📚“15” ✩‧₊˚⟢⊹
เช้าวันอาทิตย์หลังแมตช์ ยิมเปิดไฟครึ่งเดียว เสียงเครื่องดูดฝุ่นดังอยู่มุมหนึ่ง อีกฝั่งคือโต๊ะยาวที่ชมรมลากมาต่อกัน วางข้าวเหนียวหมูปิ้ง น้ำเต้าหู้ กาแฟกระป๋อง กล้วยหอมเต็มโต๊ะ
พิมมาก่อนเวลาเหมือนเคย เอาร่มไปพิงกำแพง ม้วนแขนเสื้อขึ้นนิดหน่อย แล้วช่วยกันต์เปิดถุงขยะ เธอรู้สึกขาเมื่อยนิด ๆ จากการยืนเชียร์ แต่ใจยังอุ่น ๆ
แยมโผล่มาพร้อมถุงข้าวเหนียวไก่ทอด “มาแล้ววว—กองเชียร์มือทำคนโปรด”
พิมหัวเราะ “ไม่ต้องลากเสียงยาวขนาดนั้นก็รู้ว่าแกล้อฉัน”
กันต์ลูบมือ “เริ่มเลยมั้ย หรือรอหัวหน้า”
“เริ่มเลย!” แยมตอบทันที “ถ้ารอ เดี๋ยวเกรงใจ”
กันต์แกล้งถาม “เกรงใจหรือกลัวโดนปิดไมค์”
“ทั้งคู่” แยมยักคิ้ว “เอ้า—ข้อแรก สรุปบทเรียนหลังแมตช์: ป้ายเชียร์ THANWA 29 ดังดีจนคนหูอื้อ ผู้ทำ: น้องพิม!”
พิมตีแขนเพื่อน “หยุดเลย!”
กันต์หยิบโทรโข่งที่ปิดสวิตช์ขึ้นมาทำท่าจริงจัง “ข้อสอง โมเมนต์น้ำขวดทองคำ เวลา 02:13:47 ไตรมาสสาม หัวหน้าเบอร์ 29 รับน้ำจากมือหมายเลข PIM สบตา 0.7 วินาที หางตาโค้ง 12 เปอร์เซ็นต์—”
พิมหัวเราะ ปิดหน้า “ตัวเลขอะไรเนี่ย!”
“ฝ่ายสื่อต้องแม่นข้อมูลสิ” กันต์ยักไหล่
แยมต่อ “ข้อสาม เรียกชื่อถูกครั้งแรก ขอบคุณธรรมดา แต่สะเทือนใจไปสามจังหวัด มีพยานยืนยันแล้ว”
“โอ๊ยพอ! ยอมรับก็ได้ว่าอิน!” พิมยกมือยอมแพ้
ทุกคนหัวเราะ พอดีพี่จอมเดินเข้ามาพร้อมกาแฟ “เสียงดังแต่เช้าเลย ถึงไหนแล้ว”
“ข้อสี่ค่ะพี่—เมื่อไหร่หัวหน้าจะมา” แยมตอบทันที
“อีกกี่นาที” กันต์ทำท่าดูนาฬิกา ทั้งที่ไม่ได้ใส่
“มาถึงแล้ว” เสียงทุ้มดังจากทางเดิน ทุกคนหันไป ธันวาเดินเข้ามาในชุดเสื้อยืดเข้ม กางเกงวอร์ม เป้สะพายหลัง มือถือแฟ้มบาง แสงไฟครึ่งยิมส่องพอดี
ทุกคนทักพร้อมกัน “หวัดดีหัวหน้า” “หวัดดีพี่ธัน”
ธันวาพยักหน้ารับรวม ๆ ตามสไตล์ แล้ววางแฟ้มลงปลายโต๊ะ กวาดตามองสนามเช็กความเรียบร้อยเหมือนเป็นเรื่องปกติ ก่อนนั่งเก้าอี้พับตรงปลายโต๊ะที่เห็นทุกคนชัด
