตารางซ้อม ส่วนธันวายืนอีกมุม จดรายชื่อคนที่ยื่นใบสมัคร
พิมใจเต้นแรงเมื่อคิวใกล้ถึง เธอรับปากกาและใบสมัครจากรุ่นพี่ผู้หญิงใจดี
ช่องแรก: ชื่อ-นามสกุล
เธอเขียนบรรจง “พิม…” ให้ชัดทุกตัวอักษร
ช่องถัดไป: คณะ / ชั้นปี / เบอร์โทร เธอกรอกครบเรียบร้อย แล้วมาถึงช่องเลือก เล่นในสนาม / ทีมซ้อม / ทีมสนับสนุน
แยมกระซิบ “แกติ๊กเล่นในสนามสิ จะได้ซ้อมใกล้ ๆ”
แต่พิมนึกถึงคำที่ธันวาพูดบนเวที “ทุกตำแหน่งสำคัญเท่ากัน” กับภาพเขายื่นผ้าไมโครไฟเบอร์ให้
พิมยิ้มบาง “ไม่…ฉันเลือกอาสาเบื้องหลังทุกอย่าง”
แยมตาโต “ทุกอย่างเลย!?”
“ใช่ งานอะไรให้ทำก็ทำหมด อยู่หลังบ้านก็ยังเห็นเขา” พิมพับมุมกระดาษอย่างมั่นใจ
เธอเดินไปวางใบสมัครตรงหน้าธันวาที่กำลังเช็กเอกสาร เขารับไปเงียบ ๆ กวาดตาอ่าน พิมกลั้นหายใจตอนสายตาเขาหยุดที่ชื่อบนกระดาษ
ธันวาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย “อาสาเบื้องหลังทุกอย่าง?” น้ำเสียงเรียบ ๆ
พิมพยักหน้า “ค่ะ ทำได้หมด”
เขาพยักรับสั้น ๆ “อืม” แล้ววางใบสมัครเข้ากอง
สำหรับเขาอาจเป็นขั้นตอนปกติ แต่สำหรับพิม มันคือหมากสำคัญ—ชื่อของเธออยู่ในมือเขาอีกครั้ง และครั้งนี้ชัดเจนเกินกว่าจะถูกลืมง่าย ๆ
✩ ₊˚🎧⊹♡ ˖⁺‧₊˚♡˚₊‧⁺˖ ֶָ֢ ﮩ٨ـﮩﮩ٨ـ♡ﮩ٨ـﮩﮩ٨ـ