กันต์ขยิบตาให้แยมเหมือนจะเริ่ม แยมยกถ้วยน้ำเต้าหู้ขึ้นยิ้ม ๆ “ก่อนเข้าเรื่อง ขอรายงานหัวข้อพิเศษ ‘เสียงเชียร์เมื่อวาน’ ได้เต็มสิบจากกรรมการกันต์ค่ะ”
พิมเตะเพื่อนใต้โต๊ะทันที แยมแทบกลั้นหัวเราะไม่อยู่
ธันวาหันตามเสียง สายตาผ่านพิมนิดเดียว ก่อนวางโหมดหัวหน้าไว้ชั่วคราวแล้วพูดสั้น ๆ “ขอบคุณทุกคน” แล้วเหมือนแถมเบากว่าหน่อย “…โดยเฉพาะพิม” จนทั้งโต๊ะร้อง “โห!” พร้อมกัน
กันต์ทำตาโตเกินจริง “หัวหน้าพูดชื่อน้องอีกแล้วเหรอครับ เร็วไปปะเนี่ย”
พี่จอมกลั้นขำ “อย่าแซวเยอะ เดี๋ยวประชุมไม่เดิน”
พิมก้มหน้าหัวเราะ แก้มร้อน พยายามส่งสัญญาณให้ข้ามเรื่อง แต่กันต์กับแยมยิ่งสนุก
“คำถามเชิงวิชาการครับหัวหน้า” กันต์ยกมือ “ตอนรับน้ำจากน้องพิมเมื่อวาน รู้สึกแบบไหน:
ก. หายกระหาย
ข. หายกระหาย + หางตาโค้ง
ค. หายกระหาย + หางตาโค้ง + ได้พลังงานเพิ่ม”
เสียงหัวเราะดัง พิมเอาหัวซุกแขน “กันต์! พอได้แล้ว”
ธันวาเลิกคิ้วเหมือนจะถาม นี่ประชุมหรือเกมโชว์ เขาวางมือลงโต๊ะเบา ๆ “ค.”
ทั้งโต๊ะเฮหนักกว่าเดิม พี่จอมต้องเคาะฝาขวด “เอ้า ๆ ประชุมก่อน เดี๋ยวค่อยเล่น” แต่ก็แอบยิ้มเอง
กันต์ยกมือยอมแพ้ แต่ยังหันมากระซิบพิม “ได้ยินใช่มั้ย ค. นะ”
พิมทำปาก “หยุด” แต่หน้าแดงกว่าเดิม รีบยกแก้วน้ำขึ้นดื่มกลบยิ้ม
ธันวาก้มดูเช็กลิสต์ในแฟ้ม “สรุปเมื่อวาน เกมโอเค การสื่อสารในคอร์ทดี จุดเล็กน้อยคือสายพ่วงฝั่งตะวันตก เกือบขวางเลนวิ่ง แต่ทีมเก็บทัน ขอบคุณฝ่ายหลังบ้าน” เขาเหลือบมาทางพิม “พิม—ดี”
คำว่า “ดี” คราวนี้เหมือนปั๊มตรายาง เธอเผลอนั่งหลังตรงขึ้นทันที “ค่ะ”
ประชุมคุยต่ออีกสิบกว่านาที เรื่องตารางซ้อม คนไปช่วยงานคณะกีฬา และการยืมเครื่องเสียงสำหรับงานเฟรชชี่ พอจบ พี่จอมก็ปล่อยโหมด “อิสระ” ตามธรรมเนียม—กลายเป็นเวลาล้อเล่น
แยมเอาศอกสะกิดพิม “วันนี้หน้าแกชมพูเกินปกติแล้วนะ”
พิมทำเสียงงอแง “ก็โดนล้อทั้งเช้า” แต่ก็ยังเผลอยิ้ม
กันต์เทน้ำแข็งใสแก้วน้ำเต้าหู้ “ใจเย็น เดี๋ยวหน้ามืดก่อนหัวหน้าจะ—อ้าว มาแล้ว”
ธันวาลุก เดินไปหยิบเทปผ้าดำจากกล่องคิท แล้วก้มติดปลายพรมกันลื่นที่เปิดนิดเดียว ทำเหมือนเคยชิน ก่อนหันมาบอกพิม “อย่าลืมเก็บป้ายด้วย ฝ่ายสื่ออยากยืมถ่ายเพจ”
“ค่ะ เดี๋ยวเช็ดขอบให้เรียบก่อน” พิมรีบตอบ เขาพยักหน้า
กันต์ยิ้ม “บอกแล้วว่าป้ายมีอนาคต เดี๋ยวพี่ทำคอนเทนต์ ‘ป้ายเชียร์กับหางตาหัวหน้า’ เลยมั้ย”
พิมหยิกแขน “อย่าทำให้เพจกลายเป็นคอลัมน์กุ๊กกิ๊กนะ”
“คนอ่านพุ่งแน่” กันต์ยังไม่เลิก
เสียงรองเท้า “คี๊ด คี๊ด” ดังขึ้น มิวเดินเข้ามาในยิม เสื้อเชิ้ตแขนยาว กางเกงสแลค ถือแฟ้มกับกระบอกแบบในมือ สะพายกระเป๋าผ้าเรียบ
“เช้า” มิวทักด้วยรอยยิ้มสุภาพเย็น ๆ
“เช้า” ธันวาตอบ
กันต์โบกมือ “เช้าเลย กำลังประชุมวิชาการอยู่พอดี” น้ำเสียงแกล้งจนโต๊ะขำ
มิวตอบกลับทันที “วิชาการวัดองศาหางตาเหรอคะ?” คมจนกันต์ทำท่าจับอก
แยมกลั้นหัวเราะ พิมยกแก้วน้ำขึ้นจิบ ทั้งที่ใจตึง ๆ
มิววางแฟ้มข้างธันวา “เมื่อวานฉันไปดูไฟสแตนด์หลังเกม สวิชต์ตัวที่สามกระพริบ ต้องเปลี่ยนก่อนงานคณะกีฬาอาทิตย์หน้า” เธอรายงานงานเรียบ ๆ แล้วหันไปยิ้มกับกลุ่ม “ยินดีกับทีม สนุกดี”
“ขอบคุณครับ” พี่จอมตอบ
มิวเหลือบตามาที่พิม แวบเดียวแต่เย็นพอให้รู้สึก “ป้ายเชียร์เมื่อวาน…น่ารักดี”
พิมยิ้มสุภาพ “ขอบคุณค่ะพี่”
มิวจิบแก้วน้ำเบา ๆ แล้วยิ้มบาง “สนิทกันดีนะ” น้ำเสียงไม่ได้ถามตรง ๆ แต่ทุกคนรู้ว่าหมายถึงใคร
บรรยากาศเงียบชั่ววินาที แยมกับกันต์มองหน้ากัน พี่จอมรีบเปลี่ยนเรื่อง “เรื่องสวิชต์ เดี๋ยวผมทำเรื่องเบิกให้”
ธันวาหันไปบอกมิว “บ่ายนี้ผมกับกันต์จะไปเช็กให้”
มิวพยักหน้า “ดีค่ะ” แล้วหันมามองพิมตรง ๆ “เมื่อวานเสียงเชียร์ดังไปถึงซุ้มสื่อเลย เขาเล่นดีนะ”
พิมตอบเรียบ ๆ “ทีมเล่นดีค่ะ” เธอเน้นคำว่าทีม
กันต์เสริมทันที “ใช่ครับ ทีมคือระบบ เสียงเชียร์ก็เป็นส่วนหนึ่ง”
ธันวาก้มเก็บฝาขวด “พอ” พูดสั้น ๆ ให้ทุกอย่างกลับไปที่เรื่องงาน
มิวเหลือบมองเขา ก่อนลดโทนลง “งั้นฉันฝากรายชื่ออุปกรณ์ไว้ เดี๋ยวส่งให้กันต์”
“ครับ” กันต์รับ
มิวเก็บแก้วน้ำ เตรียมเดินออก แต่หันมาหาพิม “ยินดีที่ได้รู้จักนะน้องพิม”
พิมยกมือไหว้ “ยินดีเช่นกันค่ะพี่มิว”
เสียงรองเท้ามิวค่อย ๆ หายไป กันต์ถอนหายใจ “โห…กดดันนิดหน่อยนะ”
พี่จอมตบมือเบา ๆ “โอเค กลับมาโหมดงาน บ่ายสองเช็กไฟ บ่ายสามเก็บพรม ใครอยู่เวรคอนเฟิร์มในกลุ่ม”
ทุกคนตอบพร้อมกัน “ครับ/ค่ะ”
บรรยากาศผ่อนคลายลง พิมเก็บของตัวเอง หัวใจยังตึงนิด ๆ แต่พยายามปรับลมหายใจให้ปกติ
แยมก้มมากระซิบ “โอเคมั้ย”
“โอเค” พิมยิ้มบาง ๆ “เกมยากขึ้นหน่อย”
“แต่เราอ่านเกมเก่งขึ้น” แยมส่งกำลังใจ
กันต์โผล่มาไฮไฟว์ “โหมดมือโปรนะ” พิมหัวเราะแตะมือด้วย ความตึงคลายไปอีกนิด
ธันวาเดินมาเก็บแฟ้ม ขณะผ่านพิม เขาหยุดนิดหนึ่ง “บ่ายสอง มาด้วยไหม” น้ำเสียงเรียบแต่เปิดให้เลือก
“มาค่ะ เดี๋ยวเอาเทปกับผ้าไปด้วย” พิมตอบเร็ว
ธันวาพยักหน้า “อืม” แล้วเดินต่อไป
พิมเห็นปลายหูเขาแดงเล็กน้อย เธอเก็บภาพนั้นเงียบ ๆ โดยไม่พูดกับใคร
เวลาผ่านไป คนทยอยแยก พิมยกกล่องคิทเก็บเข้ามุม ก่อนเดินออกจากยิม เสียงมิวคุยกับรุ่นพี่สื่อดังมาแว่ว แล้วทั้งคู่แยกกัน มิวหันมาเจอพิมพอดี
“ไปด้วยกันไหม ฉันจะไปตึกกิจกรรม” มิวชวน
“ได้ค่ะ” พิมตอบสุภาพ
ทั้งคู่เดินไปด้วยกัน มิวเอ่ยขึ้น “เมื่อกี้ขอโทษนะ ถ้าพูดแรงไป”
“ไม่เป็นไรค่ะ” พิมตอบ
มิวพยักหน้า “ฉันชอบเห็นคนตั้งใจทำงาน เสียงเชียร์เมื่อวานก็ดี”
พิมยิ้ม “ขอบคุณค่ะ”
“เจอกันบ่ายสอง” มิวเลี้ยวไปตึกกิจกรรม
พิมเดินต่อออกนอกตึก ลมอุ่นพัดผ่าน เธอคิดถึงภาพเมื่อครู่—เพื่อนล้อกัน ธันวาหน้าเฉยแต่หูแดง มิวรอยยิ้มเย็น และตัวเธอที่พยายามวางตัวให้นิ่ง
โอเค เกมยากขึ้นอีกนิด เธอบอกตัวเอง แล้วหายใจลึก
มือถือสั่น ข้อความจากกันต์
“บ่ายสองเจอกัน โหมดมือโปร—อย่าลืมยิ้ม”
พิมตอบ “รับทราบค่ะโค้ช Flow”
เธอหันกลับไปเก็บป้ายเชียร์ที่ยังพิงโต๊ะอยู่ก่อน แล้วจึงออกไปจริง ๆ
วันนี้ เธอจะเดินในเส้นของตัวเอง—ไม่หนี ไม่เข้าใกล้ แค่วางระยะให้พอดี และโฟกัสงานเป็นหลัก.
⟢. ˑ ִֶ 𓂃⊹ ☾⋆⁺₊ ✩°。⟢ ˑ 𓂃⊹